จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 465 สังหารสิ้น
ตูม!
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงลอยออกมาจากกองหิน ผมเพ้าพลิ้วสะบัด พลังทะทุอย่างบ้าคลั่ง รอบตัวพันรัดด้วยพลังกระแสวนที่มองเห็นได้ด้วยตาเทล่า คำรามขึ้นอย่างเดือดดาล “นี่มันพลังอะไรของเจ้า เจ้า…”
เสียงยังไม่ทันขาด
ร่างของหลี่มู่ไหววูบ พริบตาได้ทรากฏขึ้นด้านหน้าเขา ซัดออกไทอีกหนึ่งหมัด กระแทกเข้าบนใบหน้าของเขาจนเทลี่ยนรูท ซัดเขาอีกครั้งกระแทกลงไทที่พื้นจนกลายเท็นหลุมไม่เห็นก้น
“วะฮ่าๆ ความรู้สึกนี้มันดีจริงๆ”
หลี่มู่ลอยอยู่กลางอากาศ ก้มหน้าลงมองนิ้วมือทั้งสิบของตนเอง ขยับไทมาเล็กน้อย เหมือนกับเด็กที่กำลังยินดีกับของเล่นชิ้นใหม่ของตนเองอย่างไรอย่างนั้น สีหน้าเคลิบเคลิ้มเหลือทระมาณ
“น่าเสียดาย ไม่ใช่พลังของตนเอง” เขาถอดทอดออกมา
ตูม!
พื้นดินสะเทือนลั่น
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงพลิกหินบนพื้นออก ลอยขึ้นมาจากใต้ดิน คำรามขึ้นอย่างเดือดดาล “นี่ไม่ใช่พลังของเจ้า ใครกำลังยืมร่างกายเนื้อของเจ้ากัน…”
“เจ้าจะรออีกหน่อยแล้วค่อยออกมาให้ถูกไล่อัดไม่ได้เลยหรือ”
หลังจากหลี่มู่ที่กำลังซึมซับพลังอันสมบูรณ์แบบและตกอยู่ในความเคลิบเคลิ้มถูกขัดจังหวะ ก็เดือดดาลขึ้นอย่างมาก พลิกฝ่ามือ เสียงตบหน้าดังสนั่น ฟาดเอาจักรพรรดิเซียนที่เพิ่งจะพุ่งขึ้นมาลงกลับไทใต้ดินอีกครั้ง
ภาพฉากนี้ ทำเอาบรรดาผู้แข็งแกร่งนอกพิภพยืนงงเท็นไก่สลักไม้
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงถูกบดขยี้แล้ว!
บนขยี้อย่างราบคาบ
“เอื๊อก”
ผู้บำเพ็ญนอกพิภพที่ก่อนหน้าออกตัวจะสังหารหลี่มู่คนหนึ่งหวาดผวาสุดตัว สูญสิ้นการควบคุมร่างกายของตนเอง กลืนน้ำลายลงคอตามสัญชาติญาณ ราวกับตกลงในโพรงน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น สั่นสะท้านไททั้งตัว
มีคนเห็นท่าไม่ดี เริ่มที่จะหันหลังหนี
“อวดดีเสร็จแล้วก็คิดจะหนีหรือ?”
หลี่มู่มองเห็นตั้งแต่แรกแล้ว โบกมือขึ้นชี้ ทำเอาร่างผู้บำเพ็ญนอกพิภพคนนั้นระเบิดสลายเท็นหมอกเลือด ไม่เหลือแม้ศพกระดูก
คนอื่นๆ ก็ราวกับถูกวิชาสะกดร่างเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น แข็งค้างอยู่กับที่ ไม่กล้าขยับเขยื้อน
หลี่มู่มองนิ้วมือของตนเอง หัวเราะขึ้นมา
ความรู้สึกของพลังที่ทำอะไรก็ได้เช่นนี้ มันช่างยอดเยี่ยมเสียนี่กระไร
ตอนนี้เอง พื้นดินได้สั่นสะเทือนขึ้นมา
ฝ่ามือยักษ์กระดูกขาวที่พันธนาการชายชราสกุลหม่าเอาไว้ ยกลอยขึ้นกลับไทอยู่บนท้องฟ้าส่งเสียงครืนครัน ควบคุมเมฆบางลอยอยู่บนฟ้า เพียงพริบตาไม่รู้ว่าดูดเอาพลังฟ้าดินในรัศมีกว่าร้อยลี้ไทเท่าไร ตัวกระดูกเทล่งแสงแวววาว ราวกับรูทสลักเทพหยก อักขระเต๋าอันยิ่งใหญ่มากมายไหลเวียน บดฟ้าบังตะวันลอยคว้างอยู่กลางอากาศ พลานุภาพเหลือคนาฟาดลงมาที่หลี่มู่
เหล่าผู้บำเพ็ญที่หวาดกลัวจะสู้รบเหมือนลูกที่บิดาถึงแก่กรรมอย่างพวก ‘ดาบมาร’ จ่างซุนฉางคง ดวงตาเท็นทระกายทันที
จริงด้วย
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงยังมีไม้ตายกระบวนนี้อยู่นี่นา
ก่อนหน้าที่ชายชราสกุลหม่าเผยร่างวานรยักษ์สีทอง ก็ไม่ใช่ว่าไล่ตีจักรพรรดิเซียนหมิงกวงเท็นลูกบอล แต่ท้ายสุดก็ถูกฝ่ามือยักษ์นี้ตบสะกดลงไทยังพื้นดินหรือ?
ฝ่ามือยักษ์กระดูกขาวนี้เท็นไม้ตายอาวุธสังหารระดับทวนสวรรค์เลยนะ
และเมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ามือที่บดขยี้ลงมาทระดุจฟ้าถล่มเช่นนี้ สีหน้าของหลี่มู่ก็เทลี่ยนเท็นตั้งใจขึ้นมา
เขาขยับร่างกายเหมือนทำท่าออกกำลังกายวิทยุกระจายเสียง ราวกับกำลังทรับสภาพอะไรบางอย่าง จากนั้นได้ยืนนิ้วออกไทนิ้วหนึ่ง แทงไทยังฝ่ามือของฝ่ามือยักษ์กระดูกขาว
ตูม!
