ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 19 ไม่พึ่งพิงทักษะการแสดง พึ่งพิงคนจ่ายเงิน (19)
ยิ่งคาดหวังมาก ก็ยิ่งผิดหวังมาก
ซูหว่านต้องการให้หลูจวิ้นรับรู้ถึงความรู้สึกแย่ๆ แบบนี้
เรื่องหลินมู่เสพยา ซูหว่านย่อมรู้มานานแล้ว เป็นเธอเองที่จงใจกำชับเหล่าลูกน้องระดับล่างของถานเทียนว่า อย่าขายยาให้หลินมู่ บวกกับการถ่ายทำติดต่อกันเดือนกว่าที่มีความกดดันสูง ย่อมทำให้ความอดทนของหลินมู่ถึงขีดสุด หลังงานเลี้ยงปิดกล้อง จึงเป็นโอกาสดีที่สุดที่เขาจะได้ปลดปล่อย ซึ่งตอนนี้ พ่อค้ายาที่เคยขาดของก็พลันมีของขึ้นมา แม้บังเอิญมาก แต่หลินมู่ไหนเลยจะมีกะใจสนใจเรื่องพวกนี้
การทำให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ได้ ต้องพูดว่าถึงที่สุด เส้นทางดาราของหลินมู่นับว่าถูกทำลายลงแล้ว และซินอวี่เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ในครั้งนี้ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
หลินมู่เป็นนักแสดงที่เข้าฉากละคร ‘เงาในวังลึก’ มากที่สุด ตอนนี้พอข่าวฉาวของเขาถูกเปิดเผยออกมา ตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง หากต้องการให้ละครทั้งเรื่องผ่านการตรวจสอบ ฉากทั้งหมดที่มีหลินมู่ต้องถูกตัดออก และถ่ายทำใหม่อีกครั้ง…
สวรรค์ ถ้าตัดฉากพระเอกออก ที่ถ่ายมาก็ไม่เท่ากับสูญเปล่าเหรอ
สองร้อยกว่าล้านนะ! ละครเรื่องนี้ลงทุนด้วยเงินสดสองร้อยกว่าล้านนะ! แม้ผู้ที่จ่ายมากที่สุดอย่างหลูจวิ้นจะไม่ได้พูดอะไร แต่ผู้ร่วมทุนคนอื่นๆ ไม่พอใจซินอวี่เอ็นเตอร์เทนเม้นต์เป็นอย่างมาก
ซินอวี่เอ็นเตอร์เทนเม้นต์เดิมทีเป็นบริษัทแถวหน้าในอุตสาหกรรมบันเทิงจีน แต่ต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ หลังการต่อสู้ในครั้งนี้…
ขณะที่ชาวเน็ตยังคงทอดถอนใจกับเรื่องของหลินมู่นั้น ก็มีคนแฉออกมาอีกว่า ก่อนหน้านี้ผู้ที่ขโมยรูปถ่ายของจิ่วเยี่ยไป แล้วแฉเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของซูหว่าน ก็คือหลินมู่…
อะไรคือสุภาพบุรุษจอมปลอม เชิญดูหลินมู่เป็นตัวอย่าง มีทั้งภาพ มีทั้งความจริง!
พอข้อความนี้ถูกโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต ก็ปลุกกระแสร้อนเกี่ยวกับด้านมืดของหลินมู่ขึ้นมา แฟนคลับและผู้คนนับไม่ถ้วนแสดงออกว่า พวกเขายืนกรานต่อต้านสุภาพบุรุษจอมปลอมที่เป็นเนื้อร้ายของวงการบันเทิงแบบนี้! ต่อต้าน ‘เงาในวังลึก’ ละครเรื่องใหม่ของหลินมู่!
ภายใต้ปัญหาทั้งภายในภายนอก ทำให้ ‘เงาในวังลึก’ ถูกกองเซ็นเซอร์แบนอย่างเป็นทางการ ไม่ผ่านการตรวจสอบ ไม่อนุญาตให้ออกอากาศ!
