ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2517 ไม่มีทางทำร้ายซี
“ฝ่าบาทจิ่วเยี่ย อู๋หยาไม่อาจหลีกทางให้ท่านได้!” ค่ายกลที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้นมาทีละชั้น และอู๋หยาก็ขังจิ่วเยี่ยเอาไว้
“วันนี้ข้าจะต้องฆ่ามู่เฉียนซีให้ได้ ฝ่าบาทโปรดอย่าขัดขวางเลยพ่ะย่ะค่ะ!”
จิ่วเยี่ยได้ระเบิดพลังแห่งความมืดอันน่าสะพรึงกลัวออกมา และเริ่มทะลวงที่คุมขังของอู๋หยาชั้นแล้วชั้นเล่า แต่ทว่าในเวลานี้ลูกธนูน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังพุ่งไปทางมู่เฉียนซีแ แล้ว
“ตึงง!” และลำแสงสีฟ้าได้ขัดขวางการโจมตีที่รุนแรงถึงชีวิตในครั้งนี้เอาไว้ได้
มู่เฉียนซีรู้ว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปจำนวนการป้องกันที่สมบูรณ๋แบบจะต้องถือขีดจำกัดแน่นอน และอู๋หยาก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีเช่นกัน
“ตูมม!” และเสียงระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวดังกึกก้องไปทั่วทั้งท้องนภา
“ฝ่าบาท เพื่อนางแล้ว แม้ว่าท่านจะต้องปลดผนึกคำสาป ท่านก็จะต้องรักษาชีวิตของนางไว้ให้ได้อย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?” อู๋หยากล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว! ข้าจะสูญเสียซีไปไม่ได้!” ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นทำให้รู้สึกเย็นวาบถึงกระดูกดำ และมันก็ลึกล้ำราวเหวลึกก็มิปาน
“ขวางฝ่าบาทจิ่วเยี่ยเอาไว้!” อู๋หยาเอ่ยปาก
ตูมม โครมม!
หลังจากนั้นอู๋หยาก็ยิงธนูออกไปอีกครั้ง เขาต้องรีบทำเวลาในการฆ่ามู่เฉียนซี และผลาญจำนวนการป้องกันของมู่เฉียนซีให้เร็วที่สุด แต่ทว่ามันก็ยังเร็วไม่พออยู่ดี!
ตูมมม!
ในที่สุดจิ่วเยี่ยก็สามารถทะลวงที่ขุมขังอันแน่นหนาของเขาออกมาได้ และรีบพุ่งไปอยู่ข้างกายมู่เฉียนซีทันที
“อู๋หยา! เจ้าอยากตายอย่างนั้นหรือ ข้าจะทำให้เจ้าสมปรารถนาเอง!”
ทำลายล้างมันซะ! ต้องทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างให้สิ้นซาก
พลังอันน่าสะพรึงกลัวได้ทำลายล้างอย่างรุนแรง และทุกคนที่ถูกจิ่วเยี่ยหมายหัวเอาไว้ว่าเป็นศัตรู ก็ได้ถูกทำให้หายไปจากแดนนรกแห่งนี้อย่างสมบูรณ์
นี่คือความแข็งแกร่งของอ๋องจิ่วเยี่ยแห่งแดนนรก ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนต่างเบิกตาโพล่งด้วยความหวาดกลัว
แค่ความปรารถนาของเขา ก็สามารถทำให้จิตวิญญาณของผู้คนแตกกระจายได้แล้ว และหากต้องสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน มันจะน่าหวาดกลัวมากเพียงใดกัน
อู๋หยาเองก็หายไปเช่นกัน และแน่นอนว่านี่ก็ไม่ใช่ร่างจริงของเขาอย่างเห็นได้ชัด
“ฝ่าบาท หากมีท่านอยู่ ดูท่าแล้วอู๋หยาก็คงไม่สามารถฆ่ามู่เฉียนซีได้แน่ แต่ว่าท่านทำได้! ท่านสามารถทำได้! เช่นนั้นข้าก็ปล่อยให้ฝ่าบาททำลายนางด้วยมือตนเองก็แล้วกัน!”