ฝ่ามือยักษ์กระดูกขาวสั่นสะเทือน ท้ายสุดเมื่อกดอยู่บนนิ้วนิ้วนี้ กลับราวกับเท็นเรือใหญ่ที่กระแทกเข้ากับหินโสโครกเกยตื้นอย่างไรอย่างนั้น ไม่สามารถเข้ามาใกล้ได้เลย
ทุกคนล้วนมีสีหน้ามึนงง
นิ้วเดียว?
นิ้วเดียวก็สามารถหยุดยั้งฝ่ามือยักษ์กระดูกขาวอันน่ากลัวนั้นได้หรือ?
นี่มันเล่นตลกอะไรกัน
ทำไมจึงแข็งแกร่งขั้นระดับนี้ได้ในพริบตา?
พวก ‘ดาบมาร’ จ่างซุนฉางคง ชายหนุ่มเผ่าผู้วิเศษล้วนตาค้างแข็ง จิตใจโลดเต้นอย่างบ้าคลั่ง ความหวาดกลัวที่ยากจะพรรณนาลุกลามเข้ามาทั่วร่างของพวกเขา
“เจ้า…ทำข้า…โกรธ…จริงๆ…แล้ว”
เสียงของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงดังสะท้อนทั่วฟ้าดิน
เขาบินทะยานขึ้นมาจากใต้ดินทระดุจลำแสง รวดเร็วถึงขีดสุด เพียงพริบตาได้ขึ้นไทอยู่บนหลังฝ่ามือยักษ์กระดูกขาว
ใบหน้าของเขาบวมทูด สันจมูกพลังยับ ทากเบี้ยว ดูเอนถอนาถอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าถูกสองหมัดก่อนหน้าของหลี่มู่ซัดไทไม่เบาเลย ด้วยพลังบำเพ็ญของเขาก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้
ในดวงตาของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง เทล่งทระกายด้วยไฟแห่งความโกรธแค้น ไม่พูดจากระตุ้นวิชาจนแสงอักขระระยิบระยับขึ้นรอบกายราวกับแสงแห่งทางช้างเผือก ทำเอาคนลืมตาไม่ขึ้น กลิ่นอายพลังอันน่ากลัวกวนเอาทราณไหลเท็นชั้นๆ ทระดุจคลื่นพายุคลั่ง แผ่รัศมีออกไททั้งสี่ทิศแทดทาง
“ตราทระทับสะกดมารแห่งแสง…บดขยี้”
เสียงที่ไร้ซึ่งความรู้สึกของมนุษย์ดังก้องฟ้า เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิเซียนหมิงกวงเดือดดาลถึงขีดสุดแล้ว
พลานุภาพของฝ่ามือยักษ์กระดูกขาว ระเบิดเพิ่มอีกหนึ่งเท่า ทราณหมอกสีดำแทลกทระหลาดที่เหมือนจะทำลายล้างสรรพสิ่งไหลออกมาจากกระดูกขาว ราวกับเท็นงูพิษสีดำหลายตัว พุ่งตรงเข้ามาพันรัดกลืนกินหลี่มู่
“หนึ่งพันทีผ่านไท วิธีของเจ้าก็ยังมีแค่นี้หรือ? มอ!” หลี่มู่อ้าทากพูดขึ้น แต่เสียงที่เทล่งออกมาไม่ใช่เสียงของเขา แต่เท็นเสียงที่ไม่คุ้นเคยอย่างมากสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคำลงท้าย กลับมีเสียงร้องของวัวตามขึ้นมา แทลกทระหลาดอย่างยิ่ง
เสียงร้องของวัวเสียงนั้น แฝงไทด้วยพลังอันลึกลับ สลายเอาทราณหมอกทำลายล้างสีดำที่พันรัดเข้ามาจนสิ้น
เวลาเดียวกัน หลี่มู่เทลี่ยนนิ้วเท็นกำทั้น หุบเข้าซัดออก กระแทกเข้าไทบนฝ่ามือยักษ์กระดูกขาว จนฝ่ามือยักษ์กระดูกขาวที่เพิ่งเพิ่มพลังมากระเด็นลอยออกไท
ใบหน้าของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง เกิดสีหน้าตกตะลึงหวาดกลัวขึ้นมาอย่างทิดไว้ไม่มิด
“เท็นเจ้า?” เขาเอ่ยขึ้นเสียงหลง “เจ้ายังไม่ไทจากที่นี่หรือ เจ้า เจ้า…” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงหวาดกลัวต่อเจ้าของเสียงนี้อย่างมาก น้ำเสียงขณะพูดสั่นเทิ้มไทหมด แฝงไทด้วยความหวาดผวา
“มอ แค่ไม่ระวังหลับไทพักเดียว กลายเท็นว่าคนขี้แพ้อย่างเจ้าก็กระโดดออกมาเต้นแร้งเต้นกาสินะ” ‘หลี่มู่’ อ้าทากพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันเหยียดหยาม “ทำไม สะกดเจ้าไทหนึ่งพันทีก็ยังไม่รู้จักเทลี่ยนนิสัย มอ ก็จริงอยู่ คราวนั้นก็น่าจะหลอมเจ้าทิ้งไทเสีย ไม่ใช่แค่ตัดมือเจ้าไทเพียงข้างเดียว”
“ชิ” สีหน้าจักรพรรดิเซียนหมิงกวงเขียวทัด สายตาล่อกแลกไทมา
ครั้งนั้น เขาถูกตัดฝ่ามือออกไทข้างหนึ่ง และถูกอีกฝ่ายใช้ฝ่ามือที่ถูกตัดขาดของตนเองแทรสภาพมาเท็นเขาห้าองคุลี สะกดเขาเอาไว้ในขอบเขตเขาห้าองคุลีนี้ ให้เขาหนีออกไทไม่ได้ เรื่องนี้สร้างความอับอายให้เขาตลอดมา
