ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 435 จับเต่าในไห
บทที่ 435 จับเต่าในไห1
เซียวยวี่ออกมาจากโรงหมอ ฝีเท้าค่อนข้างโซเซ
ในมือของเขาถือสุราที่ท่านป้าสี่ให้ไว้ ทั้งยังจับใบสั่งยาที่ท่านหมอเขียนให้เขาเมื่อครู่นี้ด้วย สิ่งที่เขียนบันทึกไว้บนนั้น ล้วนแต่เป็นสมุนไพรที่เคยแช่ในสุรานี้
เป็นยาแรง ทำลายเส้นเลือดหัวใจได้ง่ายมาก หากดื่มเป็นประจำ จะดูเหมือนหนุ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ความเป็นจริงสุขภาพกลับถูกทำลาย อวัยวะภายในได้รับความเสียหาย ร่างกายทนไม่ไหวนานแล้ว
เมื่อเซียวยวี่คิดถึงคนที่ให้ท่านลุงสี่ดื่มยาชนิดนี้ ก็แค้นจนแทบอยากสับคนผู้นั้นทั้งเป็น
แววตาของเขาลุ่มลึก สาวเท้าก้าวเดินไปทางแผงขายอาหารเช้าของครอบครัวเซียวจิ้งยี่
หลังจากจัดพิธีศพของเซียวซื่อ เซียวไฉซุ่น และเซียวต้าจ้วงเสร็จ เซียวจิ้งยี่จึงกลับเข้ามาในตัวเมืองด้วยความหดหู่ใจ ได้แต่ปลงอนิจจังว่าเหตุใดอยู่ดีๆ พวกเขาถึงสิ้นลมอย่างกะทันหันเช่นนี้ กวั่นซื่อคอยปลอบโยนอยู่ข้างๆ กล่าวเพียงสองประโยคก็ซับคราบน้ำตา
เหตุใดอยู่ดีๆ ระยะนี้ในหมู่บ้านเกิดเรื่องประหลาดมากมายถึงเพียงนี้!
ตอนเซียวยวี่มา สีหน้าดูอึมครึม ดูไม่ดีเอาเสียเลย
หลังจากเซียวยวี่วางใบสั่งยาที่ท่านหมอเขียนไว้ตรงหน้าเซียวจิ้งยี่ เซียวจิ้งยี่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!
“อายวี่ นี่คืออะไรหรือ? ” เซียวจิ้งยี่เอ่ยถาม
ใบหน้าของเซียวยวี่ไร้อารมณ์ กล่าวโดยฝืนสะกดความขุ่นเคืองไว้ “นี่คือใบบันทึกรายการยาสมุนไพรในสุราสมุนไพรที่ท่านลุงสี่เคยดื่มขอรับ”
เซียวจิ้งยี่ “เจ้าสงสัยสุราที่ท่านลุงสี่ของเจ้าดื่ม? ”
“ถูกต้องขอรับ ท่านป้าสี่บอกว่าหลังจากท่านลุงสี่ดื่มสุราชนิดนี้ สุขภาพของเขาก็ดีขึ้นมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยสีแดงเลือดฝาด ทำอะไรก็มีพลังเต็มเปี่ยม ข้ารู้สึกสงสัย จึงนำสุราชนิดนี้เข้ามาในตัวเมือง ให้ท่านหมอช่วยดู” เซียวยวี่ขมวดคิ้วมุ่น พร้อมกำหมัดไว้แน่น “คิดไม่ถึงว่าในสุราสมุนไพรจะมีเงื่อนงำอยู่จริง ตัวยาในนี้สามารถทำให้ร่างกายของผู้ที่ได้ดื่มอยู่ในสภาวะกระตือรือร้น ดูไปแล้วแข็งแรงขึ้นไม่น้อย แต่ความจริง เมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะกระตือรือร้นเป็นเวลานาน พลังในร่างกายจะหมดลง”
เซียวจิ้งยี่บีบกระดาษใบนั้นไว้ด้วยมือที่สั่นเครือ “สุราสมุนไพรของเขา ได้มาจากที่ใดกัน? ”
เซียวยวี่กล่าวเสียงขรึม “เซียวหยวนเป็นคนให้ขอรับ! ”
เซียวจิ้งยี่ผงะไปครู่หนึ่ง “ใครนะ? เซียวหยวน? เขา… เหตุใดเขาถึง…”
เขาไม่กล้าเชื่อ เพียงกล่าวพึมพำ “เจ้าสี่เป็นพ่อตาของเขา! เหตุใดถึง…”
เซียวยวี่ก็ทอดถอนใจ นวดคลึงตรงหว่างคิ้ว “ข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นคนทำหรือไม่ แต่ของสิ่งนี้เขาเป็นคนนำมา ดังนั้นเขาย่อมต้องมีส่วนรู้เห็น! ”
