ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 11 บทที่ 304 ดวงดารานับหมื่น มีเพียงดวงที่อยู่ในแววตาที่สว่างที่สุด
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 11 บทที่ 304 ดวงดารานับหมื่น มีเพียงดวงที่อยู่ในแววตาที่สว่างที่สุด
ทั้งสองคนออกจากหมู่บ้าน มุ่งหน้าไปในตัวเมือง
เซียวยวี่รู้ว่านางจะขายถั่วแระ แต่กลับคิดไม่ถึงว่านางจะขายถั่วแระที่ต้มสุกแล้ว
“ทำไมเจ้าถึงคิดจะขายถั่วแระ? ” ทั้งสองคนแทบไม่พูดคุยกันตลอดทาง เซียวยวี่ทนไม่ไหว จึงเอ่ยถามเอง
เซี่ยยวี่หลัวกำลังเดินทางอย่างตั้งอกตั้งใจ จู่ๆ เซียวยวี่ก็ขยับเข้ามาใกล้พร้อมเอ่ยถามนาง ด้วยความมึนงงไปชั่วขณะ นางจึงอุทาน “หา” ทีหนึ่ง จากนั้นเห็นเซียวยวี่กำลังมองนางด้วยสีหน้าจริงจัง เซี่ยยวี่หลัวเพิ่งเข้าใจว่าเขากำลังถามอะไร
“ข้าได้ยินมาว่าทุกคนต้องรอให้ถั่วสุกงอมแล้วตากแดดจนแห้งให้กลายเป็นถั่วเหลืองถึงจะขายให้ช่างทำเต้าหู้นำไปบดเพื่อทำเต้าหู้ เช่นนั้นก็หาเงินได้เหมือนกัน เพียงแต่ ต้องใช้เวลาไม่น้อย ยังต้องรออีกกว่าครึ่งเดือนถึงจะหาเงินได้ แต่หากข้านำถั่วแระเหล่านี้ไปทำเป็นอาหารชนิดหนึ่งขายให้ภัตตาคาร เช่นนั้นถั่วแระในตอนนี้ก็จะสามารถนำไปขายได้ ปีนี้ผลเก็บเกี่ยวของถั่วแระดีเป็นพิเศษ หากทุกคนสามารถขายถั่วแระได้ ก็จะหาเงินได้ไม่น้อยทีเดียว” เซี่ยยวี่หลัวแจกแจง
“เช่นนั้นเจ้าคิดว่าภัตตาคารจะรับซื้อถั่วแระของพวกเราหรือไม่? ”
เซี่ยยวี่หลัวกังวลเรื่องที่เซียวยวี่เข้าใกล้เกินไปอยู่ตลอด ไม่ทันสนใจคำว่า ‘พวกเรา’ ที่เซียวยวี่กล่าวเมื่อครู่เลย
“แน่นอน เจ้าเองก็บอกว่าถั่วแระอร่อยมากไม่ใช่หรือ? นี่เป็นการกินรูปแบบใหม่ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ปีนี้มีถั่วแระปริมาณมากเป็นพิเศษ ต้องได้รับความนิยมระยะหนึ่งแน่” เซี่ยยวี่หลัวกล้าคุยโตเช่นนี้ ต้องรู้ว่า ถั่วแระเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของแผงขายอาหารยามค่ำคืนในยุคปัจจุบันเลยทีเดียว เป็นอาหารยอดนิยมขั้นพื้นฐานที่ไม่เคยหายไป ผู้คนนิยมกินอยู่ทุกปี
เซี่ยยวี่หลัวไม่เชื่อว่า ผู้คนในยุคสมัยนี้จะไม่ชอบกินถั่วแระ
ยิ่งไปกว่านั้น ถั่วแระยังมีสรรพคุณทางยาสูงมากทีเดียว เพื่อรักษาสุขภาพร่างกาย เซี่ยยวี่หลัวมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าอาหารชนิดนี้ต้องขายได้แน่นอน
เพียงเซียวยวี่หันหน้าก็สามารถมองเห็นใบหน้ามั่นอกมั่นใจของสตรีข้างกาย ดูดีจนเซียวยวี่ไม่อาจละสายตาได้แม้แต่น้อย
ส่วนเซี่ยยวี่หลัวกลับรู้สึกอึดอัดใจราวกับตกอยู่ใต้น้ำลึกประหนึ่งอยู่ท่ามกลางกองเพลิง
วันนี้ท่านราชบัณฑิตน้อยเป็นอะไรไป เหตุใดถึงเอาแต่จ้องมองนาง?
บนใบหน้านางมีอะไรเช่นนั้นหรือ?