ตอนทีมผู้กำกับรับทราบข่าวนี้ เย่ชิงกำลังนั่งเหม่ออยู่ริมทะเลเพียงลำพัง
‘เงาในวังลึก’ เป็นละครที่สำคัญที่สุดในชีวิตเธอ เพื่อให้ละครออกมาดี เธอต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย และต้องทนลำบากอย่างแสนสาหัส
ทั้งๆ ที่ในงานเลี้ยงปิดกล้องเมื่อสองสามวันก่อน ทุกคนยังยกแก้วขึ้นพร้อมกัน คาดหวังว่าเรตติ้งจะพุ่งกระฉูด แต่ตอนนี้กลับ…
และเพราะเรื่องนี้ หมู่นี้หลูจวิ้นถึงมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอด
เย่ชิงรู้ว่าตัวเองทำให้เขาสูญเงินมหาศาล ลึกๆ แล้วก็รู้สึกเสียใจมากเช่นกัน เดิมทีเย่ชิงคิดว่า รอให้หลูจวิ้นจัดการงานที่บริษัทเสร็จ ค่อยพูดดีๆ กับเขา แต่ตอนนี้เอง คุณแม่หลูก็ปรากฏตัวขึ้น
ในฐานะนักยั่วยุมืออาชีพ คุณแม่หลูซึ่งเดิมทีก็ดูแคลนซูหว่านแฟนสาวคนก่อนของลูกชายตนเองอยู่ ตอนนี้กับเย่ชิงก็ยิ่งไม่มองแม้หางตา
จะดีจะร้ายยังไง ซูหว่านยังเป็นราชินีในวงการที่มีชื่อเสียงเกียรติยศ อีกทั้งไม่เคยผลาญเงินสกุลหลู
แต่เย่ชิงไม่เหมือนกัน เธอเป็นเพียงนักแสดงเล็กๆ แต่กลับทำให้ลูกชายตนต้องสูญเงินสดกว่าร้อยล้านไปเปล่าๆ เพื่อดันเธอขึ้นมา!
นั่นเป็นเงินสด ไม่ใช่กระดาษนะ!
หลังจากชนชั้นสูงอย่างคุณแม่หลูนัดพบเย่ชิง ก็ตรงเข้าสู่เส้นทางของแม่เฒ่าผู้ร้ายกาจในละครยอดนิยมแบบดั้งเดิมทันที โยนเช็คให้ แล้วพูดอย่างเย็นชาใส่เย่ชิง “ไปจากลูกชายฉันซะ เงินจำนวนนี้ให้เธอ แต่เธอไม่มีสิทธิ์ต่อรอง! เพราะค่าตัวเธอก็แค่นี้แหละ!”
ที่แท้ตนถูกตั้งราคามาตรฐานไว้แต่แรกแล้ว
เดิมทีในสายตาผู้อื่น ตนก็เป็นดาราตัวเล็กๆ ที่หลูจวิ้นเลี้ยงดูปูเสื่ออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
เหล่านี้เย่ชิงล้วนรู้ดี เพียงแต่เธอรู้สึกว่าหลูจวิ้นจริงใจและจริงจังกับเธอ รู้สึกว่าคนสองคนอยู่ด้วยกัน ขอเพียงรักกัน ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคทั้งมวลไปได้ แต่หมู่นี้หลูจวิ้นยิ่งมาก็ยิ่งเคร่งขรึม เขามีความลับมากมายที่ไม่ยอมบอกเธอ ทำให้เย่ชิงรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเลิกกอง อีกทั้งเธอในตอนนี้ยังไม่ได้รับแจ้งข่าวใดๆ เนื่องจากไม่ค่อยสบายใจ เย่ชิงจึงได้แต่มานั่งรับลมริมทะเลอยู่ตามลำพัง
“คุณคือเย่ชิง?”
เสียงกังวานใสของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขัดจังหวะความคิดของเย่ชิง พอได้ยินฝ่ายตรงข้ามเรียกชื่อตนในทันที เย่ชิงก็แปลกใจมาก หันมองไปตามเสียง เห็นเยี่ยเส่าฉวินในชุดเสื้อลายดอก
เขาคือคุณชายรองสกุลเยี่ย แม้เย่ชิงไม่เคยพูดคุยกับเยี่ยเส่าฉวิน แต่เธอเคยได้ยินหลูจวิ้นพูดถึงคนคนนี้
“คุณชายรองเยี่ย มีเรื่องอะไรเหรอคะ”
พอเห็นเยี่ยเส่าฉวินเดินเข้ามาหาตนเอง เย่ชิงก็ลุกลี้ลุกลนยืนขึ้น เดิมทีเธอเป็นคนค่อนข้างกลัวการเข้าสังคมชั้นสูงอยู่แล้ว โดยเฉพาะเยี่ยเส่าฉวินที่อยู่ตรงหน้า มีท่าทางแบบพ่อพวงมาลัย ทำให้คนคุยด้วยไม่รู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่ หรือต้องการมาดูหมิ่นตนเหมือนกัน
ยังไงเขากับหลูจวิ้นก็มีสถานะเป็นคู่แข่ง การฉวยโอกาสทับถม เป็นเรื่องปกติ
ขณะที่เย่ชิงกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั้น เยี่ยเส่าฉวินก็มายืนตรงหน้าเธอแล้ว ตามด้วยการกระทำที่ไม่คาดคิด เขายกมือทั้งสองขึ้นจับชายเสื้อตัวเอง ยื่นไปตรงหน้าเย่ชิง “ผมเป็นแฟนคลับคุณ เซ็นชื่อให้ผมเร็วเข้า!”
เย่ชิง “…..”
“คุณ คุณจำคนผิดหรือเปล่า”
เย่ชิงจ้องมองเยี่ยเส่าฉวินด้วยความสงสัยอยู่บ้าง “ฉัน ฉันไม่เคยแสดงอะไรสักหน่อย!”
“ใครบอก คุณเข้าวงการมาหกปี เคยแสดงละครมาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยเรื่อง เรื่อง ‘องค์หญิงหลิงเย่ว์’ เป็นนางในพระราชวังเฉียนชิง เรื่อง ‘พ่อค้าเกลือผู้ยิ่งใหญ่’ เป็นลูกสาวของผู้ว่าราชการมณฑลเจียงเจ๋อ ยังมี…”
กับบทบาทเล็กๆ ของเย่ชิงในละคร เยี่ยเส่าฉวินพลันแจกแจงได้อย่างแม่นยำ กระทั่งเธออยู่ในฉากกี่นาที พูดกี่ประโยค เขาล้วนรู้ดี…ไม่ผิด หมู่นี้คุณชายรองเยี่ยไม่ได้ทำอะไร จึงรวบรวมข้อมูลของเย่ชิงมาดู อะไรคือนักป้อสาวตัวพ่อ เชิญดูได้จากคุณชายรองเยี่ย~
พอได้ยินคำพูดของเยี่ยเส่าฉวิน แววตาของเย่ชิงก็ค่อนข้างสับสน เขาพูดถูกต้องทั้งหมด แม้เป็นการท่องจำ แต่ก็รู้ทุกอย่างที่เธอเคยแสดงชัดเจน ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว
เย่ชิงนึกมาตลอดว่า ในโลกนี้ มีแต่ตัวเองที่จำเรื่องเหล่านี้ได้ ไม่นึกว่าเยี่ยเส่าฉวินจะจงใจจดจำเรื่องเหล่านี้
ต่อให้เขาจงใจเข้าหาตน เพราะมีจุดประสงค์อื่นใด เย่ชิงก็ยากที่จะรู้สึกว่าเขาเป็นศัตรู…
แชะ!
ไม่ไกลกันนัก แสงแฟลชของกล้องภาพนิ่งกะพริบ หลี่เหวยอียืนอยู่ในศาลาหลังหนึ่ง เขาเก็บกล้อง แล้วเหลือบมองเย่ชิงกับเยี่ยเส่าฉวินที่อยู่ริมทะเลเงียบๆ ห่างกันขนาดนี้ ทั้งสองย่อมไม่มีทางเห็นเขา
แต่การจะถ่ายภาพให้เห็นชัดเจนขณะอยู่ห่างขนาดนี้ อีกทั้งต้องถ่ายให้ดูคลุมเครือ กระทั่งสีหน้าท่าทางของผู้ถูกถ่ายก็ต้องได้อารมณ์ เหล่านี้มีเพียงปาปารัสซี่รุ่นพี่อย่างหลี่เหวยอีเท่านั้นที่ทำได้
“พี่หว่าน”
พอเก็บกล้องเข้าไปในรถตัวเองเรียบร้อย หลี่เหวยอีก็รีบกดมือถือหาซูหว่าน
“หือ?”