เซียวจิ้งยี่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เซียวหยวนอาจเป็นฆาตกร หรืออาจไม่ใช่ แต่บัดนี้เมื่อเขาได้รู้เรื่องนี้เข้า ก็รู้สึกปวดหัวยิ่งนัก “เจ้ากลับไปก่อน พักผ่อนดีๆ สักคืนหนึ่ง พรุ่งนี้เช้าพวกเรากลับหมู่บ้านไปดูก่อน”
เซียวยวี่กลับไปยังโรงผลิต เซี่ยยวี่หลัวกับเด็กสองคนกำลังเล่นการละเล่นที่ต้องฟังเสียงเพื่อระบุทิศทาง
เวลานี้เซียวจื่อเมิ่งกำลังปิดตา เซี่ยยวี่หลัวและเซียวจื่อเซวียนเดินย่องไปมาอยู่บริเวณรอบข้าง เซียวจื่อเมิ่งอาศัยเสียงที่แผ่วเบา ระบุทิศทางของพี่สะใภ้ใหญ่และพี่รอง หากระบุของคนไหนได้ถูกต้อง คนนั้นก็จะแพ้ ต้องเป็นคนเดาทิศทางต่อ
เซี่ยยวี่หลัวเดินมาหยุดหลังประตู ส่งสัญญาณให้เซียวยวี่ที่กำลังเข้ามาเงียบเสียง
เซียวยวี่แย้มรอยยิ้ม เห็นพวกเขากำลังเล่นกันอยู่ จึงไม่ได้กล่าวอะไร เดินมาข้างโต๊ะ รินน้ำหนึ่งถ้วยดื่มเอง
เซียวจื่อเซวียนเสียงค่อนข้างดัง เซียวจื่อเมิ่งแค่ฟังก็รู้ทันที นางชี้ไปทางหลังผ้าม่านที่เซียวจื่อเซวียนซ่อนตัวอยู่ ก่อนตะโกน “พี่รอง ท่านอยู่ทางนี้! ”
เซียวจื่อเซวียนเห็นว่าตัวเองถูกจับได้ จึงเบ้ปากพร้อมกล่าว “ทำไมเจ้าถึงรู้ทุกครั้ง! ทำไมเจ้าถึงไม่รู้ว่าพี่สะใภ้ใหญ่หลบอยู่ที่ไหนบ้าง! ”
“เพราะพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ส่งเสียงนี่เจ้าคะ มีแต่พี่รองที่เสียงดังที่สุด” เซียวจื่อเมิ่งหัวเราะพร้อมกล่าว
“ข้าส่งเสียงที่ไหนกัน! ” เซียวจื่อเซวียนเดินขึ้นหน้าไปรับผ้ามาปิดตาตัวเองไว้ “เอาล่ะ พวกท่านซ่อนตัวได้ ข้าจะมาหาแล้ว คราวนี้พวกท่านต้องซ่อนให้ดี ไม่อย่างนั้นข้าจะจับพวกท่านออกมาให้หมด”
เซียวจื่อเมิ่งช่วยปิดตาให้เขาพลางกล่าว “ท่านจับพวกเราไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ! ”
เวลานี้เอง เซียวจื่อเซวียนสูดดมทีหนึ่ง หัวเราะพร้อมกล่าว “ฮะฮะ ต่อให้ข้าไม่ได้ยิน ก็ยังได้กลิ่น บนกายเจ้ากับพี่สะใภ้ใหญ่มีกลิ่นหอมของดอกไม้ ขอเพียงข้าตามกลิ่นหอมของดอกไม้ไปก็จะพบพวกเจ้าเอง! ”
บนตัวเด็กคนนี้มีกลิ่นหอมของดอกไม้…
เซียวจื่อเมิ่งรู้สึกราวกับถูกอสนีบาตฟาดใส่ก็มิปาน ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ไหวติง
เซียวจื่อเซวียนถูกปิดตา เบื้องหน้ามีเพียงความมืดมิด แต่ยังสัมผัสได้ว่าคนที่อยู่ข้างหลังยืนนิ่งไม่ไหวติง
“จื่อเมิ่ง เจ้าเป็นอะไรไป? เหตุใดถึงไม่ซ่อนตัว? ” เซียวจื่อเซวียนเอ่ยถาม
เซียวจื่อเมิ่งพึมพำครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็กล่าวประโยคที่จับต้นชนปลายไม่ถูกออกมา “คนผู้นั้นคือเซียวหยวน”
