ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 192: ฉันรักษาได้หรือไม่?
บทที่ 192: ฉันรักษาได้หรือไม่?
โรเอลได้กลายเป็นผู้มีเมตตาและพร้อมจะให้อภัยผู้อื่นอย่างแท้จริง
ทวีปเซียเป็นสถานที่อันลึกลับที่เต็มไปด้วยพลังเหนือธรรมชาติและสัตว์อสูร ซึ่งแตกต่างจากโลกสมัยใหม่ในอดีตชาติของเขาเป็นอย่างมาก ที่นี่อิทธิพลของเงินลดลงไปมากต่างจากอดีตชาติของเขาที่เงินคือทุกสิ่ง
แต่เงินก็ยังคงเป็นเงิน มันอาจไม่ได้นำมาซึ่งความสุข แต่การไม่มีมันก็ยังนำมาซึ่งความทุกข์ โรเอลสามารถพูดแบบนี้ได้อย่างมั่นใจ เพราะประสบการณ์ในอดีตชาติของเขา
ดังนั้นเมื่อโรเอลเห็นภูเขาสีทองอันสวยงามส่องประกายระยิบระยับ ภายใต้แสงแดดยามเช้าอันอ่อนโยน มันก็ทำให้เด็กชายรู้สึกเวียนหัวเหมือนจะเป็นลม ราวกับว่าความรักครั้งแรกที่ไม่สมหวังของตนเข้ามาเคาะประตูบ้าน ความสุขที่อธิบายไม่ได้ผุดขึ้นในหัวใจของเขา พร้อมกับความโล่งใจ ที่ได้รู้ว่าในที่สุดเขาก็สามารถชำระหนี้จนหมดได้เสียที
หนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัว มันจะคอยกดดันผู้ที่มีมันอยู่ตลอดเวลา รุกล้ำการใช้เงินทุก ๆ อย่างในทุกวินาที แม้จะสามารถละสายตาไปจากมันได้ แต่จิตใจก็จะยังเตือนให้หวนนึกถึงมันตลอดเวลา หรือบางครั้งก็เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ
ความกลัวว่าจะต้องจ่าย 30,000 เหรียญทอง เพื่อชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ของระบบทุกเดือนเป็นเรื่องที่น่าสยดสยองอย่างมาก หากโรเอลไม่ชำระหนี้ส่วนนี้คืน มันอาจนำไปสู่การปิดตัวของระบบ ราวกับมีมืออันเงียบงันโอบรอบคอของเขา ทำให้รู้สึกหายใจไม่ออกตลอดเวลา
ตราบใดที่โรเอลสามารถขจัดปัญหานี้ได้ เขาก็พร้อมจะให้อภัยชาร์ล็อตโดยไม่ลังเล เดิมทีโรเอลก็ไม่ได้โกรธอะไรเธอเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพียงแค่สถานการณ์อันน่าขันและความอับอายที่ถูกคู่หมั้นของตนลักพาตัว ได้เข้ามาครอบงำความรู้สึกของเขาก็เท่านั้น
มนุษย์มีความสามารถในการปรับรูปร่างความทรงจำที่สะดวกสำหรับพวกเขา และกองทองคำที่อยู่ตรงหน้าโรเอลก็ดูจะเป็นตัวแปรที่ช่วยให้การทำแบบนั้นสะดวกขึ้น
อะไรนะ? เราถูกลักพาตัวไปที่โรซ่างั้นเหรอ?
ไร้สาระน่า!
ในปัจจุบัน ตัวแทนผู้ปกครองแห่งเขตการปกครองแอสคาร์ด กำลังพิจารณาว่าตนเองควรจะเปลี่ยนเรื่องนี้ให้เป็นเพียงสถานการณ์ฉุกเฉินที่เมืองโรซ่า และจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้เขาเพื่อขอความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาบางอย่างหรือไม่… ไม่ว่าจะในกรณีใด สิ่งสำคัญคือโรเอลตัดสินใจที่จะยอมจำนนต่อผู้ลักพาตัวของเขาแล้วเรียบร้อย
เราก็อยากจะโต้กลับเหมือนกันนะ แต่จะให้ทำอะไรได้ มีเหรียญทองนับล้านมากองต่อหน้าแบบนี้! ปฏิเสธไปเหรอ? เราไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกนะ!
