ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 355: ปมในใจ (2)
บทที่ 355: ปมในใจ (2)
“นั่นเป็นเพราะฉันกลัวว่าจะเสียพวกเธอทั้งสองคนไป !”
“!”
โรเอลตะโกนบอกความรู้สึกลึก ๆ ที่ถูกฝังอยู่ในส่วนลึกที่สุดในใจที่เขาแทบจะไม่เคยสังเกตมาก่อน ทันทีที่คำพูดเหล่านั้นถูกพูดออกไป เด็กสาวทั้งสองคนก็หยุดลงพร้อมกันและเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
“ฉันคิดว่าในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมฉันถึงไม่เรียกพวกเธอ ฉันกลัว ฉันไม่เคยรู้สึกอ่อนแอขนาดนี้เลยนับตั้งแต่ได้พบพวกเธอ ฉันไม่ต้องการให้พวกเธอเห็นฉันในสภาพที่อ่อนแอขนาดนี้ ฉันกลัวว่ามันจะทำให้พวกเธอผิดหวัง ฉันกลัวว่าพวกเธอจะทิ้งฉันไป !”
“พวกเราไม่ได้คู่ควรกัน ทั้งหมดนี้ไม่ควรเป็นของฉัน ! ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะรักษาพวกเธอไว้ข้างกายได้ยังไง แต่ฉันก็อยากจะรักษาให้ได้ ฉันไม่อาจปล่อยให้พวกเธอหลุดมือไปได้อีกแล้ว ! ฉันก็เลยต้องเข้มแข็งขึ้น ! ฉันต้องเข้มแข็ง…”
ภายใต้แสงจันทร์ เด็กชายตะโกนอย่างสุดเสียง ก่อนที่เขาจะรู้ตัวสายตาของเขาก็เริ่มพร่ามัวและน้ำตาก็หลั่งไหลออกมาจากดวงตา
ความอ่อนแอเป็นอาชญากรรมหรือไม่ อาจไม่ใช่สำหรับคนอื่น แต่สำหรับโรเอล แอสคาร์ด มันเป็นอาชญากรรมอันใหญ่หลวง
เขาเป็นคนที่ควรจะตายในเนื้อเรื่องดั้งเดิมของเกม แต่เขาได้เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเอง และเอาชนะใจเหล่านางเอกที่ไม่ควรจะเป็นของเขาได้ นั่นเป็นเพราะเขาสามารถเติบโตขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง
ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับโรเอลที่ทำให้นอร่า และคนอื่น ๆ มีความรู้สึกดี ๆ กับเขาได้เลย อันที่จริงแล้วตัวเขาไม่ได้ต่างอะไรไปจากภาระสำหรับพวกเธอเลย ด้วยที่มีศัตรูมากมายต้องการชีวิตของเขา
และตอนนี้โรเอลก็ได้สูญเสียพละกำลังที่จะปกป้องตัวเองไปแล้วด้วย
โรเอลกลัวว่าความอ่อนแอของตนจะทำให้ภาพลักษณ์ที่นอร่าและคนอื่น ๆ มีต่อเขาเสื่อมเสีย เขากลัวว่าความรู้สึกที่พวกเธอมีต่อเขาจะค่อย ๆ เจือจาง เมื่อพวกเธอตระหนักได้ว่าเขาไม่มีอะไรนอกจากความยุ่งยากในชีวิต
ในส่วนลึกของจิตใจโรเอล เขาคิดว่าท้ายในที่สุดพวกเขาก็จะต้องแยกทางกัน เนื่องจากความรู้สึกของพวกเธอเดิมทีแล้วไม่ควรมุ่งตรงมาที่เขา ดังนั้นเขาจึงไม่เคยที่จะตอบรับความรู้สึกของพวกเธออย่างจริง ๆ จัง ๆ เลย มันเกือบจะเหมือนกับกลไกการป้องกันตัวเอง ที่ทำให้เขาต้องหลีกเลี่ยงการเข้าไปมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์เหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว
ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป โรเอลก็พบว่าตัวเองเริ่มหลงเสน่ห์พวกเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ พอรู้ตัว เขาก็ไม่อาจจะสามารถจินตนาการถึงชีวิตที่ไม่มีพวกเธอได้อีก
“ฉันไม่รู้ว่า ฉันจะอยู่ในสภาพนี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็ ฉันอาจสูญเสียไปมากกว่าพลังเหนือธรรมชาติที่มีก็ได้ สติของฉัน ความสามารถในการวิเคราะห์ของฉัน และความคิดในการตัดสินของฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างอาจจะถดถอยลงไปด้วยก็ได้ ตอนนี้ฉันควบคุมน้ำตาตัวเองไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ ! ฉันไม่ต้องการให้พวกเธอเห็นด้านที่อ่อนแอนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเลือกที่จะวิ่งหนีจากพวกเธอไป ฉันขอโทษจริง ๆ !”
