ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 444 ต้นสือหู
ตอนที่ 444 ต้นสือหู
จี้อวิ๋นอวิ๋นไม่ได้สงสัยว่าเขาหลอกหล่อน ทั้งยังมีท่าทางพึงพอใจ เห็นไหมเล่า หล่อนตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว ผู้ชายดูออกง่ายกันทั้งนั้น ยิ่งหล่อนไม่รับของจากหลี่เทียนเฉิ่ง หลี่เทียนเฉิ่งยิ่งพยายามชดเชยให้หล่อนด้วยวิถีทางอื่น และมันยิ่งทำให้หล่อนได้มากกว่าเดิมเสียอีก!
ประเด็นสำคัญคือแม้เขาจะทำเพื่อหล่อนแล้ว แต่หลี่เทียนเฉิ่งยังคงรู้สึกผิดต่อหล่อน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่หล่อนต้องการ
หากต้องการให้จี้อวิ๋นอวิ๋นช่วยคลอดลูกของเขาให้ จะให้เงินเพียงเล็กน้อยได้อย่างไรกัน เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ต่อไปยังต้องใช้หลี่เทียนเฉิ่งให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้
ชีวิตแสนสุขของหล่อนเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น!
ในขณะที่จี้อวิ๋นอวิ๋นใช้ชีวิตสุขสบายที่นี่ ซูตานหงซึ่งอาศัยในชนบทกำลังใช้ชีวิตเนิบช้าตามแบบฉบับของตัวเอง
เธอเข้านอน 3 ทุ่มเป็นประจำ ดึกมากที่สุดเพียง 4 ทุ่มครึ่ง ก่อนตื่นแต่เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น พักผ่อนครึ่งชั่วโมงในช่วงเที่ยง หากไม่มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น เธอมักทำเช่นนั้นเป็นกิจวัตร
วันหนึ่งซูตานหงส่องกระจก เธอก็เห็นรอยตีนกาบริเวณคิ้วและดวงตาของตน
“ฉันอายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้วสินะ” ซูตานหงว่าตัดพ้อ
ระหว่างที่เธอมองตนเองในกระจก จี้เจี้ยนอวิ๋นแปรงฟันอยู่ข้างเธอ เขาถามขึ้น “มีอะไรเหรอครับ?”
“ฉันมีรอยตีนกาขึ้นตรงนี้น่ะค่ะ” ซูตานหงชี้ให้เขาดูพลางบอก
อย่างไรเสียผู้หญิงก็ไม่อาจต้านทานความเสื่อมถอยตามกาลเวลาได้ เธอดูแลตัวเองเป็นอย่างดีมาตลอด แต่ริ้วรอยยังคงปรากฏให้เห็น
ปีนี้เธออายุอยู่ในวัย 30 ปีเท่านั้น
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลยครับ ยิ่งดูสวยมากกว่าแต่ก่อนซะอีก” จี้เจี้ยนอวิ๋นว่าปลอบ
ซูตานหงเอ่ยแง่งอน “อย่ามาปลอบฉันเลยค่ะ ผู้หญิงจะยิ่งแก่ยิ่งสวยได้ยังไง? ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าผ่านไปปีแล้วปีเล่า วันคืนผ่านไปเร็วมาก ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ผ่านไปปีหนึ่งแล้วค่ะ”
เป็นเช่นนั้นไม่ใช่หรือ? ครอบครัวเธอมีกิจการมากมาย ทำส่วนนี้เสร็จ ต่อด้วยอีกส่วนหนึ่ง และยังมีอีกส่วนที่รอให้จัดการ เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ปีหนึ่งก็ได้พ้นผ่านไปเสียแล้ว
ผ่านพ้นไปปีแล้วปีเล่า เมื่อมองย้อนกลับไป เวลาล่วงเลยไปนานขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
“ผมพูดจริง ๆ นะครับ มีใครในหมู่บ้านที่รุ่นราวคราวเดียวกับคุณแล้วยังสาวและสวยไปกว่าคุณกันครับ? ไม่ต้องพูดถึงคนอายุเท่ากัน แม้แต่คนที่วัย 20 ต้น ๆ ยังเทียบคุณไม่ได้เลยครับ!” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอก
ไม่มีข้อกังขา เมื่อชายคนนี้พูดถึงคนที่รัก เขาก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าใคร
เรียกได้ว่าปลอบใจและโน้มน้าวซูตานหงได้ดีทีเดียว เธอจึงเชื่อว่าตัวเองยังสวยและไม่แก่แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามซูตานหงใส่ใจกับการดูแลตัวเองมากขึ้น เดี๋ยวนี้เธอดื่มน้ำเต้าหู้อาทิตย์ละ 3 ครั้ง รวมถึงน้ำงาดำและน้ำถั่วอีกด้วย เธอรักษาสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี
เธอไหว้วานให้คุณป้าหูนำเมล็ดดอกไม้กลับมา เพราะคุณป้าหูรู้แหล่งขาย จึงซื้อกลับมาให้เธอได้เป็นจำนวนมาก ซูตานหงจึงนำลงปลูกที่สวนหลังบ้านและคอยดูแล พวกมันจะถูกใช้ไปทำครีมประทินผิว
ตอนนี้สวนหลังบ้านของเธอค่อย ๆ ถูกแปลงโฉมเป็นสวนดอกไม้ ซึ่งแต่เดิมมีแปลงดอกไม้อยู่ที่หนึ่ง ตอนนี้ที่แปลงนั้นกลับถูกเธอย้ายออกมา ก่อนบอกให้จี้เจี้ยนอวิ๋นช่วยสร้างชั้นวางจำนวนมาก เมื่อฝนตกก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากมีผ้าใบคลุมเอาไว้อยู่ ต้นไม้จึงได้ไม่ได้รับความเสียหาย
เมื่อพูดถึงเรื่องฝนแล้ว ปีนี้ก็มีฝนตกชุก ฝนตกลงมาเป็นช่วง ๆ ในช่วงฤดูร้อน และแต่ละครั้งตกเป็นเวลาหลายวัน
ตอนนี้เข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อีกไม่นานฝนคงตกลงมาอยู่เนือง ๆ อากาศจึงร้อนอบอ้าวและคาดเดาไม่ได้เช่นนี้
ซูตานหงจึงระมัดระวังเป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นลูก ๆ คงจะเป็นหวัดกันได้
แกะที่สวนไม่ได้ถูกขายในฤดูหนาว บางครั้งจี้เจี้ยนอวิ๋นจะชำแหละ 1 หรือ 2 ตัวเพื่อนำไปขาย แต่ไม่ได้ชำแหละบ่อยนัก เมื่อแกะตัวโตถูกชำแหละ เขามักจะซื้อแกะกลับมาทดแทน หรือให้แม่พันธุ์ที่สวนคลอดลูกแกะออกมาเอง
จี้เจี้ยนอวิ๋นชำแหละไป 2 ตัวในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงนี้ เก็บไว้ให้ซูตานหงเคี่ยวน้ำแกงที่บ้านเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นอาหารบำรุงสำหรับพวกเขา
ทว่าฤดูกาลนี้เป็นร้อนในได้ง่าย หลังจากกินเนื้อ ซูตานหงมักต้มชาดอกสายน้ำผึ้งให้พวกเขาดื่มดับร้อน
ต้นสายน้ำผึ้งที่สวนเติบโตขึ้นมาก พื้นที่บริเวณด้านขวาของเล้าไก่ที่สวนแห่งแรกนั้นเต็มไปด้วยต้นสายน้ำผึ้ง ซูตานหงเก็บเอาไว้มาก จึงเป็นเรื่องดีในการนำไปต้มกินตอนฤดูหนาวเป็นครั้งคราว ซึ่งมันมีสรรพคุณในการบรรเทาอาการร้อนในซึ่งได้ผลชะงัด
ตอนนี้ซูตานหงกำลังเรียนรู้การปลูกต้นสือหู(1) เธอต้องการปลูกต้นสือหูเอาไว้ที่สวนของตน ทว่ายังไม่มีต้นแม่พันธุ์ ครั้งก่อนเจินเหมียวหงเอามาฝาก ซูตานหงจึงนำไปต้มกินให้จี้เจี้ยนอวิ๋นดื่ม
ช่วงนั้นจี้เจี้ยนอวิ๋นเป็นร้อนในอยู่หลายวัน ขนาดดื่มชาดอกสายน้ำผึ้ง(2)ก็ยังไม่หาย เขาจึงดื่มน้ำรากป่านหลานเกิน(3) หากแต่ยังคงไม่ได้ผล
จังหวะนั้นเองเจินเหมียวหงก็นำต้นสือหูมาฝาก มันมีจำนวนไม่มากนัก มีเพียงครึ่งชั่งกว่าเท่านั้น เธอจึงนำมาต้มให้จี้เจี้ยนอวิ๋นดื่ม
นอกจากจะได้ผลชะงัดแล้ว เมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น จี้เจี้ยนอวิ๋นยังรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก หลังจากดื่มได้เพียง 2 ถึง 3 ครั้ง อาการร้อนในของเขาจึงหายไป
เธอถามเรื่องนี้กับเจินเหมียวหง เจินเหมียวหงบอกว่าหล่อนเองได้เป็นของฝากมาเช่นกัน และไม่ทราบว่าจะหาซื้อได้จากที่ใด
ทว่าในบริเวณนี้ ดูเหมือนจะไม่เหมาะสมในการปลูกมันนัก
จะเหมาะสมหรือไม่นั้นไม่สำคัญสำหรับซูตานหง เธอสามารถปลูกพืชที่ได้ชื่อว่าไม่เหมาะกับการปลูกที่นี่ได้ อย่างสวนสมุนไพรที่สวนแห่งแรก ต้นโสม 2 ต้นก็ถูกนำลงปลูกแล้ว
