ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล] - ตอนที่139 เธอนี่เอง
ตอนที่139 เธอนี่เอง
ข่าวที่ว่าจ้าวเฉียนถูกจับกุมตัวถึงหูหยางหู่อย่างรวดเร็ว เขารีบเดินทางไปที่โรงพักเพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และขอพบจ้าวเฉียน
“คุณชายจ้าว ทำไมไม่โทรบอกผมล่ะครับ”
หยางหู่เอ่ยถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
จ้าวเฉียนส่ายหัวตอบกลับไปว่า
“ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก สถานการณ์ตอนนี้มันเกินการควบคุมของฉันไปแล้ว ติดต่อหยวนตงไห่กับพ่อของฉันเดี๋ยวนี้เลย พวกเขารู้ว่าควรจะทำยังไงต่อ”
หยางหู่พยักหน้าตอบว่า
“เข้าใจแล้วครับ ถ้าวันนี้พวกเราผ่านมันไปได้ ผมสัญญาว่าจะล้างแค้นพวกที่ใส่ร้ายคุณชายให้สาสม!”
หลังจากพูดจบหยางหู่ก็รีบไปหาหยวนตงไห่
ทางหยวนตงไห่เองก็เก็บรวบรวมหลักฐานที่ใช้เอาคืนเฉินกวงหัว เตรียมให้กับหยางหู่ไว้แล้ว พอมาถึงก็ส่งมอบให้และกล่าวทิ้งท้ายไปว่า
“ฉันคัดแยกเอาไว้แล้ว ชุดแรกนายไปส่งให้พวกสื่อมวลชน และอีกส่วนเอาไปเป็นข้อต่อรองกับเฉินกวงหัว มันต้องยอมเจรจาด้วยแน่นอน จากนั้นค่อยส่งมันไปโรงพักจัดการ”
หยางหู่พยักหน้าและเปิดซองเอกสารเหล่านั้นขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานที่ใช้เอาผิดเฉินกวงหัวได้หมดเลย ทั้งหลักฐานการฟอกเงิน เลี่ยงภาษี และการใช้เงินตราอย่างผิดกฎหมาย เป็นต้น
ไม่ว่าสิ่งเหล่านี้จะมีโทษหนักเบาต่างกันไป แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างภาพลักษณ์แย่ๆให้กับเฉินกวงหัว แน่นอนว่าถ้าข้อมูลเหล่านี้หลุดออกไป เขาไม่เหลือเครดิตแน่นอน และที่แย่ที่สุดอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทของเขา
หยางหู่รีบลงมือทันที เช้าวันรุ่งขึ้นบรรดาสื่อและเว็บไซต์หลักต่างๆ ได้เปิดโปงหลักฐานการฟอกเงินและหลีกเลี่ยงภาษีอย่างผิดกฎหมาย ทั้งยังรวมไปถึงปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำสาธารณะ ซึ่งนี่กระทบต่อภาพลักษณ์ของเฉินกวงหัวเต็มๆ เรียกได้ว่าเช้านี้ มือถือของเฉินกวงหัวแทบระเบิด เพราะมีทั้งบรรดานักข่าวและหน่วยงานรัฐโทรจี้เข้ามาชนิดไม่หยุดหย่อน
เฉินกวงหัวไม่รอช้า เขาหงุดหงิดอย่างมากเมื่อเห็นข่าวพวกนี้ จึงรีบต่อสายตรงไปหาสื่อต่างๆทันที
หยางหู่ฝากฝังบรรดาสื่อพวกนั้นก่อนหน้าไปว่า ถ้าเฉินกวงหัวโทรมาถาม ให้บอกไปว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของหยางหู่
เมื่อรู้ความจริงดังนั้น เฉินกวงหัวจึงโทรไปหาหยางหู่ต่อทันที
“พี่หู่นี่มันหมายความว่ายังไง? เราไม่เคยมีข้อข้องใจกันมาก่อน แล้วทำไมถึงโจมตีผมแบบนี้?”
