คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 743 กับดักจินหยาง (4) / ตอนที่ 744 กับดักจินหยาง (5)
- Home
- คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
- ตอนที่ 743 กับดักจินหยาง (4) / ตอนที่ 744 กับดักจินหยาง (5)
ตอนที่ 743 กับดักจินหยาง (4)
สตรีในชุดสีขาวที่ยืนพิงมุมกำแพงเมื่อครู่เห็นดังนั้น นางก็ตกใจกลัวจนหน้าถอดสี สุดท้ายนางไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีก ถลันเข้าไปคุกเข่าลงตรงหน้าบุรุษทั้งสอง “พวกท่านทั้งสอง หากพว วกท่านต้องการเงินทอง ข้ามอบของมีค่าทุกอย่างให้พวกท่านได้ พวกท่าน…หากพวกท่าน…หากพวกท่านต้องการคน ข้า…ข้าปรนนิบัติพวกท่านได้ ขอพวกท่านไว้ชีวิตน้องสาวของข้าด้วย”
นางกล่าวจบก็ยื่นมือไปปลดสายผูกเอวบนร่างกาย เดิมทีนางก็ใส่อะไรไม่มากอยู่แล้ว ครั้นกระตุกสายผูกเอวออก ก็เผยให้เห็นเนินอกเกลี้ยงเกลาในทันที
แม้นางจะไม่ได้งดงามเหนือใคร แต่ผิวกายกลับขาวละเอียดยิ่ง โดยเฉพาะบริเวณจุดซ่อนเร้นที่อยู่ใต้ชุดชั้นในสีแดงนั้น ช่างเย้ายวนใจเป็นอย่างยิ่ง
โจวกังอายุเกือบสี่สิบปีแล้ว ทั้งยังอยู่ในสนามรบมานานปี สงครามครั้งก่อนเขาย่อมกล้าหาญไม่มีผู้ใดเทียบเทียม ทว่าเขาเพิ่งเคยเห็นภาพเช่นนี้เป็นครั้งแรก จึงเข้าไปประคองสตรีที่กำล ลังคุกเข่าอยู่ตามสัญชาตญาณ ด้วยต้องการบอกนางว่าพวกเขาไม่ใช่คนเลว
ตอนนี้หูเฟิงก้าวเข้าไปในห้องแล้ว เขาไม่คาดคิดเลยว่าโจวกังจะประคองนางเช่นนั้น แม้เขาอยากไปดึงตัวอีกฝ่ายมาก็ไม่ทันเสียแล้ว
ตอนที่มือของโตวกังเพิ่งแตะถูกแขนของสตรีนางนั้น นางใช้ลูกไม้อะไรบางอย่าง วางกริชเย็นยะเยือกและวาววับที่คอหอยของโจวกังในทันที
โจวกังพลันอึ้งงัน เขาระแวดระวังนางอยู่หลายครั้ง แต่ในเวลาที่สำคัญที่สุดเช่นนี้ เขากลับติดกับนางหรือนี่
กริชของนางวางพาดอยู่บนคอของโจวกัง ขอเพียงมันเคลื่อนเข้าหาตัวเขาอีกสักสองส่วน เขาย่อมต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
หูเฟิงมุ่นคิ้ว เท้าข้างหนึ่งอยู่ในห้อง ส่วนเท้าข้างหนึ่งอยู่ข้างนอกห้อง
นางกล่าวว่า “ถอยออกมา”
ทว่าหูเฟิงไม่ขยับ “ขืนยังไม่ถอยออกมาอีก ข้าจะสังหารเขาทิ้งเสีย” นางกล่าวขึ้นอีก
หูเฟิงยังคงไม่ขยับ เขามองใบหน้าของนาง ก่อนที่จู่ๆ จะพูดว่า “คนที่อยู่ข้างใน ก็คือองค์หญิงเชียงฟางแห่งแคว้นจินกระมัง!”
