ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 537: ดีแล้วที่เธอเป็นเธอ (1)
ในห้อง เด็กหนุ่มผมดํามองไปยังเด็กสาวที่แย้มยิ้มอยู่ตรงหน้า ดวงตาสีทองของเขาค่อยๆ เบิกกว้าง ก่อนจะเงียบไปพักหนึ่ง
สถานการณ์ของลิเลียนไม่ได้ดีอย่างในเนื้อเรื่องหลักของเกมอาย ออฟโครนิเคิล นี่เป็นข้อเท็จจริงที่โรเอลรู้มานานแล้ว แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้ คิดฝันว่าการที่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของทั้งคู่จะถูกเปิดโปง แม้จะยัง อยู่แค่ในระดับน่าสงสัยก็ตาม ทว่ากลับส่งผลเสียขึ้นมาแล้ว!
ไปรบที่แนวหน้าในสงครามกับพวกกลายพันธุ์ นี่พูดได้ว่าเป็นการ ลงโทษที่หนักหนาเอาการ โดยเฉพาะในเวลานี้
ในช่วงแรกเริ่มของสงคราม พวกศัตรูยังไม่รู้ข้อมูลของกันและกัน มากนัก ดังนั้นแน่นอนว่าจะมีความผิดพลาดในการป้องกันเกิดขึ้น อันที่ จริงถ้าตัดสินจากจดหมายเหตุในประวัติศาสตร์แล้ว ช่วงเวลานี้เป็นช่วง ที่เป็นไปได้ที่สุดที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การตายส่วนมากเกิดขึ้น ในช่วงนี้ และความอันตรายก็สูง
“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้บอกเธอจนตอนนี้ แต่ว่ามันเป็นความผิดของ ฉันจริงๆ เธอไม่ได้ผิดอะไรเลยโรเอล ฉะนั้นอย่าโทษตัวเองเลยนะ”
“รุ่นพี่…”
“แต่แรกแล้ว ระยะห่างระหว่างเราสองคนมันไกลมาก ตอนแรกฉัน คิดว่าเวลาที่เราใช้ในสถาบันนั้นน่าจะสามารถถนอมไว้ได้สักสองปี แต่ สุดท้ายแล้วความเลินเล่อของฉันก็ทําให้ทุกอย่างพังหมด…”
“…”
เมื่อมองใบหน้าที่ยิ้มอย่างเศร้าสร้อยของลิเลียน และฟังเสียงของ เธอที่เต็มไปด้วยการโทษตัวเอง เด็กหนุ่มผมดําจึงกํามือแน่น หัวใจของ เขาลุกโชนด้วยโทสะที่คุมไม่ได้ แต่ต่างจากเดิม ส่วนหนึ่งที่หัวใจของเขา โกรธคือตัวเขาเอง
เพราะเด็กสาวผมดํานั้นฉลาดและพึ่งพาได้ และระดับแก่นแท้ของ เธอก็เหนือล�ากว่าโรเอลเสมอ เด็กหนุ่มแทบไม่ได้ห่วงอะไรลิเลียน และ กระทั่งพึ่งพาเธออย่างไม่รู้ตัวด้วยซ�า เขาไม่ได้ใส่ใจเธอมากพอ คิดอีกที ตั้งแต่ที่เขากับลิเลียนพบกันมา โรเอลเอาแต่ขอความช่วยเหลือจากเธอ ตลอดเลยไม่ใช่หรือ?
ไม่ว่าจะเป็นนอร่าหรือชาร์ล็อต พวกเธอก็ถูกปกป้องด้วยการต่อสู้ ของเด็กหนุ่ม แต่ลิเลียนนั้นเป็นคนเดียวที่ต่างออกไป แม้จะเป็นในเศษ เสี้ยวแห่งประวัติศาสตร์ที่อันตรายนั่น ลิเลียนก็ยังเป็นคนที่เสียหายหนัก ที่สุด
ทว่าถึงอย่างนั้น เด็กสาวก็ไม่เคยปริปากบ่นกับโรเอลสักคํา เธอ ปฏิบัติกับเด็กหนุ่มราวกับที่เธอถนอมสมบัติที่มีค่าที่สุดของเธอ และ พยายามอย่างหนักเพื่อทําทุกอย่างราวกับพี่สาวแท้ๆ รับความเสี่ยง มโหฬารเพื่อยอมรับเขา ดูแลเขา และกระทั่งยอมให้ตัวเองตกอยู่ใน สถานการณ์ที่ย�าแย่เหมือนดิ่งลงเหวเช่นตอนนี้
เพราะเหตุผลของเขาเอง ลิเลียนจึงต้องมาเจอสถานการณ์ลําบาก แบบนี้ ซี่งเป็นสิ่งที่โรเอลยอมรับไม่ได้ และในขณะเดียวกัน โรเอลก็ เกลียดคนที่ผลักเด็กสาวเข้ามาในเหตุการณ์นี้ด้วย
ลูคัส แอคเคอร์มันน์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่จักรพรรดิแห่ง จักรวรรดิออสทีนเพิกเฉยต่อคําขอและความปลอดภัยของลิเลียน … เรื่องนี้ทําให้โรเอลโกรธอย่างสุดขั้วและยากที่จะปล่อยวาง!