ไม่น่ามีนี่นา ก่อนออกมานางส่องกระจกทองแดงอยู่นาน ใบหน้าสะอาดสะอ้าน ไม่มีอะไรแม้แต่น้อย
“คือ ข้า… บนหน้าข้ามีอะไรเช่นนั้นหรือ? ” เซี่ยยวี่หลัวไม่สนใจอะไรอีก ชิงเอ่ยถามก่อน
ลูกพี่ ขอร้องท่าน อย่าจ้องข้าอีกเลย
“ไม่มี” เซียวยวี่ดูออกว่านางอึดอัด ในที่สุดก็ละสายตา สาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปข้างหน้า
“ฟู่…” เซี่ยยวี่หลัวผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก
รีบเดินตามไป
เซียวยวี่ที่อยู่ข้างหน้าตวัดมุมปาก ดวงหน้าเต็มไปด้วยประกายยิ้มแย้ม
บนใบหน้าของนางไม่มีอะไรจริงๆ แต่ในดวงตาของนางมี
ดวงดารานับพันนับหมื่น มีเพียงดวงที่อยู่ในแววตาที่สว่างที่สุด
หลังจากมาถึงในตัวเมือง เซี่ยยวี่หลัวมุ่งหน้าไปยังเซียนจวีโหลวทันที
เซียนจวีโหลวยังไม่เปิดร้าน ประตูใหญ่ยังปิดสนิทอยู่ เซี่ยยวี่หลัวพาเซียวยวี่เดินไปยังลานด้านหลัง
เพิ่งถึงลานด้านหลัง ก็เห็นคนเดินเข้าออกขวักไขว่ รถเคลื่อนไปมาไม่หยุด
ซ่งฉางชิงนั่งอยู่หลังโต๊ะตัวหนึ่ง กำลังเขียนบัญชีและจ่ายเงินด้วยสีหน้าเรียบสงบ
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้เดินเข้าไปหา ยังคงทำเหมือนครั้งแรกที่มา รอคอยให้ซ่งฉางชิงทำงานเสร็จอยู่ตรงหัวมุม
ทั้งสองคนพิงอยู่ข้างกำแพง เซี่ยยวี่หลัวชำเลืองมองเป็นครั้งคราว ดูความเคลื่อนไหวของซ่งฉางชิง
อาจเพราะความรู้สึกที่ถูกคนจ้องมองนั้นไม่ดีนัก ซ่งฉางชิงสัมผัสได้ว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองตัวเองเป็นครั้งคราว จึงเงยหน้าขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ หันมองไปทางที่เซี่ยยวี่หลัวอยู่
ไม่เห็นอะไรแม้แต่น้อย
ซ่งฉางชิงนึกว่าตัวเองคิดไปเอง ยังไม่ทันเก็บคืนสายตา เซี่ยยวี่หลัวก็ชะโงกศีรษะออกมา สบประสานกับสายตาของซ่งฉางชิงพอดี
แววตาที่ฉายประกายไม่สบอารมณ์พลันลุกวาวในชั่วพริบตา จู่ๆ เขาก็วางพู่กันลง ไม่กล่าวตอบวาจาของคนรอบข้าง ปล่อยให้ซ่งฝูเอ่ยเรียกเขาไม่หยุดโดยไม่แยแส เดินตรงมาทางเซี่ยยวี่หลัว
เซี่ยยวี่หลัวเห็นซ่งฉางชิงมา ก็ไม่คิดจะหลบอีก รีบเดินออกมาจากหัวมุม แย้มรอยยิ้มพราว “เถ้าแก่ซ่ง”
“ฮูหยินเซียว” ดวงหน้าของซ่งฉางชิงกลับคืนสู่สภาวะปกติ น้ำเสียงสั่นเทิ้มเบาจนคนทั่วไปจับสังเกตไม่ได้
เซียวยวี่หิ้วตะกร้าเดินออกมาจากด้านหลังเช่นกัน
ชุดตรงสีครามถูกตัดเย็บอย่างพอดีตัว รูปร่างผอมบางสูงโปร่ง ฝีก้าวแผ่วเบา สง่าประหนึ่งต้นหยก สีหน้าเรียบสงบดูใจกว้าง ทั้งสง่าและสูงส่งอย่างไม่อาจอธิบายได้ รูปลักษณ์หล่อเหลาบุคลิกโดดเด่น ดุจกลอนกวีดั่งภาพวาด
หากไม่ใช่เพราะหิ้วตะกร้าไม้ไผ่สานไว้ในมือ คงนึกว่าเป็นเทพเซียนที่เดินลงมาจากสรวงสวรรค์เป็นแน่ ราวกับไม่ใช่คนในโลกมนุษย์อย่างไรอย่างนั้น
“ท่านผู้นี้คงเป็นคุณชายเซียวกระมัง? ” สีหน้าของซ่งฉางชิงไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อพบเซียวยวี่ เพียงเผยรอยยิ้มบางเบา ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอื่นแม้แต่น้อย
“อืม” เซี่ยยวี่หลัวชำเลืองมองเซียวยวี่แวบหนึ่งอย่างรวดเร็ว “ผู้นี้คือสามีของข้า เซียวยวี่ ผู้นี้คือเถ้าแก่เซียนจวีโหลว ท่านซ่ง”
ทั้งสองทักทายกัน ซ่งฉางชิงมองตะกร้าที่เซียวยวี่หิ้วไว้ในมือ เผยรอยยิ้มบางเบาที่มุมปาก “ฮูหยินเซียวมีสูตรอาหารใหม่เช่นนั้นหรือ? ”