การชดเชยของชาร์ล็อตนั้นน่าพอใจมากสำหรับโรเอล ทันทีที่ได้รับสินบน เด็กชายก็รู้สึกว่าตนเองจำเป็นจะต้องลดท่าทางอันแข็งกระด้างลง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่สามารถแม้แต่จะรักษาใบหน้าให้เป็นไปตามความคิดได้อีกต่อไปด้วยซ้ำ ความสุขอันล้นเหลือนี้ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าของโรเอลรู้สึกสะท้าน
“ไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหม ที่ฉันจะนำพวกนี้กลับไป?”
“ไม่มีปัญหาเลยที่รัก ถ้าเจ้าต้องการมันจริง ๆ พวกเราสามารถทิ้งมันไว้ที่นี่ชั่วคราวก็ยังได้”
“อ่า ไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้”
มันอาจจะน่ายินดีที่ได้ตื่นขึ้นมาบนภูเขาเหรียญทองทุกวัน แต่เมื่อคิดว่าตนจะต้องใช้จ่ายเงินเหล่านี้ออกไปมากกว่าครึ่งเพื่อชำระหนี้ ก็ทำให้หัวใจของโรเอลเจ็บปวด แต่ก็อย่างที่คนส่วนมากมักจะพูดกัน การเลิกราแบบรวดเร็วนั้น ดีกว่าการยืดเวลาความเจ็บปวดออกไป ในเมื่อยังไงเขาก็ต้องจ่ายมัน คงจะดีกว่าที่จะจ่ายในทันที แทนที่จะต้องมาหงุดหงิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เรื่อย ๆ
ดังนั้นโรเอลจึงค่อย ๆ ลุกออกจากเตียง เดินไปที่กล่องเหรียญทอง ซึ่งชาร์ล็อตก็ได้สั่งคนรับใช้ที่ลากเกวียนมาให้ออกจากห้องและปิดประตู ก่อนจะรีบวิ่งไปประคองโรเอล ด้วยก้าวช้า ๆ แต่มั่นคง ในที่สุดโรเอลก็มาถึงกองเหรียญทอง และยื่นมือออกไปแตะมัน
ถึงเราจะเอามันติดตัวไปด้วยไม่ได้ในทันที แต่อย่างน้อย ๆ เราก็สามารถทำให้มันหายไปในอากาศได้ก็แล้วกัน
โรเอลพยายามสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากการสูญเสียครั้งใหญ่ที่กำลังจะเผชิญ หลังจากนั้นภาพอันน่าตกใจที่ชาร์ล็อตไม่เคยคาดคิดก็เกิดขึ้น เหรียญทองจำนวนมหาศาลลดลงเหลือน้อยลงกว่าครึ่งในพริบตา ราวกับมายากล!
???