หยางหู่เข้าเรื่องทันที
“จ้าวเฉียนเป็นแขกคนสำคัญของฉัน คุณเฉินใส่ร้ายเขาขนาดนั้น คิดว่าฉันจะอยู่เฉยได้งั้นเหรอ?”
เฉินกวงหัวแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ตอบกลับไปว่า
“แขกคนสำคัญ? มันมีคุณสมบัติอะไรกันถึงพี่หู่ต้องให้ความสำคัญกับมันขนาดนั้น? หรือมันเป็นเพื่อนของคุณ? มันร่ำรวยขนาดนั้นเชียว?”
หยางหู่โมโหอย่างมากทันทีที่ได้ยินแบบนั้น จึงขู่สวนไปว่า
“คุณเฉินพูดให้มันดีๆ ผมบอกไปแล้วว่าเขาคือแขกคนสำคัญของฉัน ถ้าไม่อยากเป็นศัตรูกับฉันก็อย่าจุ่นเรื่องของเขาอีก ไม่อย่างนั้น เตรียมใจรับผลหลังจากนี้ได้เลย”
โดยธรรมชาติแล้ว เฉินกวงหัวไม่ต้องการปล่อยให้เรื่องนี้มีผลกระทบต่าอบริษัทแน่นอน แต่เขาเองก็ไม่ยอมปล่อยจ้าวเฉียนไปง่ายๆเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงต้องการทดสอบว่า หยางหู่มีหลักฐานเอาผิดในมือมากน้อยแค่ไหน
“พี่หู่เองก็ควรทราบนะครับว่า ตอนนี้มันอยู่ในกำมือผมเรียบร้อยแล้ว จะให้ปล่อยไปง่ายๆได้ยังไง?”
หยางหู่เค้นเสียงเย็นทุ้มต่ำอย่างเย็นชา เอ่ยถามไปว่า
“ถ้าอย่างนั้นคุณเฉินเองก็อยากเข้าคุกเหมือนกันใช่ไหม? ผมยังมีข้อมูลผิดกฎหมายของคุณอีกมาก ทั้งการลักลอบซื่อขายเงินตราต่างประเทศ บัญชีการเงินปลอมของบริษัท แล้วก็อาชญากรรมอื่นๆที่สามารถจับคุณเข้าตารางได้อย่างง่ายดาย ถ้าจะใช้เงินแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ได้ คงต้องขายบริษัททุ่มกันไปข้าง!”
ความหมายของหยางหู่ค่อนข้างชัดเจนมาก เขายังมีหลักฐานอีกหลายชิ้นในกำมือ
เฉินกวงหัวไม่กล้าพูดเล่นอี่กต่อไป เรื่องนี้เกี่ยวพันไปถึงความมั่นคงของเขาในยอนาคต จึงตอบไปตามตรงทันทีว่า
“โอเค ผมสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของเขาได้ แต่พี่หู่แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าไม่ได้เก็บหลักฐานพวกนี้สำรองไว้ที่อื่น?”
“ไม่มีปัญหา แต่นายจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขายังไง?”
หยางหู่ซักถามต่อทันที
“ฉันสั่งให้เฉียงกุยหลิงนำยาเสพติดไปไว้ในห้องนวดของมันเอง เฉียงกุยหลิงจะสารภาพผิดแทนเขา และทุกอย่างจะจบเรียบร้อยดี”
เฉินกวงหัวกล่าวตอบตามความจริง
“โอเค ทันทีที่จ้าวเฉียนย่างเท้าออกมาจากโรงพัก ฉันจะส่งมอบข้อมูลให้นายทันที”
หยางหู่กล่าวตอบเสียงเย็น
หลังจากวางสายไป หยางหู่ก็โทรหาหยวนตงไห่และเอ่ยถามขึ้นว่า
“มีสาวนวดที่ชื่อเฉียงกุยหลิงอยู่ในโรงแรมนายไหม?”
