พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่143 ช่วยคน
บทที่143 ช่วยคน
ผู้หญิงเดินอย่างกะโผลกกะเผลกไปทางอาคารส่วนบุคคลพร้อมตะโกนไปด้วย เผยให้เห็นความรักอันใหญ่ยิ่งของมารดา
“อาคารหลังนั้นใกล้จะถล่มแล้ว ถ้าคุณไปก็ต้องตายด้วยนะ”
“ใช่ไงคุณพี่ ขณะนี้อาร์ฟเตอร์ช๊อคยังไม่ได้ผ่านไป พออาร์ฟเตอร์ช๊อครอบต่อไปมา อาคารหลังนี้จะต้องถล่มแน่ๆ”
คนข้างๆล้วนโน้วนาวใจผู้หญิงขาเป๋ แต่ไม่มีใครรู้ว่าอาร์ฟเตอร์ช๊อครอบต่อไปจะมาเมื่อไหร่ แถมบ้านหลังนั้นก็ได้ถล่มไปส่วนหนึ่งแล้ว ใครจะกล้าขึ้นไปช่วยคนล่ะ
แต่ผู้หญิงขาเป๋จะฟังคำแนะนำของพวกเขาได้ยังไงล่ะ ข้างในเป็นลูกชายของเธอที่พึ่งพาชีวิตกันกับเธอสองคน เธอจะต้องช่วยแน่นอน
เมื่อเห็นผู้หญิงที่ยึดมั่นในสิ่งที่จะทำ และจึงมองไปดูฉีฉีที่ค่อนข้างจะหวาดกลัวนอ้อมอกของตนเองอีก ลู่เฉินเกิดความเห็นใจขึ้นมา เลยเดินไปทางผู้หญิงขาเป๋ด้วยเท้ากว้างใหญ่
“คุณพี่ คุณช่วยพาลูกสาวของฉันไปที่สวนสาธารณะเรินหมินข้างหน้านี้ ฉันจะขึ้นไปช่วยลูกชายของคุณเอง”ลู่เฉินพูด
“จริงหรือคะ?ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ คุณไม่ต้องห่วง แม้ว่าในที่สุดคุณไม่ได้ช่วยสำเร็จ ฉันก็จะดูแลลูกสาวของคุณให้ดี”ผู้หญิงพูดด้วยความซาบซึ้งใจ
“เออ ผู้ชายของคุณอยู่ชั้นห้าใช่หรือเปล่า เมื่อกี้การถล่มเกิดขึ้นในชั้นที่เจ็ด ลูกชายคุณน่าจะไม่ได้เกิดอะไรของ คุณบอกเลขที่ห้องให้ฉัน ฉันจะขึ้นไปช่วยอย่างเร็ว”ลู่เฉินพูดพร้อมพยักหน้า
“504 ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ”ผู้หญิงขาเป๋พูด
“ฉีฉี คุณไปที่สวนสาธารณะเรินหมินข้างหน้านี้กับคุณป้าคนนี้ก่อนนะ พ่อจะขึ้นไปช่วยคน”ลู่เฉินปล่อยฉีฉีลงมาและพูด
“พ่อ หนูกลัว หนูจะไปกับพ่อ”ฉีฉีดึงมือของลู่เฉินเอาไว้ ไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ผู้หญิงขาเป๋
“ฉีฉีอย่าดื้อ เป๊บเดียวเองเดี่ยวพ่อก็ลงมาแล้ว ไปอยู่ฝั่งนู้นกับคุณป้าก่อนนะ”ลู่เฉินแตะศรีษะของฉีฉีและพูด
“เออ พ่อต้องรีบกลับมานะ”ฉีฉีพยักหน้า จากนั้นจึงไปกับผู้หญิงขาเผ๋อย่างไม่ค่อยเต็มใจ
ลู่เฉินพยักหน้าให้ฉีฉีอย่างหนักแน่น จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในบ้านส่วนบุคคล
“วีรบุรุษ สุดยอดจริงๆ!”