เสียงของซูหว่านในมือถือทั้งแหบและเกียจคร้าน คล้ายยังไม่ตื่นนอน
พอได้ยินเสียงซูหว่าน สีหน้าหลี่เหวยอีก็เปลี่ยนเล็กน้อย เขาจำได้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดของซูหว่าน
“พี่หว่าน เรื่องที่พี่ไหว้วาน ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว วันนี้พี่…ว่างไหม”
“เธอไม่ว่าง”
มือถือพลันมีเสียงเย็นยะเยียบของซูรุ่ยดังมา
“คุณชายสาม”
พอได้ยินเสียงเขา น้ำเสียงของหลี่เหวยอีก็เปลี่ยนเป็นนอบน้อมทันที
“งั้นวันหลังผมค่อยนัดใหม่”
“ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น พรุ่งนี้นายไปที่บริษัทฉัน”
“แต่…”
หลี่เหวยอียังไม่ทันพูดอะไร ซูรุ่ยก็วางสายไปโดยไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย
“ภรรยา”
ซูรุ่ยพลิกตัวมามองดูซูหว่านที่อยู่ข้างกาย “คุณบอกให้หลี่เหวยอีทำอะไรแทนคุณอีกแล้วล่ะ จริงๆ แล้วผมหานักสืบเอกชนมาช่วยคุณได้นะ!”
“ไม่มีอะไร ฉันก็แค่ให้เขาช่วยสังเกตดูความเคลื่อนไหวของเย่ชิงหน่อย ถ้าจ้างนักสืบเอกชน แล้วถูกหลูจวิ้นจับได้ขึ้นมาก็หมดสนุกกันพอดี หลี่เหวยอีเป็นปาปารัสซี่มืออาชีพ ถ้าถูกหลูจวิ้นจับได้ เขาจะได้ไม่สงสัยอะไรไง”
พอได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ซูหว่านก็อธิบายให้ฟังอย่างเกียจคร้าน ก่อนดึงผ้าห่มเข้ามา ตัดสินใจนอนต่อ ไม่ง่ายเลยที่จะได้พักผ่อนหนึ่งวัน ถึงตาย เธอก็ต้องตายบนเตียง…
หือ?
พอเห็นภรรยาตนเองพูดง่ายๆ แบบนี้ ซูรุ่ยกลับหรี่ตาลงตามจิตใต้สำนึก สรุปแล้วเขาไม่ชอบหลี่เหวยอี ไม่ได้การ พรุ่งนี้ต้องตักเตือนเขาดีๆ หน่อย อืม ตัดสินใจได้รวดเร็วทันใจดีนี่!
“ฮัดเช้ย!”
ขณะขับรถกลับเข้าเมืองได้ครึ่งทาง หลี่เหวยอีก็จามออกมาทีหนึ่ง เขาถูจมูกไปมา มองดูถนนหลวงตรงหน้าที่ตรงดิ่ง แล้วแววตาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป…
เยี่ยซื่อเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ พรุ่งนี้ตนไปหรือไม่ไปดี
นี่เป็นโอกาสหรือเปล่า
ตัวเอกอีกคนในรูปถ่ายคือคุณชายรองเยี่ย แล้วตนควรจะพูดยังไงกับคุณชายสามดี
ไม่พูดก็ไม่ได้ หนุ่มน้อยหลี่เหวยอีคลุกคลีอยู่กับเล่ห์เพทุบายในวงการนี้มานาน พอพบเจอเรื่องใดๆ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดหน้าคิดหลัง วางแผนก่อนค่อยลงมือทำ แต่ครั้งนี้ เขาคิดมากเกินไปจริงๆ…