ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1836 มรรคาที่ไร้สิ้นสุด
ถุงวิเศษบรรจุพระศรีอริยเมตไตรยแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็ตบสองมือ ปากถุงยุบตัว บ่งบอกว่าผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาอีกคนหนึ่งตายลงในวันนี้!
วันนี้จะกลายเป็นวันที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ตลอดกาล
ผู้ยิ่งใหญ่ระดับเจ้ามรรคาสี่คนตายลง เหนือกว่าผลรวมในกาลเวลา อันยาวนาน
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้รั้งอยู่ที่แดนสุขาวดีบัวขาวต่อ
ไม่มีพระศรีอาริย์ ไม่มีศิลามนุษย์กําเนิด ที่นี่ก็จะกลายเป็นควันเมฆ สลายหาย ถึงตอนนั้นย่อมมีคนในสํานักเต๋าหรือคนอื่นๆ มาจัดการเอง
เยี่ยนจ้าวเกอก้าวเท้าก้าวหนึ่ง บัวขาวหนาแน่นตรงหน้าล้วน กลายเป็นบัวเขียว
เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงแดนสุขาวดีตะวันตก มองอามิตาภพุทธเจ้าที่ กลับมาที่นี่แล้ว เอ่ยปากว่า “พี่ร่วมเส้นทางเชิญ”
อามิตาภพุทธเจ้าหลับตา นั่งบนบัวเขียว ไม่แผ่ซ่านกลิ่นอายแม้แต่ น้อย เหมือนมรณะภาพ
ท่านได้รับการกลุ้มรุมในมหาภัยก่อนหน้านี้
ถ้ามิใช่เพราะภายหลังเยี่ยนจ้าวเกอดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ อามิตาภพุทธเจ้าเกรงว่าจะมรณะภาพคาที่
ปัจจุบันถึงจะรอดจากภัยนี้ แต่ก็อ่อนแอถึงที่สุด
เพียงแต่ว่า ต่อให้ท่านอยู่ในยุคที่รุ่งโรจน์ที่สุด ก็ยังคงยากต่อกร เยี่ยนจ้าวเกอในปัจจุบัน
กล่าวจากมุมมองนี้ วันนี้พวกท่านทุกคนต่างแพ้แล้ว
พระศรีอริยเมตไตรยกับแดนสุขาวดีบัวขาวเกิดสถานการณ์ อย่างไร อามิตาภพุทธเจ้าไม่สนใจอีกแล้ว
ก่อนหน้านี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทําให้ปัจจุบันท่านสูญเสียโอกาส หลุดพ้นไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้เมตไตรยมรณะ ท่านไม่ได้รับบาเจ็บ อํานาจ การตัดสินว่าใครจะหลุดพ้นในยุคนี้ได้ มิใช่ท่านกับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ต่อสู้แก่งแย่งกันอีก แต่ตกไปอยู่ในมือคนอื่น
เยี่ยนจ้าวเกอไม่แสดงท่าที พระศรีอริยเมตไตรยอยู่หรือไม่ สําหรับ อามิตาภพุทธเจ้า วันนี้ไม่สําคัญอีกแล้ว
สาเหตุที่คนตรงหน้ามาที่นี่ อามิตาภพุทธเจ้าทราบดี
แต่มิใช่เรื่องที่ท่านตัดสินได้อีกต่อไป
เยี่ยนจ้าวเกอมองอามิตาภพุทธเจ้า กวักมือไปทางแดนสุขาวดี ตะวันตก
บัวเขียวหลายดอกแยกออกไปสองฟากข้าง ในแดนสุขาวดีพุทธ เกษตรปรากฏต้นไม้สูงเทียมฟ้าต้นหนึ่ง เขียวชอุ่ม ขณะเปล่งแสงสีเขียว ปราณวิญญาณไร้ขอบเขต เหมือนกับความงดงามแห่งฟ้าดิน
บนกิ่งมีผลผลุบโผล่ระหว่างใบเขียว ล้วนคล้ายกับทารก
