มู่หนานจือ - บทที่ 464 ส่งน้องสาว
หลี่หลินจากไปอย่างมีความสุขมาก
หลี่ฉางชิงมองภาพเงาด้านหลังของเขาโดยไม่พูดอะไรนานมาก
เด็กรับใช้ของเกาเมี่ยวหวารอหลี่หลินอยู่หน้าประตูเรือนของหลี่หลิน
พอเห็นเขากลับมา ก็เข้าไปหาอย่างตื่นเต้นดีใจ และเอ่ยว่า “คุณชายใหญ่ คุณหนูของพวกเราให้ข้ามาถามท่านว่า ท่านจะออกเดินทางไปซีอานเมื่อไร? คุณหนูเตรียมของขวัญให้คุณหนูทั้งสอง อ อยากขอให้คุณชายใหญ่ส่งต่อให้พวกนางขอรับ”
หลี่หลินปลื้มใจมาก
เขากำลังกลุ้มว่าไม่รู้ว่าเจอหลี่เสว่แล้วจะพูดอะไรดี เกาเมี่ยวหรงก็เตรียมของขวัญมอบให้หลี่เสว่แล้ว สุภาษิตกล่าวไว้ดี หลังจากอีกฝ่ายยอมรับผิด ก็ตีอีกฝ่ายไม่ลงแล้ว หล ลี่เสว่ได้รับของขวัญที่เกาเมี่ยวหรงเตรียมให้ เจอเกาเมี่ยวหรงอีก ก็น่าจะไม่รังเกียจเกาเมี่ยวหรงเหมือนก่อนหน้านี้แล้วกระมัง?
เขายิ้มพลางรับของขวัญ พอกลับถึงห้องและดู ของที่ให้หลี่เสว่เป็นรองเท้าสองคู่กับถุงเท้าสองสามคู่ ของที่ให้หลี่ตงจื้อเป็นกระโปรงปักลายผ้าไหมหังสีขาวกับเสื้อกั๊กยาวผ ผ้าโปร่งสีแดง ฝีมือประณีต น่าจะเป็นฝีมือของเกาเมี่ยวหรง
หลี่หลินยิ้มมากขึ้น
วันรุ่งขึ้นตอนที่ไปรับหลี่ตงจื้อก็มอบกระโปรงกับเสื้อกั๊กยาวให้หลี่ตงจื้ออย่างรอไม่ไหว และเอ่ยว่า “นี่เป็นของที่พี่เกาของเจ้าทำให้เจ้าเองกับมือ นางไม่สะดวกมาส่งเจ้า จ จึงให้ข้าส่งต่อให้เจ้า”
หลี่ตงจื้อเอ่ยว่า “ขอบคุณ” อย่างเฉยชา และส่งของให้เสี่ยวเหอหญิงรับใช้ประจำตัวของตนเอง
หลี่หลินเห็นนางไม่ดีใจมากอย่างที่ตนเองคิด ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ค่อยพอใจ จึงเอ่ยว่า “ตงจื้อ นี่เป็นน้ำใจของพี่เกาของเจ้า”
ความนัยที่แฝงในนั้นหมายถึงนางไม่กระตือรือร้นพอ
หลี่ตงจื้ออยากพูดแต่ก็หยุดไว้
นางปวดใจกับความเปลี่ยนแปลงของเกาเมี่ยวหรง ทว่าไม่ได้คัดค้านที่คนที่มีชาติกำเนิดอย่างเกาเมี่ยวหรงจะเป็นพี่สะใภ้ของนาง
หลี่หลินไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้ นางพูดมากแค่ไหน ก็มีแต่จะล่วงเกินพวกเขาเท่านั้น
หลี่ตงจื้อคิดแล้วก็ยังเอ่ยว่า “ขอบคุณมาก” และหันตัวเตรียมขึ้นรถม้า
ฮูหยินเหอเห็นแล้วขมวดคิ้วตลอด และเอ่ยกับหลี่หลินอย่างรู้สึกเสียใจว่า “นางถูกพ่อบังคับให้ไปซีอาน จึงไม่สบายใจ เจ้าก็อย่าลดตัวลงไปทะเลาะกับนางเลย!”
หลี่หลินรีบเอ่ยว่า “ท่านอาพูดเกินไปแล้ว ตงจื้อเป็นน้องสาวของข้า อย่าว่าแต่เวลานี้นางเพียงแค่อารมณ์ไม่ค่อยดีเลย ต่อให้เข้าใจข้าผิดตรงไหน ข้าก็ควรจะให้อภัยเช่นกัน” แล้ว วถามอีกว่า “ตอนข้าแต่งงาน ตงจื้อกับท่านหญิงจะกลับมาหรือไม่?”
