ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 431: ชื่อของคุณ (2)
หลังจากการต่อสู้ด้วยแชมเปญ นักเรียนที่เหนื่อยล้าก็หันกลับมา
สนใจอาหารอันโอชะ ซึ่งได้รับการปกป้องจากเจ้าหน้าที่ การต่อสู้ได้นํา
สายสัมพันธ์มาพบกัน และนักเรียนที่ไม่เคยพูดคุยกันมาก่อนก็เริ่
มมี
ส่วนร่วมในการสนทนา
จูเลียน่าที่มึนเมาเล็กน้อยเดินขึ้นไปหาชาร์ล็อต และบ่นว่าจิต
วิญญาณทองคําของอีกฝ่ายนั
้
นบาดตา ลิเลียนเริ่
มคุยกับเทเรซา ทําให้
ทุกคนประหลาดใจมาก วิลเลียมลากเกอรัลและส่งเขาไปประจําการที่
หน้าป้อม บริตตานี่ เคิร์ตและเอ็ดเวิร์ดเริ่
มพูดคุยกันเล็กน้อยเกี่ยวกับ
ประวัติศาสตร์พอลเรียกชุดเกราะของเขาออกมาและแสดงผลของมัน
ต่อเซลิน่าและสจ๊วร์ต ซึ่งทําให้ทั้
งสองคนประหลาดใจ
โรเอลจ้องไปที่ภาพอันกลมกลืนกันในขณะที่เขาจิบไวน์ชีวิตใน
สถาบันการศึกษามักเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจําที่สุดสําหรับคนส่วนใหญ่
วันที่สนุกสนานและไร้กังวลเหล่านั้
นเต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์ที่สุกงอม
ราวกับไวน์ชั้
นดีในความทรงจําของเรา กลายเป็นสิ่
งที่เรียกว่ารสชาติ
แห่งความคิดถึง
มีช่วงหนึ่งที่เขาลังเลและกลัวที่จะเข้าเรียนที่สถาบันการศึกษา
เซนต์เฟรย่า เด็กน้อยที่วิตกกังวลในตอนนั้
นไม่สามารถหยั่
งรู้ได้ว่าเขา
จะมามีความสุข ชื่นชมกับประสบการณ์และสายสัมพันธ์ที่เขาสร้างขึ้
น
ที่นี่ได้มากขนาดนี้
“ฉันดีใจจริงๆ ที่ได้มาที่นี่”
“คุณคิดแบบนั
้
นเหรอ?”
“หืม?”
เมื่อโรเอลหันไปทางต้นเสียงก็เห็นวิลเลียมเดินมาทางเขา
“การแอบฟังไม่ใช่นิสัยที่ดีเลยนะ”
“แต่คุณก็ไม่ได้พยายามซ่อนคําพูดของตัวเองนี่นา”
“จะว่าอย่างนั
้
นก็ได้แหละ”
วิลเลียมในชุดเกราะนั่
งลงข้างๆ โรเอล เธอมองดูฝูงชนที่
พลุกพล่านตรงหน้าและตั
้
งข้อสังเกต
“พอฉันได้ยินคําพูดเหล่านั้
นจากคุณแล้ว ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่จะพา
คุณไปจากที่นี่อีก”
“ฉันไม่ได้ตั้
งใจจะไปกับเธอตั้
งแต่แรกแล้ว”
โรเอลตอบด้วยรอยยิ้
ม
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก โดยรู้ว่าในที่สุดวิลเลียมก็ครุ่นคิด
เรื่องต่างๆ ไปได้ด้วยดีอย่างไรก็ตามในไม่ช้าเขาก็นึกถึงคําแนะนําของ
เทพธิดาแห่งโชคชะตาและภารกิจที่เขาต้องทํา เขาสํารวจบริเวณ
โดยรอบอย่างรวดเร็วก่อนที่จะตัดสินใจคว้าโอกาสนี้
ดังนั
้
นโรเอลจึงหันศีรษะและเริ่
มจ้องมองไปที่วิลเลียม
เมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนจ้องอยู่ วิลเลียมก็หันไปสบตา เวลาเดินไปอย่าง
ช้าๆ ยามสายตาสองคู่สบมองกัน ความอยากรู้เริ่
มแรกของเธอ
กลายเป็นความสับสน ตามมาด้วยความพลุกพล่าน ในไม่ช้าเธอก็นึกถึง
บางสิ่
งและค่อยๆ ก้มหน้าลง
โดยปกติแล้วเวลาสิบห้าวินาทีจะผ่านไปในทันทีแต่ทุกๆ วินาที
กลับรู้สึกยืดเยื้ออย่างน่ากลัวเมื่อต้องจ้องมองคนอื่นโดยไม่พูดอะไรสัก
คํา อย่างไรก็ตามโรเอลยังคงจ้องอยู่เช่นนั้
นอย่างมั่
นคงในขณะที่ยังคง
นับถอยหลังในใจ เมื่อการนับถอยหลังถึงศูนย์ในที่สุดวิลเลียมก็
ตอบสนองต่อท่าทางของโรเอล
“ช่วยมากับฉันสักครู่ได้ไหม?”
