ปฏิญญาค่าแค้น - ตอนที่ 66 จัดสรร
หลี่หมิงอวินให้เวลาหลินหลันได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แล้วตนเองปลีกตัวออกไปจัดการเรื่องราวต่างๆ
ทว่าหลินหลันต้องการพักผ่อนเสียที่ไหนกัน การต่อสู้อันแสนสมบูรณ์แบบเพิ่งจบลงไปหยกๆ นางยังตื่นตาตื่นใจอยู่เลย! และระหว่างนั้นเองนางเห็นหยินหลิ่วกับหรูอี้นำเสื้อผ้าของนางถือเขามาแล้วทยอยวางเข้าที่เข้าทางอย่างเป็นระเบียบทีละตัวทีละตัว จึงให้หยินหลิ่วหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เปลี่ยนเพื่อเตรียมออกไปทำความคุ้นเคยบ้านใหม่หลังนี้เสียหน่อย
อวี้หลงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยทักท้วง “เอ้อร์เส้าหน่ายนายเจ้าคะ เอ้อร์เส้าเหยียสั่งไว้ว่าให้ท่านพักผ่อนนะเจ้าคะ!”
หลินหลันกล่าว “พักผ่อนอะไรกัน! ไม่ได้เป็นอะไรหนักหนาเสียหน่อย เมื่อก่อนตอนที่ขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนเขาแล้วกลิ้งตกลงมายังทำอะไรข้าไม่ได้เลย แถมยังเดินหลายสิบลี้เข้าเมืองไปซื้อยาทั้งสภาพอย่างนั้นด้วย แล้วกับแผลเล็กน้อยแค่นี้จะทำอะไรข้าได้หรือ”
อวี้หลงรู้สึกลำบากใจ “ทว่าตอนนี้ท่านคือเอ้อร์เส้าหน่ายนายนะเจ้าคะ!”
หรูอี้รู้สึกเหลือเชื่อต่อสิ่งที่ได้ยิน “เอ้อร์เส้าหน่ายนาย ท่านเคยกลิ้งตกลงมาจากภูเขา…จริงๆ หรือเจ้าคะ”
เดิมทีหลินหลันรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องหนึ่งที่ควรค่าแก่การภาคภูมิใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านางมีร่างกายอันแข็งแรงเพียงใด ทั้งยังดวงแข็งมากเสียด้วย ทว่าด้วยการเน้นหนักในคำว่า ‘กลิ้ง’ คำนั้นของหรูอี้ ส่งผลให้นางเกิดรู้สึกขายหน้าเล็กน้อยอย่างกะทันหัน จึงส่งเสียงหัวเราะแฮะๆ ออกไป “อาจจะเกินจริงไปบ้างนิดหน่อยน่ะ…”
ทางด้านหยินหลิ่วกลับพูดขึ้นอย่างภูมิใจ “หรูอี้ เอ้อร์เส้าหน่ายนายของพวกเรามีทักษะที่ไม่ธรรมดาเลยล่ะ ทันทีที่ขว้างมีดทำครัวออกไป เจ้าลองเดาสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
หรูอี้เบิกดวงตาโต เอ้อร์เส้าหน่ายนายยังขว้างมีดทำครัวออกไปด้วย?