เซียวยวี่ที่อยู่ข้างๆ มองเถ้าแก่ซ่งที่อยู่ตรงหน้า สวมใส่ชุดตรงสีฟ้าคราม ท่าทางสง่างาม แววตาหนักแน่น บนกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายเฉพาะตัวของบัณฑิต รวมถึงความปราดเปรื่องของพ่อค้า
เขาคือจวี่เหรินอายุน้อยที่สุดแห่งเมืองโยวหลัน
หากไม่ใช่เพราะครอบครัวเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงกะทันหัน คาดว่าคงพุ่งทะยานขึ้นจนมีตำแหน่งสูงแล้ว
“ใช่ ถั่วแระที่บ้านสุกแล้ว ข้าจึงต้มมาที่หนึ่ง นำมาให้เถ้าแก่ซ่งลองชิมดู หากอร่อย ก็สามารถขายเป็นอาหารชนิดใหม่ ปีนี้ผลผลิตถั่วแระอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก วัตถุดิบไม่ขาดแน่นอน” เซี่ยยวี่หลัวยิ้มจนคิ้วงามโก่งโค้ง ดวงตาเป็นประกาย
ซ่งฉางชิงพยักหน้าเบาๆ ยิ้มพร้อมกล่าวว่าได้ หันขวับผายมือเชิญ ในยามที่ไม่มีผู้ใดเห็น เขาปรายตามองเซียวยวี่ที่อยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง ก่อนจะกลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว
มอบหมายเรื่องรับซื้อของด้านนอกให้ซ่งฝู
ตอนซ่งฝูเห็นเซี่ยยวี่หลัว เขาอ้าปากเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยประกายยินดีและเคารพอย่างที่เซี่ยยวี่หลัวไม่อาจอธิบายได้
แต่ก่อนซ่งฝูเห็นนางไม่เคยมีท่าทีเช่นนี้มาก่อน วันนี้กลับมีท่าทางเก้ๆ กังๆ เป็นอะไรไป?
เซี่ยยวี่หลัวจะถามก็ไม่ดี นางและเซียวยวี่จึงเดินตามซ่งฉางชิงเข้าไปในห้องครัว
นำถั่วแระในตะกร้าออกมา ซ่งฉางชิงกินถั่วแระจำนวนหนึ่งตามวิธีที่เซี่ยยวี่หลัวสาธิต
เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าซ่งฉางชิงไม่ชอบรสเผ็ด ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่พริกมากนัก
“ข้าไม่ได้ใส่พริกมากเท่าไร กลัวว่าท่านจะกินไม่ได้ แต่หากมีลูกค้าที่ชอบรสชาติจัดจ้าน ตอนต้มใส่พริกเพิ่มก็ได้เช่นกัน” เซี่ยยวี่หลัวกล่าว
ซ่งฉางชิงขานตอบทีหนึ่ง ภายในใจรู้สึกยินดี นางยังจำได้ว่าเขาไม่ชอบกินอาหารรสเผ็ด
กินต่ออีกหลายฝัก
ถั่วแระอวบอิ่มผสมกับน้ำแกงเข้มข้น กัดลงไปหนึ่งคำ เคี้ยวเม็ดถั่วสีเขียวพร้อมน้ำแกงในปาก รสชาตินี่…
“อร่อยอย่างมิอาจหาคำบรรยายได้จริงๆ” ซ่งฉางชิงกินทีเดียวหลายสิบฝัก แม้แต่ฝักถั่วก็กองไว้กว่าครึ่งจานเล็ก ก่อนจะวางลงด้วยความรู้สึกเสียดาย
ซ่งฉางชิงเองก็รู้ว่าปีนี้ผลผลิตถั่วนั้นอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก เดิมทีคิดว่าคงเหมือนกับปีก่อนๆ บดแล้วทำเป็นเต้าหู้ แต่เวลานี้ ถั่วแระที่อร่อยถึงเพียงนี้ ซ่งฉางชิงไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ อาหารชนิดนี้ต้องก่อให้เกิดคลื่นความนิยมอีกระลอกหนึ่งเหมือนคราวผักตี้เอ่อก่อนหน้านี้แน่นอน
“เถ้าแก่ซ่ง นอกจากถั่วแระต้ม ข้ายังมีวิธีปรุงถั่วอีกหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่นถั่วแระผัดหมูสับ ถั่วแระผัดไข่ ล้วนแต่เป็นอาหารทั่วไปที่ทั้งอร่อยและอุดมไปด้วยสารอาหาร ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นอาหารชนิดใหม่ ทั่วทั้งเมืองโยวหลันก็ยังไม่มี ทางท่านนำเสนออาหารใหม่ก่อน กิจการต้องรุ่งเรืองแน่นอน” เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม พลางยื่นส่งสูตรอาหารให้ซ่งฉางชิง
นางชอบยิ้มเสียจริง