เขากับเกาเมี่ยวหรงกำหนดในเบื้องต้นว่าจะแต่งงานช่วงเดือนสิบเอ็ด
ตามที่หลี่ฉางชิงบอก เจียงเซี่ยนกลับมาฉลองปีใหม่พอดี
ฮูหยินเหอเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นต้องกลับมาแน่นอน”
หลี่หลินวางใจแล้ว
เขาแต่งงาน หากหลี่เชียนกับเจียงเซี่ยนต่างไม่มาร่วมงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจียงเซี่ยนไม่มาร่วมงาน สถานการณ์ก็จะไม่ยิ่งใหญ่พออย่างเลี่ยงไม่ได้
ทว่าหลี่จวีกลับเม้มปากแน่น และไม่พูดกับหลี่ตงจื้อสักคำตั้งแต่ต้นจนจบ
พี่รองติดตามพี่ใหญ่ไปซีอานแล้ว เวลานี้แม้แต่น้องสาวอย่างตงจื้อก็ไปแล้ว ทิ้งเขาไว้ที่ไท่หยวนเพียงคนเดียว…ท่านพ่อไม่อยากจากเขาหรือพี่ใหญ่ดูถูกเขา?
เขาว้าวุ่นใจ ยังไม่ทันสัมผัสแม้แต่ความเศร้าที่หลี่ตงจื้อเดินทางไกล ก็สัมผัสถึงความริษยาที่กินคนก่อนแล้ว
ป้าเหอที่มาส่งเพียงแค่บีบมือของหลี่ตงจื้อแล้วก็ปล่อย ทว่าเหอถงเหนียงกลับน้ำตาไหลเต็มหน้า และเอ่ยว่า “หากเจ้าไปที่นั่นแล้วขาดอะไรอย่าลืมบอกข้า ไท่หยวนซื้อไม่ได้ ข้าจ จะไปซื้อที่เมืองหลวงให้เจ้า เจ้าอย่าทำให้ตนเองลำบากเชียว พี่สะใภ้เป็นคนดีมาก ฉิงเค่อกับไป่เจี๋ยสาวใช้ข้างกายนางก็ดีเหมือนกัน พวกนางจะต้องดูแลเจ้าอย่างแน่นอน เจ้ามีอะไรก็บอก พวกนางตรงๆ พวกนางจะช่วยเจ้า” แล้วเอ่ยเสียงเบามากอีกว่า “ท่านแม่บอกว่างานแต่งงานของข้าอาจจะก่อนกำหนด ไม่ก่อนท่านพี่หลี่หลินก็หลัง เจ้าจำไว้ว่าต้องกลับมาดื่มเหล้ามงคลนะ ”
หลี่ตงจื้อประหลาดใจเล็กน้อย พลางคิดว่าตนเองจะกลับมาดื่มเหล้ามงคลหรือไม่นั้น เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องที่นางสามารถตัดสินใจได้ แต่นางก็ยังพยักหน้ากับเหอถงเหนียงอย่างจริงจังมา าก และกำชับประมาณว่า “มีอะไรก็ให้พวกช่างเย็บปักถักร้อยไปทำ ระวังดวงตา” แล้วถึงจะให้แม่นมเหอประคองขึ้นรถม้า
หลี่หลินคุ้มกันหลี่ตงจื้อไปซีอาน
—————————————————–
เจียงเซี่ยนที่อยู่ไกลถึงซีอานได้รับจดหมายแล้ว นางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยอย่างแปลกใจว่า “บอกว่าจะออกเดินทางหลังวันมังกรเชิดหัววันที่สองเดือนไม่ใช่หรือ? ทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนแผนการเ เดินทาง มาถึงล่วงหน้าหลังเทศกาลโคมไฟ?”
ฉิงเค่อที่มาส่งจดหมายให้นางเติมขนมฝูที่ส่งมาจากฝูเจี้ยนลงในกล่องใส่ขนมเก้าชนิด พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เห็นว่าคุณชายหลี่หลินจะหมั้นช่วงเดือนสาม กลัวว่าจะทำให้งานแต่งงานข ของคุณชายหลี่หลินล่าช้า จึงส่งคุณหนูใหญ่มาล่วงหน้าเจ้าค่ะ”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมไม่เปลี่ยนคนส่งตงจื้อมา?” เจียงเซี่ยนใช้แท่งไม้ไผ่จิ้มฟักเชื่อม อยากกิน ทว่าก็รู้สึกว่าหวานเกินไป จึงพึมพำอย่างสองจิตสองใจอยู่ตรงนั้นว่า “ยังให้เจ้ าบ่าวส่งมาโดยเฉพาะอีก...เป็นห่วงตงจื้อหรือจะรับหลี่เสว่กลับไป? อย่าทะเลาะกันที่บ้านของข้าเชียว ข้ากลัวการจัดการงานบ้านพวกนี้ที่สุดแล้ว ต่างคนต่างบอกว่าตนเองมีเหตุผลจร ริงๆ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยพัวพันอย่างชัดเจน”
ฉิงเค่อเม้มปากยิ้ม และเอ่ยว่า “ท่านหญิงเอ่ยเช่นนี้ เหมือนเคยจัดการเรื่องแบบนี้มามาก?”