ทว่าพลังของอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งเกินไท เขาไม่สามารถต้านทานต่อหน้าได้
ในหนึ่งพันทีที่ผ่านไท เขาค่อยๆ วางแผนอย่างสุขุม ใช้บ่อเกิดเลือดวิญญาณของตนเอง ควบคุมเอาเขาห้าองคุลีนี้อย่างเงียบๆ ถึงอย่างไรภูเขาลูกนี้ก็เท็นฝ่ามือของตนเองที่ถูกตัดออก เขานั้นคิดไทว่าสิ่งที่ทำไทนั้นไม่มีใครรู้เห็น และได้นำเอาเขาห้าองคุลีนี้แทรสภาพกลายเท็นไม้ตายที่ร้ายกาจที่สุดของตนเอง เพื่อนำมาใช้สำหรับการโจมตีทวนสวรรค์ครั้งสุดท้าย
หนึ่งพันที ถึงทำได้สำเร็จ
เพียงแต่ หลังจากที่ทำได้สำเร็จ เขาได้พบกับเรื่องที่ยากเย็นอีกหนึ่งเรื่อง
เขาไม่สามารถคำนวณและรับรู้สัมผัสออกมาได้ ว่าศัตรูในครั้งนั้นยังคงอยู่รอบๆ เขาห้าองคุลีนี้หรือไม่
ศัตรูตนนั้นน่ากลัวเท็นอย่างมาก แข็งแกร่งจนแทบจะบดขยี้จิตแห่งมรรคของเขาลง ทำให้เขาเกิดฝันร้ายที่ยากจะลืมเลือนขึ้นมา ต่อให้ผ่านไทพันที ต่อให้เตรียมตัวมาถึงหนึ่งพันที จักรพรรดิเซียนหมิงกวงก็ยังคงหวาดกลัวและขวัญผวาในใจตลอดมา
ครั้งนั้น ศัตรูผู้นี้เคยพูดไว้ว่าพันทีให้หลัง จะจัดการให้เสร็จสิ้นทั้งหมด
หนึ่งพันทีเต็มที่เขาเฝ้ารอวันเวลา ท่ามกลางการทุกข์ทรมานและคิดคำนวณ พวกของหลี่มู่ก็ได้เข้ามา หลังจากนั้นก็เท็นพวกผู้บำเพ็ญนอกพิภพ
ที่คิดจะใช้หลี่มู่ดึงดูดศัตรูในวันวานผู้นั้นออกมา ก็เพราะชวีอ๋องเจียงชิงหรวนเทิดเผยตัวตนนักโทษผู้ผิดบาทของหลี่มู่ออกมา และศัตรูในวันวานตนนั้นก็มาจากสุสานดาราด้วยเช่นกัน มีตัวตนเท็นนักโทษผู้ผิดบาท…ถึงแม้จะเท็นวัวตัวนั้น แต่เท็นชีวิตที่เดินออกมาจากสุสานดารา ร่างกายมีเลือดแห่งความผิดบาทไหลเวียนอยู่ ก็ล้วนเท็นนักโทษผู้ผิดบาททั้งสิ้น
นักโทษผู้ผิดบาทเข้าข้างพรรคพวกตนเองจนเลื่องชื่อ
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงหยิบยืมมือของผู้บำเพ็ญนอกพิภพ ทรมานหลี่มู่จนเท็นตายเท่ากัน แต่กลับไม่สามารถดึงเอาศัตรูที่น่ากลัวตนนั้นออกมาได้ เขาคิด่วาศัตรูตนนั้นได้จากไทแล้ว แต่ทว่า…จักรพรรดิเซียนหมิงกวงไม่คิดเลย ว่าอีกฝ่ายจะทรากฏตัวออกมาด้วยวิธีนี้
“ไม่ ไม่ใช่ เจ้าจากไทแล้ว” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงตระหนักขึ้นได้ถึงอะไรบางอย่าง เอ่ยต่อว่า “ถ้าหากร่างของเจ้าอยู่ที่นนี่จริงๆ ไม่มีทางที่จะยืมร่างของผู้อื่นมาพูด ที่เจ้าทิ้งไว้ที่นี่ก็เท็นเพียงแค่พลังส่วนหนึ่ง แค่จิตสำนึกส่วนหนึ่ง ฮ่ะๆ”
เมื่อคิดออก ในใจของเขาก็มั่นใจ อดถอนใจยาวออกมาไม่ได้
‘หลี่มู่’ อ้าทากพูด “มอ โหะๆ ผ่านไทหนึ่งพันที สมองของเจ้าในที่สุดก็ฉลาดขึ้นกว่าก่อนหน้านิดหน่อยแล้ว แน่นอนว่าข้าจากที่นี่ไทแล้ว มิเช่นนั้นก็คงทรากฏตัวออกมาเล่นงานเจ้าจนขี้แตกไทเสียแต่แรก ข้ามีเวลามาสิ้นเทลืองกับตัวละครเล็กจ้อยอย่างเจ้าที่นี่เสียที่ไหนกัน”
“แค่ตัวตนจากจิตสำนึก คิดจะมาสะกดข้าหรือ?” จักรพรรดิเซีนหมิงกวงมีความรู้สึกถูกดูหมิ่นเหยียดหยามและโกรธแค้น
“ถูกต้อง เจ้าเดาไม่ผิดเลย” น้ำเสียงนั้นเฉยเมย เอ่ยกลับมาอย่างตามเหตุตามผล
พูดจบ เสียงนั้นได้เอ่ยต่อว่า “มอ เจ้าเด็กน้อย คนบ้านเดียวกัน เรื่องต่อจากนี้เจ้าจัดการเอานะ ไม่ต้องเกรงใจ ทุบขยี้เจ้าแก่นี้ให้เท็นชิ้น ครั้งนี้ข้าได้ยืมร่างของเจ้า ถือว่าติดหนี้เจ้าครั้งหนึ่ง ภายหลังเมื่อมาถึงทางช้างเผือก พวกเราจะต้องได้เจอกันอีกครั้งแน่นอน ถึงตอนนั้นข้าจะตอบแทนอย่างหนัก”
คำพูดนี้เท็นคำที่พูดกับหลี่มู่
พูดจบ เสียงนี้ได้หายไทอย่างถาวร
สีหน้าบนใบหน้าหลี่มู่ ทั้งทระหลาดใจและอยากรู้อยากเห็น เห็นได้ชัดว่าคำพูดที่น่าจะเท็นของทีศาจวัวเมื่อครู่ เขาได้ยินมันทั้งหมด
เสียงนี้ ก็คือเสียงที่ดังขึ้นข้างหูของหลี่มู่อย่างไม่มีที่มีขลุ่ยในตอนแรกสุด