สามพันปีออกดอกครั้งหนึ่ง สามพันปีออกผลครั้งหนึ่ง อีกสามพัน ปีค่อยสุก เกือบหมื่นปีจึงรับประทานได้ แต่คนรับประทานแค่หนึ่งผล ก็ มีอายุสี่หมื่นเจ็ดพันปี แต่ละครั้งออกผลไม่เกินสามผล รวบรวมปราณ วิญญาณฟ้าดินเอาไว้ เป็นต้นผลคน พรรณพืชวิเศษที่เป็นของเจิ้น หยวนจื่อ
ตอนเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เจิ้นหยวนจื่อรับคําเชิญจักรพรรดิ จื่อเวยไปวังเทพ ตรวจสอบเรื่องราวการกระทําเร้นลับของมหาเทวะ
กษัตริย์แห่งหยกด้วยกัน ผลคือมหาเทวะกษัตริย์แห่งหยกต้องการชําระ ล้างสํานักเต๋า ใช้เส้นทางนอกรีตพลังศรัทธาขึ้นสู่ระดับมรรคาพอดี
ในมหาศึกสุดท้าย มหาเทวะกษัตริย์แห่งหยกยังทําสําเร็จ จากนั้น พระศรีอาริย์มาโจมตี วังเทพถึงกาลพินาศ วิกฤตการณ์ครั้งใหญ่มา เยือน ขุมกําลังแต่ละขุมเข้าร่วม ต่างมีความต้องการของตัวเอง ม้วนพัด ใต้หล้า ไม่อาจจัดการ
เจิ้นหยวนจื่อตายด้วยมือมหาเทวะกษัตริย์แห่งหยก หรือเทวกษัต ริย์ไร้ประมาณ ส่วนต้นผลคนของเขาเข้าสู่แดนสุขาวดีตะวันตก
หลายพันปีก่อนหน้าเยี่ยนจ้าวเกอทําลายโถงเซียนไม่เห็นต้นผลคน วันนี้มาค้นหาที่แดนสุขาวดีตะวันตก
เขากวักมือ ต้นผลคนลอยขึ้น ตกลงบนมือเขา ถึงแม้ออกจากดิน แต่ไม่เสียหายแม้แต่เส้นขน ยังคงเขียวขจี เหมือนฝ่ามือของเยี่ยนจ้าว เกอเป็นดินที่ดีที่สุด
เยี่ยนจ้าวเกอชี้ไปที่บัวเขียวจํานวนมากอีกครั้ง
ในแดนสุขาวดีตะวันตกพลันมีเงาแสงมากหลายลอยขึ้น
นั่นเป็นนักบวชศาสนาพุทธจํานวนหนึ่ง แสงพุทธเครื่องเคลือบทั่ว ร่างบริสุทธิ์ผุดผ่อง
ตอนนี้ถูกเยี่ยนจ้าวเกอคัดเลือกออกมา บางรูปพนมมือ สีหน้าผ่อน คลาย บางรูปขุ่นแค้น เพลิงโทสะพวยพุ่ง บางรูปหวาดกลัว กระวน กระวายใจ
นักบวชศาสนาพุทธเหล่านี้ ทั้งหมดล้วนเป็นคนที่เข้าร่วม วิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในตอนนั้น
ผู้เข้าร่วมในวันนั้น กระแสธารกาลเวลาอันเชื่องช้าได้กลบฝังคน จํานวนมาก แต่ยังคงหาผู้เกี่ยวข้องในอดีตเจอ
พลังในปัจจุบันของเยี่ยนจ้าวเกอ หันไปมองวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ในอดีตอีกครั้ง รายละเอียดมากมายยังตราตรึงจนบรรยายได้
แดนสุขาวดีตะวันตกผู้ใดเข้าร่วม ผู้ใดไม่ เยี่ยนจ้าวเกอต่างทราบ กระจ่าง ไม่มีโอกาสมองผิด
ปัจจุบันสมควรเป็นเวลาชําระบัญชีแล้ว
พระโพธิสัตว์กวนอิมกับสมันตภัทรโพธิสัตว์ไม่ได้เข้าร่วม วันนี้ ยังคงนั่งบนบัวเขียวไม่เคลื่อนไหว
ขณะมองคนที่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอเลือกออกมาเหล่านั้น พระโพธิสัตว์ กวนอิมกับสมันตภัทรโพธิสัตว์ดวงตาปรากฏความเมตตาสงสาร
