จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 520 บดขยี้

“คนญี่ปุ่น?”

 

หลี่มู่ขมวดคิ้ว พลังเกิดขึ้นกลางฝ่ามือ

 

กร๊อบ กร๊อบ

 

ดาบโลกันต์ทั้งสามเล่มแหลกละเอียดกลายเป็นฝุ่นผง

 

สิ่งที่กลายเป็นฝุ่นผงไปด้วยยังมีเซียนกระบี่ ‘กระบี่ทางแห่งเทพ’ ที่มาจากญี่ปุ่นผู้นี้ด้วย

 

ฝนเลือดโปรยปรายทั่วฟ้า

 

“โนบุโกะรีบหนีไป…” นี่เป็นคําสั่งเสียสุดท้ายของเซียนกระบี่ญี่ปุ่น คนนี้

 

เด็กสาวในชุดกิโมโนที่อยู่บนนกสีดําตัวยักษ์ห่างออกไปหลายร้อย เมตรน�าตานองหน้า ขี่นกสีดํามุ่งหน้าไปทางประเทศญี่ปุ่น

 

แสงดาบหมุนวนฟุ่บๆ รอบกายหลี่มู่ ฟาดฟันมนุษย์ก้อนหินยักษ์ที่ เหยียบลงมาสลายกลายเป็นเม็ดทราย ท่ามกลางเสียงร้องน่าสังเวชก็มี เงามนุษย์ร่างหนึ่งร่วงออกมา เป็นผู้แข็งแกร่งคนขาวชาวยุโรปที่สําแดง

 

พลังพิเศษควบคุมก้อนหิน ปากกระอักเลือดสดๆ ออกมา เงาคนยังไม่ ทันร่วงถึงพื้น แสงดาบบินแค่หมุนควงก็กลายเป็นเศษเนื้อเลือดสาด กระจาย

 

และในตอนนี้ หมียักษ์ไฟตัวนั้นก็พุ่งมาข้างหน้าหลี่มู่ คํารามพร้อม ตะปบมายังเขา

 

หลี่มู่ยกมือชกออกไปง่ายๆ ตราหมัดมหึมาก็ลอยออกไป ซัดหมี ยักษ์ไฟตัวนี้ลอยกลางอากาศ ลอยกระแทกออกไปหลายร้อยเมตร ไม่รู้ ว่าถล่มสิ่งก่อสร้าง โกดังพังไปต่อเท่าไหร่ แล้วไปร่วงในที่รกร้าง กลายเป็นคนขาวหนุ่มตัวเปล่าเปลือย กระดูกทั่วร่างหักแหลก เลือดที่ ปากกระอักไหลออกมาอย่างกับน�าพุ เห็นได้ชัดว่าตายจนไม่รู้จะตาย อย่างไรแล้ว

 

นี่มันบดขยี้ชัดๆ

 

“กี๊สสสส…”

 

ข้างบนหัวมีเสียงคลื่นเสียงโจมตีจากร่างเงาสีดํานั่น

 

กระแสอากาศปั่ นป่วนที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าปกคลุมลงมา เหมือนกับเครื่องบดเนื้ออย่างไรอย่างนั้น

 

“หุบปาก”

 

หลี่มู่เอ่ยปาก เพียงเบาๆ แค่ประโยคเดียวก็สลายคลื่นเสียงโจมตี นั่นจนไร้รูปร่าง

 

ร่างเงาดํานั่นมีปีกขนาดมหึมาเหมือนปีกค้างคาวงอกอยู่ คิดจะ หมุนตัวหนีไปอย่างลนลาน พลังมหาศาลทะลักออกมา หลี่มู่ดูดเขามา จากกลางอากาศ ไม่ว่าเขาจะกรีดร้องดิ้นรนอย่างไรก็ถูกดูดมาอยู่ดี บีบ คอเอาไว้เบาๆ ชายวัยกลางคนที่มีหนวดสองข้าง ก็อ้าปากขึ้นอย่างไม่ อาจควบคุมเหมือนเป็ดถูกบีบคออย่างไรอย่างนั้น ข้างๆ ฟันทั้งบนและ ล่างมีเขี้ยวขาววาววับคมกริบ

 

“เป็นแวมไพร์จริงๆ ด้วยแฮะ”

 

หลี่มู่สนอกสนใจขึ้นมาบ้าง เนตรสวรรค์แค่กวาดไปก็เห็นในกาย ของอีกฝ่ายมีพลังเลือดเหมือนอย่าง ‘กริชเทวทูต’ เมื่อก่อนหน้านี้

 

ร่างพลังชีวิตที่ค่อนข้างน่าอัศจรรย์

 

บึ้ม!