ต้องบอกว่าไม่ว่าจะมองจากมุมมองไหน ลูคัส จักรพรรดิแห่ง จักรวรรดิออสทีนนั้นก็ไม่ใช่ศัตรู ทรัพยากรมหาศาลที่เขาควบคุมอยู่ ไม่ใช่สิ่งที่โรเอลในขณะนี้จะสามารถสู้รบปรบมือด้วยได้ แต่ถ้าหากว่า เพื่อลิเลียนแล้วล่ะก็ เด็กหนุ่มจะยอมทิ้งชีวิตสงบสุขแล้วทําในสิ่งที่เขา ไม่เคยทํามาก่อน
โรเอลผู้คิดเช่นนั้นดูเคร่งขรึม และลิเลียนดูจะเดาความคิดของเขา ได้ ดวงตาสีม่วงของเด็กสาวสั่นไหวก่อนที่เธอจะลุกขึ้นเดินไปหาโรเอล มองหน้าเขา และโน้มตัวลงไปกอดเด็กหนุ่มเอาไว้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“หน้าตาจริงจังแบบนั้น เธอกําลังคิดว่าเธอจะช่วยพี่สาวของเธอ ยังไงอยู่ใช่ไหม?”
“…”
ฟังคําถามของลิเลียนแล้ว เด็กหนุ่มผมดําก็เงียบไป และเมื่อลิเลียน เห็นท่าทางของเขา แววตาของเธอก็อ่อนโยนลงอีก เด็กสาวลูบแก้มของ โรเอลเบาๆ ด้วยดวงตาหรี่ปรือจากความสุข แล้วเธอก็กระซิบบอกเขา
“เธอคิดแบบนั้นได้นะ พูดตรงๆ คือฉันดีใจมากเลย แต่ฉันต้องบอก เธอว่าความต้องการเดียวของฉันคือเธอจะมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยและ แข็งแรงดีในเวลาที่ยากลําบากข้างหน้า ฉันขอแค่นี้แหละ”
“รุ่นพี่…”
“แล้วก็จากสถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ในแง่ร้ายหรอก ถึงฉันจะ บอกว่าเราอาจจะพบกันอีกครั้งได้ยาก แต่ก็ไม่ใช่ตลอดไปสักหน่อย แม้ว่าท่านพ่อลูคัสจะไม่ให้เราเจอกัน แต่มันจะมีข้อจํากัดแน่ๆ”
“คุณหมายถึง…”
องค์หญิงตาสีม่วงปรือตาลงเล็กน้อย ลูบผมของเด็กหนุ่มผมดํา แล้วพูดด้วยใบหน้ากึ่งจริงจัง
“เวลาน่ะ นี่คือสิ่งที่เราต้องการที่สุดในตอนนี้ ตราบใดที่ฉันมีเวลา เติบโต ไม่ว่าอุปสรรคจะเป็นอะไร พี่สาวคนนี้จะไม่มีวันล้ม และจะ กลับมาหาเธอแน่นอน ฉันสัญญา”
“!”
คําพูดอันคล้ายสัจจะวาจาสะท้อนในหูของเขา ทําให้เด็กหนุ่มผม ดําเบิกตาขึ้นเล็กน้อย เขาจ้องไปที่เด็กสาวผู้อ่อนหวานตรงหน้าเขา โร เอลไม่สามารถซ่อนความซาบซึ้งและไม่ยินยอมพร้อมใจไว้ในใจได้อีก แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปกอดลิเลียนไว้ในอ้อมแขน
องค์หญิงแห่งออสทีนตกใจเล็กน้อยกับการเคลื่อนไหวฉับพลันของ โรเอล แต่หลังจากตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่งแล้วเด็กสาวก็ตอบสนอง ทั้งคู่ กอดกันอยู่นาน ดื่มด�าไปกับความรักใคร่อันล�าลึกและความรู้สึกที่ปนเป
“…ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าทําไมรุ่นพี่ไม่ได้เกิดในตระกูลแอสคาร์ด”
“เอ๋?”
