พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 250 เตรียมจัดวางแผนในชิปปิ้งจีน
บทที่ 250 เตรียมจัดวางแผนในชิปปิ้งจีน
ผู้โดยสารโดยรอบข้างต่างมองก็ลู่เฉินด้วยความรู้สึกตลก ในขณะที่เขาและตี๋จวินกำลังสนทนาอยู่
เมื่อครู่นี้ลู่เฉินเย่อหยิ่งเกินไปจริงๆ ถูกตัดสิทธิ์ในกันขึ้นเครื่อง สมน้ำหน้า
หลานหลินและหวงยาวจุนกังวลใจมาก หากว่าลู่เฉินถูกตัดสิทธิ์ในการขึ้นเครื่องจริงๆ ตอนกลับก็คงต้องนั่งรถไฟความเร็วสูงแล้วสินะ
และที่สำคัญคือ ลู่เฉินมาแข่งขัน และหากสิ่งนี้ส่งผลต่ออารมณ์ของเขา แล้วเขาจะสงบสติอารมณ์เพื่อแข่งขันอย่างไรกัน
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ คุณลู่” หลานหลินขอโทษอย่างจริงใจ
“ไม่เป็นไร” ลู่เฉินสะบัดหัว แม้แต่ลืมตายังขี้เกียจ เขาไม่ได้เอาเรื่องนี้มาเก็บไว้ในใจเลย
หลังจากสองชั่วโมง เครื่องบินได้เดินทางมาถึงสนามบินชิปปิ้งจีนสักที หวงยาวจุนกังวลใจเรื่องนี้มาตลอดทาง แต่ลู่เฉินกลับนอนหลับ
เพราะเรื่องของฉีฉี สองสามมานี้เขาแทบจะไม่ได้นอนพักผ่อนเลย พอได้นอนหลังพักผ่อนสักครู่ เขารู้สึกสดชื่นไปทั้งตัวเลยแหละ
หลังจากที่ลงเครื่อง ตี๋จวินและเซี่ยยี่ก็เดินตามลู่เฉินเขาตลอดทาง และผู้โดยสารบางคนที่อยากเผือกด้วยก็แอบตามหลังมาเหมือนกัน
และหลานหลินก็ได้โทรให้คนมารับทันที
หันหลังกลับไปมองตี๋จวินและเซี่ยยี่ ลู่เฉินถึงเพิ่งนึกได้ว่าคนสองคนนี้อยากจะหาเรื่องเขาบนเครื่องบิน เขาไตร่ตรองแป๊บ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเซ่ซูเจี๋ย
“ฉันมีได้ลงไม้ลงมือกับคนอื่นบนเครื่องบิน และเหมือนว่าอีกฝ่ายจะตัดสิทธิ์ในการขึ้นเครื่องของฉัน นายมีคนอยู่ในสายการบินมั้ย?” ลู่เฉินถาม
“มี นายขึ้นสายการบินไหน?”เซ่ซูเจี๋ยตอบ
“เผิงเฉิงแอร์ไลน์ บินไปยังชิปปิ้งจีน” ลู่เฉินกล่าว
“โอเค เรื่องนี้เดียวฉันจัดการให้” เซ่ซูเจี๋ย ตอบ
หลังจากที่ลู่เฉินตัดสาย หลายนาทีตาอมา ก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสนามบินสองสามนายกำลังพุ่งเข้ามาหาพวกเขา
เซี่ยยี่รีบขึ้นไปพูด: “เขานี่แหละค่ะ ที่เป็นคนทำร้ายเพื่อนของฉันบนเครื่องบิน ”
เจ้าหน้าที่มองไปที่ลู่เฉิน หนึ่งในนั้นถาม: “คุณต่อยคนบนเครื่องโดยเจตนา?”
