ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 11 บทที่ 314 คือ หมายถึงผู้ใด
“อะไรนะ? ” เซี่ยยวี่หลัวยังไม่เข้าใจ
“เมื่อครู่เจ้าพูดว่าคือ คือหมายถึงผู้ใด? ” หากเขาจำไม่ผิด ตอนจะกินอาหารเย็น ก่อนนางจะเรียกให้ทุกคนกินข้าว ก็พูดว่าคือ
นอกจากนั้น เหมือนว่านางจะพูดว่า คือ เป็นประจำ
คือ?
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกวางตัวไม่ถูก ได้แต่ยิ้มด้วยความเก้อเขิน “คือ ข้า…” คงบอกท่านราชบัณฑิตน้อยไม่ได้กระมัง ว่านางไม่อยากเรียกชื่อเขาโดยตรง จึงใช้คำว่าคือแทน?
เมื่อเห็นประกายว้าวุ่นใจและเก้อเขินบนใบหน้าเซี่ยยวี่หลัว ไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ เซียวยวี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง
“ข้าชื่อเซียวยวี่! ” เซียวยวี่พูดช้าๆ ทีละคำ
เซี่ยยวี่หลัว “…ข้า” ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าชื่อเซียวยวี่
“ข้าไม่ได้ชื่อคือ! ” เซียวยวี่ฝืนสะกดอารมณ์ยินดีที่แทบล้นทะลักออกมา กล่าวกับเซี่ยยวี่หลัวแล้วจึงหันตัวเดินกลับห้องไป ปล่อยให้เซี่ยยวี่หลัวยืนอ้าปากตาค้างอยู่หน้าประตูเพียงลำพัง
เซียวยวี่หมายความว่า เขารู้แล้วว่าคือหมายถึงเขา?
กลับถึงห้อง ริมฝีปากของเซียวยวี่ที่บึ้งตึงมาตลอดพลันแสยะแยกออกจากกัน ดวงหน้าและแววตาเต็มไปด้วยประกายยิ้มแย้ม
เขายังนึกเคืองที่นางไม่เรียกเขาไปกินข้าว ใครจะรู้ ถึงแม้นางจะไม่ได้เรียกชื่อ ทว่า คนแรกที่นางเรียกก็คือเขา!
ในใจของนางยังคงใส่ใจเขา
รอยยิ้มตรงมุมปากเซียวยวี่กลับหายไปเมื่อเห็นตำราที่วางเต็มชั้นวางข้างผนัง ดวงตาที่เมื่อครู่ยังทอแสงประหนึ่งธารดารา บัดนี้กลับมืดหม่น
ในเมื่อรู้ว่าจะสอบไม่ผ่าน บางที อาจต้องคิดหาทางอื่น เขาเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องแบกรับภาระดูแลครอบครัวให้ได้
บางที พอเซี่ยยวี่หลัวเห็นว่าถึงแม้เขาจะร่ำเรียนได้ไม่ดี แต่ทนความยากลำบากได้ สามารถเลี้ยงดูคนในครอบครัว นางก็อาจไม่จากไป
แววตาของเซียวยวี่มืดหม่นชั่วขณะ ก่อนจะฉายประกายแสงแห่งความมุ่งมั่นอย่างฉับพลัน
ขอเพียงนางไม่ไป ให้เขาทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เซี่ยยวี่หลัวตื่นขึ้น เซียวจื่อเซวียนก็ตื่นพร้อมกัน วันนี้เซียนจวีโหลวจะมารับถั่วแระ เขาต้องตื่นขึ้นมาช่วยพี่สะใภ้ใหญ่
เด็กคนนี้รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ยามมีงานต้องทำ เซี่ยยวี่หลัวไม่จำเป็นต้องเรียกด้วยซ้ำ นางเพิ่งลุกจากเตียงไปเปิดประตู เซียวจื่อเซวียนสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จ ก็ขยี้ตาเปิดประตูเดินออกมาเช่นกัน
“ทำไมถึงไม่นอนต่ออีกหน่อย? ”
เมื่อเห็นท่าทางสะลึมสะลือของเด็กคนนี้ เซี่ยยวี่หลัวจึงเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู
“ไม่นอนแล้วขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่ อีกเดี๋ยวรถม้าของเซียนจวีโหลวก็จะมาแล้ว” เขาต้องช่วยจดบัญชี เหมือนตอนขายผักตี้เอ่อ