“เพียงมีดเดียวก็สับหัวงูจนขาดสะบั้น ตรงเพ่ง เข้าจุดเส้นประสาทสำคัญของงูพอดิบพอดีด้วย ซึ่งก็เป็นครั้งนั้นแหละที่เอ้อร์เส้าหน่ายนายได้ช่วยชีวิตเอ้อร์เส้าเหยียเอาไว้” หยินหลิ่วพูดอย่างภูมิอกภูมิใจ
ขณะนั้นเองนัยน์ตาคู่นั้นของหรูอี้ก็เปล่งประกายสดใส โดยมองไปยังนายหญิงร่างบางด้วยความเคารพนับถือ ทว่ามิใช่เพราะความสามารถในการขว้างมีดทำครัวของนายหญิงแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะการขว้างมีดออกไปของนายหญิงได้ช่วยชีวิตของคุณชายรองเอาไว้ต่างหาก……
“ที่แท้ก็เป็นเรื่องจริงนี่เอง! มิน่าล่ะใครต่อใครต่างพากันพูดว่าเอ้อร์เส้าหน่ายนายช่วยชีวิตเอ้อร์เส้าเหยียเอาไว้” หรูอี้กล่าวด้วยความซาบซึ้ง
หลินหลันเองก็ไม่ขัดขวางการคุยโวโอ้อวดของหยินหลิ่วเช่นกัน “พวกเจ้าค่อยๆ เก็บข้าวของกันไปแล้วกัน ข้าขอออกไปดูข้างนอกเสียหน่อย”
อวี้หลงได้แต่ยิ้มเจื่อน ทำได้เพียงปล่อยนางไปอย่างที่ใจต้องการ
ป๋ายฮุ่ยซึ่งอยู่ด้านนอกกำลังสั่งให้แต่ละคนช่วยกันขนย้ายสิ่งของไปยังแต่ละห้อง
“ของขวัญเหล่านี้ย้ายไปไว้ทางห้องปีกตะวันตกเสียก่อน จัดการเก็บเข้าไปให้เรียบร้อยแล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะวางไว้ตำแหน่งใด…”
“นี่เป็นของเอ้อร์เส้าหน่ายนาย ช่วยกันยกเข้าไปเสีย…”
“ส่วนของเหล่านี้เป็นของแม่โจว นำเข้าไปวางไว้ในห้องของแม่โจว…”
หลินหลันเห็นได้ทันทีว่านางมีความสามารถและมีระเบียบแบบแผนอย่างมากผู้หนึ่ง ดูเหมือนว่าแม่โจวจะได้ผู้ช่วยที่ดีเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้วสินะ
เมื่อเห็นนายหญิงที่เพิ่งออกมาด้านนอก ป๋ายฮุ่ยจึงรีบเข้ามาให้การคาราวะ “เอ้อร์เส้าหน่ายนาย เหตุใดท่านจึงออกมาข้างนอกล่ะเจ้าคะ”
“ข้าไม่เป็นไรแล้ว เลยออกมาเดินเล่นถือโอกาสชมบ้านใหม่หลังนี้เสียหน่อย” หลินหลันซึ่งยืนภายใต้ชายคากวาดสายตามองลานบ้านแห่งนี้ บริเวณใจกลางของลานบ้านมีโขดหินอยู่จำนวนหนึ่งโดยบริเวณด้านข้างหินนั่นมีต้นกล้วยปลูกเอาไว้อยู่สองสามต้น และมีห้องปีกตะวันออก ใต้และตะวันตกซึ่งแบ่งออกเป็นห้าห้องใหญ่ๆ ในแต่ละปีก ด้านหน้าของห้องปีกใต้ที่นางพักอาศัยอยู่ยังมีอาคารเล็กๆ สามห้องซึ่งต่อเติมออกมาผนวกกับฉากกั้นลวดลายแกะสลักสีสันสดใส ด้านบนมีอักษรขนาดใหญ่ซึ่งให้ความหมายว่าความสุขติดเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีโคมไฟแปดเหลี่ยมสีแดงห้อยระย้าไว้ตลอดระเบียงทางเดิน ให้ความรู้สึกสดใสชื่นมื่นยิ่งนัก หลินหลันรู้สึกถูกใจเป็นอย่างมาก
