ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 451 ยาวิเศษ
ภายในศูนย์บัญชาการของป้อมปราการทาร์ก ชายผมสีทองจ้อง
มองไปที่ทุ่งหญ้านอกหน้าต่าง ข้างหลังเขามีกลุ่มของชายและหญิงใน
ชุดสีขาวศักดิ์
สิทธิ์
ของโบสถ์แห่งเทพีผู้สร้าง แต่ในที่นี้ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาเลย แม้ว่าจะเต็มไปด้วยฝูงชนก็ตาม
แต่สิ่งที่ผิดปกติที่สุดก็คือ พายุที่หมุนวนอยู่ข้างนอก
หากมองจากหอคอยสูงตระหง่าน มันดูเหมือนว่าป้อมปราการ
ทาร์กได้จมลงไปในทะเลแห่งความมืดมิดที่เต็มไปด้วยศัตรูซึ่งสะท้อน
ให้เห็นถึงความรู้สึกขององค์ชายเคนในเวลานี้
บางทีอาจเป็นเพราะความรู้สึกไม่สงบที่มาจากศูนย์บัญชาการ
ทหารยามที่ลาดตระเวนรอบป้อมปราการได้พยายามทําให้ฝีเท้าของ
พวกเขาเบาลง แต่การไม่มีเสียงทําให้อารมณ์ของอธิการคนปัจจุบันแย่ลง
“นอร่าอยู่ที่ไหน?”
“…ฝ่าบาทอยู่ในทะเลสาบน�าแข็งมนตราเพคะ องค์ชายเคน”
“…”
อธิการแคธลีนหัวหน้าหน่วยพิธีกรรมตอบคําถามขององค์ชายเคน
อย่างรอบคอบ
ในฐานะที่เป็นผู้นําระดับสูงคนหนึ่งของโบสถ์แห่งเทพีผู้สร้าง แคธ
ลีนไม่เคยตัดสินใจพลาดมาก่อน ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เธอก็เป็นที่
เคารพนับถือของทุกๆ คนเสมอ คําพูดของเธอเป็นดั่
งประกาศิต กระนั้น
ผู้หญิงที่เก่งกาจคนนี้กลับพูดด้วยน�าเสียงที่ระมัดระวังเป็นพิเศษ
นั่นก็เพราะเธอรู้ดีว่าทําไมองค์ชายเคนถึงมีอารมณ์ไม่ดีเช่นนี้
หนึ่งเดือนก่อน องค์หญิงนอร่าแห่งจักรวรรดิเซนต์เมซิทได้แสดง
สัญญาณของสถานะอวตารทูตสวรรค์และจบลงด้วยการสูญเสียการ
ควบคุม ซึ่งทําให้ทั้งโบสถ์แห่งเทพีผู้สร้างต้องตกตะลึง
พระสังฆราชจอห์นสั่งปิดข่าวทันทีก่อนที่จะรีบส่งผู้เชี่ยวชาญ
หลายคนจากหน่วยพิธีกรรมให้ติดตามนอร่ามาที่ป้อมปราการทาร์ก
เพื่อทําการรักษาเธอย้อนกลับไปตอนนั้นเมื่อพวกเขาได้รับพระราชกฤษฎีกาครั้งแรก
แคธลีนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เป็นเวลานานมากแล้วที่พวกเขาไม่พบ
สถานะอวตารทูตสวรรค์ดังนันนสถานการณ์ของนอร่า จึงทําให้พวกเขา
ไม่ทันได้ระวังตัว แต่พวกเขาก็รู้สึกว่ามันน่าจะรับมือได้ง่ายขึ้นมากหาก
ย้ายนอร่าไปที่ป้อมปราการทาร์กสถานะอวตารทูตสวรรค์เป็นการหลอมรวมของสัญชาตญาณ
ศักดิ์สิทธิและพลังเวทที่คลุ้มคลั่
ง ดังนั้นวิธีหนึ่งที่จะแก้ไขสถานะบ้า
ระห�านี้ได้ก็คือการให้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้ระบายพลังเวทนั้น
ออกไป มันคล้ายกับการปล่อยให้กระทิงได้อาละวาดจนเหน็ดเหนื่อย
พวกกลายพันธุ์จํานวนนับไม่ถ้วนที่อยู่นอกป้อมปราการทาร์กจะก
