ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 395 มีจิตสำนึกหรือเปล่า? (2)
บทที่ 395 มีจิตสำนึกหรือเปล่า? (2)
“ยะ… อย่าหยุดปล่อยพลังเวทแบบปุบปับอย่างนั้นสิ!”
ถอนกลับ
“ไอ้เด็กเวร! แกอยากจะตายรึไง…”
ปล่อย
“ทำไมนายต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วย? หยุดเล่นกับร่างกายฉันได้แล้ว!”
ถอนกลับ
“แกเป็นบ้าอะไร? ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะเชือดแกทิ้ง…”
ปล่อย
“ฮืออ! นายไม่มีจิตสำนึกเลยรึไง?!!!”
“…”
น้ำตาเริ่มไหลลงมาจากดวงตาของเซลิน่า เมื่อถึงจุดนี้โรเอลผู้ควบคุมพลังสายเลือดที่พุ่งไปมาดั่งรถไฟเหาะก็ตระหนักได้ว่าตัวเองทำเกินไป แต่…
ช่วยไม่ได้ นี่มันน่าสนุกเกินไปแล้ว~ หูและหางของเธอจะขยับตามกัน ทุกครั้งที่เธอเปลี่ยนบุคลิก
โรเอลเป็นแฟนตัวยงของสิ่งมีชีวิตที่มีขน เด็กหนุ่มกระแอมอยู่สองทีเพื่อปกปิดความชื่นชอบในใจ ก่อนที่จะพยายามปลอบเด็กสาวผมสีส้มที่กำลังจ้องมาที่เขาพลางขบฟันแน่น
“ขอโทษด้วย เซลิน่า ฉันสูญเสียการควบคุมพลังไปชั่วขณะ”
“โกหก! นายแค่เล่นล้อเลียนฉันชัด ๆ! ฉันหลงคิดว่านายเป็นทายาทของวีรบุรุษแท้ ๆ… นายรู้สึกสนุกใช่ไหมที่ได้แกล้งฉัน ฮือออ!”
อา? เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ เธอถึงร้องไห้…
เมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเซลิน่า โรเอลก็งุนงง เขาไม่ได้คาดหวังให้อีกฝ่ายมีปฏิกิริยาเช่นนี้ และนั่นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกผิดอย่างมาก เขาจึงเอ่ยขอโทษอย่างจริงจัง พยายามทำให้เธอสงบลงโดยเร็ว แต่ก็ยังต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ ๆ กว่าเธอจะสงบสติอารมณ์ได้ในที่สุด
“ขอโทษด้วย เซลิน่า ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งเธอ… แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านี้น่าจะแสดงให้เธอเห็นถึงประสิทธิภาพของการสยบพลังสายเลือดของฉัน ฉันมั่นใจว่าเธอจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากความช่วยเหลือของฉันแน่”
“…”
“เซลิน่า ฉันหวังว่าเธอจะลองเอาคำแนะนำของฉันไปคิด”
“…นายบอกว่าต้องการให้ฉันตอบแทนสินะ ฉันต้องการให้นายพูดเจาะจงถึงมันมากกว่านี้”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เซลิน่าก็ถามคำถามในใจเธอ ซึ่งโรเอลก็บอกความคิดของเขากับเธออย่างตรงไปตรงมา แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเดาเป็นอย่างอื่น
“อย่างที่ฉันคิด เรื่องนั้นเองสินะ…”
“เธอพอจะเดาได้ใช่ไหม คิดยังไงบ้างล่ะ? อยากจะทำข้อตกลงกับฉันไหม?”
โรเอลถาม
“ฉันขอปฏิเสธ”
เซลิน่าตอบอย่างเด็ดขาด
“อะไรนะ?”
