ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 405 จงใจ
บทที่ 405 จงใจ
บทที่ 405 จงใจ
ลู่หยวนวาดค่ายกลเสร็จต่อหน้าทุกคนอย่างไม่รีบร้อน จากนั้นจึงสลักมันลงไปก่อนพุ่งขึ้นสู่ท้องนภา!
หมู่เมฆสีดำหนาทึบบดบังค่ายกลอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น แสงสีขาววูบไหวไปมา แล้วสรรพสิ่งก็กลับคืนสู่ความสงบ
ลู่หยวนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ไปกันเถอะ”
สีหน้าของชิวเซี่ยวเทียนไม่ได้แปรเปลี่ยนไป เมื่อกำลังจะนำลู่หยวนเข้าไปในที่พัก เขาได้ยินเสียงผู้อาวุโสที่เดินอยู่แล้วเอ่ยถามด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม “บุตรศักดิ์สิทธิ์ ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าค่ายกลเมื่อครู่วาดขึ้นเพื่ออันใด?”
ลู่หยวนชำเลืองมองชายผู้นั้นเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้มหยันแล้วเอ่ยว่า “ยังจะเป็นอะไรไปได้อีก? แน่นอนว่ามันคือค่ายกลที่จะทำลายตระกูลชิวทั้งหมดยังไงละ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้อาวุโสตระกูลชิวพลันเลือนหายไป ส่วนผู้อาวุโสคนอื่นต่างก็มีสีหน้าไม่พอใจ
มีเพียงชิวเซี่ยวเทียนที่ยังคงทำตัวปกติ เขายกมือแล้วเอ่ยว่า “เชิญบุตรศักดิ์สิทธิ์”
ลู่หยวนเอามือไพล่หลังขณะเดินเข้าสู่ค่ายกลใต้เหวอย่างผึ่งผาย
กู่อี้เจี้ยนถือกระบี่ยาวไว้ในมือก่อนจะทะยานออกไป
เมื่อชิวเซี่ยวเทียนเห็นลู่หยวนกำลังเข้าไป รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไป เขาชำเลืองมองชิวชิงหลีแล้วเอ่ยอย่างเนิบช้า “คืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า”
ชิวชิงหลีหรี่ตาลงโดยที่ไม่ตอบอะไร
ชิวเซี่ยวเทียนนำกลุ่มผู้อาวุโสเข้าไปในค่ายกล
หลังจากเข้าสู่ค่ายกล เบื้องหน้าของลู่หยวนเปลี่ยนจากสภาพแวดล้อมที่เดิมเป็นหุบเหวกลายเป็นดินแดนสงบสุขที่มีสายลมและแสงอาทิตย์สาดส่อง
กลิ่นอายแห่งวิถีคุณธรรมลอยล่องทั่วทุกหนแห่งขณะสายลมพัดพา ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและยินดี
ทว่าทันทีที่ลู่หยวนเข้าสู่ที่นี่ เขากลับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายมารทรงพลังยิ่ง!
โลหิตบริเวณเส้นเลือดหัวใจเดือดพล่านจนเต้นรัว
ความโหยหาจากก้นบึ้งของหัวใจกำลังเรียกหาลู่หยวน!
ที่นี่มีมหาโชคชะตาของเผ่ามาร!
ลู่หยวนมองทุกสิ่งรอบข้างด้วยสีหน้าสงบ
ที่แห่งนี้คล้ายกับกลายเป็นอาณาจักรขนาดเล็กของชิวสิง สายลมและแสงอาทิตย์ที่นี่งดงาม มีขุนเขาลำธาร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
จุ๊จุ๊จุ๊…
ที่แห่งนี้เหมาะกับการเลี้ยงเผ่ามารเหลือเกิน!
ลู่หยวนอดไม่ได้ที่จะคิดถึงหอคอยอสูรสวรรค์ที่ยังไม่เปิดอย่างสมบูรณ์ หากมันถูกเปิดขึ้นมา สัตว์ประหลาดซึ่งอยู่ภายในนั้นจะต้องหาสถานที่สืบพันธุ์ เผ่ามารตนอื่นจะกำเนิดขึ้นในภายภาคหน้า สัตว์ประหลาดก็จะมีการปักหลักอย่างมั่นคง!
สถานที่แห่งนี้นับว่าดี!
ลู่หยวนชำเลืองมองบริเวณใจกลางของอาณาเขตตระกูลชิว
สถานที่นั้นมีจัตุรัสกับค่ายกลขนาดใหญ่กำลังสั่นไหว ส่วนสิ่งปลูกสร้างทั้งหลายต่างกระจัดกระจายทั่วทุกหนแห่ง
“บุตรศักดิ์สิทธิ์กำลังมองหาอะไรหรือ?”