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพลางลูบศีรษะเล็กของเขา ยิ้มพร้อมกล่าว “จื่อเซวียนช่างเป็นเด็กดีนัก รีบไปล้างหน้าบ้วนปากก่อน”
ทั้งสองคนเข้าไปในห้องครัว เซี่ยยวี่หลัวต้มโจ๊กเป็นอันดับแรก ไข่ไก่คนละหนึ่งฟอง นางคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ต้มเพิ่มอีกสองฟอง
ซ่งฝูมาเช้าเกินไป คาดว่ายังไม่ได้กินอาหารเช้า ต้มเพิ่มสองฟอง เผื่อในยามจำเป็น
รอจนโจ๊กในหม้อเดือดอยู่ครู่หนึ่ง เซี่ยยวี่หลัวจึงเคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อน ทั้งยังไปเด็ดผักจำนวนหนึ่งมาจากสวนหลังบ้าน ท้องฟ้าเพิ่งมีแสงสลัว เสียงกีบม้าก็ดังมาจากด้านนอก
เซียวจื่อเซวียนตะโกนจากในห้องครัว “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าไปเปิดประตูเองขอรับ”
คนที่มาคือซ่งฝู
เขามาท่ามกลางหมอกบาง เส้นผมและเสื้อผ้าโดนหมอกบางในยามเช้าจนเปียกชื้น
“มาเช้าถึงเพียงนี้เชียว? ” เซี่ยยวี่หลัวตกใจเล็กน้อย
ซ่งฝูยิ้มพร้อมกล่าว “มาช่วยฮูหยินเซียวเก็บเกี่ยวถั่วแระขอรับ” นี่เป็นคำสั่งของคุณชายเมื่อวานนี้ ดังนั้นวันนี้เขาจึงมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง คิดจะมาช่วย
พอเห็นถั่วแระสะอาดในตะกร้าห้าใบที่วางอยู่ในลานบ้าน ซ่งฝูก็ตกใจเสียยิ่งกว่าอะไร “ข้ามาช้าเกินไปหรือนี่”
เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม “กลัวว่าจะไม่ทัน เมื่อคืนจึงเตรียมไว้แล้ว”
ซ่งฝูยิ้มด้วยท่าทางเก้อเขิน “ขอรับ ข้าไม่ได้มาช้าไปเล็กน้อย” แต่มาช้าไปมากทีเดียว กลับไปไม่รู้ว่าจะโดนคุณชายตำหนิหรือไม่
“พวกเราเตรียมของไว้แล้ว ท่านซ่งน้อยชั่งน้ำหนักเลย”
“ได้ขอรับ” ซ่งฝูนำตราชั่งลงมาจากรถม้าเพื่อชั่งน้ำหนัก
หนึ่งตะกร้ามีน้ำหนักหลายสิบจิน เซียวจื่อเซวียนตัวเล็กเกินไป เซี่ยยวี่หลัวรีบเดินมา ยกอีกด้านหนึ่งของไม้หาบ ช่วยซ่งฝูหาบ
ซ่งฝูหาบไม้หาบด้านนี้ เซี่ยยวี่หลัวหาบอีกด้านหนึ่ง พอเห็นสตรีรูปร่างบอบบางอรชรตรงหน้าสามารถออกแรงใช้กำลังมากจนน่าตกใจ ซ่งฝูรู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก
สตรีทั่วไปหากมีรูปร่างหน้าตาเช่นนี้ ใครจะยินยอมทำงานหนักเช่นนี้เล่า
แต่ฮูหยินเซียวไม่คิดด้วยซ้ำ พอถึงคราวจำเป็นก็ลงมือทำทันที ดูจากท่าทางคล่องแคล่วของนาง เห็นได้ชัดว่าทำเกษตรเป็นประจำ
ซ่งฝูรู้สึกเคารพนับถือฮูหยินเซียวมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง
ชั่งน้ำหนักตะกร้าห้าใบ รวมกันเป็นสองร้อยหกสิบจิน หักลบน้ำหนักตะกร้าห้าใบ เหลือประมาณสองร้อยห้าสิบจิน ซ่งฉางชิงรับซื้อถั่วแระจากเซี่ยยวี่หลัวจินละหกอีแปะ ทั้งหมดหนึ่งตำลึงครึ่ง
ซ่งฝูรีบหยิบเงินออกมา มอบให้เซี่ยยวี่หลัว
เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดบ่ายเบี่ยง รับไว้ด้วยความยินดี