“ข้อเสนอของนายน่าดึงดูดมาก แต่ฉันไม่สามารถหักหลังสหายของตัวเองเพื่อเอาพลังนายได้”
“…”
การแสดงออกอย่างเด็ดเดี่ยวของเซลิน่า ทำให้โรเอลกะพริบตาด้วยความประหลาดใจ การตอบสนองที่แน่วแน่ของเธอเปลี่ยนความประทับใจของเขาที่มีต่อเธอ
ก่อนหน้านี้ ความประทับใจของโรเอลที่มีต่อเซลิน่านั้นแย่มาก เธอก้าวร้าว กระหายเลือด สื่อสารยาก และไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง แทบไม่มีอะไรดี ๆ ที่เกี่ยวกับเธอเลย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้รู้ถึงสถานการณ์ที่เซลิน่าต้องเผชิญ ประกอบกับได้พูดคุยกับเธอเมื่อพลังทางสายเลือดของเจ้าตัวถูกระงับ เด็กหนุ่มก็พบว่าเธอเป็นคนมีหลักการน่าเคารพอย่างน่าประหลาด บางทีอาจจะบริสุทธิ์กว่าคนอื่น ๆ เสียด้วยซ้ำ
โรเอลมั่นใจกับข้อเสนอนี้อย่างยิ่ง เพราะเขารู้ว่าเซลิน่านั้นแทบไม่มีทางเลือกอื่น เธอต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากเพราะผลกระทบจากพลังทางสายเลือดของตัวเอง การเป็นทาสโดยไม่สมัครใจต่อพลังทางสายเลือดนั้นทรมานมาก และนี่อาจเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเซลิน่าที่จะได้รับการช่วยเหลือ แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะไม่ทรยศต่อสหายของตนเอง
ความภักดีของเซลิน่าทำให้เขารู้สึกเคารพเธอขึ้นมาอยู่หน่อย ๆ
บริตตานี่ยอมแพ้และกลายเป็นสายลับเพื่อแลกกับทรัพย์สินส่วนตัวของเกอรัล
แต่เซลิน่าเลือกที่จะธำรงไว้ซึ่งหลักการของตนและไม่ทรยศต่อสหาย แม้จะต้องทรมานด้วยผลข้างเคียงจากพลังทางสายเลือดก็ตาม
เธอเป็นอัศวินตัวจริงเสียงจริงเลยสินะ เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นว่าเซลิน่าเลือกภักดีกับคนของเธอมากกว่าประโยชน์ตัวเธอเอง แต่… นี่มันเป็นปัญหาสำหรับฉันแล้วสิเนี่ย
โรเอลใช้เวลาครู่หนึ่งพิจารณาใคร่ครวญเรื่องนี้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเซลิน่าที่กำลังตึงเครียด
เขาโค้งคำนับเธอ
“ขอโทษด้วย ที่เสนออะไรแบบนั้นออกไป เซลิน่า ฉันเคารพในจิตวิญญาณอันแน่วแน่ของเธอ ฉันขอถอนคำพูด และเสนอข้อเสนอใหม่”
“อย่าเสียเวลาเลยเถอะ ฉันไม่มีทาง…”
“เซลิน่า เธอไม่จำเป็นต้องช่วยเหลืออะไรฉันอีกต่อไปแล้ว ฉันจะระงับพลังทางสายเลือดของเธอให้โดยสมัครใจเพื่อเธอ”
“หา?”