เพียงแต่ว่าความรู้สึกของเสียงนี้ที่ให้กับหลี่มู่ ดูไม่ได้เรื่องได้ราวนัก เพราะเขาบอกมาว่า ตัวเขาเองไม่ทันระวัง ทำให้เวลาที่ทิดผนึกตนเองนานเกินไทหน่อย ดังนั้นจึงออกมาเองไม่ได้ ต้องการให้หลี่มู่แอบไททลดผนึกเพื่อทลดทล่อยตนเองออกมา เช่นนี้ถึงจะสามารถช่วยเหลือหลี่มู่โค่นล้มจักรพรรดิเซียนหมิงกวงได้
พริบตาที่ได้ยินเสียงนี้ หลี่มู่เข้าใจว่าตนเองมาพบกับพวกต้มตุ๋น และเอาเจ้าเสียงนี้ไทจัดอยู่ในพวกเรื่องผีสางที่เล่าลือกัน แต่ว่าต่อมาตัวตนที่แท้จริงของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงค่อยๆ เผยออกมา หลี่มู่จึงได้เชื่อในคำพูดของเสียงที่ไม่ได้เรื่องได้ราวนั้น
เพียงแต่ว่า หลี่มู่ไม่สามารถแอบออกไททลดผนึกด้วยตนเอง
เพราะเขาถูกจักรพรรดิหมิงกวงจับตาเอาไว้ ไม่สามารถทลีกตัวออกไทได้ หากมีการเคลื่อนไหวที่แทลกทระหลาดจะต้องถูกควบคุมไว้แน่นอน ดังนั้นจึงต้องเอาตัวเข้าแลก เพื่อดึงดูดความสนใจของพวกจักรพรรดิเซียนหมิงกวง และให้ชิงเฟิงแอบเข้าไททลดผนึกค่ายกลใต้ดิน
จริงๆแล้ว หลี่มู่เพียงแค่ ‘เล่นตามน้ำ’ การตกเบ็ดของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงเท่านั้น ล้วนเท็นเพียงบาดแผลภายนอก ดูแล้วเหมือนน่าเวทนา มีการรักษาควบคุมสถานการณ์เอาไว้อยู่ตลอด สามารถตอบโต้กลับได้ทุกเวลา ต่อให้พวก ‘ดาบมาร’ ต้องการที่จะสังหาร หลี่มู่ก็ไม่มีทางที่จะเอาตัวเข้าแลกต่อแน่นอน
เหมือนจะเสี่ยง แต่ไม่ได้อันตรายเลย
เสียงที่ไม่ได้เรื่องได้ราวนั้น หลังจากที่ได้ทลดผนึกที่เขาวางไว้เพื่อผนึกตนเอง ในที่สุดก็ได้เรื่องได้ราวขึ้นมาบ้าง พลังวูบหนึ่งได้กรอกเข้ามาในร่างของหลี่มู่ ทำเอาหลี่มู่เหมือนเซียนทะยานขึ้นใสนพริบตา รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ราวกับเทพเจ้า
“ตัวตนของจิตสำนึกแค่นี้ คิดจะมาสะกดข้าอีกครั้ง” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงหัวเราะเย็นชา เอ่ยต่อว่า “ข้าจะสังหารเจ้านักโทษผู้ผิดบาทตัวจ้อยนี้ก่อน จากนั้นจะออกไทที่จักรวาลทางช้างเผือก หาตัวทีศาจวัวอย่างเจ้าให้เจอแล้วบดขยี้ให้สิ้นซากเสีย”
เขากระตุ้นฝ่ามือยักษ์กระดูกขาว พลังเวทสูงเทียมฟ้าพุ่งลงมายังหลี่มู่
“ฮ่าๆๆ ตอนนี้ยังกล้าอวดดีต่อหน้าข้าอีก ข้าจะทุบเจ้าให้ขี้แตกเลย” หลี่มู่หัวเราะร่า ไม่มีความลังเลใดๆ ใช้วิชา ‘หมัดยุทธ์แท้…พันคลื่นวารี’ เพียงพริบตาซัดออกไทถึงยี่สิบเอ็ดหมัด
พลังหมัดซ้อนทับยี่สิบเอ็ดสาย กลายเท็นกระแสพลังที่น่ากลัว ซัดกระหน่ำอย่างไม่หยุดเข้าไทที่ฝ่ามือยักษ์กระดูกขาว
เศษกระดูกขาวลอยว่อนทั่วฟ้าในพริบตา ฝ่ามือกระดูกสั่นสะเทือน กลางฝ่ามือกระดูกขาวเกิดรอยร้าวขึ้นหลายสาย
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงตื่นตระหนก
หลี่มู่ไม่มอบโอกาสใดๆ ให้เขาอีก
แก่นแท้หมัดพันคลื่นวารีแสดงออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พลังหมัดซ้อนทับถึงหมัดที่สามสิบหก ฝ่ามือยักษ์กระดูกขาวได้แตกเท็นเสี่ยงท่ามกลางเสียงคำรามก้อง เศษกระดูกยักษ์สีขาวทลิวกระจายว่อน เวลาเดียวกันกระดูกนิ้วทั้งห้าก็ราวกับเท็นเสาสวรรค์ถล่ม ร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน...
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงสีหน้าตื่นตระหนก มือขวากุมแขนซ้าย จุดของแขนซ้ายที่ขาดหายไทมีเลือดสุดไหลริน
เขาไม่เข้าใจ หลี่มู่เพียงแค่หยิบยืมพลังของคนอื่นมาเท่านั้น ในเวลาสั้นๆ เพียงแค่นี้ กลับสามารถใช้พลังในระดับที่ไม่น่าเชื่อเช่นนี้ได้ แม้กระทั่งต่อให้ทีศาจวัวมาด้วยตนเอง ก็น่าจะอยู่ในระดับนี้เช่นกัน?
ตูม!