ขณะที่นายหญิงน้อยของนางต้องการเดินเล่นไปรอบๆ ทว่าป๋ายฮุ่ยกลับไม่อาจปลีกตัวออกไปด้วยได้จึงเอ่ยเรียกให้เฉี่ยวโหรวมาแทน “เฉี่ยวโหรว เจ้าไปเป็นเพื่อนเอ้อร์เส้าหน่ายนายพาเดินชมให้ทั่วทั้งสี่ทิศ จำไว้ด้วยว่าอย่าให้เอ้อร์เส้าหน่ายนายเดินจนถึงขั้นเหนื่อยล้า เอ้อร์เส้าหน่ายนายแข่งขายังคงบาดเจ็บอยู่”
เฉี่ยวโหรวขานรับอย่างสุขใจ แล้วรับหน้าที่เป็นผู้นำทางให้แก่หลินหลัน โดยเริ่มจากพาหลินหลันมุ่งไปทางด้านหลัง ทะลุผ่านห้องโถงออกไปก็คือสวนดอกไม้หลังบ้านนั่นเอง เฉี่ยวโหรวกล่าวอธิบาย “สวนดอกไม้แห่งนี้ได้รับการปรับปรุงโดยท่านแม่ของเอ้อร์เส้าเหยียเจ้าค่ะ ด้วยฮูหยินชื่นชอบดอกบัวเป็นชีวิตจิตใจจึงตั้งใจขุดบ่อน้ำขนาดเล็กขึ้นมาเป็นพิเศษ เอ้อร์เส้าหน่ายดูสิเจ้าคะ…” เฉี่ยวโหรวชี้นิ้วไปยังตำแหน่งของบ่อน้ำขนาดเล็กแล้วเอ่ยต่อ “หากเอ้อร์เส้าหน่ายนายเปิดหน้าต่างทางทิศใต้ของห้องทิศตะวันตกก็จะสามารถมองเห็นดอกบัวในสระน้ำนี้แล้วเจ้าค่ะ ทว่าอย่างไรก็ตาม ในเพลานี้ดอกบัวดันร่วงโรยไปหมดแล้วน่ะสิเจ้าคะ”
หลินหลันพยักหน้าด้วยความพึงพอใจอย่างยิ่ง ก่อนจะหันไปเห็นบ้านหลังขนาดเล็กใจกลางดงทิวไผ่ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนักจึงเอ่ยถาม “นั่นคือห้องอะไรหรือ”
เฉี่ยวโหรวกล่าว “นั่นคือห้องตำราหนังสือของเส้าเหยียเจ้าค่ะ เส้าเหยียชอบอ่านตำราในที่สงบๆ ก็เลยแยกห้องตำราหนังสือออกไปทางด้านนั้นเจ้าค่ะ”
หลินหลันกำลังคิดว่าจะเดินเข้าไปดูเสียหน่อย หากรู้สึกพึงพอใจล่ะก็ ไว้รอให้หลี่หมิงอวินสอบจักรวรรดิเสร็จสิ้น นางจะขอรับช่วงเอามาทำเป็นห้องยาเพื่อเป็นแหล่งเก็บวัตถุดิบยาชั้นเลิศของนางเสียเลย และในขณะนั้นเองจิ่นซิ่วก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามา “เอ้อร์เส้าหน่ายนายเจ้าคะ ฮูหยินส่งคนสนิทที่คอยให้การปรนนิบัติผู้หนึ่งพร้อมกับสาวใช้มาเจ้าค่ะ ท่านรีบไปดูหน่อยนะเจ้าคะ”
หลินหลันขมวดคิ้ว แม่มดชรานี่ช่างรวดเร็วเสียจริงนะ! ไม่ทันไรก็ส่งคนมาคอยจับตาพวกเขาแล้วหรือ
“เอ้อร์เส้าเหยียนล่ะ” หลินหลันเอ่ยถาม