ทุกคนมองไปที่ลู่เฉินอย่างติดตลก ดูว่าลู่เฉินกล้าที่จะยอมรับหรือไม่ หากลู่เฉินไม่กล้ายอมรับ พวกเขาก็จะช่วยเป็นพยานเลยทันที
“อืม” เกินความคาดเดาของทุกคน ลู่เฉินพยักหน้า แล้วแบกรับเรื่องนี้เองคนเดียว
“ไปกับเราสักครู่ครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตกใจเมื่อเห็นลู่เฉินให้ความร่วมมือเช่นนี้ และได้ใส่ข้อมือ
“ได้” ลู่เฉินพยักหน้า
“นี่ ทำไมถึงไม่อวดอีกแหละ? ความเย่อหยิ่งบนเครื่องคุณหายไปไหนหมด?” ตี๋จวินยิ้มเบี้ยว
พั่ม!
ลู่เฉินไม่พูดต่อ เดินหน้า แล้วถีบตี๋จวินออกไป
ทุกคนต่างตกตะลึงกันหมด
ไอ้เจ้านี่ยังกล้าลงไม่ลงมือ?
นี่มันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยนะ
เหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ตอนแรกพวกเขาคิดว่าลู่เฉินจะให้ความร่วมมือ คงไม่หาเรื่องอะไรหรอก แต่ไม่นึกเลยว่าเขาจะกล้าถีบคนต่อกยเต่ตาพวกเขา นี่มันช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงซะแล้ว
“คุณตำรวจ พวกคุณดู ไม่เกรงกลัวขนาดนี้ เขาไม่เห็นพวกคุณอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ พวกคุณยังไม่จับตัวมันอีก?” เซี่ยยี่กล่าวหาอย่างโกรธแค้น
สีหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนเปลี่ยนไป 1เป็นเพราะไม่พอใจลู่เฉิน 2ถูกผู้หญิงลุมด่า ทำให้พวกเขาดูแย่มาก
“ใส่กุญแจมือ นำตัวไป!” หัวหน้าส่งเสียงอย่างเย็นชา ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหยิบกุญแจมือและใส่กุญแจมือให้กับลู่เฉิน
ลู่เฉินให้ความร่วมมือมาก ใบหน้าเต็มเปรี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นลู่เฉินถูกใส่กุญแจมือ ตี๋จวินที่ลุกขึ้นจากพื้นก็โล่งอกไปที
เขาค่อนข้างโมโหจริงๆ ไอ้นี่ทำไมถึงกล้าจังวะ?
ไม่เว้นแม้แต่ตำรวจ?
อี่ห่า เข้าโรงพักไป คอยดูว่ากูจะจัดการมึงยังไง!
ในใจตี๋จวินกำลังคิดอยู่ หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพ่อ ต้องการให้พ่อของเขาใช้กำลังความสัมพันธ์ในโรงพักนี่ จัดการลู่เฉิน
ลู่เฉินถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวไป สีหน้าหวงยาวจุนและหลานหลินดูแย่มาก นัยน์ตาเต็มไปด้วยความกังวล
หากอยู่ในยวี่โจว หรือเมืองหลวง พวกเขายังสามารถใช้กำลังความสัมพันธ์ได้ แต่นี่มันชิปปิ้งจีน พวกเขาช่วยอะไรไม่ได้เลย
ตี๋จวินโทรเสร็จ พาเซี่ยยี่ตามไปด้วย เขาต้องเห็นลู่เฉินถูกจัดการกับตา ไม่งั้นเขาจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก
เขาคิดไว้แล้ว หลังจากที่ลู่เฉินถูกจัดการในนี่เสร็จ เขาก็ไม่มีทางปล่อยลู่เฉินไป หลังจากที่ลู่เฉินออกมา หากไม่กำจัดลาเองกับมือเขาก็จะไม่ใช่ชื่อตี๋อีก
เพียงแต่_____
เพิ่งเดินออกจากสนามบิน มาถึงข้างรถตำรวจ หลังจากที่หัวหน้าได้รับสาย สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเลย
“ไม่ทราบว่า คุณคือลู่เฉินหรือเปล่า?” หัวหน้าถามอย่างเคารพ
ตี๋จวินและคนอื่นๆที่ตามออกมาด้วย ต่างสงสัย หัวหน้าหมายความว่าอะไรกัน ทำไมถึงไม่ดำเนินการต่อ ?