ลายเป็นเครื่องระบายอารมณ์เพื่อขจัดความก้าวร้าวของนอร่า
จนกระทั่
งในที่สุดเธอก็สงบสติอารมณ์ได้
แผนนี้ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด ทว่าสิ่งต่างๆ กลับไม่เป็นไปตามที่
พวกเขาคาดไว้อาการของนอร่าดีขึ้นในช่วงแรกที่มาถึงป้อมปราการทาร์ก เธอเริ่ม
ระบายความก้าวร้าวต่อพวกกลายพันธุ์ทว่าเมื่อระดับการปลุก
สายเลือดของเธอเพิ่
มมากขึน สถานการณ์กลับแย่ลง
“เธอออกไปเกือบสิบชั่
วโมงแล้ว นี่มันเกินระยะเวลาของข้าใน
สมัยก่อนไปมากแล้วนะ อธิการแคธลีน ช่วยอธิบายได้ไหมว่าทําไม
อาการของลูกสาวข้าถึงยังไม่ดีขึ้
นเลย”
หลังจากเงียบอยู่นาน เคนก็หันไปหาแคธลีนและถามพลาง
พยายามระงับความโกรธ ซึ่งอีกฝ่ายก็หยุดครุ่นคิดก่อนจะก้าวออกมา
ข้างหน้าอย่างเคารพและตอบ
“องค์หญิงนอร่ามีสายเลือดทูตสวรรค์บรรพกาล อาการขององค์
หญิงจึงรุนแรงกว่าที่ท่านเผชิญในอดีตมาก เห็นได้ชัดว่าองค์หญิงได้
สังหารศัตรูมากเป็นสองเท่าของที่ท่านเคยสังหารในตอนนั้
นเพคะ”
“แล้วทําไมเธอถึงยังไม่สงบลงเลยล่ะ! ไม่เหลือพวกกลายพันธุ์ใน
บริเวณใกล้เคียงป้อมปราการแล้วนะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอมีหวังได้
หันกลับมาโจมตีป้อมปราการทาร์กในไม่กี่วันข้างหน้านี้แทนแน่!”
เคนตบฝ่ามือลงบนโต๊ะขณะตะโกนไปด้วย ทําเอาเหล่าอธิการใน
ห้องถึงกับสั่
นสะท้านไปกับเสียงระเบิดอันโกรธเกรี้ยวของเขา ซึ่งนั่น
รวมถึงแคธลีนด้วย
ไม่มีใครคาดคิดว่าสถานะอวตารทูตสวรรค์ของนอร่าจะรุนแรงถึง
ขนาดนี้และเมื่อรู้ว่าสภาพของเธอจะยิ่งแย่ลงไปอีกก็ยิ่
งทําให้พวกเขา
สิ
้
นหวัง
‘อวตารทูตสวรรค์’ เป็นการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับสัญชาตญาณ
ของทูตสวรรค์และเป็นสภาวะที่อันตรายที่สุดที่สมาชิกตระกูลเซไซต์
จะเผชิญได้ถ้านอร่ายอมจํานนต่อสัญชาตญาณศักดิ์
สิทธิละก็ ์
เธอ
จะต้องสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปตลอดกาล
ซึ่งนั่
นไม่ใช่ผลลัพธ์ที่โบสถ์แห่งเทพีผู้สร้างสามารถยอมรับได้แน่
นอร่าได้รับการฟื้ นฟูสายเลือดทูตสวรรค์บรรพกาล ทําให้เธอ
กลายเป็นสมาชิกตระกูลเซไซต์ที่มีความสามารถมากที่สุดในรอบพันปี
ที่ผ่านมา นอกจากนี้เชื้อสายของตระกูลเซไซต์เองก็ลดน้อยลงไปมาก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ไม่มีใครสามารถคาดเดาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้หากพวกเขา
ต้องสูญเสียนอร่าไป โดยเฉพาะอย่างยิ่
งในช่วงเวลาอันวุ่นวายนี้หาก
เกิดอะไรผิดพลาดขึ้นละก็พวกเขาทั
้
งหมดที่นี่จะกลายเป็นคนบาปของ
มนุษยชาติไปเลยทันที
มันเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่