นางเคยจัดการเรื่องแบบนี้มามากจริงๆ แต่เป็นในชาติก่อน!
เจียงเซี่ยนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ และถามฉิงเค่อว่า “ตอนที่คุณชายรองกับพี่หญิงออกไปได้บอกว่าจะกลับมารับประทานอาหารเย็นหรือไม่?”
ก่อนปีใหม่หลี่จี้ก็วางแผนเรียบร้อยแล้วว่าจะพาหลี้สว่ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง วันที่สิบเจ็ดเดือนหนึ่งเก็บโคมไฟแล้ว หลี่จี้ก็เริ่มลากหลี่เสว่ออกไปเที่ยวอย่างคึกคัก หลี่เสว่ ไม่มีอารมณ์อย่างสิ้นเชิง ทว่าทนความกระตือรือร้นของหลี่จี้ไม่ไหว สุดท้ายก็เริ่มเที่ยวแถวๆ ซีอานกับหลี่จี้
วันนี้พวกเขาไปภูเขาหลี
นี่ทำให้เจียงเซี่ยนกลัดกลุ้มมาก
นางยังไม่เคยไปภูเขาหลีเลยด้วยซ้ำ
เมื่อก่อนเป็นไทเฮา เห็นอ๋องเจี่ยนไปแช่น้ำพุร้อนทุกปี ตอนนี้นางแต่งงานกับสามัญชนแล้ว ปรากฏว่าก็ยังทำได้เพียงมองคนอื่นไปเที่ยวอยู่ดี
นางเขียนจดหมายหาหลี่เชียนอย่างโกรธจัด ให้คนพาไปเมืองกาน ถึงจะรู้สึกดีขึ้นหน่อย
ใครจะรู้ว่าจดหมายเพิ่งจะส่งออกไป อิ้นไฉ่ก็เข้ามาบอกนางว่า หมอฉางกลับมาแล้ว
ความโกรธที่เพิ่งจะสลายไปของเจียงเซี่ยนรวมตัวกันอีกครั้ง
หลี่เชียนต้องกลัวนางถามไม่หยุดอย่างแน่นอน จึงให้หมอฉางอยู่ฉลองปีใหม่ที่เมืองกาน ผ่านเทศกาลโคมไฟไปแล้วถึงจะกลับมา
หมอฉางนำของพื้นเมืองของเมืองกานมาให้เจียงเซี่ยนจำนวนหนึ่ง และนำจดหมายมาให้เจียงเซี่ยนตามคำสั่งของหลี่เชียน
เจียงเซี่ยนอารมณ์ไม่ดีจะระบายใส่หลี่เชียน แต่จะไม่พาลโกรธคนอื่น
นางถามถึงเรื่องของหลี่เชียน หมอฉางชมอย่างเต็มปากเต็มคำ หลี่เชียนไปเพียงแค่เดือนกว่าๆ สั้นๆ ก็กวาดล้างธรรมเนียมที่ไม่ดีที่หนานซือทิ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนไช่ซวงก็เชื อฟังคำสั่งหลี่เชียนทุกอย่าง ทำงานอย่างจริงจังและรอบคอบ ไม่มีมาดของลูกหลานตระกูลขุนนางแม้แต่นิดเดียว เป็นคนที่มีความสามารถที่หาได้ยากคนหนึ่ง…
เช่นนี้ก็เตะไช่ซวงออกไปไม่ได้แล้ว!
ทว่าเตะออกไปไม่ได้ก็ต้องเตะออกไปอยู่ดี
เขาเป็นคนของตระกูลไช่จิ้นอันโหว หากหลี่เชียนอยากยืนหยัดทางตะวันตก จะต้องมีความขัดแย้งกับขุนนางระดับสูงและชนชั้นสูงในเมืองหลวงอย่างแน่นอน แทนที่จะให้คนแซ่ไช่อยู่ข้างกายแล ละคอยระวังว่าเขาจะแอบบอกข่าวกับจวนจิ้นอันโหวตลอดเวลา สู้ไล่เขาออกไปตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่า
เพียงแต่…ไล่ไช่ซวงออกไปนั้นง่าย ไช่ซวงไปแล้ว ใครจะมารับช่วงต่อจากเขาล่ะ?
เจียงเซี่ยนคิดอยู่หลายวันก็คิดคนที่เหมาะสมไม่ออก
ส่วนหลี่เสว่นั้น ออกไปกับหลี่จี้ติดกันสองสามวัน ก็เหนื่อยจนเมื่อยขาไปหมดแล้ว จึงขอพักที่บ้านสองสามวันค่อยออกไปเที่ยว
หลี่จี้หัวเราะ หลังจากส่งหลี่เสว่กลับห้องพักแขก ก็ไปยังเรือนชบาที่เป็นที่เรียนพิเศษ