เซลิน่าเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ซึ่งโรเอลก็ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะอธิบาย
“ฉันเคยบอกเธอก่อนหน้านี้ใช่ไหมว่าฉันได้ทำสัญญากับเทพเจ้าโบราณที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นราชินีแห่งสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ มีไม่กี่คนบนโลกที่สามารถทำให้เธอคนนั้นรู้สึกหวนนึกถึงอดีตได้ และเธอที่เป็นผู้สืบทอดสายเลือดสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“หรือก็คือเธอถือเป็นทายาทของเชื้อสายเทพเจ้าองค์นั้น ดังนั้นฉันพร้อมที่จะช่วยเธอ เมื่อไหร่ที่อาการเกี่ยวกับพลังทางสายเลือดของเธอกำเริบ เธอสามารถมาหาฉันได้ทุกเมื่อที่คฤหาสน์สีกรมท่า ฉันจะช่วยเธอโดยไม่เรียกร้องอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น”
“…เอาล่ะ ฉันพูดจบแล้ว พวกเรายังอยู่ในงานประลอง และเวลาก็มีค่ามาก เพราะฉะนั้นขอตัวก่อน เซลิน่า”
โรเอลโค้งคำนับเธออีกครั้งก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป
เซลิน่าจ้องไปที่เงาของอีกฝ่ายที่กำลังจะหายลับไปอย่างว่างเปล่า ต้องใช้เวลาหลายวินาทีก่อนที่เธอจะสะบัดหัวตัวเองหลุดออกจากความงุนงงได้ ใบหน้าของเธอดูซับซ้อนประหนึ่งว่ากำลังเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อผลของการสยบพลังสายเลือดกำลังจะสิ้นสุดลง สุดท้ายแล้วเธอก็กำหมัดแน่นพร้อมกับพูดขึ้น
“เดี๋ยวก่อน!”
“เซลิน่า?”
โรเอลหันกลับมามองเซลิน่าด้วยความสงสัย อีกฝ่ายจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น
“… ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้หรอกนะ ถ้าจะให้ฉันช่วยนาย ตาแก่นั่นตั้งเงื่อนไขบังคับให้วิลเลียมให้สิทธิ์พวกเราในการประเมินนายอย่างอิสระ เข้าใจที่ฉันพูดรึเปล่า?”
“ฉันเข้าใจแล้ว… แล้วฉันต้องทำยังไงเพื่อให้เธอตกลงเอาด้วยล่ะ?”
“ตัวต่อตัว เอาชนะฉันโดยห้ามใช้พลังของนายมาปราบปรามพลังทางสายเลือดของฉัน ถ้าทำได้ฉันจะสนับสนุนความคิดของนาย”
“!”
โรเอลมองดูเซลิน่าด้วยความตกใจ เขาเข้าใจดีถึงความสำคัญของสิ่งที่เธอพูดออกมา ขณะเดียวกันใบหน้าของเซลิน่าก็ค่อย ๆ แดงขึ้นหลังจากที่จ้องมองของโรเอล
“ฉ…ฉันไม่ได้ให้คำใบ้อะไรกับนายสักหน่อย! ฉันก็แค่บอกกฎให้ฟังนายเท่านั้นเอง!”
“อย่างนั้นเหรอ?”
โรเอลตอบด้วยรอยยิ้ม
“บอกไว้ก่อนว่าฉันแข็งแกร่งมาก การป้องกันที่นายใช้ก่อนหน้านี้ไม่สามารถหยุดฉันได้หรอกนะ”
“โอ้?”
“แล้วพบกันใหม่!”