งยวด แม้กระทั่
งกับเหล่า
นักบุญผู้มากประสบการณ์
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง แคธลีนก็ก้าวไปข้างหน้าก่อนจะพูดขึ้
น
“ฝ่าบาท ดิฉันเข้าใจความรู้สึกของพระองค์องค์หญิงนอร่ากําลัง
อยู่ในตําแหน่งที่ล่อแหลม การอนุญาตให้เธอปลดปล่อยความก้าวร้าว
ต่อพวกกลายพันธุ์สามารถช่วยบรรเทาสภาพของเธอได้ในระดับหนึ่งก็
จริง แต่สายเลือดขององค์หญิงนอร่านั้
นมีพลังมากเกินไป เธอจึงไม่
สามารถขจัดสัญชาตญาณศักดิ
์
สิทธิ
์
ในตัวเธอออกไปได้ทั้
งหมดเพคะ”
“แล้วเราจะทําอย่างไรกันดี? เจ้าจะให้เธอแช่ตัวในทะเลสาบ
น�าแข็งมนตราไปตลอดกาลเลยหรือไง?”
แค่คิดว่าลูกสาวของตนต้องแช่ตัวอยู่ในทะเลสาบน�าแข็งมนตรา
อันเย็นยะเยือก เพื่อระงับพลังเวทของตัวเอง เคนก็รู้สึกราวกับว่ามีมีด
สั
้
นปักอยู่ในหัวใจ เขาเคยผ่านประสบการณ์นั้
นมาแล้ว และเขารู้ดีว่ามัน
ทรมานมากเพียงใด
เคนรู้ว่าเหล่าอธิการได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่นั่
นมันก็ยังไม่
เพียงพอ
แต่ในขณะที่เขากําลังจะก่นด่าอธิการต่อ เคนก็สังเกตเห็นใบหน้าที่
แปลกประหลาดของคนอื่นๆ
เกิดอะไรขึ้
น? เราพูดอะไรผิดไปงั้
นหรือ?
คิ
้
วบนหน้าผากขององค์ชายเคนค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน ขณะที่เขา
รอให้เหล่าอธิการตอบคําถาม ซึ่งอธิการแคธลีนก็ลังเลครู่หนึ่งก่อนจะ
พูดอย่างระมัดระวัง
“ฝ่าบาท ประสิทธิภาพของทะเลสาบน�าแข็งมนตราที่มีต่อองค์
หญิงนอร่านั
้
นมีจํากัด มันสามารถขัดขวางการบุกรุกของสัญชาตญาณ
ศักดิ
์
สิทธิ
์
ได้ก็จริง แต่มันไม่สามารถรักษาสภาพขององค์หญิงได้”
“มันรักษาสภาพของเธอไม่ได้งั้
นเหรอ? แต่เจ้ารายงานข้าว่านอร่า
อาการดีขึ
้นนี่นา!”
“อาการของฝ่าบาทนอร่าดีขึ
้
น ไม่ใช่เพราะทะเลสาบน�าแข็งมน
ตรา แต่เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้
นเพคะ”
“จดหมาย?”
องค์ชายเคนย�าคําสําคัญก่อนที่รูม่านตาจะค่อยๆ ขยายออก เขาจํา
จดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งมาจากเมืองหลวงศักดิ์
สิทธิ
์
เมื่อเช้าวันนี้ได้ดี
มันมาจากผู้สืบทอดของตระกูลแอสคาร์ด… โรเอล แอสคาร์ด มัน
อาจจะถูกส่งมาตั
้
งแต่เมื่อเดือนก่อน หากพิจารณาถึงระยะเวลาที่จะส่ง
มาถึงชายแดนตะวันออก
ย้อนกลับไปในตอนที่นอร่ามาถึงป้อมปราการทาร์ก เธอขอให้เขา
คอยรอจดหมายจากโรเอลเป็นพิเศษ และตรวจสอบให้แน่ใจว่า
จดหมายนั
้
นจะมาถึงเธอโดยเร็ว
ใครจะไปคิดว่าสถานะอวตารทูตสวรรค์ที่กลุ่มชนชั้
นนําของโบสถ์
แห่งเทพีผู้สร้างพยายามกดข่มมาตลอดแต่ไม่เป็นผล แท้จริงแล้ว
สามารถสยบได้ด้วยจดหมายเพียงฉบับเดียว?