ตอนนี้ทีปังกรพุทธะนั่งอยู่ในแสงพุทธกลุ่มหนึ่ง โผล่ขึ้นด้านหน้า เยี่ยนจ้าวเกอ “มีคนอยากพบท่านมาก” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างราบเรียบ ทีปังกรพุทธะสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง วิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในอดีต ท่านมีความเกี่ยวข้องล�าลึก ถึงขั้นพูด ได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวการหลัก ปัจจุบันวานรกับเยี่ยนจ้าวเกอขึ้นสู่ระดับมรรคาติดต่อกัน สํานัก เต๋าเปลี่ยนจากเสื่อมโทรมสู่รุ่งเรือง วันเวลาชําระเหตุผลแลเบัญชีเก่า จะต้องมาถึงเช่นกัน คนในสํานักเต๋าที่คิดหาตัวท่านเพื่อคิดบัญชี มิใช่หนึ่งสองคน คนที่กระหายที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่านาจาเป็นอันดับหนึ่ง และนาจามิใช่คนสุดท้าย “ราชันมรรคาสูงส่ง ขอให้มีอายุขัยและความสุขไร้ประมาณ” ทีปัง กรพุทธะสีหน้าสงบนิ่ง คารวะเยี่ยนจ้าวเกอ “ไปเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอยื่นมือมาจับตัวพวกทีปังกรพุทธะไว้
“นึกไม่ถึง นึกไม่ถึงว่ามหาเทวกษัตริย์จะมีแผนการเช่นนี้” ทีปังกร พุทธะมองเยี่ยนจ้าวเกอ สีหน้าซับซ้อน หนึ่งวาจาไม่หมดสิ้น
ท่านเป็นคนซึ่งอยู่รองจากระดับมรรคาไม่กี่คนที่ทราบตัวจริงของ เทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
กระนั้นก็ยังมีเรื่องราวมากมายอยู่เหนือความคาดหมายของท่าน จริงๆ
ยิ่งมองเยี่ยนจ้าวเกอ ยิ่งรู้สึกได้ล�าลึก
เยี่ยนจ้าวเกอไม่สนการรําพึงของทีปังกรพุทธะ วินาทีต่อมาเขา ปรากฏตัวที่เขาดาราทะเลดวงดาว
เป้าหมายที่มาที่นี่ เหมือนไปแดนสุขาวดีตะวันตกเมื่อครู่
สถานการณ์ในวันนั้น แม้เป็นวานรในตอนนี้ก็ไม่อาจช่วยพูดให้เผ่า ปีศาจ อย่างมากสุดไม่ช่วยทั้งสองฝ่าย
กษัตริย์บูรพาไท่อี้มองเยี่ยนจ้าวเกอนําเผ่าปีศาจส่วนหนึ่งที่เข้าร่วม วิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวันนั้นไปอย่างสงบ
เยี่ยนจ้าวเกอสบตากับอีกฝ่ายอย่างเฉื่อยชา
ตอนนี้เพียงจ่ายดอกเบี้ยส่วนหนึ่ง คนที่สร้างการกําเนิดของ เส้นทางนอกรีตอย่างแท้จริงก็คือกษัตริย์บูรพาไท่อี้กับอามิตาภพุทธเจ้า ที่เยี่ยนจ้าวเกอจะทําต่อจากนี้เป็นวิธีจัดการพวกเขา
ตอนที่เยี่ยนจ้วเกอกลับสวรรค์สํานักเต๋า คนอื่นๆ ในสํานักเต๋าต่าง รอคอยอยู่ที่นั่นนานแล้ว
“ราชันมรรคาสูงส่ง ขอให้มีอายุขัยและความสุขไร้ประมาณ!” ไม่ ว่าพลังฝึกปรือศักดิ์ฐานะสูงต�า วินาทีนี้ทุกคนต่างพากันคํานับเยี่ยนจ้าว เกอ
การคํานับนี้มิใช่แค่ทําคามเคารพที่เยี่ยนจ้าวเกอเป็นเอกในระดับ มรรคาเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ทําความเคารพที่การผงาดขึ้นของเยี่ยน จ้าวเกอประกาศว่า สํานักเต๋าสายหลักกลับสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง ทั้ง ปกครองทั่วฟ้า เหนือกว่าเก้าสวรรค์อย่างแท้จริง!