ชาร์ล็อตยืนนิ่งมองดูกองเหรียญทองที่หายไป โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คาถาเวทเกี่ยวกับมิตินั้นทั้งลึกซึ้งและเข้าใจยากมาก จนแทบจะไม่มีบันทึกที่น่าเชื่อถือได้เกี่ยวกับมัน สายธารแห่งอัญมณี ถือได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้ด้วยคาถาเวทเกี่ยวกับมิติในขณะนี้ และมันก็ยังเป็นเพียงการสร้างการเชื่อมโยงเชิงมิติ
แม้จะอยากรู้อยากเห็น แต่ชาร์ล็อตก็ไม่ได้ถามคำถามออกมาดัง ๆ เด็กสาวรู้ดีว่าทุกคนต่างก็มีความลับเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตระกูลอันเก่าแก่อย่างตระกูลแอสคาร์ดด้วยแล้ว ความจริงที่โรเอลเต็มใจจะใช้มันต่อหน้าเธอก็มากเกินพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจในตัวเธอ ชาร์ล็อตจึงไม่คิดจะพยายามถามอะไรถึงมันต่อ
แต่จิตใจของโรเอลนั้นกำลังคิดถึงบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากที่ชาร์ล็อตเข้าใจมาก
【ระบบได้รับเหรียญทองแล้ว】
【ตามลำดับความสำคัญของหนี้ เงินกู้รอบแรก ทั้งหมดจะได้รับการชำระคืนก่อน】
【ชำระคืนเงินกู้รอบแรกทั้งหมดแล้ว】
【ยังคงมีหนี้คงเหลือเพิ่มเติมในบัญชีของผู้ใช้ ระบบจะดำเนินการชำระคืนเงินกู้คงเหลือ 】
【ชำระคืนเงินกู้ทั้งหมดแล้ว】
【ผู้ใช้จ่ายหนี้ทั้งหมดสำเร็จแล้ว จำนวนเงินที่ใช้ไปทั้งหมด : 650,000 เหรียญทอง】
【เครดิตของผู้ใช้ได้ถูกเพิ่มขึ้น】
【ความน่าเชื่อถือคือกุญแจสู่ เครดิต แม้หนทางจะยังอีกยาวไกล แต่มันก็ดีกว่าอยู่เฉย ๆ ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าระบบจะติดตามคุณไปตลอดการเดินทาง】
“…”
การแจ้งเตือนจำนวนมากที่ปรากฏขึ้นในระบบ ทำให้คิ้วของโรเอลเลิกขึ้น เด็กชายหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความคับข้องใจที่โหมกระหน่ำภายในจิตใจ
???
อะไรของมัน? กล้าดียังไงมาพูดว่าหนทางยังอีกยาวไกลหลังจากที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเงินกู้จากเรากัน ถ้าไม่ใช่เพราะชาร์ล็อต เราคงไม่มีวันจ่ายหนี้ได้หมด ก่อนที่จะโดนอัตราดอกเบี้ย 30,000 เหรียญทองต่อเดือนแน่ ๆ!
โรเอลไม่สามารถโต้กลับระบบดัง ๆ ต่อหน้าชาร์ล็อตได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่สูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ เด็กชายมองดูภูเขาสีทองที่ลดลงเบื้องหน้า และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย แต่ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะโยนเรื่องนี้ไปยังเบื้องหลังของจิตใจ
เงินเป็นสิ่งมีค่า แต่จุดประสงค์หลักในการหาเงินของโรเอลก็คือการถอนเดธแฟล็กออก และป้องกันไม่ให้ตระกูลของเขาเสื่อมโทรม จากมุมมองดังกล่าว เงินที่ได้จ่ายไปนั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ในอนาคตเขาก็อาจจะต้องใช้เงินมากกว่านี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอยู่ดี
การผจญภัยครั้งสุดท้ายที่ผ่านมาทำให้ร่างกายของโรเอลพังทลาย แต่เขาก็เติบโตขึ้นอย่างมาก โรเอลอาจจะต้องใช้เวลาสองสามปีหมกตัวอยู่ที่คฤหาสน์ อ่านบันทึกทางประวัติศาสตร์พลางฝึกฝนพลังที่เสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้มา และเปลี่ยนมันให้เป็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา
สิ่งสำคัญที่สุดคือโรเอลควรพยายามฝ่าฟันผ่านกำแพงขึ้นสู่ระดับที่สูงกว่า เนื่องจากตอนนี้ระดับแก่นแท้ 5 ไม่ใช่ข้อจำกัดของเขาอีกต่อไปแล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ คำแนะนำของกรันด้าที่ยืนยันว่าควรออกไปผจญภัย ก็ถือว่าสมเหตุสมผลดี พลังเหนือธรรมชาติที่โรเอลได้รับมานั้นน่าทึ่งมาก แต่เช่นเดียวกับทักษะอื่น ๆ มันต้องได้รับการฝึกฝนจึงจะสมบูรณ์แบบ และเขาก็คงจะไม่สามารถฝึกฝนมันได้ด้วยการสืบค้นบันทึกทางประวัติศาสตร์ในคฤหาสน์ของเขาเพียงอย่างเดียวแน่
“ชาร์ล็อต เธอมีความคิดดี ๆ อะไรที่จะช่วยให้ฉันฟื้นสภาพจากสถานะปัจจุบันรึเปล่า?”