ดวงตาของสตรีนางนั้นทอประกายคมปลาบ นางไม่ตอบคำถาม เพียงย้อนถามหูเฟิง “ใครส่งเจ้ามา”
“เจ้าเป็นคนทำร้ายองค์หญิงใช่หรือไม่” หูเฟิงถามเพิ่มอีก
ดวงตาของสตรีนางนั้นพลันแดงก่ำ “บังอาจนัก ข้าจะทำร้ายองค์หญิงได้อย่างไร ทุกคนล้วนตาย หนี และหายตัวไป มีเพียงข้าที่ยังคงคุ้มครององค์หญิงอยู่ แล้วเหตุใดข้าต้องทำร้ายองค์ห หญิงด้วย”
หูเฟิงเอ่ย “ในเมื่อเจ้าไม่ได้ทำร้ายองค์หญิง แล้วไยไม่ไปขอความช่วยเหลือจากทางการ นางถูกพิษร้ายแรง หากถอนพิษได้ไม่ทันกาล ไม่ช้าก็เร็วนางต้องตายอยู่ดี นี่ไม่เท่ากับเจ้าทำร้ายอ องค์หญิงหรือไร”
“เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากทำเช่นนั้นหรือ แต่ที่นี่คือแคว้นฉู่ ข้าจะไปขอความช่วยเหลือจากใครได้ เจ้าเมืองจินหยางที่น่าตายผู้นั้นไม่ได้มาพบข้าเลยด้วยซ้ำ ทันทีที่ข้าออกไป องค์หญิ งก็ต้องเสี่ยงอันตราย ข้าทำได้เพียงคุ้มครองนางอยู่ที่นี่ ข้าทำอะไรได้บ้างกันเล่า”
นางแทบจะเสียศูนย์ มือที่จับมีดไว้ขณะเอ่ยวาจาสั่นเครือไม่ยอมหยุด หูเฟิงเห็นแล้วรู้สึกหวั่นเกรงอยู่บ้าง ขืนนางมือสั่นเช่นนี้ต่อไป ชีวิตของโจวกังต้องจบสิ้นแน่
หูเฟิงยกมือทั้งสองข้างขึ้น “เจ้าสงบสติอารมณ์ก่อน พวกข้าไม่ใช่คนเลว พวกข้าได้รับบัญชาของจิ้นอ๋องให้มาตรวจสอบสถานการณ์ของคณะทูตแคว้นจิน จิ้นอ๋องรอพวกเจ้าอยู่ที่เมืองชิงหยาง นานถึงสามวันเต็มๆ แล้ว”
สตรีนางนั้นแค่นหัวเราะ “จะหาข้ออ้างก็เลือกให้ดีๆ หน่อยเถอะ คณะทูตของพวกข้ามีสภาพเช่นนี้ได้ ไม่ใช่ฝีมือของพวกจิ้นอ๋องหรือไร ยังมีหน้ามาบอกว่ารอพวกข้าอยู่ที่เมืองชิงห หยางถึงสามวันแล้วอีกหรือ เจ้าไปบอกให้ผีฟังเถอะ!”
ครั้นโจวกังได้ฟังดังนั้น เขาก็พลันร้อนใจขึ้นมา “แม่นาง จะพูดจามั่วซั่วไม่ได้นะ จิ้นอ๋องของพวกข้ารอคณะทูตของพวกเจ้าที่เมืองชิงหยางอยู่ตลอด ไม่ได้ออกจากที่นั่นแม้แต่ครึ่ง งก้าว เจ้าบอกว่าจิ้นอ๋องของพวกข้าลงมือทำร้ายทูตแคว้นจินอย่างนั้นหรือ คำพูดนี้ต้องมีหลักฐานด้วยถึงจะถูกต้อง”
นางแค่นหัวเราะเบาๆ อีกครั้ง “หลักฐาน? ข้าเห็นเองกับตา ยังต้องการหลักฐานอะไรอีก”
……….
ตอนที่ 744 กับดักจินหยาง (5)
หูเฟิงมุ่นคิ้ว สีหน้าคร่ำเคร่ง “ที่เจ้าบอกว่าเห็นเองกับตา แท้จริงแล้วเจ้าเห็นอะไร”
สตรีนางนั้นยังไม่ทันได้ตอบ ข้างนอกก็พลันมีเสียงร้องตะโกนดังมาระลอกหนึ่ง “จับกบฏ ปิดทางเข้าออกทั้งหมด สังหารไม่ยั้ง!”
“พวกเราติดกับดับแล้ว!” หูเฟิงเข้าใจในทันที
โจวกังกลับยังไม่เข้าใจ กับดักที่จิ้นอ๋องว่าหมายถึงอะไรกัน
ฝ่ายสตรีนางนั้นดวงตาพร่าเลือนไปชั่วขณะ แขนชาหนึบ กริชในมือร่วงลงบนพื้น บุรุษที่แต่เดิมอยู่ห่างจากนางหลายจั้งพลันเข้ามาจับแขนนางไว้ นางคิดว่าความตายมาเยือนแล้ว จึงหลับ บตาแน่นสนิท
หูเฟิงปล่อยมือนาง เอ่ยว่า “ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ข้าจะพาพวกเจ้าออกจากที่นี่ ขืนอยู่ที่นี่ต่อไป พวกเจ้ามีแต่ต้องตายสถานเดียว”
“ไปกับพวกเจ้าแล้วไม่ต้องตายหรือไร” นางยังคงไม่เข้าใจ
“ข้าพูดอะไรเจ้าก็ไม่เชื่อ มิสู้พนันกันสักตั้งดีกว่า เจ้าหนีไปเองอย่างไรก็ต้องตายเช่นกัน หากไปกับข้า เจ้ากับองค์หญิงของเจ้าอาจจะรอดตายก็เป็นได้” หูเฟิงว่า