“ทุกท่านเกรงใจแล้ว วันนี้เป็นของสหายทุกท่าน” เยี่ยนจ้าวเกอ คํานับคืนทุกคน
เขามาถึงด้านในอาารามอู่จวงที่หลายพันปีมานี้พัฒนาขึ้นใหม่ แล้ว ปลูกต้นผลคน
“ราชันมรรคาสูงส่ง ขอให้มีอายุขัยและความสุขไร้ประมาณ!” เจ้า อารามคนปัจจุบันของอารามอู่จวงพาทุกคนในสํานักก้มกราบเยี่ยนจ้าว เกอ
หลังมอบพวกทีปังกรพุทธะให้คนอื่นจัดการ เยี่ยนจ้าวเกอก็มาถึง ด้านหน้าเยี่ยนตี๋
คนที่อยู่ด้วยยังมีเสวี่ยชูชิง
ตอนนี้เสวี่ยชูชิงกําลังมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยสีหน้าซับซ้อน
นอกจากตอนเป็นทารกอยู่ในห่อผ้าแล้ว นางกับเยี่ยนจ้าวเกอพบ กันอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องที่เกิดบนโลกซ้อนโลก หลังจากลากันหลายปี
สําหรับนาง คนหนุ่มตรงหน้าเป็นบุตรของนาง
แต่นางเข้าใจว่า สําหรับเยี่ยนตี๋ นี่ย่อมแตกต่าง
เยี่ยนตี๋มองเยี่ยนจ้าวเกอเงียบๆ
ตอนนี้ความเหนื่อยล้าในดวงตาเขายังไม่สลาย กลับมากขึ้น กว่าเดิม
สําหรับเขาแล้ว เรื่องที่ตัดสินใจไปแล้ว จะไม่ลังเลอีก
แต่วันนี้ย่อมมีความแตกต่างอยู่บ้าง
เยี่ยนจ้าวเกอยกมือขึ้น จากในมือเขามีเงาจางๆ สายหนึ่งลอย ออกมา
ตอนนั้นหลังเยี่ยนจ้าวเกอเซ่นหยกหรูอี้ไตรรัตนะ ทําลายร่างปลอม ในชาติที่สองที่ตนสร้างขึ้นบนวังเทพ ในเปลือกร่างนั้นบรรจุเงาสายหนึ่ง แบบนี้
เงาถูกหยกหรูอี้ไตรรัตนะดูดไว้ ต่อมาหยกหรูอี้ไตรรัตนะเชื่อม ประสานกับเยี่ยนจ้าวเกอ ช่วยผลักดันเขาขึ้นสู่ระดับมรรคา รวมเป็น หนึ่งเดียวกับเขา
แต่ว่าเงาสะท้อนที่เก็บไว้ด้านใน เยี่ยนจ้าวเกอย่อมแบ่งมันออกมา ได้
ก่อนเยี่ยนจ้าวเกอจะลงมือก็มีการคาดเดาอยู่แล้ว
ถึงอย่างไรเปลือกร่างนั้นก็ใกล้ชิดกับชาตินี้ของเขาที่สุด
การสับเปลี่ยนสองสิ่งพอเหมาะพอเจาะที่สุด
“ถึงจะผ่านไปหลายพันปีแล้ว แต่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ดําเนินการจัดการพิเศษ ดังนั้นจึงคงอยู่มาถึงวันนี้” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย เสียงเบา
เยี่ยนตี๋ยื่นมือรับเงานั้น เสวี่ยชูชิงด้านข้างริมฝีปากสั่นไหว ไม่อาจ ส่งเสียงออกมา
สําหรับพวกเขา การปั้ นร่างใหม่มิใช่เรื่องยาก
สิ่งที่ยากคือทุกสิ่งที่เกิดตรงหน้า ครอบครัวสุดท้ายจะไปทางไหน ต่อ
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าไปก่อนแล้ว” เนิ่นนานให้หลัง บนใบหน้า เยี่ยนจ้าวเกอประดับด้วยรอยยิ้ม เอ่ยปากขึ้นก่อน
“อย่าเรียกข้าว่าพ่อ” เยี่ยนตี๋กล่าวเฉียบขาด
เยี่ยนจ้าวเกอมองเขาอย่างสงบ
“ให้ข้าคิดดูก่อน ให้ข้าคิดดูก่อน…” เยี่ยนตี๋ซึ่งที่แล้วมา ตรงไปตรงมาเด็ดขาด ครั้งนี้หลังจากเงียบขรึมอยู่นาน จึงค่อยพูด พึมพํา
เสวี่ยชูชิงส่ายหน้าอย่างแช่มช้าหากแน่วแน่ให้เยี่ยนจ้าวเกอ ถึงไม่ ส่งเสียง แต่แสดงความไม่พอใจต่อคําเรียกที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้เมื่อครู่
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าให้นาง จากนั้นมองเยี่ยนตี๋ เงียบเสียง เล็กน้อย ยิ้มขึ้น แล้วหมุนตัวผละไปอีกด้าน