 

จู่ๆ ร่างของชายวัยกลางคนคนนี้ก็ระเบิดออก แปลงเป็นค้างคาว ตัวเล็กๆ มหาศาล บินหนีจากมือของหลี่มู่

 

“พลังเลือดชนิดนี้เป็นพลังที่ระดับสูงยิ่งกว่าจริงๆ นั่นแหละ”

 

หลี่มู่แปลกใจมาก

 

บนโลกมีร่างพลังชีวิตที่น่าสนใจแบบนี้ด้วยรึ น่าจะมาจากข้างนอก ไม่ใช่ชาวพื้นเมืองของโลกแน่นอน

 

เขายกมือกําหัวหอกเหล็กธงยาวที่ม่อหลานแทงมาเอาไว้

 

หัวหอกยากจะแทงเข้าแม้เพียงหนึ่งชุ่น

 

ม่อหลานสีหน้าทั้งตื่นตระหนกทั้งโมโห “แกโดนหนามเทวดาแทง ไปแล้ว พลังวิญญาณแค้นเผ่าโลหิตมากพอจะทําให้แกเสียพลังรบ จิตใจคุ้มคลั่งในทันที ทําไม…”

 

“กบในกะลา” หลี่มู่แค่สะบัดมือ พลังมหาศาลก็ทะลักออกมา

 

เพียงชั่วพริบตาหอกธงเหล็กยาวก็กลายเป็นผุยผง พลังชั่วร้ายสีดํา ในนั้นแผ่ออกมา ม่อหลานกรีดร้องกระเด็นออกไป เกราะโบราณบนร่าง แผ่รูปประหลาดสีแดงดําต้านพลังการโจมตีนี้ให้เธอ ปกป้องชีวิตของ เธอเอาไว้ แต่บนเกราะโบราณก็มีรอยร้าวเป็นทางๆ

 

“นี่เป็นไปไม่ได้” ม่อหลานคํารามอย่างรับไม่ได้ “ ‘กริชเทวทูต’ เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์เผ่าโลหิต แกไม่มีทาง…ฉันรู้แล้ว แกตอนนี้แค่ฝืนยืน หยัดก็เท่านั้นแหละ ทนต่อไปได้อีกไม่กี่น�าหรอก…ทุกท่าน ยังไม่ลงมือ อีก จะรอความตายหรือไร?”

 

ประโยคสุดท้ายนั้นพูดกับผู้แข็งแกร่งฝั่ งต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในที่มืด

 

ฟิ้ ว!

 

เหล็กต่างๆ ในสิ่งก่อสร้างและโกดังที่พังถล่มลงมาพวกนั้น จู่ๆ ก็ ประหนึ่งมีชีวิต แปรเปลี่ยนเป็นลมพายุโลหะทั่วฟ้า ยิงพุ่งบดขยี้มา ทางหลี่มู่

 

ผู้แข็งแกร่งพลังพิเศษควบคุมโลหะได้คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นแล้ว

 

“เป็น ‘แม็กนีโต’!” บนอินเทอร์เน็ต แฟนคลับมาร์เวลคนหนึ่งเมื่อ เห็นฉากนี้ก็ร้องออกมาอย่างตกใจ

 

ยังมีคนอีกไม่น้อยร้องตามขึ้น “สวรรค์ แม็กนีโตมีตัวตนอยู่จริงๆ เหรอ? งั้นโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ล่ะ? วูฟเวอรีน สตรอม คนพวกนี้ล่ะ?”

 

แต่คนที่รู้เบื้องลึกจริงๆ เท่านั้นถึงจะรู้ว่านั่นไม่ใช่แม็กนีโตอะไร คน ที่ลงมือเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดธาตุโลหะที่มาจากแคลิฟอร์เนียถือเป็นผู้ แข็งแกร่งพลังพิเศษชั้นสูงสุดที่น่ากลัวในแถบอเมริกาเหนือคนหนึ่ง ว่า กันว่าเป็นบุคคลที่มีภูมิหลังเป็นกองทัพของอเมริกาเหนือ เป็นหนึ่งใน สามหัวหน้าหน่วย ‘เทพีเสรีภาพ’ กลุ่มผู้มีพลังพิเศษที่ใหญ่ที่สุดของ อเมริกา คิดไม่ถึงว่า คนคนนี้จะมาปรากฏกายขึ้นที่แบกแดด

 

มีดเหล็กทั่วฟ้า พายุโลหะ มองไปแล้วก็ให้ความรู้สึกโจมตีทาง สายตาและสั่นประสาทได้มหาศาล

 

หลี่มู่ส่ายหน้า

 

“จะมาเล่นควบคุมพลังจิตกับฉันหรือ?”

