พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่127 จั่วชิงเฉิง ขอโทษ
บทที่127 จั่วชิงเฉิง ขอโทษ
“ไอ้หยา นายท่านZuo นับว่าคุณได้มาแล้ว เมื่อกี้ถึงขั้นทำให้คนแซ่ลู่บางคนตกใจช็อคไปเลย?” ลู่เฉินในเวลานี้ก็แกล้งทำเป็นได้สติกลับมา ลูบหน้าอกราวกับขวัญหนีดีฝ่อ เหมือนราวกับว่าตกใจจริงๆ
ผู้ชมดูล้วนกรอกตาขาว เมื่อกี้ลู่เฉินนิ่งสงบ ไม่ได้สะทกสะท้าน พวกเขาล้วนเห็นในสายตา ไม่คิดว่าในเวลานี้อยู่ตรงหน้าของนายท่านจั่ว เขากลับแสดงละครขึ้นมา นี่มันก็จะปลอมเกินไปละนะ
จั่วเจียเหลียง รู้อยู่แก่ใจว่าลู่เฉินแสดงละคร ก็เลยไม่แสดงเข้าคู่กันไม่ได้ “ต้องโทษจริงๆ ชิงเฉิง วันนี้ดื่มเยอะไปนิดนึง ก็เลยไม่มีขอบเขตไปหน่อย ยังหวังว่าน้องลู่ไม่ทะเลาะกับเขาเพราะความรู้ด้อยกว่า”
“ดื่มเยอะเกินไปเหรอ? ผมยังไม่เห็นว่าเขาจะดื่มสักกี่แก้ว หรือว่าสิ่งที่คุณชาย ชิงเฉิง ดื่มคือเหล้าปลอมหรือ?” ลู่เฉินพูดอย่างตระหนกตกใจ
“เหอะๆ” จั่วเจียเหลียง หัวเราะเสียงแห้ง พูดว่า “อาจจะเพราะก่อนหน้านี้ตอนอยู่ด้านนอกดื่มเหล้าปลอมละมั้ง”
เขาไม่อาจพูดบอกได้แน่นอนว่าที่ดื่มน่ะเป็นเหล้าของบ้านเขา ไม่งั้น ไม่ใช่ว่าบอกผู้ที่กำลังดูอยู่ว่าเหล้าวันนี้ที่บ้านเขาไว้ต้อนรับแขกเป็นเหล้าปลอมหรอกเหรอ
ในเวลานี้ผู้ดูแลบ้านถึงจะรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือลู่เฉิน
เพียงแค่เขาก็ไม่เข้าใจ เจ้าหนุ่มคนนี้ขโมย ไข่มุกราตรี ของบ้านพวกเขา ยังไม่รีบหนีลอยนวลไป กลับกล้าที่จะอยู่ต่อมาดื่มเหล้า เจ้าหนุ่มนี่ก็จะกล้าเกินไปแล้วนะ
แต่พอคิดถึงฝ่ามือก่อนหน้านั้นของ จั่วเจียเหลียง ในใจผู้ดูแลบ้านก็รู้สึกสงสัย แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก
“น้องลู่ พวกเรามาหาที่เงียบๆคุยกันหน่อยดีมั้ย?” จั่วเจียเหลียง มองลู่เฉิน อีกนิดเขาก็จะเชื่อจริงๆแล้วว่า ไข่มุกราตรี ของบ้านพวกเขาเป็นลู่เฉินที่ขโมยไป
เพียงแต่ ลู่เฉินมีความสามารถอะไรที่สามารถเข้าบ้านเขาไปขโมย ไข่มุกราตรี ที่อยู่ในตู้เซฟในห้องลับได้
เขาทำได้ยังไง?