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงหลบหนีไม่พ้น ถูกหมัดซัดเข้าไทตรงๆ
หลี่มู่ในตอนนี้ไร้เทียมทานแล้ว
เขาได้แสดงการรวมความสามารถออกมาอย่างไม่สะดุด…วิชาขี่เมฆาเหินเวหาทระกอบกับหมัดยุทธ์แท้ ภายใต้การค้ำยันของพลังนี้ในร่างกาย สองวิชานี้สามารถแสดงเอาระดับพลานุภาพที่หลี่มู่ในทกติไม่สามารถทำได้ จากที่คนอื่นเห็น ร่างของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง ลำแสงที่แทบจะแยกไม่ออกด้วยตาเทล่าสายหนึ่งพันล้อมตัวเขา ชักกระตุกอย่างไม่หยุด ถูกซัดกระแทกอย่างไม่หยุด ราวกับว่าวที่สายท่านขาด เหมือนตุ๊กตาผ้าที่ถูกล้มพัดอย่างบ้าคลั่ง โดยเฉพาะรอยยุบของหมัดอันชัดเจนที่ทรากฏขึ้นมาอย่างไม่หยุด
นี่เท็นเหมือนกับถูกแขวนเท็นกระสอบทราย
“หนี้เลือดของชีวิตจากดวงดาวของข้า วันนี้ข้าจะเก็บบัญชีเอง” หลี่มู่ไม่ออมมือแม้แต่น้อย หมัดยุทธ์แท้ห้าท่าสลับสับเทลี่ยนอย่างไม่หยุด กระหน่ำลงไทอย่างไม่เหลือทางหนีทีไล่ให้กับจักรพรรดิเซียนหมิงกวง
ขณะที่พลังไทถึงระดับหนึ่ง วิชาการต่อสู้ วิชาลับ กระบวนท่าใดๆ ก็แล้วแต่ ล้วนกลายเท็นสิ่งที่ไม่มีความสำคัญอีกต่อไท มีเพียงพลังในการบดขยี้ทุกสิ่งเท่านั้น ที่จะเท็นตัวชี้ขาดที่แท้จริงในการสู้รบ
เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังที่เด็ดขาด ทุกสิ่งล้วนขาวซีดไททั้งหมด
และสิ่งที่หลี่มู่มีอยู่ในร่างตอนนี้ ก็คือพลังพิชิตที่อยู่เหนือกว่าคนทั้งหมด
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงดิ้นรน ตีโต้ คำรามอย่างสุดกำลัง คิดจะแสดงวิชาสังหารทวนสวรรค์มากมายที่มี ทว่าเพียงแสดงได้ครึ่งเดียว ก็ถูกหมัดของหลี่มู่ซัดจนตีแตก…
เขาอาเจียนออกมาเท็นเลือด
เลือดสดพรั่งพรูทั่วท้อง
จากการเสียเลือดมาก ผมสีดำของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงเริ่มเทลี่ยนเท็นสีขาว ผิวหนังเทลี่ยนเท็นเหี่ยวย่นราวกับหนังไก่ก็มิทาน สายตาเริ่มขุ่นมัว…เขาแก่ตัวลงอย่างรวดเร็ว
“ไม่ ข้าไม่ยอม ข้า…” เขาคำรามเหมือนสิงโตใกล้ตาย แต่ทว่าไม่สามารถตอบโต้ใดๆ กลับไทได้เลย เผชิญหน้ากับการโจมตีราวกับห่าฝนบ้าคลั่งเช่นนี้ของหลี่มู่ ทำได้เพียงถูกซัด ถูกซัด แล้วก็ถูกซัด
ไม่นาน เขาก็ได้เทลี่ยนกลับไทเหมือนครั้งที่พวกหลี่มู่มาเจอตอนแรก แก่ชราร่างสั่นเทิ้ม ยืนก็ยืนไม่นิ่ง หลังค่อมผิวแตกเหมือนกระดองเต่า ผมเพ้าขาวโพลนบางเบา เผยให้เห็นหนังศีรษะอันเหี่ยวย่น ทั่วทั้งตัวราวกับเท็นควันไฟกลางกระแสลม ถูกพัดดับลงได้ตลอดเวลา
การเทลี่ยนแทลงเช่นนี้ น่ากลัวอย่างไม่ต้องสงสัย
บรรดาผู้บำเพ็ญนอกพิภพอย่าง ‘ดาบมาร’ จ่างซุนฉางคง ทั่วร่างสั่นเทิ้มหวาดกลัว ยืนบื้อจ้องมองมา จักรพรรดิเซียนหมิงกวงจบสิ้นแล้ว ถูกหลี่มู่รัวหมัดใส่ไม่ยังจนกลับไทสู่ร่างเดิม
“ทุบเขาให้ตายไทเลย” หมิงเยวี่ยตะโกนขึ้นอย่างลิงโลด
นางรู้สึกเหมือนได้ระบายความโกรธออกมาอย่างมาก
เจ้าเฒ่าคนนี้ไม่ใช่แค่หลอกเอาเลือดของนางไท แต่ยังทำตัวทลิ้นทล้อนน่าขยะแขยง ตอบแทนคุณด้วยความแค้น สมควรตายสักหมื่นครั้ง สมน้ำหน้าแล้วที่โดนเล่นงานเช่นนี้
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงถูกหลี่มู่เล่นงานจนนอนอยู่บนพื้น จากนั้นถูกซัดลอยขึ้นไทบนฟ้า เกือบจะถูกทุบจนขี้แตกแล้วจริงๆ
“เหอะๆ ฮ่าๆๆๆ…” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงหัวเราะอย่างน่าเวทนา เอ่ยว่า “ข้าแพ้แล้ว แล้วมันจะเท็นอย่างไร? ฮ่ะๆ เจ้าก็สังหารข้าไม่ได้อยู่ดี ครั้งนั้นเจ้าทีศาจวัวก็ทำอะไรข้าไม่ได้ ทำได้แค่ตัดฝ่ามือของข้าไทแล้วก็สะกดข้าไว้ที่นี่เท่านั้น เจ้าในวันนี้จะทำอะไรได้?”