ชิวเซี่ยวเทียนที่เดินตามลู่หยวนมา อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจับจ้องไปทางจัตุรัส
ลู่หยวนชี้ไปที่จัตุรัสแล้วกล่าวว่า “น่าจะตั้งหอคอยไว้ตรงนั้น”
“หอคอยหรือ?” ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
ชิวเซี่ยวเทียนไม่เข้าใจว่าลู่หยวนหมายถึงอะไร แต่ก่อนจะได้ถามอย่างละเอียด เขาก็เห็นอีกฝ่ายเดินไปทางห้องโถงใหญ่ของตระกูลชิวโดยมีชิวชิงหลีตามหลังอยู่ไม่ห่าง
หลังจากเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ลู่หยวนหาที่นั่งเสร็จสรรพ หลังจากนั้นสาวใช้ที่งดงามหลายคนก็เรียงแถวคุกเข่าอยู่ข้างเขา คนเหล่านี้ดูผึ่งผายแลเย็นชา ใบหน้าซึ่งมีผ้าบดบังเอาไว้เปี่ยมด้วยเสน่หาเย้ายวน ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ก็เผยสัดส่วนของร่างกายให้เห็น
ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองขณะทำความสะอาดจานบนโต๊ะตรงหน้าลู่หยวน
ผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากที่สุดท่ามกลางกลุ่มสาวใช้อาจหาญก้าวมาข้างหน้า ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้มขณะเอนกายเข้าหาลู่หยวน “ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์~”
ลู่หยวนไม่ขยับ เห็นเพียงกู่อี้เจี้ยนผู้ยืนอยู่ด้านข้างฟาดสันกระบี่ใส่อีกฝ่ายที่มีร่างอ่อนนุ่มไร้กระดูก จากนั้นจึงคว้าตัวขึ้นมาอย่างนุ่มนวล ก่อนจะจับพลิกแล้วกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง
ผู้หญิงที่เหลือล้วนตกตะลึง ก่อนกลับมามีสติอย่างรวดเร็ว ราวกับพวกนางไม่เห็นใครถูกจับกระแทกกับพื้น
คนที่ผึ่งผายเย็นชาที่สุดรินน้ำชาด้วยสองมือ นางคุกเข่าแทบเท้าลู่หยวนขณะถือถ้วยชาด้วยมือสีขาวราวกับหยก ก่อนจะมาอยู่ข้างกายอีกฝ่าย “ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ”
น้ำเสียงของนางเย็นชาอย่างยิ่ง ราวกับปราศจากความต้องการทางโลก
บัดนี้ชิวเซี่ยวเทียนกับผู้อาวุโสจำนวนมากนั่งประจำตำแหน่งของตน
ลู่หยวนหรี่ตาลงแล้วแย้มยิ้ม จากนั้นยกมือขึ้นรับถ้วยชา ส่วนมืออีกข้างเชยคางของหญิงสาวก่อนจะออกแรงบีบ
“ตระกูลชิวช่างมีลูกเล่นแพรวพราวนัก…”
ลู่หยวนเผยรอยยิ้มสดใสขณะขยับนิ้ว แล้วผ้าคลุมใบหน้าของผู้หญิงก็ขาดวิ่น
ใบหน้าประหนึ่งเซียนผู้ถูกเนรเทศปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน รูปลักษณ์เย็นชานี้ กอปรกับสีหน้าที่ไม่เต็มใจ ทำให้ผู้ชายทั้งหลายต่างมีความปรารถนาที่จะพิชิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!
“ประมุขชิว เจ้าคงลำบากไม่น้อย”
ชิวเซี่ยวเทียนยิ้มหลังจากได้ฟังคำพูดของลู่หยวน “ขอเพียงบุตรศักดิ์สิทธิ์ถูกใจก็พอแล้ว อีกไม่กี่วัน ข้าจะต้องพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้ท่านรู้สึกสบายใจ ข้าจะขอให้คนมาเก็บกวาดลานบ้านเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครมารบกวน ท่านจะได้พักผ่อนอย่างปลอดภัย”
“สมาชิกตระกูลชิวเหล่านี้ต่างอุทิศตนเพื่อบุตรศักดิ์สิทธิ์ นับจากนี้ไป พวกเขาจะรับใช้ท่าน!”
“รับใช้ข้าหรือ?”
ลู่หยวนเบนสายตาจากใบหน้าของหญิงสาวมาจับจ้องที่ชิวเซี่ยวเทียน
“เจ้ากำลังจะให้ผู้หญิงหน้าตาธรรมดาเช่นนี้มาดูแลข้าอย่างนั้นหรือ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของชิวเซี่ยวเทียนพลันบิดเบี้ยวไป
หืม?
