ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 445 ลุยเลยเจ้ากุ้ง
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 445 ลุยเลยเจ้ากุ้ง
กุ้งตัวนั้นหายไปไหนแล้ว
ดวงตาของหนานกงเสวียนอิงเปี่ยมด้วยจิตสังหารเมื่อพบว่าลำแสงสีทองหายไป
เสมือนว่าลำแสงสีทองนั้นไม่เคยปรากฏตั้งแต่แรก
ทันใดนั้นตัวของหนานกงเสวียนอิงก็สั่นสะท้านเพราะรู้สึกได้ถึงเงายักษ์ที่เข้าปกคลุมร่างกาย เงานั้นเปล่งรัศมีอำมหิตยิ่งยวด
เกิดอะไรขึ้นกัน
สีหน้าของหนานกงเสวียนอิงเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เขาเงยหน้ามองฟ้าแล้วเห็นสัตว์ประหลาดสีทองตัวมโหฬารบดบังท้องฟ้าจนมืดมิด
หยดน้ำสาดกระเซ็นไปทั่วเพราะฝนตกกระทบสัตว์ประหลาดสีทองตัวมหึมา
โฮก!
เสียงคำรามดังกึกก้อง
เจ้ากุ้งน้อยขยายร่างให้มีขนาดมหึมาอย่างฉับพลันและเหนือความคาดฝัน รัศมีกดดันของมันทำให้ดวงตาของหนานกงเสวียนอิงสั่นระรัวร่างทั้งร่างสั่นเทิ้ม
ปู้ฟางอึ้งไปเมื่อเห็นกุ้งตั๊กแตนขยายขนาดให้ใหญ่โตมโหฬารได้ในพริบตา เขาไม่เคยนึกฝันว่าเจ้ากุ้งที่เอาแต่นอนอยู่บนไหล่จะเปลี่ยนร่าง… ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้
เจ้านี่น่าอัศจรรย์ไม่เบา ก้ามที่แหลมคมของมันใหญ่มหึมา เวลามันโบกก้ามแต่ละทีเหมือนจะตัดพื้นให้ขาดเป็นชิ้นๆ ได้
หนานกงเสวียนอิงรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ร่างกายของเขาส่องประกายวูบไหวขณะพุ่งทะยานออกไปไกล
ปัง! ปัง!
เจ้าขาวเองยังตกตะลึงเล็กน้อย แสงที่ผันผวนไปมาในดวงตาของมันหายวับไปแล้วและกลับเป็นสีเทาดังเดิม มันเอาฝ่ามือตบพื้นจากนั้นก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
ร่างของเจ้ากุ้งดูเหมือนมังกรยักษ์สีทอง เวลาขยับตัวแต่ละทีเปลือกแต่ละชิ้นจะกระทบกันจนเกิดเสียงดังกังวาน เจ้ากุ้งหมุนตัวแล้วให้เจ้าขาวที่เหาะขึ้นมากลางอากาศเกาะหลัง
จากนั้นเจ้ากุ้งก็กลอกตาปูดโปนแล้วโบกก้ามก่อนจะแผดเสียง
หึ่ง…
เจ้ากุ้งปล่อยแสงสีทองสลัวออกมาห่อหุ้มตัวของเจ้าขาวและตัวเองไว้
ดวงตาสีเทาของเจ้าขาวเริ่มส่องแสงวูบวาบ วงแหวนปราณบนตัวเรืองแสงอีกครั้ง
“นี่อะไร ละครคั่นเวลารึ”
หลังจากยืนปักหลักได้แล้วเห็นกุ้งยักษ์สีทองให้หุ่นเชิดตัวนั้นขี่หลัง หนานกงเสวียนอิงก็มีสีหน้าประหลาดใจ เขาทั้งอึ้งและทึ่งกับภาพที่เห็น
ดวงตาของปู้ฟางเป็นประกายเล็กๆ ขณะมองเจ้าขาวและเจ้ากุ้ง
เจ้าสองตัวนี้ร่วมมือกันได้อย่างไม่คาดฝัน และเป็นอีกครั้งที่เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เขานึกเองเออเองมาตลอดว่าเจ้ากุ้งไม่มีประโยชน์อื่นใดนอกจากช่วยปรับปรุงรสชาติและเนื้ อสัมผัสของอาหารให้ดีขึ้นด้วยการลงไปว่ายในกระทะ
กลายเป็นว่าเขาเข้าใจผิดไป
เจ้ากุ้งยังสามารถแปลงร่างได้อย่างไม่น่าเชื่อด้วย
“เปล่าประโยชน์… พวกเจ้าอ่อนแอเกินไป”
หนานกงเสวียนอิงไม่สนใจพวกมัน เขาแผดเสียงดังพลางปลดปล่อยพลังปราณเที่ยงแท้ในร่างออกมา มันกลายร่างเป็นเหยี่ยวปีกสั้นที่สยายปีกแล้วทะยานขึ้นฟ้า ลำตัวของเหยี่ยวปีกสั้นถูกต ตรึงด้วยโซ่เย็นเยียบสองเส้น
ปัง!