โรเอลต้องการแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุดก็จริง แต่ตอนนี้การฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่เป็นอยู่นั้นสำคัญกว่ามาก มันไม่ฉลาดเท่าไหร่สำหรับเขาที่จะพยายามฝ่าฟันผ่านกำแพงระดับแก่นแท้ในตอนที่ยังไม่ได้ฟื้นคืนสู่สภาวะสูงสุด อีกทั้งสภาพร่างกายนี้เองก็ทำให้เด็กชายรู้สึกกังวลเล็กน้อยเสียด้วย
ชาร์ล็อตเองก็เข้าใจเช่นกันว่าเรื่องนี้สำคัญแค่ไหน
“ข้าสามารถแก้ไขผลข้างเคียงของสัมผัสแห่งธารน้ำแข็งได้ แต่การสูญเสียพลังชีวิตและสถานะของการฟื้นคืนชีพอันเดธนั้นเกินกว่าขีดความสามารถของข้า พวกเราอาจจะต้องปรึกษาลุงแอนดรูว์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าคิดว่าเขาอาจจะสามารถช่วยพวกเราได้”
“แอนดรูว์?”
“ใช่ เขาเคยเป็นสมาชิกของทีมนักผจญภัยของท่านพ่อ และเป็นถึงผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้ 2 จอมเวทระดับสูง นอกจากนี้พวกเรายังสามารถปรึกษาท่านลุงปาร์คเกอร์และท่านน้าลอรินได้อีกด้วย พวกเขาเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้ 3 ที่เชี่ยวชาญด้านการรักษา…”
ชาร์ล็อตระบุรายชื่อจำนวนมากออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้บางส่วนที่โรเอลเคยได้ยินชื่อ ขณะที่ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนผู้ปกครองของเขตการปกครองแอสคาร์ด รายชื่อแพทย์ที่พูดถึงนั้นอยู่ในเกณฑ์น่าพึงพอใจ โรเอลจึงพยักหน้ารับในทันที
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าชาร์ล็อตพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อโรเอล หากผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจำนวนมากคอยทำงานพร้อม ๆ กัน แม้แต่ชายที่ใกล้ตายก็คงสามารถได้รับการรักษากลับคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็ว อย่างน้อย ๆ ที่สุด เด็กชายก็อยากจะเชื่อว่าอาการของเขาไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
ยังไงซะ อิซาเบลลาก็เป็นคนที่มีชีวิตอยู่ในอดีตเมื่อหลายศตวรรษก่อน และนวัตกรรมทางการแพทย์ก็ควรที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป ใช่ไหม? เช่นเดียวกับโลกในอดีตชาติของเขา ทวีปเซียแห่งนี้เองก็ควรจะมีความก้าวหน้าทางการแพทย์เมื่อเวลาผ่านไปด้วยเช่นกัน
พี่สาวอิซาเบลลาอาจจะทรงพลังมากก็จริง แต่ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว!
เมื่อคิดเช่นนั้น หัวใจของโรเอลก็สงบลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามสิ่งที่เด็กชายไม่รู้ก็คือ แม้ว่าอิซาเบลลาจะมาจากหลายศตวรรษก่อน แต่เธอก็เป็นหนึ่งในผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในยุค และสิ่งต่าง ๆ อาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดก็เป็นได้