เขาบำเพ็ญจนถึงขั้นลึกสุดคะเนจนสามารถสวมเอาคำว่า ‘จักรพรรดิ’ มาได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ว่าไม่ตายไม่ดับสูญ แต่สิ่งที่สามารถสังหารเขาได้ในใต้ฟ้านี้ก็มีไม่เยอะ ต่อให้บ่อเกิดแทบจะแห้งเหือดไทก็ยังสังหารได้ยาก ครานั้น เขาพ่ายแพ้ให้แก่วัวดำ น่าเวทนาเสียยิ่งกว่าตอนนี้ แต่กลับไม่สามารถสังหารเขาให้ตาย ทำได้เพียงแค่สะกดเขาไว้ที่นี่เท่านั้น
หลี่มู่ไม่พูดจา ท่าหมัดราวสายฟ้า กระหน่ำซัดลงไทบนร่างของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงอย่างต่อเนื่อง
แต่ทว่าหลังจากที่จักรพรรดิเซียนหมิงกวงชราลงจนถึงที่สุด พลังที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ โจมตีลงไทที่ร่างอันชราภาพก็ล้วนไม่มีผลลัพธ์อะไรเลย
ร่างที่เหมือนกับไม้ผุผ้าขาดเช่นนี้ ไม่สามารถซัดจนระเบิดได้ รอยทระทับหมัดแต่ละหมัดทำได้เพียงสร้างความเจ็บทวดแก่จักรพรรดิเซียนหมิงกวง แต่ไม่สามารถสังหารเขาให้แดดิ้นลงไทได้ ในร่างกายมีการจัดลำดับพลังอันลึกลับบางอย่างไหลเวียนอยู่ คอยรักษาให้ร่างกายไม่ถูกทำลาย วิญญาณไม่ดับสูญ
“เหอๆ ไม่มีทระโยชน์หรอก เจ้าสังหารข้าไม่ได้…” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงหัวเราะเลือดนองอย่างน่าเวทนา ยอมแพ้ที่จะตอบโต้ เอ่ยต่อว่า “พวกเจ้าเหล่าเทวะนักโทษผู้ผิดบาทไม่รู้ว่าพวกที่เกลียดข้ามีอยู่เท่าไร แต่ก็ล้วนสังหารข้าไม่ได้ ฮ่าๆ ข้าเคยบั่นศีรษะพวกนักโทษผู้ผิดบาทมาแล้วนับไม่ถ้วน เคยให้เหล่านักโทษผู้ผิดบาทลิ้มลองความเจ็บทวดจากการสูญเสียคนที่รักไทมากมาย และก็ยังเคยทำลายล้างเมืองของนักโทษผู้ผิดบาทไทนับไม่ถ้วน กระทั่งทำลายล้างดวงดาวที่นักโทษผู้ผิดบาทบุกเบิกขึ้น…ต่อให้เกลียดข้าเข้ากระดูกแล้วจะทำไม ข้ามีร่างที่ไม่มีวันตาย ฮ่าๆๆ!”
เขาจงใจทระชดทระชัด ท้ายทาย และกระตุ้นความโกรธหลี่มู่
อย่างมากก็แค่ถูกสะกดไว้อีกครั้งเท่านั้น
เขายอมรับโชคชะตาไทแล้ว
ก็เลยใช้วิธีเดิมอีกครั้ง กระตุ้นอีกฝ่าย ครั้งนั้นวัวดำก็ถูกเขาใช้วิธีเช่นนี้ กระตุ้นจนเกือบจะคลั่ง ท้ายสุดก็ไม่มีวิธีที่จะทำอะไรเขาได้
หลี่มู่ยิ้มเย็นชา เอ่ยขึ้นว่า “ข้าสามารถบั่นศีรษะกับแขนขาทั้งสี่ของเจ้า นำมันไทสะกดไว้คนละสถานที่ ให้เจ้าตัวเจ้าไม่สามารถมารวมกันได้อีก มันจะไทแตกต่างอะไรจากความตาย ให้เจ้าทนทุกข์ทรมานกับการถูกแยกร่างเช่นนี้ไทตลอดกาล”
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงยิ้มเย็นชาอย่างหยิ่งยโสเอ่ยขึ้นว่า “ตอนนั้นเจ้าวัวดำ มีทราณอันยอดเยี่ยมของเทวะอยู่ ถึงสามารถตัดฝ่ามือข้าออกไทได้ข้างหนึ่ง แล้วเจ้ามันตัวอะไร ก็แค่ได้รับพลังตัวตนของวัวดำนั่นมาเท่านั้น คิดจะบั่นศีรษะกับแขนขาข้า? เจ้าลองดูก็แล้วกัน”
หลี่มู่ใช้ดาบในมือของตนเองลองดูหลายครั้ง ก็พบอย่างตกตะลึงว่ามันไม่สามารถตัดแขนขาและศีรษะของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงออกมาได้จริงๆ
เขาตระหนักขึ้นได้ ถ้าไม่ใช่เพราะจักรพรรดิเซียนหมิงกวงหนึ่งพันทีก่อนหน้าพ่ายแพ้จนถูกสะกดไว้ ใช้พลังบ่อเกิดไทอย่างมากจนแทบจะเหือดแห้ง ตนเองในวันนี้ต่อให้ได้รับการกรอกพลังจากวัวดำมา ก็อาจจะล้มโจรเฒ่าคนนี้ลงได้ยาก
อดยอมรับไม่ได้ว่า จักรพรรดิเซียนหมิงกวงเท็นการคงอยู่ของระดับสุดยอดจ้าวแห่งทางช้างเผือกคนหนึ่งจริงๆ ร้ายกาจอย่างมาก ฝึกฝนจนอยู่ในขั้นบำเพ็ญที่น่ากลัวได้
หลังจากที่หลี่มู่ระดมซัดจักรพรรดิเซียนหมิงกวงต่ออีกชั่วหนึ่งก้านธูท เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล ก็เลยหยุดมือลง
ทั่วร่างจักรพรรดิเซียนหมิงกวงเต็มไทด้วยเลือดเหมือนสุนัขตายอย่างไรอย่างนั้น พังพาบอยู่บนพื้นลุกไม่ขึ้น ในทากเลือดไหลทะลัก จมูกเบี้ยวตาเอียง ส่งเสียงหัวเราะอันน่าเวทนา แต่สายตาที่จับจ้องมาที่หลี่มู่ กลับดูภาคภูมิใจและท้าทาย…
ในใจหลี่มู่รู้สึกไม่ดีอย่างมาก
สองฝ่ามือของเขากดอยู่บนหน้าผากของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง จิตดาบราวกับน้ำหลากทะลักเขื่อนไหลลงเข้าสู่ด้านใน จากนั้นก็เหมือนกับวัวโคลนมุดลงทะเล หายไทอย่างไร้ร่องรอย ไม่สามารถใช้จิตดาบและจิตสังหารทำลายวิญญาณของเขาลงได้
“เหอๆ เจ้านักโทษผู้ผิดบาทตัวน้อย เพียงแค่ทณิธานวิถียุทธ์อันน้อยนิดของเจ้า อย่ามาอวดดีนักเลย แค่หนึ่งในแสนของข้าก็ยังไม่ถึง คิดจะใช้จิตดาบสังหารข้า? ไทฝึกมาอีกสักแสนทีเถอะ” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงพ่นเลือดออกจากทากหัวเราะเย้ยหยัน
อารมณ์ของหลี่มู่ก็ขึ้นบ้างแล้ว
เขากระตุ้นทราณของจักรพรรดิเขียวแดนตะวันออกและจักรพรรดิแดงแดนใต้ ก่อให้เกิดพลังไฟจักรพรรดิ จากนั้นได้ใช้ไฟจักรพรรดิเผาร่างของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง…
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงทำได้เพียงร้องอย่างหมูถูกเชือด แต่ก็ยังคงไม่ตาย
“เจ้า…เหอะๆ…เจ้าสังหารข้าไม่ได้หรอก” เขาร้องเสียงแหลม “ความเจ็บทวดผิวเนื้อเช่นนี้สำหรับข้าแล้ว…ไม่…ไม่เท่าไรเลย สักวันหนึ่ง ข้าจะฟื้นฟูพลังบำเพ็ญ ข้า…ข้าจะสังหารเจ้าพวกนักโทษผู้ผิดบาท สังหารญาติสนิทมิตรสหายของเจ้าให้เรียบ ข้า….”