“มีๆ บอสจ้าวถูกอกถูกใจเธออย่างมาก ทันทีที่มาถึงก็รีเควสให้เธอมานวดให้”
หยางหู่กัดฟันแน่น คำรามด้วยความโกรธว่า
“เฉินกวงหัวบอกว่า มันสั่งให้เธอแอบเอายาไปซ่อนในห้องนวดของคุณชายจ้าว! รีบจับตัวเธอไว้!”
“อะไรนะ?!”
หยวนตงอุทานลั่นทันทีด้วยความตกใจ
หยวนตงไห่ไม่อยากเชื่อเลยว่า ทั้งๆที่จ้าวเฉียนดีกับเฉียงกุยหลิงขนาดนั้น แต่เธอกลับทรยศเขาได้ลงจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เฉียงกุยหลิงถึงได้หายตัวไปเลย เธอคงรู้สึกผิดต่อเขาอย่างมากและก็หนีไปแล้ว
“พี่หู่ไม่ต้องกังวล ฉันจะรีบตามตัวเธอมา!”
หยวนตงไห่เอ่ยปากสัญญาด้วยความโกรธจัด
หยางหู่ระเบิดหัวเราะเล็กน้อย ตอบไปอย่างไม่ค่อยพอใจว่า
“นายไม่จำเป็นต้องตามหาแล้ว ปล่อยให้เฉินกวงหัวตามหาเธอเอง ฉันคุยกับมันหมดแล้ว ทันทีที่คุณชาวจ้าวก้าวออกจากโรงพักอย่างปลอดภัย ฉันจะส่งหลักฐานทั้งหมดคืนให้ มีคนลอบแทงข้างหลังคาบ้านนายขนาดนี้ รู้ไหมว่านายประมาทแค่ไหน? คุณชาวจ้าวเป็นคนใจกว้างก็จริง แต่ฉันคงไม่ยอมง่ายๆเช่นกัน นายจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไง?”
หยวนตงไห่ถอนหายใจเฮือกใหญ่กล่าวว่า
“ฉันประมาทไปจริงๆ ฉันยอมรับผิด พี่หู่มาสั่งสอนผมได้เลย แล้วสัญญาว่าผมจะไม่ทำพผิดพลาดอีกแล้วในอนาคต”
“ก็ดี ครั้งนี้ถือว่าฉันเตือนสตินายให้ระวังตัวมากกว่านี้ ถึงยังไงมันก็เป็นธุรกิจของนาย และคุณชายจ้าวก็ไว้ใจนายมากเช่นกัน เอาล่ะ ฉันต้องไปดูคุณชายจ้าวแล้ว แค่นี้นะ”
เมื่อได้ฟังว่าเฉียงกุยหลิงตัดอนาคตตัวเองโดยการทำเรื่องงี่เง่าแบบนี้ จ้าวเฉียนก็รู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เขาเห็นใจเธอ อยากให้เธอได้เข้าทำงานที่ดี แต่ดูสิ่งที่เธอตอบแทนมาสิ?
อย่างไรก็ตาม ตัวการของเรื่องนี้คือเฉินกวงหัว หากไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้อยู่หมด มันจะกลับมาล้างแค้นแน่นอนในเร็วๆนี้ หลังออกจากโรงพักไปได้ สิ่งแรกที่จ้าวเฉียนต้องทำคือ หากไม่ซื้อก็สั่งปิดบริษัทของเฉินกวงหัวไปเลย
ตกเย็น จ้าวเฉียนเดินกลับจาโรงพักอย่างราบรื่นดี
“คุณชายจ้าวเป็นอะไรหรือเปล่าครับ? แล้วจะทำยังไงต่อดี?”
หยางหู่เอ่ยถาม
จ้าวเฉียนตอบกลับด้วยความโกรธว่า
“แน่นอน จัดการเฉินกวงหัวไม่ให้ลืมตาอ้าปากได้! ถ้าไม่ทำลายชีวิตมัน ก็ยากที่จะลบล้างความขุ่นเคืองภายในใจนี้ได้!”