“ถ้าผมเกิดในตระกูลแอสคาร์ดแล้วเจอคุณตั้งแต่เด็ก ผมคง กลายเป็นไอ้บื้อที่พึ่งพาแต่คุณทุกเรื่องแน่ๆ เลย”
“ฮิๆ ถึงฉันจะอยากให้เธอพึ่งพาฉันแบบนั้นจริงๆ ก็เถอะ แต่…ต่อ ให้ฉันเกิดในตระกูลแอสคาร์ดแล้วเป็นพี่สาวเธอจริงๆ เธอก็จะไม่เป็น คนแบบนั้นหรอก”
“…ทําไมล่ะ?”
ฟังลิเลียนพูดแล้ว เด็กหนุ่มผมดําก็เอียงคออย่างไม่เข้าใจ แล้วเด็ก สาวก็ลูบไปบนแก้มของเขาแล้วระลึกถึงสิ่งที่พวกเธอประสบด้วยกันมา
“เพราะเธอเป็นคนแบบนี้ไงล่ะ ถ้าเธอสามารถทิ้งความรับผิดชอบ ทั้งหมดได้ เธอจะมีชีวิตที่เรียบง่ายกว่าตอนนี้เยอะเลย นั่นเพราะว่าเธอ ไม่สามารถเลือกจะทําแบบนั้นได้ ดังนั้นเธอเลยเป็นเธอไงล่ะ”
“…รุ่นพี่”
“แล้วก็ ถึงการโตมาด้วยกันกับเธอจะเป็นสิ่งที่ฉันฝันถึง แต่ฉันก็ ยินดีที่สายเลือดของเราต่างกันนะ เพราะยังไง…บางอย่าง พี่น้องจริงๆ ก็ถูกจํากัดอยู่นะ “
“!”
เด็กสาวผมดําหน้าแดงแล้วกระซิบเบาๆ ทําให้โรเอลร่างสะท้าน เล็กน้อย แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะทันมีปฏิกิริยา ลิเลียนก็ลุกขึ้นแล้ว
“ดังนั้นปล่อยให้ฉันจัดการงานนี้เถอะ ฉันอยากจะทําอะไรให้เธอ ก่อนจะต้องไป เธอสัญญากับฉันได้ไหม?”
“เอ๋? อ่า อื้อ เข้าใจแล้ว”
ฟังคําถามที่ชัดเจนว่าต้องการเปลี่ยนเรื่องของลิเลียนแล้ว เด็ก หนุ่มผมดําก็ไม่ตอบสนองไปชั่วขณะ เขาเงยหน้าขึ้นจ้องสบกับดวงตาสี ม่วงของเด็กสาว แล้วพลันคิดขึ้นว่าใบหน้าของลิเลียนก็แดงอยู่เช่นกัน
รุ่นพี่เขินอยู่เหรอ?
โรเอลเบิกตากว้างเมื่อเห็นภาพความเขินอายของราชินีน�าแข็งที่ หาดูได้ยาก แล้วการเกราะป้องกันทางจิตใจก็พังทลาย เขาทําได้เพียง ตอบตกลงคําขอของเด็กสาวอย่างร้อนรน และหลังจากตกลงกันได้ ลิ เลียนก็ดูจะทนความเขินไม่ไหว การลอบพบกันกับโรเอลเลยจบอย่าง รวดเร็ว
——————————
หลังจากเดินออกมา สายลมที่พัดโชยก็ทําให้เด็กหนุ่มผมดําใจเย็น ลงนิดหน่อย และเมื่ออุณหภูมิในใจของเขาลดลง โรเอลก็ค่อยๆ เข้าใจ แผนการของลิเลียน
“ต้องบอกว่าเธอจงใจทําแบบนั้น เพราะเรารีบตอบตกลงปล่อยเธอ ไปทํางานเพราะความลนลาน แต่หลังจากเราพูดจบเธอก็ดูเขิน…”
แสดงว่าคําพูดของเธอมีเจตนาอื่นแฝงเร้นอยู่งั้นเหรอ?