“ครับ เมื่อกี้ถูกคุณชาย ชิงเฉิง ทำให้ตกใจ ทั้งสองขาของผมก็เริ่มไร้เรี่ยวแรงสักหน่อย ก็อยากให้นายท่านจั่ว พูดกับผมสักหน่อย” ลู่เฉินพยักหน้า แล้วก็ลุกขึ้นยืนเดินตาม จั่วเจียเหลียง ออกไปจากห้องโถงใหญ่
แต่ว่าทั้งสองขาของเขาตอนที่เดินก็ดูมั่นคงแข็งแรงดี มันมีลักษณะที่ถูกทำให้ตกใจจนขาอ่อนเปลี้ยตรงไหนกัน
ผู้ชมรอบข้างก็ยังเพ่งมองสองขาของลู่เฉินอยู่ ในใจต่างก็รู้สึกรังเกียจ
มองดูลู่เฉินและ จั่วเจียเหลียง ออกไปจากห้องโถงใหญ่ เซ่เว่ยเหา และเฉินกวงซิงรวมถึงคนอื่นๆก็ล้วนมองเหม่อ
เพราะถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
โดยเฉพาะเมื่อกี้ที่ จั่วชิงเฉิง พาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากลุ่มหนึ่งเพื่อที่จะทำร้ายลู่เฉิน หรือว่าลู่เฉินได้ทำเรื่องอะไรที่เกิดความแค้นพยาบาท?
“มองท่าทางของ จั่วชิงเฉิง ที่โกรธโมโหเมื่อกี้ พวกคุณว่ามีเรื่องอะไรที่จะทำให้ผู้ชายคนหนึ่งโกรธโมโหได้แบบน่ะ?” จู่ๆจางซิงฉวนก็พูดขึ้นมา
ผู้ชมต่างก็ชะงัก จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างรู้กัน
ทุกคนต่างก็เป็นผู้ชาย เรื่องที่สามารถทำให้ผู้ชายด้วยกันโกรธจนสูญเสียสติสัมปชัญญะนั้น ไม่มีอะไรนอกไปจากการฆ่าพ่อตายและแย่งภรรยาแล้ว
ซึ่ง จั่วเจียเหลียง ยังไม่ถูกลู่เฉินฆ่าตาย เพราะฉะนั้นก็เหลือแค่เรื่องแย่งชิงภรรยา
หรือว่า…
ลู่เฉินสวมหมวกเขียวให้กับ จั่วชิงเฉิง แล้ว? (ถูกคนนำหมวกสีเขียวมาสวมใส่ให้ ซึ่งหมายถึง ผู้ชายที่ผู้หญิงของตัวเองไปลักลอบมีชู้)
ผู้คนต่างก็ผมมองคุณ คุณมองผม มองหน้ากันเอง ใบหน้าก็ปรากฎรอยยิ้มรู้ใจขึ้นมา แล้วก็ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นอีก
ห้องทำงานของ จั่วชิงเฉิง ในหยุนเฟยกรุ๊ป
ลู่เฉินนั่งลงบนเก้าอี้อย่างสบายๆ ไม่รักษาท่าที พ่อลูกตระกูลจั่ว มองดูลู่เฉิน
ในดวงตาของ จั่วชิงเฉิง ล้วนเป็นไฟลุกโชน แต่เขาในเวลานี้ก็ได้สติกลับมาแล้ว สามารถควบคุมอารมณ์ตนเอง
“น้องลู่ พวกเราก็เป็นคนที่รู้อยู่แก่ใจไม่พูดอ้อมค้อมกันแล้วนะ ไข่มุกราตรี สองเม็ดนั้นมีความสำคัญกับตระกูลจั่ว ของพวกเราเป็นอย่างมาก จึงขอให้น้องลู่ได้โปรดให้เข้าใจ เอาพวกมันคืนให้ผม ผมสามารถให้เงินหนึ่งร้อยล้านแก่น้องลู่เป็นการตอบแทนได้” จั่วเจียเหลียง เองก็ไม่พูดอ้อมค้อมแล้ว พูดออกมาตรงๆ
ลู่เฉินเงยหน้ามองไปทาง จั่วเจียเหลียง ยิ้มอ่อนๆกล่าว “นายท่านจั่ว ไม่แปลกใจหรือว่าทำไม ไข่มุกราตรี ของบ้านคุณถึงมาอยู่ในมือผม?”