“อาการของเธอดีขึ
้
นเพราะจดหมายฉบับนั
้
นงั
้
นเหรอ?”
“ใช่แล้วเพคะ องค์หญิงนอร่าทรงใช้เวลาตลอดทั้
งคืนในการอ่าน
จดหมายซ�าแล้วซ�าเล่า ช่วงเวลานั
้
นเองที่ระดับของสถานะอวตารทูต
สวรรค์ขององค์หญิงเริ่
มลดลง”
“…”
องค์ชายเคนตกตะลึง
อธิการคนอื่นๆ ในห้องที่ได้เห็น ‘ยาวิเศษ’ ต่างก็มีใบหน้าที่แปลก
ประหลาดเช่นกัน แคธลีนนึกถึงรูปลักษณ์ที่เธอเห็นบนใบหน้าของนอร่า
และพูดขึ
้
นอีกครั
้
ง
“ฝ่าบาท หม่อมฉันเชื่อว่าสภาพจิตใจขององค์หญิงนอร่ามี
ประสิทธิภาพในการจัดการกับสถานะอวตารทูตสวรรค์มากกว่าการ
ระบายความก้าวร้าวในสนามรบ องค์หญิงอาจจะได้ประโยชน์มากกว่า
หากได้อยู่ร่วมกับท่าน… หรือคนที่ส่งจดหมายมา”
“เข้าใจแล้ว”
เมื่อได้ยินคําตัดสินของผู้เชี่ยวชาญแล้ว องค์ชายเคนก็เงยศีรษะขึ้
น
และออกคําสั่
งด้วยความเชื่อมั่
น
“ส่งกองกําลังออกไป จงนําตัวโรเอล แอสคาร์ด มาที่นี่ให้ได้!”
…
มันเป็นเรื่องยากสําหรับโรเอลที่จะลงจากรถม้า เว้นแต่เขาจะมี
เรื่องให้จัดการจริงๆ แต่ในขณะนี้เขาได้ลงมายืนอยู่ข้างสมาชิกคนอื่นๆ
ในกลุ่ม มองดูป้อมปราการอันสูงตระหง่าน …ป้อมปราการทาร์ก
โรเอลรู้สึกสดชื่นที่ได้เห็นทิวทัศน์อันกว้างใหญ่เช่นนี้อีกครั้
ง
หลังจากใช้เวลาเดินทางผ่านภูเขาและป่าเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่ที่ยิ่
งไป
กว่านั
้
น เด็กหนุ่มรู้สึกทึ่งกับการที่ธรรมชาติได้สร้างอุปสรรค และมนุษย์
ที่ได้ใช้ประโยชน์จากสิงเหล่านี้ ่
ไกลออกไปมีภูเขาสูงชันสองแห่งที่มีป้อมปราการสีดําตั้
งตระหง่าน
อยู่ระหว่างนั
้
น ป้อมปราการถูกสร้างขึ
้
นบนภูเขา คล้ายกับโล่สีดําที่ไม่มี
วันสั่
นคลอน ป้องกันมนุษยชาติจากภัยคุกคามทั
้
งมวล
เมื่อได้เห็นจุดหมายของพวกเขา กลุ่มคนทั
้
งหมดก็อดไม่ได้ที่จะสั่
น
สะท้านด้วยความตื่นเต้น
มีคํากล่าวว่าม้าที่วิ่
งไปยังภูเขานั้
นตายด้วยความอ่อนเพลีย
อย่างไรก็ตามกลุ่มของโรเอลนั้
นเหนื่อยล้าจากการที่ต้องรับมือกับ
อุบายต่างๆ ของพวกกลายพันธุ์จึงไม่มีแรงจูงใจใดสําหรับพวกเขามาก
ไปกว่าการมีที่สําหรับพักผ่อนอย่างสบายใจ
ข่าวดีนั
้
นมาเป็นคู่
หลังจากเดินทางไปได้สักระยะหนึ่ง กลุ่มของโรเอลก็พบกับกลุ่ม
อัศวินจากป้อมปราการทาร์กที่ได้ออกเดินทางมารับพวกเขา