หลังจากบอกใบ้ถึงความสามารถของตัวเอง เซลิน่าก็เดินออกไปอย่างรวดเร็วราวกับกำลังผู้ร้ายหลบหนีจากที่เกิดเหตุ
โรเอลครุ่นคิดถึงคำพูดที่เซลิน่าเพิ่งพูดและเรื่องศัตรูภายในป่าที่เธอปราบได้อย่างง่ายดาย ครู่ต่อมา ประกายวิบวับก็ปรากฏขึ้นในดวงตาสีทอง
ด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มเดินไปที่ใจกลางโบราณสถานอันเสื่อมโทรม โดยใช้เส้นทางอื่น
…
ไม่มีอะไรมากสำหรับรอบคัดเลือกที่เหลือ เมื่อโรเอลมาถึงสถานที่ที่มีคริสตัล เขาสังเกตเห็นว่ามีคริสตัลหายไปจากช่องสิบช่อง ดูจากการไหลเวียนของพลังเวทตรงนี้แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครเป็นคนแรกที่มาถึง
หลังจากการระงับพลังทางสายเลือดของเซลิน่าหมดลง เธอก็กลับไปมีบุคลิกที่ก้าวร้าว แน่นอนว่าด้วยบุคลิกนั้นก็ทำให้เจ้าตัวประสบความสำเร็จเป็นคนแรก แผนเดิมของเธอคือการซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่และซุ่มโจมตีผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ แต่ด้วยเกรงว่าตนเองนั้น อาจจะยั้งตัวเองเพื่อไม่ให้เข้าไปโจมตีโรเอลไม่อยู่ เธอจึงเลือกที่จะออกไปทันทีหลังจากเข้ามาคว้าคริสตัล
“เหนือคาดจริง ๆ ดูเหมือนว่าเธอจะจริงจังเรื่องการสู้ตัวต่อตัวกับฉันสินะ”
โรเอลรู้ดีว่าเซลิน่าต้องใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างมากในการหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับเขา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ของเธอในการดวลตัวต่อตัว และเด็กหนุ่มก็รู้สึกว่าตัวเองควรจะให้ความเคารพเธอในระดับเดียวกัน ด้วยการต่อสู้อย่างจริงจัง
เด็กหนุ่มหยิบคริสตัลขึ้นมาชิ้นหนึ่ง และออกจากพื้นที่ด้วยเช่นกัน
ถ้าโรเอลต้องการ เขาสามารถเอาคริสตัลที่เหลือออกไปและกำจัดคู่แข่งที่เหลือทั้งหมดได้ แต่โรเอลไม่ได้วิตกกังวลเกี่ยวกับผู้เข้าแข่งขันที่เหลือเลย เขาไม่คิดว่ามีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องทำแบบนั้นด้วยซ้ำ
คริสตัลเหล่านี้แสดงถึงความหวัง พวกมันเป็นโอกาสสำหรับนักเรียนที่จะได้เห็นอนาคตอันสดใสยิ่งขึ้น ซึ่งโรเอลไม่ต้องการที่จะไปทำลายความหวังของคนพวกนั้น
หลังจากได้รับคริสตัลมาแล้ว โรเอลก็อดทนรอเวลาอยู่ในสถานที่อันห่างไกลในซากปรักหักพัง เมื่อผ่านไปสิบนาที คริสตัลก็ทำให้ร่างกายของเขาอาบไปด้วยแสงและพาเขาออกไป รู้ตัวอีกทีเด็กหนุ่มก็ยืนอยู่ท่ามกลางหมอกหนาทึบแล้ว
จากนั้นวิญญาณนำทางก็เข้ามาพาเขาออกจากหมอก
ในไม่ช้าโรเอลก็ได้รับการต้อนรับด้วยเสียงเชียร์และเสียงปรบมือจากผู้ชม และสมาชิกของฝ่ายกุหลาบน้ำเงิน ซึ่งเด็กหนุ่มก็ตอบรับพวกเขาด้วยรอยยิ้มพร้อมโบกมือ
เด็กหนุ่มมองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่พบเซลิน่าเลย มันทำให้โรเอลสับสนเล็กน้อย แต่เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจมันมากนัก และเริ่มเดินไปหาสมาชิกของฝ่ายกุหลาบน้ำเงิน
เนื่องจากโรเอลผ่านรอบคัดเลือกได้สำเร็จ จึงเป็นโอกาสที่เขาจะได้ตรวจสอบว่าสมาชิกคนอื่น ๆ เป็นอย่างไรกันบ้าง ทว่าก่อนที่เขาจะได้ถามถึงเรื่องนั้น สมาชิกของฝ่ายกุหลาบน้ำเงินก็เดินมาหาเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
“หัวหน้า รีบไปทางนั้นเร็วครับ ดูเหมือนว่ารองหัวหน้าพอลจะได้รับบาดเจ็บ”
“พอลได้รับบาดเจ็บงั้นเหรอ?”
โรเอลถามพร้อมกับคิ้วที่ขมวดมุ่น