และสิ่งที่อู๋หยาได้เหลือทิ้งเอาไว้ก็คือประโยคทิ้งท้ายเช่นนี้
จิ่วเยี่ยได้เอามู่เฉียนซีมากอดไว้แน่น และมู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ว่าพลังคำสาปนั้นกำลังปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง
นางอดที่จะไม่คิดไม่ได้ว่า เป้าหมายของอู๋หยาคือการฆ่านาง? หรือว่าต้องการจะบีบบังคับให้จิ่วเยี่ยใช้พลัง จนไม่สามารถควบคุมคำสาปได้กันแน่
ความคิดของอู๋หยานั้นยากที่จะคาดเดา บางทีเขาอาจคิดที่จะทำทั้งสองเรื่องเลยก็เป็นได้
หากอย่างแรกสำเร็จ เช่นนั้นจิ่วเยี่ยก็ไม่ต้องทกข์ทรมาน แต่หากอย่างหลังสำเร็จ…
ทุกคนต่างสามารถสัมผัสถึงพลังที่น่ากลัวเป็นพิเศษจากในร่างกายของจิ่วเยี่ยได้ มันอันตราย…
และมู่เฉียนซีที่ถูกจิ่วเยี่ยกอดเอาไว้แน่นในอ้อมแขนนั้น ทำให้ทุกคนเป็นกังวลมากจริงๆ “ท่านเจ้าเมือง!”
“ท่านหมอปีศาจ!”
“นายท่าน!”
ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกคู่นั้นของจิ่วเยี่ยกวาดมองไปทางพวกเขาโดยไม่มีอารมเลยแม้แต่น้อย และเขารู้สึกแค่ว่าคนเหล่านี้ช่างหนวกหูเสียจริง
ซีคือของเขา! เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์เข้าใกล้ซี หรือแม้แต่เรียกหาซี ก็ทำไม่ได้ มิเช่นนนั้นจะถูกทำลาย…
“ตูมมม!” มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวออกมา และพื้นดินที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของจิ่วเยี่ย ก็ปรากฏรอยแตกร้าวที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้งขึ้นมารอยหนึ่ง
และการสูญเสียการควบคุมก็มีอยู่ระหว่างเส้นบางๆเท่านั้น!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย พวกเราไปที่หุบเขาลั่วซีกันเถอะ! ไปที่นั่นดีไหม? เจ้าน่าจะรู้ว่าต้องไปอย่างไรใช่หรือไม่? นั่นเป็นของขวัญชิ้นแรกที่เจ้ามอบให้ข้า หลังจากที่ข้ามาถึ งแดนนรกแห่งนี้อย่างไรล่ะ!”
“หากซีอยากไป เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ!” จิ่วเยี่ยอุ้มมู่เฉียนซีเอาไว้ จากนั้นก็หายไปต่อหน้าต่อหน้าทุกคนในทันที
หลังจากที่จิ่วเยี่ยหายไป พลังการทำลายล้างที่ทำให้คนหายใจไม่ออกนั้นก็หายไปด้วยเช่นกัน แต่สีหน้าของทุกคนกลับแสดงท่าทีที่เคร่งขรึมออกมา
“ข้าปล่อยให้เจ้านายตัวน้อยที่น่ารักของข้าถูกหวงจิ่วเยี่ยที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าสัตว์ร้ายคลั่งผู้นั้นลักพาตัวไปแล้ว ไม่ได้…”
ฝูเซิงในตอนนี้ได้สติกลับมาแล้ว และรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ข้าอยากที่จะตามไปด้วย แต่กลับถูกจื่อโยวขวางเอาไว้เสียก่อน
“หากเจ้าอยากจะถูกทำลายจนกลายเป็นเถ้าถ่านแล้วล่ะก็ เจ้าก็สามารถตามไปได้! ตอนนี้มีเพียงคนงามเท่านั้นที่สามารถฟื้นฟูจิตสำนึกของเขาได้ เจ้าไปก็มีแต่สร้างปัญหาเท่านั้น”
“หากนางทำไม่ได้ล่ะ! เช่นนั้นไม่เท่ากับว่าปล่อยให้เจ้านายของข้าเข้าไปในปากเสืออย่างนั้นหรือ?” ฝูเซิงกล่าวอย่างโกรธเคือง
“ข้าเชื่อคนงาม เชื่อนาง!” จื่อโยวกำหมัดแน่น เพราะภายในใจของเขาก็กังวลเรื่องนี้อยู่เช่นกัน
“แต่เจ้าก็ไม่กล้ารับประกันมิใช่หรือไงล่ะ? ถอยไป!” ฝูเซิงกล่าวอย่างจริงจัง
“ไม่ได้!”