“ใช่ไง เป็นคนที่กล้าหาญมาก แต่เสียดายที่โง่ไปหน่อย อาคารนี้ถล่มไปแล้วครึ่งหนึ่ง มีอันตรายได้ทุกๆเวลา ไม่แน่เขาอาจต้องตายด้วยน่ะ”
เมื่อเห็นว่าลู่เฉินวิ่งเข้าไปในบ้าน ทุกคนล้วนเห็นใจเขา และต่างก็ส่ายหัวและถอนหายใจออก บ้านนั้นใกล้จะถล่มแล้ว ใครเข้าไปใครต้องตาย
แน่นอนว่าก็มีบางคนรู้สึกว่าผู้หญิงขาเป๋ค่อนข้างจะเห็นแก่ตัว แต่เมื่อนึกถึงในความที่เธอเป็นแม่ และอยากจะได้ช่วยลูกของตัวเอง มีความเห็นแก่ตัวหน่อยก็เป็นเรื่องปกติ
ลู่เฉินวิ่งเข้าไปในอาคารส่วนบุคคล ลิฟท์นั่งไม่ได้แล้ว แถมในสถานการณ์ที่อาจเกิดถล่มได้ตลอดเวลา เขาก็ไม่กล้านั่งลิฟท์
เขาวิ่งขึ้นไปในตึก ยังมีชาวบ้านบางคนวิ่งลงมาจากบันไดด้วยความตื่นตระหนก
แม้เนื่องจากถล่มทำให้บริเวณบันไดหลายที่เกิดการแตกหัก แต่ลู่เฉินก็ยังสามารถวิ่งไปถึงชั้นห้าอย่างเร็ว แถมก็ได้หาเจอห้อง504ด้วย
“คุณแม่ คุณแม่~”ลู่เฉินเพิ่งมาถึงนอกก็ได้ยินเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังร้องไห้อย่างน่าสงสารอยู่ในห้อง ลู่เฉินจึงกระแทกประตูห้องออกทันที
เด็กผู้ชายห้าหกขวบในห้องมองมาที่ลู่เฉินด้วยสายตาที่ระมัดระวัง กลัวจนไม่กล้าร้องอีก
“รีบออกไป ที่นี่จะถล่มแล้ว ฉันพาคุณไปหาแม่”ลู่เฉินไม่ได้พูดอะไรมาก อุ้มเด็กผู้ชายขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอก
ไม่ทราบว่าเด็กผู้ชายรู้เรื่องที่ลู่เฉินพูด หรือเป็นเพราะหวาดกลัวต่อท่าทางที่ผึ่งผายของลู่เฉิน ในที่สุดเขาก็ได้พยักหน้าอย่างเงียบๆ
ปัง!
ทันใดนั้น อาร์ฟเตอร์ช๊อคก็มาถึงในเวลานี้ อาคารทั้งหลังเริ่มสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง ทางเดินบันไดที่แต่เดิมก็ไม่มั่นคงได้ถล่มลงอย่างกะทันหัน
เด็กผู้ชายกลัวจนหน้าซีด และได้จับไหล่ของลู่เฉินไว้อย่างแน่นโดยจิตใต้สำนึก ส่วนลู่เฉินก็หวาดกลัวภายหลัง เมื่อกี้นี้ถ้าเขาตอบสนองช้าไปนิด นั้นเขากับเด็กผู้ชายก็ต้องถูกทางเดินบันไดที่ถล่มลงมาจากชั้นหกทุบโดนพอดี
“คุณพี่ ช่วยด้วย!”
พอดีในเวลานี้ ปากบันไดชั้นหกมีคนแก่และชายหนุ่มสองคนกำลังตะโกนให้ลู่เฉินที่อยู่ชั้นห้า
ลู่เฉินเงยหน้าขึ้นไปมอง เป็นชายหนุ่มที่อายุยี่สิบกว่าและคุณยายอายุหกสิบว่าคนหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนมีความตะลีตะลาน
ทางเดินของชั้นหกถล่มลงมา พวกเขาเลยลงมาไม่ได้
ชายหนุ่มสามารถกระโดดลงมา แต่คุณยายท่านไม่ได้แน่นอน
“หนุ่มน้อย คุณรีบไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉันหรอก”คุณยายมองไปดูทางเดินที่แตกหัก ถอนหายใจออกมาและพูดกับชายหนุ่ม
“ท่านครับ ท่านไม่ต้องห่วง ผมจะช่วยท่านลงไปให้ได้ครับ”ชายหนุ่มส่ายหัวอย่างแน่วแน่ จากนั้นก็มองไปทางลู่เฉิน
“คุณพี่ครับ คุณช่วยหาเชือกหรือผ้าม่านให้หน่อยได้ไหมครับ ประตูห้องของชั้นนี้ฉันล้วนเปิดไม่ออกครับ ขอบคุณครับ”ชายหนุ่มมองไปที่ลู่เฉินอย่างขอร้อง
“โทษเอ๋ย!”