 

พลังจิตวิญญาณของเขาประหนึ่งมหาสมุทรหอบม้วนออกมา ควบคุมพลังโลหะทั่วฟ้านั่นให้พุ่งกลับไปโจมตีโกดังแห่งหนึ่งที่อยู่ห่าง ออกไปสามร้อยเมตร จนโกดังแห่งนั้นเปลี่ยนไปราวกับเม่นโลหะ

 

เลือดสดๆ ไหลนองออกมาจากข้างในโกดัง

 

หนึ่งในสามหัวหน้าหน่วย ‘เทพีเสรีภาพ’ ที่ควบคุมโลหะอยู่ในที่มืด ร่างปักไปด้วยเศษเหล็กและเหล็กแหลมชิ้นใหญ่ชิ้นเล็ก ดวงตาเบิก โพลง ตายตาไม่หลับ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าตัวเองใช้ วิชาควบคุมโลหะฆ่าคนไปมากมายขนาดนั้น วันหนึ่งตัวเองจะโดนเหล็ก แทงตายเสียได้

 

“โอ้ชิท ‘แม็กนีโต’ โดนฆ่าในพริบตา ”

 

ชาวเน็ตเมื่อได้เห็นภาพนี้ก็ร้องอย่างอย่างบ้าคลั่ง ตื่นตะลึงเป็น ที่สุด

 

ส่วนที่สํานักงานใหญ่หน่วย ‘เทพีเสรีภาพ’ รัฐแคลิฟอร์เนียของ อเมริกาเหนือคนมากมายต่างปิดหน้า ไม่อาจเชื่อในภาพที่ตนเห็นได้ หัว หน้าที่ไร้เทียมทานในใจของพวกเขาตายไปแบบนี้เสียแล้ว? นี่มันช่าง

 

อ่อนด้อยยิ่งนัก วิชาควบคุมโลหะที่ภาคภูมิใจ เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพสังหาร แห่งตะวันออกผู้นี้ สู้ไม่ได้แม้แต่มายากลของเด็กตัวเล็กๆ เลย

 

“แก้แค้น!” หัวหน้าอีกคนหนึ่งทุ่มโต๊ะเหล็กข้างหน้าตัวเองแหลก ละเอียดอย่างโกรธแค้น

 

แต่เสียงนี้เห็นได้ชัดว่าไร้ซึ่งพลังนัก

 

แก้แค้นอย่างไร?

 

พลังของเทพสังหารแห่งบูรพาคนนั้นมันช่างน่ากลัวเสียจนทําให้ คนสิ้นหวัง

 

“บางทีครั้งนี้การตัดสินใจของพวกเราอาจจะผิดไปแล้วจริงๆ ก็ ได้” หัวหน้าคนที่สามยิ้มขื่น “ตอนนี้สิ่งที่ควรคิดคือ หากเทพสังหารแห่ง บูรพามีชีวิตกลับไปจากแบกแดดได้จริงๆ กลุ่มจะต้องเจอกับการแก้ แค้นอย่างไร กลุ่มของแต่ละประเทศที่เข้าร่วมการล้อมสังหารครั้งนี้ น่า กลัวว่าคงจะต้องจ่ายค่าตอบแทน”

 

“กี๊ส!”

 

เสียงแหลมเสียดหูจากนกฟินิกซ์ดังมาจากฟ้า พุ่งทะยานไปหาห ลี่มู่

 

ผู้ที่ควบคุมฟินิกซ์เพลิงตัวนี้คือหญิงสาวสวมกระโปรงยาวสีแดง ผมยาวสีแดงประหนึ่งเปลวไฟเริงระบํา

 

นี่เป็นผู้แข็งแกร่งพลังพิเศษจากยุโรปอีกคนหนึ่ง

 

สิ่งที่มาพร้อมกับเปลวเพลิงยังมีสายอัสนีทั่วฟ้า

 