“ท่านโรเอล พวกเรามาจากหน่วยอัศวินที่สาม เราได้รับคําสั่
งมา
จากท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด องค์ชายเคนให้พาท่านไปยังป้อม
ปราการทาร์ก กระผมมีจดหมายจากเขาอยู่ด้วย ได้โปรดตรวจสอบ
ด้วย”
อัศวินยืนอย่างเป็นระเบียบในขณะที่ผู้บัญชาการหน่วยรบของ
พวกเขาก้าวไปข้างหน้าและยื่นซองให้โรเอล
ทั
้
งเหล่าอัครสาวกและลัทธินอกรีตต่างประหลาดใจที่ตระกูลเซ
ไซต์ชื่นชอบโรเอลมากถึงขนาดส่งหน่วยอัศวินมาคุ้มกันเขา กลับกัน
แล้วโรเอลกลับขมวดคิ้
วเมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้
น เพราะองค์ชายเคนไม่
เคยแสดงทัศนคติที่ดีต่อเขาเลย
แม้พระสังฆราชจอห์นจะแสดงการสนับสนุนอย่างเต็มใน
ความสัมพันธ์ของโรเอลและนอร่า แต่เคนผู้เป็นบิดากลับดื้อรั้
น แม้
โดยรวมแล้ว เขาจะปฏิบัติต่อโรเอลค่อนข้างดีแต่ไม่มีทางที่เขาจะส่ง
หน่วยอัศวินมาคุ้มกันแบบนี้แน่
นี่ทําให้โรเอลสังหรณ์ใจไม่ดีเขาพยักหน้ารับทราบก่อนที่จะเปิด
ซองจดหมายเพื่ออ่าน
เนื้อหาภายในนั้
นทําให้หัวใจของเขาดําดิ่
งลงไป
มันเป็นการขอความช่วยเหลือจากองค์ชายเคนที่เร่งเร้าให้โรเอ
ลรีบไปที่ป้อมปราการทาร์ก เพื่อไปหานอร่าโดยเร็วที่สุด
จดหมายระบุรายละเอียดว่าอาการทางสายเลือดของนอร่าจะไป
ถึงจุดสูงสุดภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า นี่จึงเป็นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ
สําหรับเธอ และอาจส่งผลร้ายแรงหากเธอสูญเสียการควบคุมใน
ช่วงเวลานี้และโรเอลอาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสําคัญที่สามารถ
ช่วยเหลือเธอได้
โรเอลรู้สึกสับสนหลังจากอ่านจดหมาย หากประมาณเวลาที่
จดหมายถูกส่งออกมา ก็มีแนวโน้มว่านอร่าได้มาถึงช่วงวิกฤตสําหรับ
การปลุกสายเลือดของเธอแล้วในขณะนี้
เราต้องรีบออกเดินทางในทันทีไม่งั้
นมีหวังสายเกินไปแน่
เด็กหนุ่มไม่กล้าที่จะเสียเวลาอีกต่อไป เขามอบหมายให้กองทัพ
นอกรีตทําตามคําสั่
งของแฮงค์ก่อนจะติดตามอัศวินไปยังป้อมปราการ
ทาร์ก ด้วยความวิตกกังวลที่รุมเร้าในใจ เขาเร่งม้าให้ควบห้อไปให้ไว
ที่สุด
ขณะเดียวกันภายในป้อมปราการทาร์กอันไกลโพ้น ทะเลหมอกที่
พลิ
้
วไหวก็เริ่
มลอยขึ
้นมาจากพื้นดิน ค่อยๆ กลืนกินทุกสิ่
งที่อยู่ภายในนั้
น
ไป