คลื่นพลังพุ่งออกจากร่างของหนานกงเสวียนอิงแล้วกวาดต้อนไปทั่วบริเวณ
“ไพ่ตายของเจ้ารึ ข้าจะฉีกมันเป็นชิ้นๆ จนเจ้ารู้สึก… สิ้นหวัง”
ทันทีที่เสียงของเขาดังขึ้น หนานกงเสวียนอิงก็พุ่งตัวด้วยความเร็วอย่างยิ่งยวด มันเหนือกว่าความเร็วเสียงและทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไม่หยุดหย่อน
หนานกงเสวียนอิงมาโผล่ตรงหน้าเจ้ากุ้งยักษ์ทันที
เจ้ากุ้งที่แบกเจ้าขาวเอาไว้ทำตาโตพลางจ้องมองอีกฝ่าย มันแกว่งขาเล็กๆ นับไม่ถ้วนกลางอากาศ พลางพุ่งทะยานเข้าใส่ด้วยความเร็วเหลือเชื่อ
ความเร็วของมันไม่ได้ช้ากว่าหนานกงเสวียนอิงแม้แต่น้อย
ดวงตาของหนานกงเสวียนอิงหดเกร็ง เขาปล่อยหมัดน่าเกรงขามที่เหมือนจะแปรเปลี่ยนเป็นภาพปีศาจร้องคำรามเข้าใส่เจ้ากุ้ง หมัดนั้นปล่อยความผันผวนน่าสะพรึงกลัวออกมาและเหมือนจะฉีกเจ้ากุ งเป็นชิ้นๆ ได้
คลื่นผันผวนรุนแรงระเบิดออกมาเมื่อแสงสีทองพุ่งออกจากหลังของเจ้ากุ้ง แสงนั้นดูราวกับว่าสามารถฉีกอากาศเป็นริ้วๆ ได้
ตู้ม!
มันคือการระเบิดของพลังปราณจากวงแหวนปราณปืนใหญ่
เจ้าขาวบนหลังของเจ้ากุ้งมีเยื่อแสงสีทองสลัวห่อหุ้มตัว วงแหวนปราณบนร่างของมันก็ปล่อยแสงสีทองออกมาเช่นกัน มิหนำซ้ำพลังปราณที่ระเบิดออกมาจากวงแหวนปราณยังปกคลุมด้วยเยื่อแสงส สีทองด้วย
พลังหมัดของหนานกงเสวียนอิงขาดวิ่นและกระจัดกระจายเมื่อปะทะเข้ากับคลื่นพลังปราณที่ระเบิดออกมา คลื่นนั้นปล่อยเสียงดังสนั่นหวั่นไหวแล้วเข้าประชิดตัวเขาอย่างรวดเร็ว
“รวดเร็วเหลือเกิน เหตุใดแรงระเบิดของวงแหวนปราณปืนใหญ่จึงเร็วขึ้นกว่าเดิม”
หนานกงเสวียนอิงขนลุกขนชันไปทั้งตัว ก่อนหน้านี้เขามองวงแหวนปราณปืนใหญ่ของเจ้าขาวเป็นเพียงเสี้ยนน่ารำคาญ แต่ตอนนี้พลังของมันค่อนข้างน่าสะพรึงกลัว เขาหลบไม่พ้นด้วยซ้ำ และทำได้ เพียงสร้างม่านพลังออกมาเพื่อพยายามปัดป้อง
ปัง!!!!
ทุกคนในเมืองหมอกนภาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองที่มาของการระเบิดอย่างรุนแรง แสงสีทองทะยานขึ้นสู่ฟ้า พร้อมคลื่นพลังอันน่าเกรงขามซึ่งกวาดต้อนไปทั่วบริเวณ
แม้แต่ปู้ฟางยังตื่นตกใจเมื่อเห็นแสงเจิดจ้าตรงหน้า ชายหนุ่มแอบหายใจไม่ทั่วท้องอย่างไม่รู้ตัว
หลังจากฝุ่นควันจางไป บริเวณโดยรอบที่มีสภาพย่ำแย่ก็ถูกเผยออกมา พื้นดินทั้งหมดพังทลายมีเศษหินแตกกระจายบินว่อน
ช่างเป็นพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ
เหตุใดพลังของวงแหวนปราณปืนใหญ่จึงเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
จู่ๆ ปู้ฟางก็คิดบางอย่างขึ้นได้ ทำเอาดวงตาของเขาเบิกกว้าง
นอกเหนือจากเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสของอาหารแล้ว เจ้ากุ้งยังสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ได้ใช่หรือไม่
เยื่อแสงสีทองนั่นน่าจะเป็นตัวที่ช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้
เมื่อคิดได้เช่นนั้น สายตาที่ปู้ฟางใช้มองเจ้ากุ้งก็มีแต่ความสนเท่ห์ แท้จริงแล้วมันคือตัวอะไรกันแน่ ตัวประหลาดอะไรกันที่โผล่ออกมาจากตาผลึกซึ่งถูกเขาผ่า
หลังควันจางลง ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
สภาพของหนานกงเสวียนอิงน่าเวทนายิ่ง เขาไม่เคยคิดว่าพลังของวงแหวนปราณปืนใหญ่จะร้ายกาจถึงเพียงนี้ เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดเพราะแรงระเบิด ผิวหนังไหม้เกรียม ดูน่ากลัวไม่น้อย
ม่านพลังปราณเที่ยงแท้ของเขาแตกสลายเมื่อปะทะกับแรงระเบิด มันไม่อาจต้านทานได้แม้แต่น้อย
ช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ
หนานกงเสวียนอิงเงยหน้าขึ้นขณะที่เลือดไหลออกจากรูจมูกช้าๆ
เจ้าขาวยืนบนหลังเจ้ากุ้งอย่างภาคภูมิ ชุดเกราะที่ใช้คลุมร่างเปล่งแสงสีทองออกมา ปีกโลหะของมันกางออก
เกิดเสียงดังสนั่นเมื่อพลังระเบิดเริ่มควบแน่นอีกครั้งบนวงแหวนปราณปืนใหญ่ตรงพุงของเจ้าขาว
ฟ้าว!
พลังระเบิดพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของมันทำให้หนานกงเสวียนอิงหวาดผวา
หลบดีไหม ไม่ ข้าไม่มีทางหลบพ้นแน่
หนานกงเสวียนอิงสร้างม่านกำบังจากพลังปราณเที่ยงแท้อีกครั้งและหมายมั่นจะต้านทานการโจมตีครั้งนี้ให้ได้
เสียงระเบิดดังกึกก้อง ปรากฏเป็นแสงสว่างเจิดจ้า คลื่นความผันผวนรุนแรงและหนาแน่น
ร่างของหนานกงเสวียนอิงปลิวไปไกล
ปัง!!!!!