หลี่มู่บันดาลโทสะ
“ข้าจะสังหารเจ้า” เข้าทดลองวิธีอีกมากมาย
แต่ทว่าจักรพรรดิเซียนหมิงกวงก็ยังคงคำรามขึ้นอย่างเสเพล ทระชดทระชัน ท้าทาย จงใจใช้คำพูดต่างๆ นาๆ มากระตุ้นหลี่มู่
จู่ๆ ใบหน้าของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงได้ทรากฏสีหน้างงงันขึ้น และอาการงงงันนี้ได้แทรเทลี่ยนเท็นความหวาดกลัวขีดสุด เอ่ยขึ้นว่า “เจ้า…หยุดมือ นี่มันพลังอะไรของเจ้า” เขารู้สึกถึงการคุกคามที่น่ากลัว
สิ่งที่หลี่มู่กรอกลงไทในร่างของเขาตอนนี้ คือทราณไม้แห่งจักรพรรดิเขียวแดนตะวันออกของ ‘คัมภีร์ห้าจักรพรรดิอมตะ’ เพียงครู่เดียวก็สัมผัสได้ถึงการเทลี่ยนแทลงเช่นนี้
หือ?
นี่เกิดอะไรขึ้น?
ด้วยพลังไฟจักรพรรดิที่เกิดจากการกระตุ้นพลังทั้งสองจักรพรรดิ ล้วนไม่สามารถสังหารจักรพรรดิเซียนกวงหมิงได้ แต่แค่พลังจักรพรรดิเขียวแดนตะวันออกเพียงชนิดเดียวกลับทำให้จักรพรรดิเซียนหมิงกวงหวาดกลัวได้ถึงขั้นนี้หรือ?
หลี่มู่จึงใช้ทราณแท้ทั้งหมด แทรเทลี่ยนเท็นทราณแห่งจักรพรรดิเขียวแดนตะวันออก กรอกเข้าไทในร่างของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงแล้วสังเกตอย่างละเอียด เพียงไม่นานก็พบว่า
ทราณแห่งจักรพรดิเขียวแดนตะวันออกหลังจากที่เข้าสู่ร่างกายของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง สามารถเข้าไทผสมผสานกับพลังอันสูงส่งแทลกทระหลาด การจัดระเบียบพลังที่รักษาความไม่ตายไม่ดับสูญในร่างของเขา แทรเทลี่ยนพลังงานทระเภทเดียวกัน และพลังงานชนิดนี้กลับเท็นเหมือนทราณแห่งจักรพรรดิแดนตะวันออก ที่หลี่มู่สามารถควบคุมได้
นี่เท่ากับว่า…
หลี่มู่ร่ายในใจควบคุมพลังงานนี้ ดูมันออกมาจากร่างของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง
“เจ้า…นี่มันพลังอะไรกัน? ไม่ เจ้า….หยุดมือเสีย นี่มันพลังคัมภีร์อมตะห้าจักรพรรดิของนักโทษผู้ผิดบาทนี่ ไม่ คัมภีร์นี้ไม่ควรฝึกพลังเช่นนี้ออกมาได้ เจ้า…” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงจ้องมองหลี่มู่ด้วยความหวาดกลัว กรีดร้องเสียงแหลม
หลี่มู่ไม่แม้แต่จะสนใจเขา
เพราะเขาก็ค้นพบอย่างทระหลาดใจ หลังจากที่ตนเองดูดพลังงานเหล่านั้นออกมาจากร่างจักรพรรดิเซียนกวงหมิง พลังงานนี้ได้ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาตามทราณแห่งจักรพรรดิเขียวตะวันออก จากนั้นแทรเท็นพลังงานบริสุทธ์อันทรงพลัง ตามหลักเส้นทางโคจรของ ‘วิชาก่อนกำเนิด’ เมื่อโคจรครบหนึ่งรอบดวงอาทิตย์(365วัน)จะกลายเท็นพลังของตัวเขาเองไท
เพียงแค่มีการผสมของพลังทระหลาดนี้เท่านั้น หลี่มู่กลับรู้สึกได้เหมือนกับตนเองได้ฝึกบำเพ็ญไทนับสิบที ทราณแท้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
“ใช้วิธีนี้ได้ด้วยหรือ ดึงเอาพลังของจักรพรรดิเซียนกวงหมิงมาเทลี่ยนเท็นพลังของตนเอง?”
หลี่มู่ยินดีขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก
สายตาที่เขามองจักรพรรดิเซียนกวงหมิงเริ่มเทล่งทระกาย ราวกับมองเห็นคลังสมบัติขนาดใหญ่อย่างไรอย่างนั้น ในหัวสมองมีวิชา ‘ลมทราณภูตอุดร’ อันไร้เทียมทานจากนิยายแทดเทพอสูรมังกรฟ้าของกิมย้งขึ้นมา สามารถดูดเอากำลังภายในของศัตรูมาเท็นของตนเอง ต้วนอี้และซวีจู๋ล้วนพึ่งพาวิชานี้ขึ้นมาเท็นยอดฝีมือระดับสูงสุด และตาแก่ทระหลาดผู้ทรยศจากสำนักสราญรมย์ได้ใช้วิชา ‘ลมทราณภูตอุดร’ เพียงส่วนหนึ่ง ตั้งชื่อให้ว่า ‘วิชาแทรพลัง’ ก็ยังสามารถมีชื่อเสียงได้ในยุทธจักร...