“แน่นอนสิ”
มันเห็นผลทันตาเลยงั้
นเหรอ?
โรเอลพยักหน้าก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยงเงียบๆ
ตามหลังวิลเลียม
ภายในห้องจัดเลี้ยงนั้
นค่อนข้างวุ่นวาย นักเรียนส่วนใหญ่กําลังดื่ม
และพูดคุยกันอย่างเต็มที่ ดังนั
้
นจึงไม่มีใครสังเกตเห็นการจากไปของทั้
ง
คู่ เสียงค่อยๆ ซาลงไปเมื่อโรเอลเดินตามวิลเลียมไปยังทางเดินที่เปิด
โล่ง ภายใต้แสงจันทร์อันสาดสว่าง
“รอที่นี่”
“หืม?”
จู่ๆ วิลเลียมก็หันหลังเดินจากไป ทิ
้
งให้โรเอลงุนงงไปหมด
เกิดอะไรขึ้
น? เธอพาฉันมาที่นี่เพื่อพบคนอื่นงั้
นเหรอ?
ไม่นาน ‘คนอื่น’ ก็ปรากฏตัวขึ้
นมาจริงๆ
เด็กสาวตัวสูงในชุดกระโปรงสีขาวปรากฏตัวขึ้
น เธอมีผมสีฟ้าขี้เถ้า
และตาสีส้มเขียว แม้เอวของเธอจะคอดบาง แต่ใครๆ ก็สัมผัสได้ถึงพลัง
ในตัวเธอ แขนขาของเธอนั
้
นเข้ากับนิยามที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า
อัตราส่วนทองคํา แม้จะมีบุคลิกที่กล้าหาญ แต่ดวงตากลับกวาดไป
กวาดมาเมื่ออยู่ต่อหน้าโรเอล
“เธอคือ… วิลเลียม?”
โรเอลต้องจ้องไปที่ใบหน้าอันคุ้นเคยอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะ
สามารถจําเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าได้
วิลเลียมพยักหน้า มือของเธอขยับยุกยิกราวกับว่าเธอไม่รู้ว่าจะวาง
มันไว้ที่ไหน ในท้ายที่สุดเธอตัดสินใจซุกมันไว้ข้างหลัง
“มันเหมาะกับฉันรึเปล่า?”