เวลานี้ได้นำตัวลู่เฉินเข้าโรงพักแล้วไม่ใช่หรือไง ยังจะถามไรอีก?
ลู่เฉินยิ้ม แล้วพยักหน้า: “ใช่ หากไม่เชื่อ ก็ตรวจดูบัตรประชนผมได้”
เขารู้ว่า เซ่ซูเจี๋ย ต้องโทรหาเพื่อนของเขาในแผนกบริหารการบินนี้แน่ๆ
“หา คุณคือคุณลู่ ขอโทษทีครับ พวกเราจับคนผิด ต้องขอโทษจริงๆ” ในขณะที่เขาพูดเขาก็ได้ปลดกุญแจมือของลู่เฉินด้วยตัวเอง ทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายคนงงหมด
“ไม่เป็นไร เป็นเพียงความเข้าใจผิด” ลู่เฉินมองหัวหน้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ ยิ้มแล้วพูด “ ผทคิดว่าพวกคุณควรเปลี่ยนอุปกรณ์การออกทำงานแล้ว กลับไปบอกเจ้านายของคุณ ให้เขาโทรหาผม ผมจะบริจาคเงิน 50 ล้านหยวนให้กับโรงพักของคุณเพื่ออัปเดตอุปกรณ์การออกตรวจของพวกคุณ”
ลู่เฉินทำแบบนี้ ต้องมีเหตุผลของเขา
ชิปปิ้งจีนต้องเป็นแหล่งที่ค้าขายหนึ่งของเทคโนโลยีสวยแน่ๆ หากว่าอีกฝ่ายเชื่อใจเขา เขาจึงอยากใช้โอกาสนี้เป็นการทำความรู้จัก
ต่อไปเมื่อได้ผลิตภัณฑ์ออกใหม่ ก่อนขาย ก็คงต้องจัดแสดงในที่ต่างๆ หรือเมืองใหญ่ๆ
นานาชาติ ชิปปิ้งจีนต่างหากหละที่เป็นจุดเป้าหมายของเขา
ฉะนั้นไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาก็ต้องมาทำความรู้จักผูกไมตรีกับคนที่นี้ไว้
ไม่พูดไม่ได้เจตนามาเลยว่า มามารถสร้างเทคโนโลยีงสวนเป็นไว
แน่นอน ต้องรอให้ยวี่โจวตลอดเทคโลยีและค่อยๆของรู้จักกันแล้ว
ลู่เฉินอ่าปากพูดเท่านั้นแหละ ทุกคนอึ้งไปหมด
บริจาค 50 ล้านหยวนให้กับโรงพัก?
ให้ตาย ไอ้นี่มันช่างแกล้งเก่งจริงๆ
หากเขามีกำลังความสามารถแบบนี้ คงมีปัญญาซื้อเครื่องบินส่วนตัวแล้วหละ ยังจะมานั่งเครื่องอะไรกันอีก
ไม่มีใครเชื่อเขาเลย
หัวหน้ามองไปที่นามบัตรที่ลู่เฉินมอบให้เขา ในใจบิ้มเบี้ยว และไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่าลู่เฉินจะบริจาคเงิน 50 ล้านหยวนให้กับโรงพักของพวกเขา
แต่ว่าเขาเองก็คิดดีแล้ว นามบัตรเขาต้องตั้งใจที่จะให้ แน่นอน เพราะไม่ว่ายังไง เป็นคนโทรมาให้ปล่อยลู่เฉินด้วยตัวเอง
หากว่าคุยไปคุยมาถึงเรื่องนี้ งั้นเขาห็คืออับอาย
หวงยาวจุนกับหลานหลินต่างก็ตกใจเล็กน้อย ลู่เฉินถึงกับถูกปล่อยอะนนั้นควรจะปล่อย
แต่ว่าลู่เฉินไม่เป็นไร พวกเขาก็โล่งอกไปที
“คุณต้องการบริจาค 50 ล้านหยวนให้พวกเขาจริงๆเหรอ?” หลังจากขึ้นรถเข้าโรงแรม หลานหลินก็ถามอย่างสงสัย