“เข้าใจแล้วครับ! คุณชายจ้าวรอดูผลงานได้เลย ผมจะลากเฉินกวงหัวเข้าคุกเอง!”
หยางหู่ตบปากรับสั่งในทันใด
จ้าวเฉียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ แต่ในขณะที่กำลังจะจากไป กลับมีตำรวจนายหนึ่งวิ่งตามทั้งคู่มา และบอกว่าเด็กสาวที่ชื่อเฉียงหุยหลิงมาขอพบ
หยางหู่รีบสวนกลับไปทันควัน
“ไร้สาระ! เธอกล้าหักหลังคุณชายจ้าวเพียงเพราะเงินเล็กๆน้อยๆ คนแบบนี้เลี้ยงไปก็เหมือนเลี้ยงงูพิษไว้ใกล้ตัว รีบไล่เธอกลับไปซะ!”
เนื่องจากหยางหู่ไม่ได้ทราบถึงสถานการณ์ความเป็นอยู่ที่เฉียงกุยหลิงกำลังประสบในปัจจุบัน ก็เลยไม่แปลกที่เขาจะคิดแบบนั้น แต่จ้าวเฉียนที่ทราบถึงสถานการณ์ความเป็นอยู่ของครอบครัวเธอดี จึงคิดว่าเธอคงจนตรอกแล้วจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เพราะเรื่องนี้มันก็เกือบทำลายชีวิตของเขาแล้วเช่นกัน ไม่พบเจอกับเธออีกเลยคงเป็นการดีที่สุด
“คุณตำรวจ ฝากบอกเธอไปทีครับว่า ผมไม่อยากพบเธอ”
จ้าวเฉียนตอบปฏิเสธ
“แต่เธอบอกว่า ถ้าคุณปฏิเสธ ให้ตอบคุณกลับไปว่า ทั้งหมดที่เธอทำก็เพื่อน้องชายของเธอ”
เมื่อพูดถึงน้องชายของเฉียงกุยหลิง จ้าวเฉียนก็ใจอ่อนลงทันที ถ้าเธอต้องเข้าคุกทั้งแบบนี้ ชีวิตของสมาชิกที่เหลือในครอบครัวของเธอต้องถูกทำลายตามไปแน่ พ่อแม่ของเธอเตรียมรอวันตายได้เลย ส่วนน้องชายก็คงถูกเจ้าหนี้ตามล่า ชีวิตที่เหลือหลังจากนั้นคงทรมานราวกับนรกบนดิน
หยางหู่ไม่เข้าใจท่าทีของจ้าวเฉียนเท่าไหร่นักำ แต่เขาก็เป็นถึงคุณชายจ้าว คงทำอะไรไม่เมากนักนอกจากพยักหน้าทำตาม
ในไม่ช้าจ้าวเฉียนและเฉียงกุยหลิงก็ได้พบหน้ากันอีกครั้ง
ทันทีที่เฉียงกุยหลิง เธอก็ร้องไห้ออกมาทันที
“หนูขอโทษ หนูขอโทษ…หนูไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณเลย แต่หนี้ของน้องชายหนูมันพุ่งไปกว่าสี่แสนหยวนแล้ว และเฉินกวงหัวก็ได้ปลอดหนี้ก้อนนั้นให้หมดแล้ว แล้วกลายเป็นว่าเขามาทวงเงินที่หนูแทน ถ้าไม่ทำตามที่เขาต้องการ เขาจะจับหนูเข้าคุก อย่างน้อยก็อย่าทำร้ายครอบครัวหนูเลยนะคะ ถ้าไม่พอใจหนูจริงๆ หนูยินดีเข้าคุกเพื่อชดใช้กรรมค่ะ แต่อย่าทำอะไรน้องชายกับพ่อแม่หนูเลยนะคะ”
เมื่อต้องมาเห็นเฉียงกุยหลิงร้องห่มร้องไห้ จ้าวเฉียนก็เริ่มจะรวนเรใจแล้วเช่นกัน