มีเพียงจี้เจี้ยนอวิ๋นที่รู้เรื่องนี้ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้อีก อันที่จริงสภาพพื้นที่ตรงนี้ไม่เหมาะกับการปลูกโสมเลย แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์ของน้ำพุวิเศษ ต้นโสมจึงเติบโตได้ดี ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้ว ต้นโสมทั้ง 2 ต้นยังคงยืนต้นอยู่ที่นั่น พวกมันเติบโตเต็มที่ และไม่ได้ถูกขุดขึ้นมา
เมล็ดต้นโสมมากมายถูกซูตานหงเก็บมา บางส่วนถูกเธอโรยปลูกที่สวนหลังบ้าน หากแต่ฉีฉีกลับคิดว่ามันเป็นวัชพืช เขาจึงถอนออกมาเสียหมด ชวนให้ปวดใจยิ่งนัก
ซูตานหงต้มต้นสือหูที่เหลืออยู่ เมื่อจี้เจี้ยนอวิ๋นกลับมา จึงยกไปให้เขาดื่ม
เธอต้มมาได้มากกว่า 1 ถ้วย ให้จี้เจี้ยนอวิ๋นดื่ม 1 ถ้วย ส่วนเธอดื่มอีกครึ่งถ้วยที่เหลือ ก่อนเขาจะบอก “ผมถามคนเกี่ยวกับต้นสือหูนี้แล้วนะ เขาบอกว่ามีอยู่ที่อันฮุยน่ะ”
“ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่นะคะ” ซูตานหงเอ่ยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ครับ ผมตั้งใจว่าจะไปสำรวจที่นั่นดูเสียหน่อย จะไปซื้อทั้งแบบอบแห้งและเมล็ดมาให้คุณด้วย” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอก
เขารู้ว่าต้นสือหูมีสรรพคุณดีเช่นกัน อย่างน้อยในตอนที่เขาเป็นร้อนในหนัก และไม่สามารถใช้ยาใดบรรเทาได้ การดื่มมันเพียงเล็กน้อยกลับได้ผลดีกว่าสิ่งใด
“คุณจะไปกี่วันคะ?” ซูตานหงไม่ได้ห้ามเขาแต่อย่างใด ตอนนี้เรื่องที่บ้านไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ไม่ต้องกังวลที่จะออกไปข้างนอก
“น่าจะครึ่งเดือนได้ครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นตอบ
อันฮุยอยู่ไม่ห่างจากที่นี่นัก เพียงแค่ต้องขับรถไปตามถนนเท่านั้น
“อย่างนั้นคุณก็จัดการเรื่องที่บ้านแล้วไปรับแม่ฉันมาเถอะค่ะ” ซูตานหงกล่าว
เธอไม่ได้พบหน้าแม่ของตนมาครู่ใหญ่แล้วเช่นกัน ไปรับมาอยู่ด้วยกันที่นี่คงดีไม่น้อย
……………………………………………………………………………………………………………………….
(1)ตัวยากล้วยไม้ของจีน มาจากกล้วยไม้สกุลหวายที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dendrobium nobile Lindl., Dendrobium huoshanense Z.Z.Tang et S.J.Cheng เป็นหนึ่งใน 50 สุดยอดสมุนไพรจีน สรรพคุณบำรุงหยิน เป็นยาเย็นแก้ร้อนใน (ภาพจาก https://baike.baidu.com/item/%E7%9F%B3%E6%96%9B/998157)
(2) ดอกไม้สมุนไพรของจีน มีชือวิทยาศาสตร์ว่า Lonicera japonica Thunb. (ภาพจาก https://www.thailandplus.tv/archives/212214)
(3) สมุนไพรจีน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Isatis tinctoria Linn. รากถูกนำมาใช้ทำยา (ภาพจาก https://bowuguan.bucm.edu.cn/kpzl/zyyzs/48187.htm)
สารจากผู้แปล
เหมือนอาจารย์อยากจะเปรียบเทียบวิธีรวยของนังอวิ๋นกับตานหงอย่างไรไม่รู้ค่ะว่ารวยแบบไหนมั่นคงกว่า ของนังอวิ๋นโลดโผนรวยเร็วก็จริงแต่ตกลงมาแล้วเจ็บหนัก ขณะที่ของตานหงค่อยเป็นค่อยไปแต่รวยและสวยแบบมั่นคงอะไรอย่างนี้ ถามว่าใครเป็นนางเอก เรื่องนี้อาจารย์น่าจะเขียนให้ไม่มีนางเอกแต่เป็นตัวเอกหญิงสองคนมากกว่านะคะผู้แปลว่า ดังนั้นถ้าอยากอ่านเรื่องนี้ให้รอดจนจบเรื่อง ให้ตัดภาพจำที่ว่าจะต้องเป็นเรื่องของนางเอกล้วน ๆ ทิ้งไปค่ะ แล้วคิดว่าอ่านเรื่องของตัวเอกหญิงสองคนเปรียบเทียบไปด้วยกันแทน เชียร์ฝ่ายหนึ่งให้รุ่งแล้วแช่งอีกฝ่ายให้ร่วงอะไรอย่างนี้
ปลูกสมุนไพรรายได้ดีนะคะ ยิ่งเป็นตัวยาที่อยู่ในตำรับสุดยอดสมุนไพรนี่ยิ่งมีมูลค่าสูงเลย
ไหหม่า(海馬)