เธอถามเบาๆ
“ก…ก็เหมาะนะ แต่ทําไมจู่ๆ เธอถึง…”
“นั่
นเป็นเพราะคุณเอาแต่จ้องมาที่ฉัน! ฉันเลยทําตามคําแนะนํา
ของคุณและลองสวมกระโปรงดูแต่เพราะฉันเคยชินกับการใส่ชุดเกราะ
มากไปหน่อย บางทีก็เลยชอบคิดว่าถ้าฉันใส่กระโปรงก็จะมีคนมองมา
เยอะแน่ๆ ฉันเลยรู้สึกแปลกๆ…”
หน้าของวิลเลียมขึ
้นสียามที่ตอบ
ขณะที่พูดไป เธอก็พยายามดึงชายกระโปรงลงอย่างเงียบๆ ด้วย
หวังว่ามันจะยืดยาวขึ
้นอย่างน่าอัศจรรย์และปกปิดขาที่เปลือยเปล่า
เอาไว้ได้กลับกันแล้ว ในที่สุดโรเอลก็นึกถึงคําพูดที่เขาบอกกับเธอใน
รอบชิงชนะเลิศออก
เมื่อหมวกเกราะของวิลเลียมแตกหลังจากการปะทะครั้
งสุดท้าย
จนใบหน้าที่แท้จริงเผยสู่สายตา เขาได้พูดถึงบางอย่างทํานองว่า ‘เธอ
น่าจะเหมาะกับชุดกระโปรงนะ’ โดยไม่เคยคิดว่าเธอจะจริงจังกับคําพูด
นั่
นขนาดนี้
ทันใดนั้
นโรเอลก็รู้สึกว่าวิลเลียมผู้ดื้อรั้
นดูน่ารักขึ
้
นมามากเลย
ทีเดียว อีกทั
้
งยังรู้สึกโล่งใจเมื่อคิดว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีสําหรับ
เธอ
การอุทิศตนเพื่อคําสาบานของวิลเลียมเป็นสัญลักษณ์ของชุด
เกราะและการปกปิดตัวตนของเธอ ความจริงที่ว่าเธอเต็มใจที่จะโยนสิ่
ง
เหล่านี้ออกไปแสดงให้เห็นว่าในหัวใจของเธอมีการเปลี่ยนแปลงขึ้
นนิด
หนึ่งแล้ว
“ดูเหมือนว่าในที่สุดเธอก็พร้อมจะละทิ้
งภารกิจที่จะพาฉันออกไป
จากที่นี่จริงๆ แล้วสินะ”
“ฉันถูกบังคับต่างหาก ฉันจะทําอะไรได้อีกหลังจากที่คุณทําลาย
ชุดเกราะของฉันในที่สาธารณะ มีคนหลายคนเห็นหน้าฉันแล้ว มัน
เป็นไปไม่ได้แล้วที่ฉันจะปิดบังความจริงอีก”
วิลเลียมพึมพําอย่างไม่เต็มใจ
ปรากฏว่าการเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของเธอส่งผลให้มีการอ้างว่า
เธอเป็นบุตรบุญธรรมของราชวงศ์แคมบอนไนต์สลายไป เธอได้รับ
คําสั่
งให้กลับไปที่อาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์หลังจากวันหยุดนี้
เพื่อรับตําแหน่งองค์หญิงในทันที
ทีแรกวิลเลียมสวมชุดเกราะและสวมบทบาทเป็นลูกชายบุญธรรม
ของราชวงศ์แคมบอนไนต์เพื่อที่เธอจะได้ทุ่มเทเวลาและความ
พยายามฝึกฝนให้แข็งแกร่งขึ้
น และอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์
เองก็จะได้รับผลกระทบน้อยลงเช่นกัน หากเธอจําเป็นต้องทําตามคํา
ปฏิญาณและสินชีพในฐานะตัวตายตัวแ ้ ทนของโรเอล
อย่างไรก็ตาม เมื่อวิลเลียมปรากฏตัวในฐานะบุตรีที่แท้จริงของ
ราชวงศ์แคมบอนไนต์มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเป็นตัวตายตัวแทนของ
โรเอลอีกต่อไป นั่
นเป็นเพราะเธอเป็นบุตรีคนเดียวและเป็นผู้สืบสกุล
ของราชวงศ์
ซึ่งคงจะเป็นเรื่องถ้าราชวงศ์แคมบอนไนต์มีลูกหลานมากมายต่อสู้
กันเพื่อสืบราชสันตติวงศ์หรือว่าวิลเลียมเป็นบุตรบุญธรรมที่ปฏิบัติ
ตามคําปฏิญาณอย่างแท้จริง ปัญหาก็คือวิลเลียมเป็นลูกคนเดียวของ
ราชวงศ์แคมบอนไนต์และนั่
นได้เปลี่ยนครรลองของสิ่
งต่างๆ