จิ่นซิ่วกล่าวตอบ “เอ้อร์เส้าเหยียเพิ่งออกไปเจ้าค่ะ บอกว่าเดิมทีได้กำหนดจัดงานเลี้ยงเอาไว้ที่ ‘เซียงอี้จู’ ทว่าขาของเอ้อร์เส้าหน่ายนายดันบาดเจ็บขึ้นมา ก็เลยยกเลิกไปก่อนแล้วไว้ค่อยจัดและเรียนเชิญแขกมาใหม่อีกครั้งในวันหลังเจ้าค่ะ ดังนั้นตงจึกับเหวินซานทั้งคู่จึงถูกส่งออกไปแจ้งสารให้บรรดาแขกคนสำคัญรับทราบ ทว่ามีคนสำคัญผู้หนึ่งที่เอ้อร์เส้าเหยียจำเป็นต้องไปบอกกล่าวด้วยตนเองเจ้าค่ะ”
หลินหลันครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วกล่าวขึ้น “เช่นนั้นก็ไปดูกันเถอะ”
จินซิ่วกล่าวขึ้นระหว่างเดิน “สาวใช้สองคนนั้นไม่ค่อยน่าเป็นกังวลเท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะ ทว่าแม่เถียนเป็นคนสนิทของฮูยิน เดิมทีเป็นสาวใช้ผู้ดูแลซึ่งคอยจัดการในส่วนของห้องคลังทรัพย์สินล้ำค่าเจ้าค่ะ”
ขณะนี้เองที่หลินหลันพอจะเข้าใจถึงความเป็นมาเป็นไป
ป๋ายฮุ่ยกับแม่โจวและคนอื่นๆ กำลังเผชิญหน้ากับแม่เถียนและสองสาวใช้ที่นายหญิงของจวนเป็นผู้ส่งมาด้วยจิตใจที่เป็นกังวล คำพูดให้ดูสวยหรู ด้วยเกรงว่าคนของเรือนหลั้วเซี๋ยจายจะไม่เพียงพอ ทว่าความจริงมิใช่ว่าอยากจะให้คนเข้ามาแทรกแซงที่นี่หรอกหรือ คิดจะบงการเอ้อร์เส้าเหยีย ทว่ามันคงไม่ง่ายดายเช่นนั้นน่ะสิ!
เมื่อเห็นจิ่นซิ่วพานายหญิงมาถึงเสียที ป๋ายฮุ่ยจึงรีบกล่าวอธิบาย “เอ้อร์เส้าหน่ายนายเจ้าคะ ด้วยฮูหยินเกรงว่าคนของที่นี่จะไม่เพียงพอ จึงส่งแม่เถียนมาให้เป็นการพิเศษเจ้าค่ะ”
หลินหลันเผยสีหน้าซาบซึ้งในน้ำใจมองไปยังแม่เถียน แม่เถียนผู้นี้ดูเย่อหยิ่งเล็กน้อย นัยน์ตาของนางแสดงถึงอารมณ์ไม่สุขใจเอาเสียเลย อาจเป็นเพราะตนเองถูกส่งมายังที่นี่จึงรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ก็ย่อมได้
หลินหลันแสยะยิ้มอย่างซะใจอยู่ในใจ ขณะที่ใบหน้ากลับแต่งแต้มไว้ด้วยรอยยิ้มอันแสนงดงามสดใส “ทางนี้กำลังขาดคนอยู่พอดี! ยังคิดอยู่เลยว่าจะไปพูดคุยกับฮูหยินเพื่อขอสาวใช้มาเพิ่มสักสองคน ฮูหยินกลับรู้ใจเสียก่อน เช่นนี้ก็เบาแรงข้าไปไม่น้อยเลย”
ป๋ายฮุ่ยเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวก็อดกระวนกระวายใจขึ้นมาไม่ได้ จิ่นซิ่วไม่ได้บอกกล่าวให้เอ้อร์เส้าเหยียเข้าใจกระจ่างชัดเจนหรือไร หากแม่เถียนผู้นี้อยู่ที่นี่ เรือนหลั้นเซี๋ยจายแห่งนี้ก็คงไม่อาจสงบสุขไปได้อีกแล้ว
จิ่นซิ่วเผยสีหน้าสลดอย่างทำอะไรมิได้
แม่เถียนกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย คำพูดของสะใภ้รองผู้นี้แม้ว่าจะฟังดูนุ่มนวลและให้ความเกรงใจ ทว่าคำว่าสาวใช้สองคำนี้มันออกจะขัดหูไปหน่อย อย่างน้อยๆ นางก็เป็นผู้ดูแลในจวนแห่งนี้อีกทั้งยังเป็นคนข้างกายของนายหญิงประจำบ้านที่มีอำนาจอีกด้วย