“ตูมมม!” การต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งเพิ่งจะสิ้นสุดลง คิดไม่ถึงเลยว่าคนของตนเองจะเริ่มสู้กันอีกครั้งเช่นนี้
ในเวลานี้มู่เฉียนซีได้มาถึงหุบเขาลั่วซีภายในพริบตาเดียว และในตอนที่นางลงไปในทะเลสาบ จิ่วเยี่ยก็เริ่มจุมพิตนางทันที!
เมื่อจุ่มพิตนั้นทำให้เขาพอใจไม่ได้ เขาก็เริ่มกัดมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ซี ข้าทรมานเหลือเกิน!”
เขาทรมานจนอยากที่จะฉีกคนออกเป็นชิ้นๆเลยทีเดียว และตอนนี้มู่เฉียนซีก็นำยาน้ำหลายขวดออกมาให้จิ่วเยี่ยดื่ม หลังจากนั้นก็ใช้พลังแห่งชีวิตอย่างบ้าคลั่งเพื่อผนึกคำสาปเอาไว้!
และมันก็เป็นดั่งที่อู๋หยาได้กล่าวเอาไว้ หากพลังที่บ้าคลั่งนี้ไม่สามารถควบคุมได้ จิ่วเยี่ยก็อาจจะลงมือสังหารนางด้วยตนเอง
ไม่ว่าจะเป็นยาน้ำหรือพลังแห่งชีวิตต่างก็ไม่ได้ผล และมู่เฉียนซีก็รู้ดีว่าคำพยากรณ์ของอู๋หยานั้นแม่นยำมากเพียงใด แต่นางก็ไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
เพราะคนผู้นี้คือจิ่วเยี่ย และไม่ว่าเขาจะเสียสติอย่างสมบูรณ์เพราะคำสาปหรือไม่ก็ตาม แต่เขาก็คือจิ่วเยี่ยที่นางชอบอยู่ดี
ตอนนี้นางเป็นเหมืนอกับเรือลำน้อยที่ลอยอยู่กลางมหาสุมทรอันกว้างใหญ่ก็มิปาน และในที่สุดก็มีมือใหญ่มือหนึ่งมาคว้าเรือลำน้อยลำนี้เอาไว้
จิ่วเยี่ยกระซิบที่ข้างหูของมู่เฉียนซีด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า “ซี ข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้าอย่างแน่นอน!”
“พรวด!” และกลิ่นเลือดก็คละคลุ้งไปทั่วทะเลสาปแห่งนี้ และมู่เฉียนซีก็ได้ค้นพบว่าเขาควบคุมตนเองด้วยการทำร้ายตัวเอง
ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้บนร่างกายที่สมบุรณ์แบบนั้นก็เต็มไปด้วยรอยแผล
ศรีษะของจิ่วเยี่ยพิ่งอยู่บนตัวของมู่เฉียนซี จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ซี! ข้าง่วงแล้ว!”
“ข้าจะนอนพักสักหน่อย อย่าลืมปลุกข้าด้วยล่ะ”
มู่เฉียนซีผงะไปเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวว่า “ได้สิ!”