นางเคยได้ยินเสียงของพวกค้ามนุษย์ตอนอยู่บนรถม้า เขาบอกว่าบนกายนางหอมมาก ในภายหลังได้ยินเสียงของเซียวหยวนอีกครั้ง นางก็รู้สึกว่าเสียงของคนผู้นี้ฟังดูคุ้นหู แต่ไม่รู้ว่าเคยได้ยินจากที่ไหน บัดนี้ ในที่สุดนางก็นึกออกแล้ว
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ วันนั้นในกลุ่มคนที่จับตัวข้ากับเสี่ยวฮวาไป มีเซียวหยวนด้วยเจ้าค่ะ ข้าเคยได้ยินเสียงของเขา เป็นเขาเจ้าค่ะ! ” เซียวจื่อเมิ่งกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง
เซียวยวี่และเซี่ยยวี่หลัวหันสบตากัน กำชับให้เด็กสองคนนอนดีๆ ใส่กุญแจประตูใหญ่เสร็จ ก็ไปยังบ้านของเซียวจิ้งยี่ระหว่างที่ฟ้ายังมืดอยู่
เวลานี้เซียวจิ้งยี่ยังนอนอยู่บนเตียงครุ่นคิดเรื่องของเซียวหยวน เขาได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างรีบร้อนจากด้านนอก จากนั้นจึงได้ยินเสียงตะโกนของเซียวเหลียน “ท่านพ่อ อายวี่กับภรรยาของเขามาหาท่านขอรับ บอกว่ามีธุระสำคัญ! ”
เซียวจิ้งยี่รู้ว่าเซียวยวี่ต้องพบเบาะแสสำคัญอีกแน่นอน จึงรีบสวมใส่เสื้อผ้า กวั่นซื่อลุกขึ้น ขยี้ตาที่ดูงัวเงียพลางเอ่ยถาม “ดึกถึงเพียงนี้แล้ว เซียวยวี่กับยวี่หลัวมาทำไมกัน? ”
“เจ้ารีบนอนเถิด! ” เซียวจิ้งยี่กล่าวจบ ก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ
หลังจากทั้งสามคนพบหน้ากัน ก็ไปยังบ้านของหลี่เจิ้งในคืนนั้น
เมื่อโหยวเจิ้งเฉิงได้ยินว่าพบตัวหนึ่งในพวกค้ามนุษย์ ก็ดีใจจนจะให้เหยาชิ่งกุ้ยและเหยาต้าไห่ไปจับกุมเขาทันที เซียวยวี่กลับขวางไว้ไม่ให้ไป “บัดนี้ยังมีคดีฆาตกรรมอีกหนึ่งคดี อาจมีความเกี่ยวข้องกับเซียวหยวนด้วย! ”
โหยวเจิ้งเฉิง “คดีฆาตกรรม? คดีฆาตกรรมอะไร?”
“พ่อตาของเขา เพิ่งจากโลกนี้ไปไม่นาน ปกติเป็นคนร่างกายแข็งแรง แต่จู่ๆ ก็สิ้นลมไป! ” เซียวจิ้งยี่ทอดถอนใจก่อนกล่าว “และสุราไหนั้นที่เซียวหยวนนำกลับไป เซียวยวี่ให้ท่านหมอดูแล้ว ในนั้นมียาแรงที่อันตรายถึงชีวิต! ”
เซียวยวี่ใช้นิ้วเคาะบนโต๊ะเบาๆ ท่ามกลางเงาราตรีที่เงียบสงัด เกิดเสียง “ก๊อกก๊อกก๊อก” ดังขึ้น
เซี่ยยวี่หลัวนั่งอยู่ข้างๆ มองดูเซียวยวี่ที่อยู่ภายใต้แสงไฟจากตะเกียงน้ำมัน
ยามนี้เขากำลังครุ่นคิดอย่างตั้งอกตั้งใจ ขมวดคิ้วเข้มเล็กน้อย และเม้มริมฝีปากบางไว้ สีหน้าเคร่งขรึมและมีสมาธิจดจ่อ
ภายใต้แสงไฟจากตะเกียงน้ำมันที่มืดสลัว จู่ๆ เซี่ยยวี่หลัวก็นึกถึงท่านราชบัณฑิตน้อยในช่วงหลังของนิยาย
เขาโหดเหี้ยมเลือดเย็น มากเล่ห์เหลี่ยมจัด ยามครุ่นคิดไตร่ตรองมักจะใช้นิ้วชี้เคาะบนโต๊ะเบาๆ สีหน้าลุ่มลึกอย่างที่คนอื่นไม่อาจอ่านใจได้
เฉกเช่นยามนี้
เซียวยวี่ชักมือกลับ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ในเมื่อพวกเรารู้แล้วว่าเขาเป็นพวกค้ามนุษย์ เช่นนั้นเขาต้องมีพวกพ้องแน่นอน พวกเรารออย่างสงบ อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น ใช้วิธีจับเต่าในไห!2 ”