เจ้าไม่ชอบอย่างนั้นหรือ?!
ทั้งที่ตัวเองเอามือจับคางอีกฝ่ายแล้ว!
เหตุใดยังเรียกอีกฝ่ายว่าหน้าตาธรรมดาอีก?!
ถ้าไม่ชอบก็อย่ามาจับ!
แม้ในใจจะคิดเช่นนั้น แต่สีหน้าของชิวเซี่ยวเทียนยังคงราบเรียบพลางเอ่ยถามว่า “ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่พอใจอะไรกันแน่?”
ลู่หยวนเขวี้ยงถ้วยชาในมือ “ชานี้ทำมาจากน้ำอะไร?”
“ปกติข้าดื่มน้ำจากทะเลสาบมังกร หากมีมังกรในน้ำย่อมต้องมีวิญญาณ แต่ขนาดมังกรยังไม่เต็มใจอยู่อาศัย แล้วน้ำมันจะดื่มเข้าไปได้อย่างไร?”
ชิวเซี่ยวเทียนรู้สึกเหงื่อตกขึ้นมาทันที
เด็กคนนี้หาเรื่องเพียงเพราะน้ำไม่ได้มาจากทะเลสาบมังกรงั้นหรือ?!
เหตุใดไม่บอกไปเลยเล่าว่าต้องการน้ำจากแดนเซียน?!
หากมีมังกรในน้ำย่อมต้องมีวิญญาณหรือ?!
ตระกูลลู่มั่งคั่งถึงขนาดเลี้ยงมังกรกันเชียวหรือ?!
ชิวเซี่ยวเทียนยังคงพยักหน้าพลางแย้มยิ้ม จากนั้นจึงถ่ายทอดคำสั่งต่อผู้อาวุโส “ไปหาของที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ต้องการมา!”
ลู่หยวนพยักหน้าให้กับผู้หญิงทั้งหลายซึ่งคุกเข่าอยู่ด้านข้าง “คนเหล่านี้มาจากไหน?”
ชิวเซี่ยวเทียนตอบ “แน่นอนว่าพวกนางได้รับการฝึกฝนจากตระกูลชิว บุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องห่วง พวกนางล้วนสะอาดสะอ้าน!”
“สะอาดสะอ้านหรือ?”
ลู่หยวนยิ้มหยัน “เช่นนั้นคนที่เติบโตบริเวณสวนหลังบ้านของข้าล้วนเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ในสายตาของตระกูลทั้งหลายกระมัง!”
“แล้วพวกนางเป็นใคร? รูปร่างดูธรรมดา เรี่ยวแรงไม่มี ถึงกระนั้นกลับยังกล้าปีนขึ้นเตียงข้าเพื่อคอยให้การปรนนิบัติอย่างนั้นหรือ?”
“ชิวเซี่ยวเทียน ตระกูลชิวของเจ้ามีแค่นี้เองหรือ?”
ทันทีที่ลู่หยวนยืนขึ้น เขาดูเหมือนกำลังจะจากไป
ชิวเซี่ยวเทียนตะโกนทันที “บุตรศักดิ์สิทธิ์อย่าเพิ่งไป! ท่านสามารถร้องขอทุกสิ่งที่ต้องการได้! ตระกูลชิวจะต้องตอบสนองต่อความต้องการทั้งหมดของท่านได้อย่างแน่นอน!”
ลู่หยวนยืนเอามือไพล่หลัง “ข้าเป็นคนคุยง่าย เรื่องอื่นไม่เป็นไร ขอแค่สาวใช้งดงามและทรงพลังเป็นอันใช้ได้!”
“ข้านึกออกแล้ว บริเวณใกล้กันนี้มีสำนักกระบี่แห่งหนึ่ง เจ้าช่วยนำตัวสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในนั้นมาฝึกฝนเสียหน่อย แล้วให้นางมารับใช้ในฐานะคนยกรองเท้าก็ได้”
ชิวเซี่ยวเทียนกัดฟันตอบตกลง “บุตรศักดิ์สิทธิ์รอสักครู่ ข้าจะไปนำตัวมาให้เดี๋ยวนี้เอง!”
ผู้อาวุโสทั้งหลายต่างพยายามดับไฟที่ร้อนรุ่มในใจ
หากบรรพชนไม่ยืนกรานว่าต้องทำให้ลู่หยวนอยู่ที่นี่สักพัก เกรงว่าพวกเขาคงได้สู้รบปรบมือกับอีกฝ่ายไปนานแล้ว!