ขณะเดินไปเรื่อยๆ ก็มีคนจับมือเขาจากด้านข้าง
เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมอง เห็นใบหน้าเฟิงอวิ๋นเซิง
บนใบหน้านางประดับรอยยิ้มอ่อนโยน สบตากับเขา
“ดีกว่าที่ข้าคิดไว้มาก” รอยยิ้มบนใบหน้าเยี่ยนจ้าวเกอกว้างกว่า เมื่อครู่
“มันจะดีขึ้นเรื่อยๆ” เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองฟ้า “ถูกต้อง…”
สายตาเขาข้ามผ่านความว่างเปล่าหลายชั้น กวาดมองจักรวาล
เห็นสั่วหมิงจางเหมือนปกติ ทุกๆ ครั้งที่กลับมาหลังออกไปด้าน นอก จะเร้นกายไม่ออกมา หลายพันปีเหมือนหนึ่งวัน อยู่เคียงต้นผม ขาวต้นนั้น
หนึ่งคนหนึ่งต้นคู่เคียง เหมือนกับสามารถอยู่ไปถึงชั่วกาลนาน
เห็นหยางเจี่ยนซึ่งที่แล้วมาอิสระสง่างาม ไม่ผูกมัดกับวัตถุภายนอก วางโต๊ะบูชาในวันพิเศษที่สํานักเต๋าปกครองหมื่นโลกาทั่วฟ้าได้อีกครั้ง เชิญซากสังขารของอวี้ติ่งจินหยินอาจารย์ของตนออกมากราบบูชา อย่างจริงจัง
เห็นเกาชิงเสวียนพาพวกอวี่เย่ หลงเสวี่ยจี้ เกาเสวี่ยพอ เกาฉิงบอก กล่าวหลี่อิงกษัตริย์เถาที่เสียชีวิตไปหลายปี
เห็นหยวนเจิ้งเฟิงเจ้าสํานักคนเก่าของตัวเองจุดธูปให้ป้ายป้ายหนึ่ง นั่นเป็นอาจารย์ของเขา บูรพาจารย์ผู้อาวุโสสายเขากว่างเฉิงในโลก แปดพิภพ จ่านซีโหล่วที่จากไปแต่เยาว์วัย
เห็นสือจวินเก็บสมุนไพรเป็นเพื่อนอิ๋งอวี่เจินมารดาของเขา ด้านข้างติดตามด้วยสตรีวัยเยาว์ตาคิ้วดุจภาพวาด กลับเป็นฮูหยินข องสือจวิน…
ถึงแม้การดํารงอยู่มากมายจะเสื่อมโทรมหายไปไม่หยุด แต่ว่าผู้ เกิดใหม่จํานวนมากกว่าเดิมก็โผล่ขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า ต่อเนื่องไม่ขาด สาย
เฟิงอวิ๋นเซิงถาม “ต่อจากนี้ ท่านมีแผนการอย่างไร ช่วยเทวกษัต ริย์มหาเทวะเจ้าหลุดพ้นเร็วๆ หรือ?”
“ข้ามีแผนการเช่นนี้จริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอว่า
“ไม่ทราบว่าถ้าสุดท้ายมหาเทวะเจอพระยูไล จะเอาชนะได้ หรือไม่?” เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวอย่างเหม่อลอย
“ชนะหรือไม่ มหาเทวะไม่สนใจ สิ่งที่เขาต้องการคือ จะต้องสู้ศึกนี้ ไม่มีทางเลิกรา” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “ที่มหาเทวะเป็นมหาเทวะ อยู่ที่ เจตนารมณ์นี้ อยู่ที่คําพูดนี้”
“ถูกต้อง” เฟิงอวิ๋นเซิงซึมเซา ถามขึ้นขณะมองเยี่ยนจ้าวเกอว่า “แล้วการหลุดพ้นของท่านมีแววแล้วหรือ?”
“ต่อให้มีแล้ว ข้าก็ยังไม่คิดไป” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ข้าไม่มีเวลาคิดเรื่องเหล่านั้น”
ได้ยินประโยคหลัง เฟิงอวิ๋นเซิงอดฉงนไม่ได้ “เช่นนั้นตอนนี้ท่าน คิดอะไรอยู่?”
“ขอแค่อีกฝ่ายมิใช่รูปจิตดับลง เจ้ามรรคาสามารถงมคนจากใน สังสารวัฏได้” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างผ่อนคลาย “ถ้าไม่มีคนในระดับ มรรคาคนอื่นคอยหยุดยั้งขัดขวางล่ะก็”
………………..
(จบเรื่อง)