ถึงตอนนี้เจ้าขาวก็กลายสภาพเป็นหุ่นปืนใหญ่ไปเสียแล้ว วงแหวนปราณปืนใหญ่ที่พุงของมันระเบิดออกมาอีกระลอก แรงระเบิดแต่ละครั้งเหมือนจะฉีกอากาศเป็นริ้วๆ ได้
ณ จุดนี้ หนานกงเสวียนอิงเริ่มหมดหวังแล้ว
น่าละอายเหลือเกิน!
เขาไม่อาจต้านทานวงแหวนปราณปืนใหญ่ แรงระเบิดแต่ละครั้งของมันเทียบเท่าการบุกของยอดฝีมือชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ที่ทำลายโซ่ตรวนขั้นเซียนเทพได้สองชิ้น
เช่นนั้นแล้วเขาจะปัดป้องได้อย่างไร
เขาอยากปัดป้องมันให้ได้ เขาพยายามแต่กลับล้มเหลว
ควันหนาแน่นเริ่มลอยออกมาจากวงแหวนปราณปืนใหญ่ตรงพุงของเจ้าขาวหลังจากถล่มยิงอย่างต่อเนื่องหลายสิบครั้ง ประหนึ่งว่าวงแหวนปราณถึงขีดจำกัดแล้ว จากนั้นมันก็แตกร้าวทันที
แสงสีทองจากตัวของเจ้ากุ้งเริ่มริบหรี่ก่อนจางหายไป ร่างยักษ์ของเจ้ากุ้งที่เหมือนมังกรยักษ์สีทองค่อยๆ หดลงจนกลับคืนสู่ขนาดปกติ มันนอนนิ่งอยู่บนศีรษะกลมมนของเจ้าขาว
ชั้นดินทั้งหมดถูกแรงระเบิดอัดกระจายจากพื้น ร้านรวงแถวนั้นพังพินาศย่อยยับ
อั่ก!
หนานกงเสวียนอิงคลานขึ้นจากพื้นช้าๆ ก่อนจะกระอักเลือดออกมา พลังรัศมีของเขาอ่อนแอยิ่ง
เขารอดตายอย่างเหลือเชื่อ… สมแล้วที่ทำลายโซ่ตรวนขั้นเซียนเทพได้ถึงสองชิ้น หนานกงเสวียนอิงกับร่างโชกเลือดเงยหน้าขึ้นขณะกระอักเลือดออกมาอีกระลอก ทว่ารัศมีของเขากลับอ่อน ระโหยโรยแรงยิ่งนัก
“ฮ่าๆๆๆ เจ้าไม่เหลือไพ่อะไรในมือแล้ว! ไม่ยิงข้าอีกล่ะ เอาสิ ยิงเลย”
หนานกงเสวียนอิงโงนเงนเล็กน้อยก่อนจะยืนได้อย่างมั่นคง ดวงตาของเขาเบิกกว้างแล้วเริ่มหัวเราะอย่างสะใจ
ปู้ฟางยืนพิงประตูร้านมองอีกฝ่ายอย่างไร้ความรู้สึก
แสงสีทองจากตัวของเจ้าขาวที่อยู่บนฟ้าริบหรี่ลงแล้ว แต่เยื่อสีทองยังห่อหุ้มร่างของมันอยู่
เห็นชัดว่าหลังจากเจ้ากุ้งตัวหดเล็กลง ความสามารถในการเพิ่มพลังการต่อสู้ก็เริ่มถดถอย
กระนั้นเท่าที่เหลือก็ยังนับว่ามากพอ
เจ้าขาวกระพือปีกโลหะบนหลังจนทำให้เกิดเสียงดังสนั่น มันพุ่งตัวมาปรากฏตรงหน้าหนานกงเสวียนอิง
รูม่านตาเขาหดเกร็งพลางยกมือขึ้นเพื่อปัดป้องการบุกของเจ้าขาว
ทั้งสองฝ่ายเริ่มซัดกันเป็นพัลวัน
ปัง! ปัง! ปัง!