“ไม่ๆๆ ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น”
เด็กหนุ่มผมดําที่กําลังพูดกับตัวเองกุมขมับ สูดลมหายใจลึกๆ สอง ครั้งเพื่อสงบจิต แล้วไตร่ตรองคําพูดของลิเลียนอย่างถี่ถ้วน ต้องบอกว่า ครั้งนี้สถานการณ์ของลิเลียนไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอพูด และนั่นคือเหตุที่ เธอใช้อุบายอย่างที่ไม่ค่อยได้ใช้ แต่ที่จริงแล้ว โรเอลก็ไม่มีวิธีที่จะหยุดลิ เลียนได้จริงๆ หรอก
หลังจากภารกิจของกองกําลังพันธมิตรถูกเผยแพร่ในสถาบัน ลิ เลียนสามารถรับภารกิจได้โดยตรงโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากโรเอล ดังนั้นสถานการณ์ในตอนนี้จึงไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเด็กหนุ่มเลย แต่ลิเลียนหวังว่าโรเอลจะควบคุมตัวเองแล้วอยู่ให้ห่างจากภารกิจไว้ ทว่าเด็กสาวก็ต้องผิดหวัง
ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นเลย เพราะแค่ลิเลียนอยู่เพียงลําพัง โรเอลก็ต้อง ตามไปอยู่แล้ว
โรเอลไม่ได้สมองเสื่อมและไม่ใช่คนไข้ความจําเสื่อม คําเตือนของ เลย์ตันเมื่อไม่กี่เดือนก่อนยังคงก้องในหู ในหมู่พวกมัน คําเตือนที่ว่าผู้
ร่วงหล่นอาจจะโจมตีคนอื่นที่ร่วมสายเลือดของแอสคาร์ดได้ โรเอลจึง สนใจมันเป็นพิเศษ
ในตอนนี้ที่จักรพรรดิลูคัสแห่งจักรวรรดิออสทีนสงสัยในตัวลิเลียน สายเลือดของเด็กสาวอาจจะถูกเปิดโปงไม่มากก็น้อย และเป็นไปได้ที่ เธอจะถูกจับตามองจากพวกผู้ร่วงหล่น ในขณะเดียวกัน หลังจาก ภารกิจนี้จบลง ลิเลียนก็ต้องไปกองรบแนวหน้า ต้องบอกว่าเวลาที่ทั้ง สองจะใช้ร่วมกันได้นั้นเหลือน้อยเต็มที
“…”
คิดเรื่องที่ลิเลียนกําลังจะต้องไปเผชิญอันตรายที่ทิศตะวันออกแล้ว หัวใจของโรเอลก็สงบไม่ได้อยู่นาน สถานการณ์อันตรายช่วงต้นสงคราม นั้นเป็นที่รู้กันดี มันยากจะจินตนาการว่าบุคคลที่มีความรู้สึกปกติคน หนึ่งจะทําเรื่องแบบนี้ได้
แน่นอนว่าการเสียเปรียบในช่วงต้นสงครามนั้นก็นํามาซึ่งโอกาส ต่างๆ ด้วย หากเราสามารถผ่านช่วงเวลานี้ได้อย่างราบรื่นได้ เราก็จะ กลายเป็นกองทัพพันธมิตรระดับสูงไปจนจบสงคราม นี่คือการคัดเลือก ที่ว่า บุคคลผู้กรําศึกตั้งแต่ต้นจนจบย่อมได้รางวัลที่สูงตามไป
ล่าสุดนี้ลิเลียนได้เลื่อนระดับแก่นแท้ขึ้นไปถึงระดับแก่นแท้ 2 ความแข็งแกร่งในระดับนี้ก็นับเป็นขุมพลังระดับสูงของกองทัพ
พันธมิตร ตราบใดที่เธอสามารถสร้างผลงานได้ในสนามรบ สถานการณ์ ภายในจักรวรรดิออสทีนก็คงเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
เทียบกับสถานการณ์ที่ย�าแย่ที่สุดแล้ว ทุกอย่างนั้นดูจะปรับเปลี่ยน ได้ยาก
คิดเช่นนี้แล้ว เด็กหนุ่มผมดําก็ลอบภาวนาในใจ แล้วโรเอลเองก็เริ่ม เตรียมตัวสําหรับภารกิจถัดไปของเขา