หลินหลันจ้องมองนัยน์ตาของนาง พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่โจว มิใช่ว่าท่านบอกว่ายังขาดผู้ดูแลเรื่องเก็บกวาดทำความสะอาดอยู่พอดีหรอกหรือ”
แม่โจวถึงบางอ้อในทันที “เรียนเอ้อร์เส้าหน่ายนาย ใช่แล้วเจ้าค่ะ ทางด้านห้องครัวมีกุ้ยซ่าวคอยดูแลอยู่แล้ว จะขาดก็แต่หญิงชราที่จะดูแลเรื่องเก็บกวาดทำความสะอาดเจ้าค่ะ”
แม่โจวซึ่งไม่ให้ความเกรงใจเสียยิ่งกว่าโดยการเปลี่ยนไปเรียกเป็นหญิงชราแทนที่จะเป็นแม่เถียน
มุมปากของแม่เถียนกระตุกหนักขึ้น เป็นไปได้หรือที่เอ้อร์เส้าหน่ายนายท่านนี้จะส่งนางไปจัดการเรื่องเก็บกวาดทำความสะอาด เรือนหลั้วเซี๋ยจายเล็กๆ เช่นนี้จะไปมีงานด้านเก็บกวาดมากมายเสียเท่าไหร่กัน นี่ไม่เท่ากับว่าเป็นการทำให้นางว่างงานจนแห้งเหี่ยวไปเลยหรอกหรือ
“อืม! เช่นนั้นก็รบกวนแม่เถียนอยู่ที่นี่เพื่อจัดการเรื่องเก็บกวาดทำความสะอาดแล้วกันนะ! ส่วนสาวใช้สองคนนี้…” หลินหลันเหลือบสายตาพลางเอ่ยถามป๋ายฮุ่ย “ปกติแล้วใครรับผิดชอบหน้าที่ปัดกวาดหรือ”
ป๋ายฮุ่ยกล่าว “เป็นเฉี่ยวโหรวและจิ่นซิ่วเจ้าค่ะ”
หลินหลันพยักหน้าแล้วครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะก่อนจะเอ่ยขึ้น “หยินหลิ่วกับอวี้หลงเป็นผู้ติดตามข้ามา จึงคุ้นเคยกับความเคยชินในชีวิตประจำวันของข้าเป็นอย่างดี ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนี้ก็ยังคงเป็นพวกนางที่คอยให้การปรนนิบัติข้า ส่วนเจ้ากับหรูอี้คอยปรนนิบัติรับใช้เส้าเหยียมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย จึงเข้าใจเป็นอย่างดีที่สุดว่าเส้าเหยียชอบอะไร ดังนั้นพวกเจ้ามีหน้าที่แค่คอยให้การปรนนิบัติเส้าเหยียเท่านั้นก็พอ การสอบระดับมณฑลใกล้เข้ามาแล้ว เอ้อร์เส้าเหยียจึงจำเป็นต้องทุ่มแรงกายแรงใจในการทบทวนตำรา เช่นนั้นทางห้องตำรานั่นจะขาดคนคอยดูแลรับใช้มิได้เป็นอันขาด ข้าเห็นว่าเฉี่ยวโหรวและหรูอี้ฉลาดหลักแหลม หลังจากนี้ก็คอยให้การปรนนิบัติอยู่ที่ห้องตำราแล้วกันนะ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วในบ้านก็จะขาดสาวใช้ที่คอยปัดกวาด…” หลินหลันมองไปยังสาวใช้สองคนที่อยู่ด้านข้างแม่เถียน แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลังจากนี้พวกเจ้าก็รับผิดชอบปัดกวาดไปแล้วกัน!”