โรเอลปาดน้ำตาด้วยแขนทั้งสองข้าง ขณะที่ระบายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในใจออกมา
เมื่อเห็นสภาพของโรเอลและได้ยินคำพูดจากใจจริงของเขา ทั้งนอร่าและชาร์ล็อตก็ไม่สามารถเดินจากไปได้อีก
ทันทีที่นอร่าหันกลับมาหาเห็นเด็กชายที่กำลังร้องไห้ เธอก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอกำลังจะละลาย ส่วนชาร์ล็อตเองก็ร้องไห้ออกมาในทันที พวกเขารีบกลับไปที่ด้านข้างของโรเอล และกอดเขาเอาไว้แน่น
“ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงคิดว่าพวกเราไม่คู่ควรกันหรอกนะ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้ารู้แน่ ๆ ก็คือเจ้ามันโง่จริง ๆ !”
“ข้ารู้ดีว่า ที่รักไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึก แต่ข้าเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะหนักถึงขนาดนี้”
ขณะที่กำลังเด็กชายเช็ดน้ำตา นอร่าก็กล่าวตำหนิอย่างช่วยไม่ได้ ส่วนชาร์ล็อตก็ถอนหายใจออกมา
“เจ้าคิดว่า ตัวเองเป็นภาระและข้าจะทิ้งเจ้า ถ้าเจ้าอ่อนแองั้นเหรอ ? ดูเหมือนว่าเจ้าจะลืมรสนิยมของข้าไปแล้วสินะ ข้ายิ่งชอบด้วยซ้ำถ้าเจ้าอ่อนแอกว่าข้า !”
“ความแข็งแกร่งของเจ้า อาจเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังความสัมพันธ์ของพวกเราก็จริง แต่ที่รัก ข้าไม่รักเจ้าเพราะความแข็งแกร่ง ข้ารักเจ้าเพราะเจ้ายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องข้า แม้ว่าเจ้าจะอ่อนแอ นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าทิ้งกระสุนอัญมณีเจ็ดสีนัดสุดท้ายไว้ให้ นั่นเป็นสาเหตุที่ความสัมพันธ์ของเราเกิดขึ้น มันไม่เกี่ยวอะไรกับความแข็งแกร่งเลยสักนิด”
“ฉ…ฉัน…”
โรเอลมองไปที่เด็กสาวทั้งสองคนที่กอดเขาจากทั้งสองด้าน ทันใดนั้นเขาก็พบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออก น้ำตาของเขาไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันนอร่าและชาร์ล็อตต่างก็รู้สึกประทับใจในเรื่องอื่น
“ถึงกระนั้นเจ้าก็ยังพูดออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นน้ำตาจากเจ้า ตอบได้ดีเลยที่รัก !”
“ห้าปี… ในที่สุดข้าก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้จากเจ้าเสียที”
“พวกเธอหมายถึงอะไรกัน ?”
โรเอลถามด้วยความงุนงง
เมื่อมองดูโรเอลที่กำลังเช็ดน้ำตา นอร่าก็บีบแก้มและพูดออกมา
“เจ้าคิดว่าข้าไม่สังเกตเห็นว่าเจ้าพยายามอดทนทำเป็นเข้มแข็งมาโดยตลอดงั้นหรือ ?”
