ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 12 บทที่ 342 เซี่ยยวี่หลัวหนีไปแล้ว
“อาเซวียน อาเมิ่ง…” เซียวหมิงจูแย้มรอยยิ้มพราว พยายามใช้วาจาอ่อนโยนพูดคุยกับเด็กสองคน “ทำไมพวกเจ้าถึงอยู่ข้างนอก? ทำไมถึงยังไม่กลับบ้าน? ”
เซียวจื่อเซวียนทำสีหน้าหดหู่ ไม่ได้กล่าวอะไร เซียวจื่อเมิ่งร้อนใจจนแทบร้องไห้ออกมา “พี่หมิงจู ท่านเห็นพี่สะใภ้ใหญ่ของข้าหรือไม่เจ้าคะ? ”
พวกเขาหามาครู่หนึ่งแล้ว ตะโกนเรียกจนเสียงแทบแหบ หากพี่สะใภ้ใหญ่ได้ยิน ต้องออกมาหาพวกเขาแน่ หากแต่…
เซียวหมิงจูทำสีหน้าตื่นตกใจ “พี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้าหายไปหรือ? ”
จู่ๆ เซียวจื่อเซวียนที่เงียบมาตลอดก็ตะคอกเสียงดัง “พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าไม่ได้หายไป นางเพียงออกไปทำธุระ ฝนตกหนักจึงติดอยู่ที่ไหนเป็นแน่”
เซียวหมิงจูฝืนทนความรู้สึกยินดีจนแทบกระโดดโลดเต้นไว้ ทำสีหน้าเห็นใจ “อาเซวียน อาเมิ่ง พวกเจ้ายังไม่รู้เรื่องการประกาศผลสอบปีนี้กระมัง? ” เดิมทีเด็กสองคนก็เป็นห่วงเซี่ยยวี่หลัวมาตลอด บัดนี้ได้ฟังเรื่องประกาศผลสอบ ต่างก็หันมองไปทางเซียวหมิงจู
“พี่ใหญ่ของพวกเจ้า สอบไม่ผ่าน! ”
เซียวหมิงจูกล่าวอย่างเชื่องช้า เมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึง ผิดหวัง และหวาดกลัวของเด็กสองคน ความรู้สึกเห็นใจของเซียวหมิงจูจึงหายไปจนสิ้น
เซียวหมิงจูกัดริมฝีปาก พูดสำทับต่อ “พี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้า บางทีอาจรู้ว่าพี่อายวี่สอบไม่ผ่าน ดังนั้นนางจึง…”
หนีไปแล้ว
“ไม่มีทาง!” เซียวจื่อเซวียนเรียกคืนสติจากความรู้สึกตกตะลึงและผิดหวังเมื่อครู่ เข้าใจความหมายของวาจาที่เซียวหมิงจูไม่ได้กล่าวออกมา เขาโวยวาย “พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าเคยบอกไว้ ว่าจะไม่มีวันไปจากพวกเรา! ”
“อาเซวียน...” เซียวหมิงจูเห็นว่าเซียวจื่อเซวียนรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก รู้สึกเห็นใจเล็กน้อย
แต่นางยังคงสะกดความรู้สึกเห็นใจไว้ ใช้วาจายั่วยุเด็กสองคนต่อ “ใครว่าไม่มีทางกัน? เมื่อก่อนพี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้า ก็เป็นคนยโสโอหังอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? นางอยากเป็นฮูหยินขุนนางมาตลอด มิเช่นนั้นด้วยรูปลักษณ์หน้าตาของนาง มีหรือจะยอมลดตัวมาแต่งงานกับพี่ใหญ่ของพวกเจ้า! บัดนี้นางรู้ว่าความปรารถนาไม่เป็นจริง นางไม่อาจทนใช้ชีวิตอย่างยากลำบากได้ ต้องหนีไปแล้วเป็นแน่”
ตอนที่รู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวหายตัวไป เซียวหมิงจูก็คาดเดาได้แล้วว่าเป็นเพราะเซียวยวี่สอบไม่ผ่าน จริงด้วย คนอย่างเซี่ยยวี่หลัว จะทนใช้ชีวิตอย่างยากลำบากกับเซียวยวี่ได้อย่างไร!