ไม่ผิด ไข่มุกราตรี ของตระกูลจั่ว เป็นลู่เฉินที่ให้เทพหัวขโมยหลิวจื่อซิ่วขโมยมา
หลิวจื่อซิ่วไม่มีทางเลือกอื่น เพราะเขาไม่อยากเห็นลูกสาวที่เพิ่งจะอายุหกขวบของตนเองไม่มีที่พึ่งพิง ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงกับข้อเสนอของลู่เฉิน ลู่เฉินช่วยเขาออกไป เขายินยอมช่วยลู่เฉินทำเรื่องราว
ถึงกระทั่งถ้าลู่เฉินสัญญาว่าจะดูแลลูกสาวเขาจนโต เขาก็ยินยอมที่จะฆ่าคนวางเพลิงเพื่อลู่เฉิน
ซ้ำลู่เฉินยังตั้งใจให้หลิวจื่อซิ่วเก็บกระดาษแผ่นนั้นไว้ ก็คือเป็นการบอกตระกูลจั่ว ว่า ไข่มุกราตรี ของตระกูลจั่ว เป็นเขาที่คนมาขโมย
จั่วเจียเหลียง ชะงัก ไม่คิดว่าลู่เฉินจะกลับยอมรับ อีกทั้งในคำพูดของเขาก็ยังมีความหมายอื่นซ่อนอยู่
หรือว่า จะเป็นเล่ห์กล?
“ก็ขอให้น้องลู่บอกมาเถอะ” จั่วเจียเหลียง พูด
“ถ้าผมพูดว่าคุณชาย ชิงเฉิง รังแกผม ผมแก้แค้นคุณชายจั่ว นายท่านจั่ว จะเชื่อมั้ยครับ?” ลู่เฉินยังคงรักษาท่าทียิ้มน้อยๆ
“หา?” จั่วเจียเหลียง รู้สึกผิดคาดนิดหน่อย แต่ว่าในใจของเขาก็เป่าลมหายใจออกมา
เพียงแค่ไม่ใช่เล่ห์กลต่อกรกับตระกูลจั่ว ของเขาที่เขาเคยคาดการณ์ก่อนหน้านั้น อย่างนั้นเรื่องนี้ก็จัดการได้ง่ายๆแล้ว
“ชิงเฉิง มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” จั่วเจียเหลียง มองไปทาง จั่วชิงเฉิง สีหน้าดูไม่ดีอยู่บ้าง เขาไม่ต้องเดา ก็รู้ว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นลูกชายของตนเองที่ทำเรื่องจนขัดกิจการตระกูลจั่ว รังแกลู่เฉิน
“ผม…” ชิงเฉิง ในใจไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยังพูดออกมา “ผมให้คนไปก่อกวนซูเปอร์มาร์เก็ตของลู่เฉิน”
“แกทำไมทำอย่างนี้?” จั่วเจียเหลียง พูดถามเสียงหนัก
จั่วชิงเฉิง ไม่ได้พูดอะไร เพราะเรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างเขาและลู่เฉินก็ไม่ใช่เรื่องวันสองวันแล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆรวมขึ้นมาที่ทำให้เขาเกลียดลู่เฉินเข้ากระดูกดำแบบนี้
ดังนั้น เขารู้สึกว่าพ่อของเขาถามคำถามโง่ๆขึ้นมา เขาก็ไม่อยากจะตอบคำถามนี้
เพี๊ยะ!