ขณะตั้งรับการโจมตีอย่างรุนแรงของเจ้าขาว หนานกงเสวียนอิงก็ถูกบีบให้ถอยร่นอยู่ฝ่ายเดียว เขาบาดเจ็บ บาดเจ็บสาหัส เป็นเรื่องยากที่จะป้องกันตัวได้ แต่ถึงปัดป้องไม่ไหว เขาก็ ยังพยายามเพราะไม่อยากตาย
หนานกงเสวียนอิงคำรามอย่างโกรธแค้นแล้วเหวี่ยงหมัดออกไปประสานงากับหมัดของเจ้าขาว แรงปะทะทำให้เกิดคลื่นพลังกวาดต้อนไปทั่วบริเวณ
ดวงตาของเจ้าขาวกะพริบแสงเบาๆ หลังจากปัดป้องหมัดได้ มันขยับมืออย่างรวดเร็วแล้วคว้าหมับที่คอของหนานกงเสวียนอิง จากนั้นก็จับเขาฟาดพื้นอย่างรุนแรง
เศษหินปลิวว่อนเมื่อหมัดแล้วหมัดเล่ากระหน่ำเข้าใส่ ทำให้พื้นดินทั้งหมดเริ่มสั่นไหว
โครม!
เกิดเสียงสนั่นหวั่นไหวเมื่อพื้นถนนยุบตัวลงเพราะการบุกของเจ้าขาว วงแหวนปราณของเมืองหมอกนภาไม่มีเวลาที่จะซ่อมแซมได้ทัน
หนานกงเสวียนอิงฟุบกับพื้นอย่างอ่อนแรงเหมือนซากสุนัข เขาไม่สามารถขยับตัวได้อีก
เจ้าขาวยืนขึ้นกางปีกออก ท่วงท่าน่าเกรงขามของมันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้… เจ้าฆ่าข้าไม่ได้หรอก! แค็ก แค็ก!”
หนานกงเสวียนอิงรีบคลานขึ้นจากพื้นระหว่างที่กระอักเลือด เขากินโอสถทิพย์อีกครั้ง มันคือโอสถทิพย์สีฟ้า พลังรัศมีบนร่างเริ่มฟื้นตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาเริ่มหัวเราะอย่างตื่นเต้นพลางมองเจ้าขาว เจ้ากุ้งและปู้ฟางด้วยแววตาบ้าคลั่ง
“ฮ่าๆๆ ข้ามีโอสถทิพย์สองแต้มในมือ… เจ้าเอาชีวิตข้าไม่ได้หรอก”
หนานกงเสวียนอิงรู้สึกปวดใจเล็กน้อยที่ต้องกินโอสถทิพย์ราคาแพงเช่นนี้
คลื่นพลังกวาดต้อนไปทั่วบริเวณ ท่วงท่าของหนานกงเสวียนอิงเริ่มน่าเกรงขามและทรงพลังขึ้นทีละน้อย
ดวงตาของเจ้าขาววูบวาบขณะปลดปล่อยพลังรัศมีออกมาหมดทั้งตัว
เจ้ากุ้งที่นอนอยู่บนศีรษะของเจ้าขาวยืนขึ้น มันกลอกตาพลางจ้องไปยังหนานกงเสวียนอิง
ครู่ถัดมาเสียงกรีดร้องก็ดังลั่นเมื่อแสงสีทองเจิดจ้าทะลวงใส่ร่างของหนานกงเสวียนอิง ทำให้เสียงหัวเราะของเขาหยุดไปทันที
เจ้ากุ้งลอยตัวกลางอากาศ โบกก้ามและขยับเท้าจำนวนมากไปมา มันกลายร่างเป็นลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนทะลวงใส่ร่างของหนานกงเสวียนอิงไปมาอย่างรวดเร็วจนพรุนไปทั้งตัว
หนานกงเสวียนอิงถูกทะลวงจนตัวพรุนเหมือนตะแกรงร่อนแป้ง