เซียวจื่อเซวียนเพ่งมองเซียวหมิงจูด้วยความโกรธแค้น คนตัวเล็กเชื่อมั่นในตัวเซี่ยยวี่หลัวอย่างเต็มเปี่ยม “ไม่มีทาง พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าไม่มีทางไป ไม่มีทาง! ”
กล่าวจบ จึงจูงมือเซียวจื่อเมิ่งตามหาคนภายในหมู่บ้านต่อโดยไม่สนใจเซียวหมิงจูแม้แต่น้อย
เรื่องที่เซียวยวี่สอบไม่ผ่านและเด็กสองคนหาพี่สะใภ้ใหญ่แพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว
แต่ละบ้านต่างกำลังสนทนากันถึงเรื่องของครอบครัวเซียวยวี่ ต่างรู้สึกเสียดายแทนเซียวยวี่ที่สอบไม่ผ่าน ขณะเดียวกันก็โกรธเคืองและดูแคลนที่เซี่ยยวี่หลัวไม่อาจทนต่อความลำบากยากจนได้
“เฮ้อ เซียวยวี่สอบซิ่วไฉมาหลายปีแล้วกระมัง? ทำไมคราวนี้ก็ยัง…” มีคนกล่าวพลางทอดถอนใจด้วยความเสียดาย
“สวรรค์ช่างไร้ตาจริงๆ คนที่เก่งกาจถึงเพียงนี้เหตุใดถึงสอบไม่ผ่านเสียทีเล่า! ”
“ข้าว่าเซี่ยยวี่หลัวนั่นไม่ได้คิดจะอยู่อย่างสงบเสงี่ยม พอเซียวยวี่สอบไม่ผ่าน นางก็หนีไป คนอะไรกันช่างมีจิตใจโหดร้ายนัก พวกเจ้าไม่เห็นท่าทางเศร้าเสียใจของเด็กสองคนตอนหาพี่สะใภ้ใหญ่ แค่เห็นก็รู้สึกสงสารแล้ว”
“ก่อนหน้านี้นางยังดีๆ อยู่เลย เหตุใดถึงเปลี่ยนเร็วนัก เซียวยวี่สอบไม่ผ่านก็หนีทันที เฮ้อ คิดไม่ถึงเลย… ข้านึกว่าพวกเขาสองสามีภรรยา…”
นับตั้งแต่เกิดเรื่องของซินแสสวี่ ผู้คนทั้งหมู่บ้านเห็นกับตาว่าเซียวยวี่ปกป้องและเอาใจใส่เซี่ยยวี่หลัว
ยามซินแสสวี่จะจับเซี่ยยวี่หลัว เซียวยวี่โอบกอดนาง ไม่ให้ผู้ใดแตะนางแม้แต่ปลายเล็บ ความรักเช่นนั้น ทุกคนล้วนเห็น
จวบจนตอนท้าย เห็นทั้งสองคนมักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน พูดคุยยิ้มแย้ม พวกเขานึกว่า… สองสามีภรรยาจะไม่แยกจากกันอีก
แต่ที่ไหนได้…
เด็กสองคนหาในหมู่บ้านจนทั่ว ยังคงหาเซี่ยยวี่หลัวไม่พบ
เซียวหมิงจูตามอยู่ข้างหลังพวกเขาตลอด เมื่อเห็นพวกเขากลับมาโดยไม่พบคน ภายในใจรู้สึกดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร แต่กลับแสดงสีหน้าเป็นห่วง “บางทีพี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้าอาจมีธุระที่ไหนจึงกลับช้าก็เป็นได้ ถ้าอย่างไรกลับบ้านไปรอเถอะ ไม่แน่ว่าพี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้าอาจอยู่ที่บ้านแล้ว! ”
นางไม่กล้ากล่าวเรื่องที่เซี่ยยวี่หลัวหนีไปอีก แววตานั่นของเซียวจื่อเซวียน เห็นแล้วรู้สึกน่ากลัวนัก!