ชายยุโรปเหนือรูปร่างใหญ่โตตาเดียวมือถือคทาสายฟ้า คํารามลั่น พลางควบคุมสายฟ้าทั่วนภาโจมตีไปยังหลี่มู่

 

กลุ่มและผู้แข็งแกร่งชั้นยอดจากประเทศต่างๆ ที่รวมตัวมาที่ แบกแดดครั้งนี้เกินกว่าความคิดของใครๆ

 

ทั่วร่างของหลี่มู่พันล้อมด้วยประกายแสง อาวุธหรือวิชาใดๆ ไม่ อาจกล�ากราย

 

ตาของเขาเพียงกวาดก็เอ่ยเสียงดังออกไป “ฟ้ามีเมตตาธรรม ข้า จะจบเรื่องนี้ลง ให้โอกาสผู้แข็งแกร่งนอกเหนือจากพวกผู้ก่อการร้าย ครั้งหนึ่ง เลิกเสียตอนนี้ ขอโทษเสีย ยังจะมีชีวิตต่อไปได้ พลาดจากครั้ง นี้อย่าหาว่าฉันไม่ปราณี” เขามาจากโลก เดิมก็เพื่อปกป้องโลกใบนี้ ดังนั้นจึงไม่หวังให้โลกสูญเสียสาหัสเพราะพลังการล้างสังหารของตน

 

“สวรรค์ไม่อนุญาตให้ตัวต้องห้ามอย่างนายมีชีวิตอยู่”

 

“พลังของนายแข็งแกร่งเกินไป จะทําลายความสมดุล เชิญ เดินทางไปปรโลกเถอะ”

 

สตรีควบคุมนกฟินิกซ์และชายถือคทาสายฟ้าเอ่ยปากพร้อมกัน

 

“พวกโลกแคบ”

 

จิตสังหารในดวงตาหลี่มู่หมุนวน ไม่กล่าวเตือนอีกต่อไป

 

คนพวกนี้อยู่ในกรงนานเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าห้วงดาราสมุทรน่ากลัว เพียงใด ใช้ชื่อว่ารักษาความสมดุล แต่แท้จริงแล้วกลับคิดว่าตัวเองจะ ครองโลกเพียงผู้เดียว ไม่อนุญาตผู้แข็งแกร่งคนอื่นปรากฏตัวขึ้น คน แบบนี้ รังแต่จะเป็นภัยร้ายของการพัฒนาเส้นทางวิถียุทธ์ของโลก ต้อง ฆ่าทิ้งเท่านั้น

 

“พวกนายรนหาที่ตายเองนะ”

 

หลี่มู่อ้าปากสูดลมเข้าไปเบาๆ เหมือนกับวาฬสูบน�าแบบนั้น สูบ ฟินิกซ์ที่สยายปีกทะยานลงมาไว้ในปาก ขณะเดียวกันสิ่งที่สูบเข้ามายัง มีสายฟ้าที่แลบแปลบปลาบอยู่ทั่วท้องฟ้าอีกด้วย แล้วแปรเปลี่ยนมันให้ เป็นพลังงาน ก่อนจะกลืนมันลงไป เสมือนดื่มสุราเลิศรสอย่างนั้น

 

“อะไรน่ะ?”

 

“เป็นไปไม่ได้”

 

สตรีกระโปรงแดงและชายตาเดียวตาแทบจะถลนออกจากเบ้า

 

พลังที่พวกเขาควบคุมน่ากลัวเพียงใด พูดได้ว่ามากพอที่จะทําลาย ตึกใหญ่ๆ ตึกหนึ่ง ทําลายเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งได้ แต่กลับถูกเทพสังหาร แห่งบูรพากลืนกินลงไปเหมือนกับกินอะไรสักอย่าง นี่…ล้อกันเล่นใช่ ไหม?

 

“ให้โอกาสพวกเจ้าไปแล้วนะ”

 

หลี่มู่ไม่ปราณีอีกต่อไป

 

ฟิ้ ว ฟิ้ ว

 

แสงดาบส่องกะพริบ

 

สตรีกระโปรงแดงและชายตาเดียวครรลองสายตาเบื้องหน้า เคลื่อนไปอย่างผิดรูป จากนั้นหัวก็ร่วงลงมาจากร่าง

 

ผู้แข็งแกร่งชั้นยอดชื่อเสียงโด่งดังของยุโรปทั้งสองก็ตายจนไม่รู้จะ ตายอย่างไรไปเช่นนี้เองแล้ว

 