ป๋ายฮุ่ยได้ฟังการจัดสรรหน้าที่ครั้งนี้โดยนายหญิงและเมื่อมองไปยังสีหน้าบึ้งตึงของแม่เถียน จึงอยากจะหัวเราะเยาะออกมาด้วยความซะใจ ทว่าต้องสกัดกลั้นเอาไว้ พยายามสงบเสงี่ยมแล้วกลืนความรู้สึกเหล่านี้กลับลงไปภายใน มิน่าล่ะนายน้อยถึงได้กล่าว่า หลังจากนี้แค่จัดการตามที่เอ้อร์เส้าหน่ายนายพูดก็เป็นพอ
ทางด้านจิ่นซิ่วและเฉี่ยวโหรวอยากจะหัวเราะด้วยความซะใจแทบแย่เช่นกัน หลายปีมานี้ ล้วนเป็นพวกนางที่ถูกรังแกกลั่นแกล้ง ทว่าวันนี้เป็นคราที่ได้เห็นแม่เถียนตกระกรำลำบากบ้างเสียแล้ว
แม่เถียนกล่าวขึ้นอย่างไม่พึงพอใจ “เอ้อร์เส้าหน่ายนาย เดิมทีบ่าวเป็นผู้ดูแลในส่วนของห้องคลังทรัพย์สินล้ำค่านะเจ้าคะ” ฮูหยินให้นางละจากหน้าที่ระดับนี้เพื่อมาประจำอยู่ที่หลั้วเซี๋ยจายทว่ามิใช่เพื่อให้นางมาดูแลห้องเก็บของเสียหน่อย
ประโยคนี้ช่างมีความหมายแอบแฝงที่ล้ำลึกเอาการเชียว! นังแม่มดชราส่งป้าแก่ๆ ที่ดูแลห้องคลังทรัพย์สินล้ำค่าแห่งจวนนี้มาให้ หรือว่าต้องการให้นางมาดูแลทรัพย์สมบัติของเรือนหลั้วเซี๋ยจายงั้นหรือ
หลินหลันรำพึงรำพันภายในใจ รู้แต่แรกอยู่แล้วว่าเจ้าเป็นมาอย่างไร แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้ายังจะมีหน้าปริปากออกมาด้วยตัวเองเสียนี่ หลินหลันจึงจงใจแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจอะไรทั้งสิ้นแล้วเอ่ยออกไป “ทว่าเรือนหลั้วเซี๋ยจายไม่มีห้องคลังทรัพย์สินล้ำค่าหนิ ทำอย่างไรดีล่ะ”
แม่เถียนอยากจะปล่อยโฮออกมาเสียแล้ว เอ้อร์เส้าหน่ายนายท่านนี้แสร้งตีมึนใส่ทั้งๆ ที่เข้าใจเป็นอย่างดีหรือนางไม่รู้เรื่องรู้ราวจริงๆ กันแน่
ทางด้านแม่โจวก็เอ่ยเสริมขึ้นอีกแรง “มิเห็นหรอกหรือ เรือนหลั้วเซี๋ยจายพื้นที่ทั้งหมดก็น้อยนิดถึงเพียงนี้ จะไปมีห้องคลังทรัพย์สินล้ำค่าได้อย่างไรกัน”
หลินหลันกล่าวอย่างอ่อนโยน “แม่เถียน คงต้องลำบากเจ้าแล้วล่ะนะ”
หลังจากนั้นหลินหลันก็ให้หยินหลิ่วเข้าไปนำเงินออกมาแล้วแบ่งให้พวกนางทั้งสามคน คนละซองอังเปา “วันนี้เป็นวันมงคลครั้งสำคัญของข้ากับเอ้อร์เส้าเหยีย ทุกคนของเรือนหลั้วเซี๋ยจายแห่งนี้ต่างได้รับกันไปถ้วนหน้า”
แม่เถียนรับซองอังเปาเอาไว้ภายใต้ความรู้สึกที่อยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆ เสียแล้ว เรียวปากของนางคว่ำลงด้วยความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
“เอาล่ะ ทุกอย่างจัดสรรเรียบร้อยเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว ทุกคนก็รีบไปทำหน้าที่ของตนเองให้ดีเถิด อีกประเดี๋ยวเอ้อร์เส้าเหยียกลับแล้วเห็นว่าในบ้านยังคงไม่เป็นระเบียบเช่นนี้ก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่” หลินหลันกล่าวสั่งการ
แม่โจวขานรับทันที “ทุกคนแยกย้ายไปทำงานกันเถอะ!”