โจวกังก็กล่าวเสริมเช่นกัน “แม่นาง หากพวกข้ามีใจคิดทำร้ายเจ้า ตอนนี้เจ้าคงจะตายตกไปแล้ว ไยพวกข้าต้องเสียเวลาพูดกับเจ้าด้วย คนที่อยู่ข้างนอกพวกนั้นมาถึงในเวลานี้พอดิบพอดี ช ชัดเจนว่าเป้าหมายคือพวกข้า แต่หากพวกข้าหนีไปได้ ส่วนพวกเจ้าตกอยู่ในกำมือของพวกเขา สุดท้ายจะมีจุดจบเช่นไรก็ยากคาดเดานัก พวกเจ้าไปกับพวกข้าเสียตั้งแต่ตอนนี้ รับรองได้ว่า าพวกเจ้าจะถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัยแน่นอน”
สตรีนางนั้นคล้ายกับโอนอ่อนผ่อนตาม ทว่าก็ยังคงยังเลอยู่บ้าง
ขณะนี้มีเสียงร้องน่าเวทนาดังมาจากบริเวณบันไดอยู่หลายเสียง เป็นเช่นที่หูเฟิงคิดจริงๆ นางวางกับดักไว้ตรงนั้นด้วย
หูเฟิงกล่าว “ตอนนี้เจ้าฆ่าคนของพวกเขาไปแล้ว เจ้าคิดว่าพวกเขาจะปล่อยเจ้าให้รอดไปได้หรือ ฟังเสียงดูบ้างสิ กับดักเล็กน้อยที่เจ้าวางไว้จะฆ่าพวกเขาได้ทั้งหมดหรือไม่”
นางกัดฟัน ในที่สุดก็พยักหน้า “ตกลง ข้าจะไปกับพวกเจ้า”
จากนั้นนางก็ผูกสายผูกเอวอย่างรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งเข้าไปแบกหญิงสาวที่ไม่ได้สติอยู่บนเตียง ขณะนี้อีกฝ่ายยังคงมีผ้าโปร่งปิดบังใบหน้า ทำให้มองเห็นดวงหน้าไม่ชัดเจนนัก
“เจ้าเป็นเพียงสตรีบอบบาง แบกนางแล้วจะเดินเหินได้อยู่หรือ ข้าแบกนางเองดีกว่า!” โจวกังอาสา
นางเริ่มลังเลอีกครั้ง องค์หญิงของนางเป็นสตรีผู้สูงส่ง จะให้บุรุษแปลกหน้าแบกขึ้นหลังตามใจชอบได้อย่างไร
หูเฟิงขมวดคิ้ว สีหน้ามีแต่ความไม่พอใจ เขาเอ่ยด้วยโทสะทันควัน “ป่านนี้แล้ว เจ้ายังกังวลอะไรอีก ชีวิตสำคัญกว่า หรือเรื่อเกียรติยศสำคัญกว่ากัน”
เสียงตะคอกของหูเฟิงทำให้นางตาสว่าง เขาพูดถูกต้อง หากไม่มีชีวิตเหลือรอด เช่นนั้นสนใจเกียรติยศไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร หากองค์หญิงฟื้นขึ้นมาได้ย่อมไม่มีทางกล่าวโทษนางแน่นอน
โจวกังแบกองค์หญิงขึ้นหลังแล้ว รู้สึกเพียงว่านางตัวเบามาก กลัวว่านางจะตกลงมาได้ จึงใช้ผ้าผูกตัวนางไว้กับตนเอง คราวนี้ถึงจะกระโดดออกจากหน้าต่างตามหลังหูเฟิงไป
เมื่อคนจากข้างนอกเข้ามาถึงในห้องจึงไม่พบเงาคนแม้แต่ครึ่งร่าง เงาหลังก็ไม่เห็นเช่นกัน
“บัดซบ…พวกเจ้ามันไร้ประโยชน์นัก”
“ใต้เท้า หากไม่ใช่เพราะมีกับดักอยู่ตรงบันได ขวางทางพวกเราเอาไว้ได้ เขาไม่มีทางหนีไปได้แน่ขอรับ”
“คนหนีไปแล้ว พูดขึ้นมาแล้วจะมีประโยชน์อะไรอีก ยังไม่รีบตามไปอีกหรือไร”
หูเฟิงกับโจวกังนำสตรีสองนางออกจากสถานพักม้า ควบม้ามุ่งหน้าไปทางประตูเมือง แต่กลับพบว่าประตูเมืองปิดตาย ปิดประตูเมืองตั้งแต่กลางวันแสกๆ เช่นนี้ ชัดเจนยิ่งนักว่าพวกเขาเตรียมกา ารไว้แล้ว
“ท่านอ๋อง พวกเราจะทำอย่างไรกันดีขอรับ” โจวกังถาม
หูเฟิงหันหัวม้าในทันที นำโจวกังเข้าไปยังตรอกเล็กๆ ที่เงียบสงัดแห่งหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “มีการซุ่มจู่โจมอยู่ที่ประตูเมือง หากฝ่าออกไปก็ต้องเจอการกลุ้มรุมของพวกเขาแน่ ถึง งตอนนั้นเหล่าผู้คนที่ตายในสถานพักม้าล้วนต้องกลายเป็นความผิดของพวกเราแน่นอน”