หลังจากยกตะกร้าขึ้นรถม้าเสร็จ ซ่งฝูจึงเอ่ยถามเซียวจื่อเซวียน “ในหมู่บ้านของเจ้ายังมีถั่วแระอีกหรือไม่? ”
เซียวจื่อเซวียนพยักหน้า “มีขอรับ คุยกับท่านป้าท่านหนึ่งไว้แล้ว ให้นางเก็บเกี่ยวก่อน หากใช้ถั่วแระเหล่านี้หมดเมื่อไร ท่านค่อยมารับไปขอรับ”
หลังจากเด็ดถั่วแระ ยังสามารถเก็บไว้ได้อีกสามถึงสี่วัน
เรื่องนี้จัดการได้อย่างงดงาม
ไม่ได้บอกว่าต้องมารับไป แต่บอกว่าใช้หมดแล้วค่อยมารับ
วาจาสวยหรูเช่นนี้ ดูท่ามีแต่พี่สะใภ้ใหญ่ของเขาถึงจะกล่าวออกมาได้
ช่างเป็นสตรีที่รู้จักคิดเผื่อผู้อื่น
เซี่ยยวี่หลัวเดินออกมาตอนนี้เอง “ท่านซ่งน้อยยังไม่ได้กินข้าวใช่หรือไม่? ”
ซ่งฝูพยักหน้า ยิ้มพร้อมกล่าว “มาแต่เช้า ยังไม่ได้กินอะไรจริงๆ”
เซี่ยยวี่หลัวยื่นส่งไข่ไก่สองฟองที่ต้มเสร็จแล้ว “นี่ ให้ท่าน เพิ่งต้มเสร็จ”
“นี่… ไม่ต้อง ไม่ต้อง” ซ่งฝูรีบปฏิเสธ รับอาหารที่คนอื่นกำลังจะกินก็คงไม่ดี
“ท่านรับไว้เถอะ ข้าต้มเผื่อไว้สองฟอง กลัวว่าท่านจะรีบมา ไม่ทันได้กินอาหาร ระหว่างทางมีไข่ไก่สองฟอง กินรองท้องก่อนก็พอได้” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวพลางใส่ไข่ไก่เข้าไปในมือซ่งฝู
ไข่ไก่เพิ่งนำออกมาจากหม้อ ล้างด้วยน้ำสะอาดแล้ว ยังคงร้อนจัด
ซ่งฝูรีบรับมา ร้อนเกินไป จึงใส่เข้าไปในอกเสื้อ รู้สึกดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร “เช่นนั้นขอบคุณฮูหยินเซียวมาก ข้ายังต้องกลับภัตตาคาร ขอตัวก่อนขอรับ”
“อืม ระหว่างทางก็ระวังความปลอดภัยด้วย” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวกำชับ
“ขอรับ วันมะรืนนี้ข้าจะมาหาท่านอีก” ซ่งฝูขึ้นรถม้า กล่าวอำลากับเซี่ยยวี่หลัวเสร็จจึงขับรถม้าไป
เซี่ยยวี่หลัวกลับเข้าไปในลานบ้าน เห็นว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในห้องของเซียวยวี่ จึงเม้มริมฝีปากทีหนึ่ง เซียวจื่อเมิ่งได้ยินเสียงก็ตามออกมาแล้ว เอ่ยเรียกพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยท่าทางสะลึมสะลือ
เซียวยวี่ยังไม่ลุก เกรงว่าเมื่อวานคงเหนื่อยเกินไปจริงๆ
สมกับเป็นบัณฑิต ทำการเกษตรเล็กน้อยก็เหนื่อยจนลุกไม่ขึ้น
ทำอาหารเช้าเสร็จ โจ๊กก็ต้มเสร็จแล้ว ยกอาหารเข้าไปในห้องโถงทั้งหมด ทางเซียวยวี่ยังไม่มีเสียงอะไรแม้แต่น้อย
เซี่ยยวี่หลัว “จื่อเซวียน เจ้าไปตามพี่ใหญ่มากินข้าว” หยุดไปชั่วขณะ ก่อนกล่าวต่อ “หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังพักผ่อนอยู่ ก็อย่ารบกวนเขา ปล่อยให้เขานอนต่อ เมื่อวานคงเหนื่อยมาก”
เซียวจื่อเซวียนพยักหน้าพลางกล่าวว่าได้ขอรับ ก่อนเข้าห้องเซียวยวี่ไปเบาๆ
เซี่ยยวี่หลัวปอกไข่เสร็จแล้ว เซียวจื่อเซวียนวิ่งพรวดเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว สีหน้าตื่นตระหนก “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่ใหญ่หายตัวไปขอรับ! ”
เล็บที่ตัดแต่งจนมนกลมพลันออกแรง จิกเข้าไปในไข่ไก่ที่อ่อนนุ่ม ดึงเอาไข่แดงออกมาด้วย