หลังจากนั้นหลินหลันจึงกลับเข้าห้องไปพร้อมกับจิ่นซิ่วและหยินหลิ่ว
ทันทีที่เข้าไปด้านในจิ่นซิ่วก็ไม่อาจสกัดกลั้นเสียงหัวเราะได้อีกต่อไป หลินหลันหันกลับมามองนาง แล้วแสร้งเป็นงุนงง “เจ้าหัวเราะอะไรหรือ”
จิ่นซิ่วรีบยกมือขึ้นปิดปาก “เปล่าเจ้าคะ ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ…..”
หลินหลันกล่าวอย่างเป็นกันเอง “อยากหัวเราะก็หัวเราะเถอะ! กลั้นเอาไว้จะไม่ดีต่อสุขภาพ ขอเพียงแค่อย่าหัวเราะเสียงดังเกินไปก็เป็นพอ หากคนด้านนอกนั่นได้ยินเข้าคงไม่ดีเท่าไหร่นัก”
จิ่นซิ่วรู้สึกตกตะลึงด้วยรู้สึกเกินความคาดหมาย นายหญิงน้อยท่านนี้ช่างเข้าอกเข้าใจผู้อื่นเกินไปจริงๆ
หยินหลิ่วซึ่งไม่เข้าใจว่าเหตุใดจิ่นซิ่วถึงได้หัวเราะเสียขนาดนี้จึงเอ่ยถามนาง
จิ่นซิ่วยิ้มเยาะแล้วเอ่ยเสียงกระซิบ “เจ้าไม่รู้อะไร แม่เถียนน่ะวันๆ ก็เอาแต่เดินลอยหน้าลอยตาอยู่ในจวนนี่ ทว่าวันนี้ต่อหน้าเอ้อร์เส้าหน่ายนายถือว่าเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เชียวล่ะ อย่างไรก็ตามเป็นฮูหยินต่างหากที่สูญเสียมากสุด อุตส่าห์ส่งผู้ดูแลห้องเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่ามาทั้งที ทว่าผลลัพธ์กลับกลายมาเป็นผู้ดูเก็บกวาดทำความสะอาดเสียนี่”
ขณะนี้เองหยินหลิ่วจึงได้ถึงบางอ้อ และก็หัวเราะคิกคักออกมาเช่นกัน
จิ่นซิ่วมองไปทางด้านนายหญิงน้อยแล้วส่งสายตาพยักพะเยิบพลางเอ่ยขึ้น “เอ้อร์เส้าหน่ายนายช่างเป็นบุคคลที่น่าสนใจเสียจริง”
หยินหลิ่วกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ “หลังจากนี้จะมีเรื่องให้น่าสนใจเสียยิ่งกว่านี้อีก”
เมื่อหลี่หมิงอวินกลับเข้ามาแล้วเห็นแม่เถียนยังคงตีสองหน้าไม่เปลี่ยน ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเข้าหากัน แม่มดชราช่างลงมือรวดเร็วดีเสียจริง ไม่ทันไรก็ส่งคนเข้ามาแทรกแซงเสียแล้วหรือ อย่างไรก็ตามเขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรแล้วเดินตรงเข้าไปยังห้องหลักทันที
หลินหลันกำลังจัดระเบียบทรัพย์สมบัติของนางด้วยหน้าตาระรื่นเบิกบาน หลังจากที่ป๋ายฮุ่ยนำเรื่องราวการจัดสรรหน้าที่โดยเอ้อร์เส้าหน่ายนายบอกกล่าวแก่เอ้อร์เส้าเหยียเรียบร้อยแล้ว หลี่หมิงอวินจึงได้คลายปมคิ้วออกจากกันอย่างโล่งใจ เขาพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับทราบแล้วให้นางออกไป เมื่อเบนสายตามองไปยังหลินหลันที่กำลังจมดิ่งอยู่กับเครื่องประดับอย่างมีความสุข นัยน์ตาของหลี่หมิงอวินก็แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ผ่อนคลายโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวผู้นี้ ดูเหมือนจะมีเพียงสองสิ่งที่เรียกความสนใจจากนางได้ หนึ่งคือวัตถุดิบยาและสองก็คือเครื่องประดับล้ำค่าสิน