“พวกเราได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว เราคิดว่าการที่ที่รักเก็บกดอารมณ์และความเครียดเอาโดยไม่ระบายออกมาเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ แต่เราไม่รู้ว่าจะคุยกับเจ้าอย่างไรดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่รัก เจ้าอ่อนโยนมากในตอนที่พยายามทำตัวให้เข้มแข็ง แต่ข้าชอบเจ้าที่สุดในตอนที่เจ้ายอมปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมา”
“ความรู้สึกจะเติบโตได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายเต็มใจที่จะเปิดใจให้แก่กัน”
“พวกเธอ… ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษ”
เมื่อได้ยินคำพูดที่แสดงถึงใจจริงของพวกเธอ โรเอลก็ขอโทษทั้งสองอย่างจริงจัง
ในที่สุดรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งบนใบหน้าของนอร่า และชาร์ล็อตเองก็ปาดน้ำตา พวกเธอกอดเขาต่อไปจนกระทั่งอารมณ์ของทุกคนเริ่มสงบลงอย่างช้า ๆ
“ข้าจะให้อภัยเจ้าด้วยความเมตตาในครั้งนี้ แต่ถ้าเจ้ากล้าทำแบบนี้อีก ครั้งหน้าข้าจะทำให้แน่ใจว่าเจ้าไม่มีที่ให้ร้องไห้เลยคอยดู !”
“นี่ถือเป็นกรณีพิเศษ ฉะนั้นข้าจะมองข้ามความผิดพลาดของที่รักไปสักครั้ง แต่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ !”
เด็กสาวทั้งสองคนออกคำเตือนอย่างเข้มงวดในขณะที่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นี่เป็นวิกฤตความสัมพันธ์ครั้งแรกที่ไม่ใช่แค่สำหรับโรเอลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนอร่าและชาร์ล็อตเองก็ด้วย
ทั้งสองคนรู้สึกประหม่ามากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความรู้สึกของการถูกทอดทิ้งทิ่มแทงพวกเธออย่างต่อเนื่องราวกับหนามที่ปักอยู่ในใจ ทั้งสองรู้ดีว่ามันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตได้ หากพวกเธอไม่จัดการเรื่องนี้แต่เนิ่น ๆ ทว่าในทางกลับกันพวกเธอก็ยังไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์จะเป็นอย่างไร หากพวกเธอเสี่ยงยกประเด็นนี้ขึ้นมา
ด้วยความสัตย์จริง นอร่าได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่จะตักเตือนโรเอล แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็สูญเสียการควบคุมความรู้สึกของตัวเองไป และเรียกร้องให้เกิดการเลิกรา เธอไม่มีประสบการณ์ในการจัดการกับเรื่องดังกล่าว และไม่คิดว่ามันจะเจ็บปวดมากขนาดนี้ เมื่อไม่ได้รับความไว้วางใจจากคนที่เธอรัก
ตอนนี้นอร่าสงบลงมาก และเมื่อลองมองย้อนกลับไป เธอก็รู้สึกสยดสยองพอลองจินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ซึ่งชาร์ล็อตเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน
หลังจากยอมรับคำขอโทษของโรเอลแล้ว พวกเขาก็เริ่มลูบหัวเด็กชายราวกับต้องการจะระบายความเครียดที่สะสมเอาไว้ ชาร์ล็อตเริ่มจิ้มแก้มนุ่ม ๆ ของโรเอล ในขณะที่นอร่าไม่สามารถต้านทานความรู้สึกอยากที่จะเล่นกับหูของโรเอลได้
“…รักในสมัยเด็กเป็นแบบนี้เองเหรอเนี่ย ? ช่างน่ารักเสียนี่กระไร”
“เจ้าดูตัวเล็กกว่าที่ข้าจำได้จากการพบกันครั้งแรกของเราอีกนะ อายุแปดขวบงั้นเหรอ ?”
“ด…เดี๋ยวก่อนสิ พวกเธอ…”
หลังจากแก้ไขปมในใจได้แล้ว เด็กสาวทั้งสองก็เริ่มหมกมุ่นอยู่กับการหยอกล้อโรเอลในร่างจิ๋ว จนกระทั่งมีเสียงโห่ร้องดังก้องกังวานมาจากในระยะไกล ทำให้การหยอกล้อของพวกเธอต้องสิ้นสุดลง
ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วที่แสงออโรร่าจะปรากฏขึ้น