ภาพนี้ ทําให้ชาวเน็ตฝั่ งยุโรปเหนือที่นั่งอยู่หน้าจออินเตอร์เน็ต ทั้งหลายประหนึ่งบิดามารดาตาย

 

โดยเฉพาะเหล่าขั้วอํานาจที่รู้ถึงความน่ากลัวของพลังทั้งสองคนนี้ เป็นอย่างดี ต่างเกิดความรู้สึกหวาดกลัวเหมือนวันสิ้นโลกมาเยือน ผู้ที่ แข็งแกร่งจนไม่อาจเอาชนะได้ในใจของพวกเขา เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพ สังหารแห่งบูรพากลับเป็นเหมือนหุ่นไม้ที่ขยับไม่ได้ ทําได้แค่เพียงรอ การทุบตีอย่างนั้น นี่…แตกต่างขนาดนี้เชียว?

 

ส่วนม่อหลานที่อยู่ใกล้ๆ ตรงหน้ากลับคํารามอย่างโมโห “ดยุคสโตกเกอร์ ยังไม่ลงมืออีกหรือ?”

 

หลี่มู่ตอบกลับไป “ไม่ต้องตะโกนแล้ว เขาจบแล้ว”

 

พูดยังไม่ทันจบ บนท้องฟ้าสูง ชายกลางคนที่สวมชุดสูทสีดํามี หนวดสองข้างกําลังเตรียมจะลงมืออีกครั้ง จู่ๆ กลับร้องเสียงดัง ในร่างมี แสงไฟนับไม่ถ้วนพรั่งพรูออกมา ต่อให้เขาแยกร่างเป็นค้างคาวตัวเล็กๆ ทั่วฟ้าหนีอีกรอบ แต่ค้างคาวทุกตัวกลับมีเปลวเพลิงลุกไหม้ สุดท้ายก็ ถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านโปรายปรายไปทั่วท้องฟ้า

 

“นี่เป็นไปไม่ได้” ม่อหลานหวาดกลัวสุดขีด

 

เธอยังรอดยุคสโตกเกอร์สําแดงเคล็ดวิชาลับเผ่าโลหิตในกริชเทว ทูต สังหารหลี่มู่ให้สิ้นซาก คิดไม่ถึงว่าดยุคสโตกเกอร์จะไปเฝ้าเง็กเซียน เสียก่อน นี่คือดยุคของเผ่าโลหิตโบราณเชียวนะ ผู้แข็งแกร่งชั้นยอด พลังแฝงล�าลึกอย่างแท้จริง สุดท้าย แม้แต่จะหนียังหนีไม่พ้น

 

“นี่เป็นทางที่พวกเธอเลือก…ตายเสียเถอะ”

 

หลี่มู่กระตุ้นวิชาดาบเหินหาว ดาบบินหนึ่งร้อยแปดเล่มแปลงเป็น แสงไฟทั่วฟ้าพุ่งออกไปตามตําแหน่งต่างๆ ของสนามฝึกอย่างรวดเร็ว

 

ผู้แข็งแกร่งชั้นยอดจากประเทศต่างๆ ที่ยังซ่อนตัวอยู่และยังไม่ได้ ลงมือ พลันรู้สึกเบื้องหน้าเย็นวาบ ภาพเบื้องหน้าเคลื่อนไปอย่างผิดรูป จากนั้นสติสัมปชัญญะ ความรู้สึกก็ตกลงสู่นิทราชั่วนิรันดร์ ในตัวของ พวกเขาต่างมีกล้องวงจรปิดเทคโนโลยีชั้นสุดยอด ประเทศและกลุ่ม เบื้องหลังสามารถอาศัยมันดูการต่อสู้ วิเคราะห์สถิติ เพียงชั่วเสี้ยว วินาทีของความตาย ใจของคนทางฝั่ งหน้าจอทางนั้นเย็นวาบไปไม่รู้ต่อ กี่คน

 

น่ากลัวเกินไปแล้ว

 

นี่มันไร้รูปร่างๆ ชัดๆ แสงดาบนั่นราวกับอาวุธเทพปลิดวิญญาณ

 

“ไม่ควรไปล้อมสังหารเทพสังหารแห่งบูรพาเลยจริงๆ”

 

เสี้ยวขณะนี้ในใจของบุคคลยิ่งใหญ่ไม่รู้ต่อเท่าไร่ต่างเลือดไหลซิบๆ ทั้งยังสั่นสะท้านและหวาดกลัว

 

……………………………………