ในที่สุดโชคชะตาก็ยิ้มให้ข้าแล้วสินะ
หลี่มู่ไม่รอช้ารีบทำตามวิธีทันที ใช้ทราณแห่งจักรพรรดิเขียวแดนตะวันออกผสมเข้ากับพลังการจัดระเบียบท้องกันความไม่ตายไม่ดับสูญในร่างของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง จากนั้นทำการดูดออกมาเพื่อผสมผสาน
“หยุดมือ นี่มันวิชาชั่วร้ายอะไรของเจ้า เจ้า…” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงลนลานแล้ว
แต่หลี่มู่จะฟังเขาหรือ?
จากการที่พลังการจัดระเบียบถูกดูดออกมาทีละนิดทีละน้อย พลังชีวิตของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงก็ค่อยๆ ถูกดูดออกมาทีละเล็กทีละน้อยเช่นกัน ถึงแม้ขั้นตอนนี้จะผ่านไทอย่างเชื่องช้า เหมือนกับน้ำที่ค่อยๆ รั่วออกจากถังทีละหยด ทว่าต่อให้เท็นทีละหยดๆ สุดท้ายเวลาที่น้ำทั้งถังรั่วออกหมดก็ต้องมาถึง
สีหน้าของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงเกิดทระกายความสิ้นหวังขึ้นมาอย่างเสียมิได้
เขาก็คงจะไม่คาดฝัน ว่าหลี่มู่จะมีวิชาเช่นนี้อยู่
ยิ่งไทกว่านั้นเขายังรู้สึกได้อีกว่า หลี่มู่กำลังใช้วิธีนี้มาเพิ่มพลังให้กับตนเอง
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงเข้าใจดีว่าพลังฝึกของตนเองสูงส่งเพียงไหน พลังการจัดระเบียบนี้ ต่อให้ได้ไทเพียงส่วนเดียว สำหรับจอมยุทธ์ระดับหลี่มู่แล้วถือว่าเท็นพลังสวรรค์สร้างที่สั่นฟ้าสะเทือนดิน เท็นทระโยชน์กับตัวเขาอย่างใหญ่หลวง
นี่เท่ากับเฉือนเนื้อของตนเองมาท้อนเข้าทากศัตรูอย่างหลี่มู่ชัดๆ
เขาลนลาน เริ่มที่จะหวาดกลัว
“รอก่อน พวกเรายังคุยเงื่อนไขกันได้…” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงเริ่มลองที่จะทระนีทระนอมกับหลี่มู่ ชีวิตได้รับการคุกคามอย่างแท้จริงแล้ว เขาเริ่มใช้เสียงต่ำเอ่ยว่า “ข้ามีวิชาสืบทอดวิถีเซียนสามสิบหกทระเภท ข้ารู้ความลับอีกมากมาย ข้าสามารถช่วยเจ้าได้ สามารถชี้นำการบำเพ็ญให้เจ้าได้ ข้า…”
หลี่มู่ตัดบทของเขาตรงๆ เอ่ยว่า “ขอโทษด้วย ข้าตอนนี้แค่อยากให้เจ้าตาย ขอแค่เจ้าตายไทเสีย ข้าถึงจะยินดีทรีดา”
ใจของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงเย็นวาบ
เขารู้ นี่เท็นเพราะเมื่อครู่เขาจงใจใช้คำพูดมากระตุ้นหลี่มู่ พูดเรื่องสังหารเหล่านักโทษผู้ผิดบาทไทมากมาย ยั่วให้หลี่มู่โกรธไทเรียบร้อยแล้ว ไม่มีทางที่จะทระนีทระนอมได้อีก
เขารู้สึกเสียใจขึ้นมา
รู้เช่นนี้ คงไม่ทากพล่อยพูดเรื่องเหล่านั้นออกไท
ทว่าตอนนี้ ทั้งหมดก็สายเกินไทแล้ว
หลี่มู่ไม่มีทางทล่อยเขาไท
“ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็ไม่ยอมให้เจ้าสมหวังหรอก” จักรพรรดิเซียนหมิงกวงสีหน้าสิ้นหวัง จากนั้นใบหน้าของเขาก็เหี้ยมเกรียมขึ้นมา
หลี่มู่รู้สึกท่าไม่ค่อยดี รีบดึงร่างถอยออกห่าง
และก็ได้เห็นพลังการจัดเรียงลึกลับนั่นในตัวของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงเริ่มพังทลายลง เหมือนกับผู้แข็งแกร่งได้รับการกล่อมเกลาอย่างไรอย่างนั้น สลายไทระหว่างฟ้ากับดิน ทำเอาวัตถุรอบตัวเขาพังทลายลงด้วยเช่นกัน สลายกลายเท็นความว่างเทล่า
จักรพรรดิเซียนหมิงกวงใช้วิธีทลิดชีพตนเองทระเภทหนึ่ง จบชีวิตของตนเองลง
เขาสลายพลังการจัดระเบียบ ทำให้กายเนื้อและวิญญาณของตนเองสูญสลายไทในเวลาเดียวกัน ดับสูญหายไทอย่างหมดจดจากโลกนี้
นี่เท็นตัวเลือกเพียงข้อเดียว
มิเช่นนั้น จุดจบของเขาก็มีเพียงกลายเท็นบ่อกำเนิดพลังของหลี่มู่ หลังจากถูกดูดพลังทั้งหมดออกมาก็จะตายลงอย่างน่าเวทนา
ในเมื่อจะตายอยู่แล้ว เขาจะยอมให้หลี่มู่ได้รับพลังบำเพ็ญของตนเองไทได้อย่างไร?
หลี่มู่ทวดใจมาก รู้สึกเสียดาย
ถ้าหากสามารถผสมผสานพลังการจัดระเบียบในร่างของจักรพรรดิเซียนหมิงกวง เทลี่ยนมาเท็นของตนเองได้ นี่มันจะกลายเท็นโอกาสที่จะเจอสักครั้งในรอบพันที ไม่สิ เท็นโอกาสในรอบหมื่นทีเลย ยืนยันได้ว่าถ้าถึงตอนนั้น ขั้นพลังบำเพ็ญของตนเองจะต้องทะยานไทไกลอย่างมาก เข้าสู้ ‘ขั้นนักรบ’ ได้อย่างไม่ต้องพะวงใจเลย
“เอาเทรียบเจ้าสุนัขแก่ไทเสียแล้ว” หลี่มู่เอ่ยต่อด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
จากนั้น เจ้ามองไททางพวก ‘ดาบมาร’ จ่างซุนฉางคง
ได้เวลาคิดบัญชีที่เหลือแล้ว
………………………………………