เซียวจื่อเซวียนมองเซียวหมิงจูแวบหนึ่ง จากนั้นจึงจูงมือเซียวจื่อเมิ่งวิ่งกลับบ้านไป
เซียวหมิงจูคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตามหลังไปต่อ
ส่วนเซียวยวี่ ร่างกายเปียกโชก เหมือนลูกไก่ที่ตกน้ำก็มิปาน ปรากฏตัวอยู่ในหมู่บ้านสกุลเซียว
สีหน้าของเขาดูหดหู่ ท่าทางเหมือนคนท้อแท้สิ้นหวัง
ตลอดทางที่กลับมา เซียวยวี่คิดอยู่ตลอด ว่าควรอธิบายกับเซี่ยยวี่หลัวอย่างไร
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าสอบไม่ผ่าน นั่นเป็นเพียงการคาดเดา อย่างไรก็รู้สึกว่าบางทีสวรรค์อาจเมตตาเขา มอบโอกาสให้เขาแม้เพียงน้อยนิด ดังนั้นเขาหาโอกาสพูดไม่ได้ จึงไม่ได้กล่าวอะไรมาตลอด
แต่คราวนี้ เขาสอบไม่ผ่าน ไม่มีความหวังใดๆ อีก เขาควรต้องบอกนางแล้ว
“เซียวยวี่ กลับมาแล้วหรือ? ทำไมถึงมีสภาพเช่นนี้? รีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดเถอะ อย่าให้เป็นหวัดเสีย! ” ตอนที่เซียวยวี่ปรากฏตัวในหมู่บ้าน หลิวซี่เหลียนก็เห็นเขาแล้ว เมื่อเห็นท่าทางเซียวยวี่เหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หลิวซี่เหลียนรู้สึกเห็นใจนัก ไม่รู้ว่าควรบอกเขาเรื่องที่เซี่ยยวี่หลัวหายตัวไปหรือไม่
เซียวยวี่ไม่ได้สนใจหลิวซี่เหลียน เดินตรงไปข้างหน้า หลิวซี่เหลียนเคยได้รับความช่วยเหลือจากเซี่ยยวี่หลัวมาไม่น้อย เห็นท่าทางเช่นนี้ของเซียวยวี่ ก็รู้สึกทนดูไม่ได้ จึงเดินตามหลังไป “เซียวยวี่ สอบไม่ผ่านก็ไม่เป็นอะไร อย่างมากปีหน้าค่อยสอบใหม่ ไม่เป็นอะไร จริงหรือไม่? ”
คนข้างหน้าร่างกายโซเซ ก่อนหยุดชะงัก หันกลับมาเงียบๆ จ้องมองหลิวซี่เหลียน “เมื่อครู่ท่านว่าอะไร? ”
“คือ… ข้าบอกว่าอย่างมากปีหน้าค่อยสอบใหม่ ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร! ” หลิวซี่เหลียนปลอบโยน
“ทำไมท่านถึง…” เซียวยวี่แทบไม่อยากเชื่อ “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าสอบไม่ผ่าน? ”
หลิวซี่เหลียนกัดฟัน ก่อนกล่าวตามจริง “คนทั้งหมู่บ้านรู้กันหมดแล้ว”
เซียวยวี่ยิ้มอย่างเย็นเยียบ นั่นสิ จะไม่รู้ได้อย่างไร ป้ายประกาศสีแดงขนาดใหญ่เช่นนั้น ไม่ว่าใครก็มองเห็น เขาควรจะรู้อยู่แล้ว เขาสอบมาสี่ปีแล้ว ยังคง…
บางทีนี่อาจเป็นชะตาลิขิต!
เซียวยวี่ยิ้มขมพลางส่ายหน้า นี่คือชะตาลิขิต บางทีเขาอาจไม่เหมาะกับการเล่าเรียนจริงๆ
หลังจากยิ้มขม เซียวยวี่หันหน้าเดินไปข้างหน้าต่อ หลิวซี่เหลียนถอนหายใจทีหนึ่ง ไม่ได้ตามต่อ “สอบไม่ผ่าน ทรมานถึงเพียงนี้แล้ว ทำไมยวี่หลัวถึง…”
ทำไมถึงไม่รอสักสองวันเล่า?
อย่างน้อยก็รอให้เซียวยวี่ตั้งสติได้ค่อยไปก็ยังไม่สายนี่นา สภาพของเซียวยวี่ตอนนี้…
นางเป็นห่วงว่าเซียวยวี่จะแบกรับความรู้สึกนี้ไม่ไหวจริงๆ
เซียวยวี่เดินกลับบ้านต่อ ขาของเขาเหมือนถูกถ่วงด้วยตะกั่วอย่างไรอย่างนั้น ช่างหนักอึ้งนัก