ราชาแห่งอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์อาจเต็มใจสละชีวิต
ของบุตรีตนเพื่อเห็นแก่มนุษยชาติแต่นั่
นไม่ได้หมายความว่าพวกขุน
นางจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้วิลเลียมเป็นผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมาย
เพียงคนเดียวของอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์และการตายของ
เธอจะทําให้อาณาจักรไม่มั่
นคงอย่างไม่ต้องสงสัย
ในที่สุดหัวใจของโรเอลก็เบาสบายขึ้นเมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้
น
แม้แต่พระราชาก็ไม่สามารถต่อต้านเจตจํานงร่วมกันของแวดวง
แห่งขุนนางได้ในทวีปเซีย ปัจจุบันจึงไม่น่าจะเป็นไปได้แล้ว ที่วิลเลียม
จะต้องเสียสละตัวเองอีก
“นั่
นเป็นข่าวดีดูเหมือนว่าการเสียสละของฉันในรอบชิงชนะเลิศ
จะคุ้มค่า”
เมื่อโรเอลรู้ว่าการกระทําของเขาเปลี่ยนชะตากรรมของวิลเลียมได้
จริงๆ เขาก็แหงนมองดูท้องฟ้ายามค�าคืนเบื้องบนด้วยรอยยิ้
มแห่งความ
ยินดีวิลเลียมจ้องเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตั
้
งคําถามในที่สุด
“แล้วถ้าคุณแพ้ล่ะ? คุณคิดจะทําอย่างไร”
“ถ้าฉันแพ้งั
้
นเหรอ?”
คําถามนี้ทําให้โรเอลไม่ทันระวัง เขาหันไปหาวิลเลียมที่จ้องมาทาง
เขาอย่างตั
้
งใจ และพูดขึ
้
นอย่างลังเล
“พูดตามตรง… ฉันไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะแพ้”
“นี่คุณ… ดูถูกฉันเหรอ?”
“ไม่ใช่แบบนั้
น มันก็แค่… ฉันแพ้ในสถานการณ์นั้
นไม่ได้ดังนั
้
นฉัน
จะไม่แพ้”
“…”
วิลเลียมรู้สึกประหลาดใจ แม้ว่าโรเอลจะยิ้
มอย่างอ่อนโยน แต่
คําพูดที่ออกมาจากปากของเขากลับมีพลังอย่างน่าประหลาดใจ
“…เป็นเพราะคุณต้องการช่วยฉันงั้
นเหรอ?”
“ฉันจะไม่ใช้คําว่า ‘ช่วย’ หรอกนะ ฉันแค่ต้องการคืนสิทธิที่
์ เธอมี
ฉันพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเธอควรจะเป็นคนเลือกเองว่าจะใช้ชีวิต
อย่างไร”
“เลือกงั
้
นเหรอ?”
เด็กสาวพึมพํา
ภายใต้ลมหายใจของเธอ วิลเลียมเดินตามเคียงข้างโรเอล และจ้อง
มองไปที่ท้องฟ้ายามค�าคืนอันสวยงามพร้อมกับอีกฝ่าย
“ฉันอาจจะต้องทนทุกข์ทรมานมาหลายปีแต่ฉันก็ได้รับ
ผลตอบแทนมามากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือ
ชื่อเสียง คุณอาจปฏิเสธคําปฏิญาณ แต่ก็ยังมีหลายสิงที่ฉันไม่ต้องการ ่
เปลี่ยนแปลง นั่
นมัน… ไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
“แน่นอน ให้ตายสิเธอนี่มันรั้
นจริงๆ … การผ่อนคลายบ้างมันไม่ใช่
ความผิดร้ายแรงหรอกนะ”
“ฉันไม่ชอบที่ถูกบอกว่าฉันดื้อรั้
นจากคนที่ปฏิเสธความช่วยเหลือ
ของฉันอย่างดื้อรั้
นหรอกนะ แต่เอาเถอะ มีบางอย่างที่ฉันอยากจะ
เปลี่ยนเหมือนกัน”
“โอ้สาวน้อยวิลเลียม ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรงั้
นเหรอ?”
“ไม่ไม่ไม่ใช่วิลเลียม…”
วิลเลียมหันไปหาโรเอลแล้ววางนิ้
วบนริมฝีปากอีกฝ่าย ก่อนจะพูด
ด้วยรอยยิ้
ม
“เรียกฉันว่าวิลเฮลมินา”