จั่วเจียเหลียง ตบเข้าที่ใบหน้าของ จั่วชิงเฉิง ทีหนึ่ง พูดเสียงกระโชก “น้องลู่เป็นถึงเพื่อนของ เซ่ซูเจี๋ย ถึงแม้พวกแกจะมีข้อขัดแย้งที่หนักหนา ก็ต้องเห็นแก่หน้า เซ่ซูเจี๋ย ปล่อยวางเขาไป แต่แกกลับกล้าส่งคนไปก่อเรื่องที่ซูเปอร์มาร์เก็ตของน้องลู่ แกไม่ใช่ว่าหาเรื่องให้ตัวเองเหรอ?”
จั่วชิงเฉิง ในใจรู้สึกไม่เป็นธรรม ใจพูดว่าก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ได้รู้จากไหนว่าเจ้านี่เป็นเพื่อนของ เซ่ซูเจี๋ย นี่นา?
ถ้าผมรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและ เซ่ซูเจี๋ย จะไปยั่วยุหมางใจกับเขาได้ยังไง?
เพียงแต่ เขาคิดไม่ออกจริงๆ ลู่เฉินเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง เอาอะไรไปเป็นเพื่อนกับ เซ่ซูเจี๋ย ?
หรือว่าซูเปอร์มาร์เก็ตนั่นของเขาปีหนึ่งจะเก็บภาษีได้พันกว่าล้าน?
จั่วชิงเฉิง ส่ายหัว เขารู้สึกว่าตนเองคิดมากไปแล้ว ไม่มีทางแน่ๆ
ซูเปอร์มาร์เก็ตนั่นของลู่เฉินเขาก็รู้ว่าได้มาจากมือของบ้านหูไม่นาน ถึงแม้จะไม่ได้ทำเรื่องไม่ดี แต่ก็ไม่ได้มีกำไรอะไรมากนัก
แสดงว่าการที่เขารู้จักกับ เซ่ซูเจี๋ย เดิมทีไม่ได้เกี่ยวกับกิจการ
อย่างนั้นในวันนั้นมีอะไรที่ทำให้ เซ่ซูเจี๋ย ถึงกับเคารพนับถือเขากันล่ะ?
จริงๆแล้วในเวลาเดียวกันขณะที่ จั่วเจียเหลียง ได้ยินว่าลู่เฉินเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต ในใจก็รู้สึกแปลกใจ ลู่เฉินทำยังไงถึงได้ทำให้ เซ่ซูเจี๋ย และเฉินกวงซิงมีความยำเกรงเขาได้อย่างนั้น?
“ยังไม่รีบขอโทษน้องลู่อีก?” ในใจสงสัยก็สงสัย ไข่มุกราตรี ของบ้านเขายังอยู่ในมือของลู่เฉิน และคนกลุ่มใหญ่ด้านนอกก็ยังรอเขาให้แสดง ไข่มุกราตรี เพื่อให้พวกเขาชื่นชม ในเวลาเร่งด่วนแบบนี้ จะต้องเอา ไข่มุกราตรี ที่อยู่ในมือลู่เฉินกลับมาให้ได้ก่อน
“ลู่เฉิน ขอโทษ ที่ในช่วงนี้ให้คนไปหาเรื่องซูเปอร์มาร์เก็ตของคุณ เป็นผมเองที่ไม่ถูก ขอให้คุณไม่เอาเรื่องกับผม” แม้ว่าในใจ จั่วชิงเฉิง จะไม่ยินยอมเป็นอย่างมาก แต่ยังคงไม่สามารถที่จะไม่ขอโทษลู่เฉิน
ลู่เฉินยิ้มขันเล็กน้อย กล่าวว่า “เรื่องของพวกเรา ไม่ใช่ว่าแค่ขอโทษอย่างเดียวก็สามารถคลี่คลายได้หรอกนะ”
ได้ยินคำพูดของลู่เฉิน พ่อลูกตระกูลจั่ว ต่างก็ตกตะลึง ไม่รู้ว่าลู่เฉินจะให้พวกเขาทำยังไง ถึงจะสามารถเอา ไข่มุกราตรี มาคืนให้แก่พวกเขาได้