พอดีในเวลานี้ อาร์ฟเตอร์ช๊อคมาอีก ทำให้อาคารเริ่มสั่นอีกครั้ง คุณยายยืนไม่มั่นคง จึงถูกขว้างโยนลงมา
ชายหนุ่มตกใจมาก รีบเอื้อมมือไปจับคุณยาย แต่คาดไม่ถึงว่าไม่เพียงแค่จับคนไว้ไม่ได้ เขาเองก็ตกลงไปเช่นกัน
ลู่เฉินไม่ทันได้คิดอะไรมาก รีบปล่อยเด็กผู้ชายลงมา และวิ่งไปที่ปากบันได จับคุณยายที่กำลังจะตกลงไปจากตรงหน้าเขาไว้ทันที
ร่างกายของชายหนุ่มก็กำลังจะตกลงไป ลู่เฉินเลยเอื้อมมืออีกข้างหนึ่ง จับตัวชายหนุ่มมาด้วย
เนื่องด้วยความเฉื่อย แรงการตกลวไปของทั้งสองจึงมีอัตราเร็วมาก แม้ว่าลู่เฉินช่วยพวกเขาทัน แต่ก็ถูกกระแทกลงบนพื้นเพราะความรุนแรงของความเฉื่อย
“คุณพี่ครับ ผมชื่ออู๋เทาครับ เมื่อกี้นี้ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ”ชายหนุ่มลุกขึ้นมาและกล่าวคำขอบคุณต่อลู่เฉิน
ลู่เฉินส่ายหน้า ถามคุณยายว่า”คุณยายครับ คุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่าครับ”
“ไม่ ไม่ ขอบคุณนะหนุ่มน้อย”คุณยายนั้นหน้าซีดเล็กน้อย เมื่อกี้นี้เธอนึกว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ
ตรงกลางของบันไดนี้มีช่องว่างขนาดใหญ่ และตรงไปถึงชั้นหนึ่ง ถ้าเมื่อกี้เธอตกลงไปจากช่องว่างชั้นหกถึงชั้นหนึ่ง ต้องตายแน่ๆ
“เออ ดีแล้ว ฉันมาแบกคุณลงไปเถอะ”ลู่เฉินพยักหน้า อาคารนี้ใกล้จะถล่มแล้ว ถ้ายังไม่ออก ก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว
“คุณพี่ คุณแบกเด็กบ้านคุณละกัน ฉันมาแบกคุณยาย”ระหว่างที่อู๋เทาพูดก็แบกคุณยายขึ้นมาบนหลัง จากนั้นวิ่งลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
ลู่เฉินเห็นเช่นนี้ ไม่ได้พูดอะไรมาก อุ้มเด็กผู้ชายขึ้นมา และก็วิ่งลงไปอย่างเร็ว
“คุณพี่ คุณไม่ต้องดูแล้ว อาคารนั้นได้เกิดการถล่มไปแล้วอีกสองรอบ ถ้าเกอดอีกรอบหนึ่ง ก็คงจะถล่มอย่างสิ้นเชิง คนนั้นช่วยลูกชายของคุณออกมาไม่ได้หรอก”
หน้าประตูสวนสาธารณะเรินหมิน ผู้หญิงขาเป๋กำลังจับมือฉีฉีไว้ ดวงตาคู่หนึ่งมองไปที่ทิศทางของอาคารโดยไม่ขยับตาสักนิด ความเป็นห่วงในใจถึงขีดสุด
ส่วนผู้คนที่อยู่ข้างๆยังทําลายความมั่นใจของเธออีก ผู้หญิงขาเป๋จึงอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
ปัง!
ตามด้วยเสียงดังระเบิด ทุกคนต่างมองไปดู ก็ได้เห็นอาคารที่มีความต้านทานต่อแผ่นดินไหวแย่ที่สุดนั้นได้ถล่มลงอย่างสิ้นเชิงเพราะอาร์ฟเตอร์ช๊อคหลายรอบที่เกิดขึ้นนี้
ตามด้วยเสียงระเบิดที่เกิดขึ้น ฝุ่นก็ฟุ้งกระจายไปทั่วสี่ทิศ
เมื่อเห็นว่าอาคารถล่มลง ผู้หญิงขาเป๋จึงใจสั่นเกิดมา และเกือบจะสลบลงไป
และในท่ามกลางของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง มีร่างคนสองร่างกำลังวิ่งมาทางสวนสาธารณะเรินหมินอย่างรวดเร็ว