พลังแห่งชีวิตได้ชำระล้างร่างกายของหวงจิ่วเยี่ย และหลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็รักษาบาดแผลให้กับจิ่วเยี่ยอีกด้วย
จิ่วเยี่ยไม่ยอมอ้อมมือให้ตนเองเลย และเมื่อมองดูแล้วรอยแผลที่ลึกถึงกระดูกนั้นช่างน่าสยดสยองเป็นอย่างมาก
โชคดีที่เป็นเพียงอาการบาดเจ็บภายนอกเท่านั้น ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนางเลย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้จิ่วเยี่ยหลับลึกนั้น มู่เฉียนซีต้องลองไปค้นหาเหตุผลดูสักหน่อย
พลังคำสาปได้ถูกพลังของจิ่วเยี่ยสะกดเอาไว้ได้แล้ว และเห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้สร้างปัญหามากเท่าไรนัก แต่ทว่าพลังลึกลับนั้นกลับช่วยเหลือมันทรมานเขา
มู่เฉียนซีรู้สึกคุ้นเคยกับพลังนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งพลังนี้ค่อยข้างมีความคล้ายคลึงกับพลังที่อยู่บนร่างกายพ่อบุญธรรมของพวกจูเชว่มากทีเดียว
หากจะกล่าวถึงความแตกต่างแล้วล่ะก็ พลังนี้เหมือนจะแข็งแกร่ง และลึกเกินหยั่งถึงมากยิ่งกว่านั่นเอง
พลังนี้โผล่ออกมาจากที่ไหนกันแน่? ซึ่งนางก็ไม่เคยเห็นมันบนร่างกายของจิ่วเยี่ยมาก่อน นอกจากนี้มันยังปรากฏขึ้นในตอนที่จิ่วเยี่ยสามารถใช้พลังของตนเองสะกดพลังคำสาปนี้ได้แล้ วอีกด้วย
เหมือนกับว่ามันจงใจทำให้จิ่วเยี่ยใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอย่างไรอย่างนั้นเลย ซึ่งมันก็เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาทที่รุนแรงมากเลยทีเดียว
จิ่วเยี่ยเริ่มหลับลึก และเมื่อเห็นเขาหลับอย่างมั่นคงเช่นนี้ ถึงนี่จะเป็นฉากที่หาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าภายในใจของมู่เฉียนซีในเวลานี้กลับเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
จากกลางวันเปลี่ยนเป็นกลางคืน และจื่อโยวกับฝูเซิงก็ต่อสู้กันจนเหนื่อยไปในที่สุด
“ใต้เท้าจื่อโยว พวกของผู้คุมปีศาจแห่งความมืดหนีไปแล้ว แต่พวกเราไม่ได้ไล่ตามไปขอรับ” และในเวลานี้ก็มีคนมากล่าวรายงาน
ซึ่งผู้คุมปีศาจแห่งความมืดก็ได้หนีไปตั้งแต่ตอนที่อู๋หยาเริ่มลงมือแล้ว
ดูเหมือนว่าเขาจะคาดการณ์ได้ว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งผลปรากฏว่าเยี่ยได้โกรธขึ้นมาจริงๆ และไม่ว่าจะเป็นร่างแยกของอู๋หยา เผ่าเทพหรือเผ่าคำสาปต่างก็ถูกท ทำลายล้างจนไม่เหลือแม้แต่ซากเลยด้วยซ้ำ
จื่อโยวกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “อู๋หยาได้คำนวณเอาไว้หมดแล้ว ซึ่งเขาทนสูญเสียหมากที่ไร้ประโยชน์อย่างผู้คุมปีศาจแห่งความมืดไปไม่ได้ เพราะหากเยี่ยสามารถยึดเรือนจำปีศาจแห่งควา ามมืดได้ ทั่วทั้งแดนนรกก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเยี่ย หลังจากนั้นแดนนรกก็จะแข็งแกร่งจนไม่มีใครสามารถทำลายได้ และไม่ว่าจะเป็นเขาหรือเผ่าเทพ ก็ยากที่จะทำอะไรได้อีกแล้ว”