ระบบอัจฉริยะที่ไม่มีใครเสมอเหมือน - ตอนที่ 72 คนโง่
เสี่ยวหลัวเดินอยู่ข้างหน้าขณะที่ จูเสี่ยวเฟยและเติ้งไค เดินตามหลังมาอย่างช้าๆ
ปีศาจเสี่ยวหลัว?
ใบหน้าของ จ้าว ซินเจีย และผู้ชายจากสาขาการวัดและการควบคุม ต่างก็ปิดปากสนิทไม่กล้าที่จะพูดอะไร ในหัวเย่ เสี่ยวหลัวมีชื่อเสียงยิ่งกว่า ชูเยว่ เสียอีก มันอาจเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนที่ไม่รู้จักชูเยว่ แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีคนไม่รู้จัก เสี่ยวหลัว เพราะว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดที่ทำให้สมาชิกชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้าพ่ายแพ้ด้วยตัวคนเดียว!
ชิวเหลียง มองไปที่เสี่ยวหลัว จากนั้นเขาก็หันไปหาผู้หญิงสาขาภาษาอังกฤษและถามว่า“ไอหนูสามตัวนี้ มันมาจากสาขาของพวกเธอใช่ไหม?”
สู๊ดดด…
ทันทีที่ จ้าว ซินเจีย และนักศึกษาสาขาการวัดและควบคุม ได้ยินคำพูดของ ชิวเหลียง พวกเขาก็สูดลมเย็นลงไปในปอด ตอนนี้ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ ชิวเหลียง เขากลับเรียกปีศาจเสี่ยวหลัวว่าพวกหนู*! ชิวเหลียง ตอนนี้เขาเหนื่อยกับการใช้ชีวิตแล้วใช่ไหม?
ผู้หญิงเอกอังกฤษ มอง ชิวเหลียง เหมือนมองคนโง่ ริมฝีปากของชูเยว่ ยกยิ้มอย่างมีเลศนัยและถามว่า “เฮ้ นายไม่รู้จักคนที่เดินอยู่ข้างหน้าเหรอ?”
“พวกมันเป็นใคร ฉันไม่เห็นจะรู้จัก!” ชิวเหลียง ตอบพร้อมกับส่ายหัว
“เขาคือเสี่ยวหลัว” ชูเยว่ ตอบพร้อมกับมีรอยยิ้มที่ขี้เล่นปรากฏอยู่บนใบหน้า
“เสี่ยวหลัว?”
ชิวเหลียง ขมวดคิ้ว เขาครุ่นคิดประมาณหนึ่งวินาทีแล้วพูดว่า“เขาเก่งในเรื่องร้องเพลงหรือเก่งในเรื่องเรียนหนังสือหรือไง? ทำไมฉันจะต้องรู้ด้วยว่าเขาเป็นใคร?”
“นายเป็นนักศึกษาของมหาลัยนี้จริงไหมเนี้ย นายไม่เคยเข้าไปดูฟอรั่มของมหาลัยเลยหรือไง” ไป่หลิง พูดออกมาอย่างงงวย เธอคิดว่าในมหาลัยยังมีคนที่ไม่รู้จักเสี่ยวหลัวอยู่อีกเหรอ?
“ฉันทุ่มเทเวลาและความพยายามทั้งหมดไปกับการแต่งเพลง ความฝันของฉันคือการเป็นนักร้องเช่นชูซ่ง เธอคิดว่าฉันจะมีเวลาเข้าไปดูฟอรั่มของมหาลัยหรือไงหะ?”
ชิวเหลียง พูดอย่างเย้ยหยัน เขาต้องการอวดโอ้ความเหนือกว่าของเขา เพื่อที่จะทำให้ผู้หญิงพวกนี้ ได้รู้ว่าเขากำลังทำอะไรที่สูงส่งอยู่ และเขาก็หวังว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนมุมมองของพวกเธอที่มีต่อเขา เขาหันหลังกลับไปมองชายทั้งสามที่เดินเข้ามาและตะโกนว่า “ทำไมพวกแกทั้งสามคนถึงได้ใช้เวลาเดินมาที่นี่นานนัก รีบมาที่นี่เลยเดี๋ยวนี้! พวกแกรู้ไหมว่าพวกแกกำลังลดมาตรฐานการร้องเพลงของนักร้องที่นี่ทั้งหมด!”
วิธีที่ง่ายที่สุดในการดูเท่ห์ในสายตาของผู้หญิงก็คือ การประณามผู้อื่น ชิวเหลียง ตอนนี้เขารู้สึกดีกับตัวเองมาก ในความคิดของเขาผู้หญิงทุกคน กำลังมองมาที่เขาด้วยความชื่นชมอยู่แน่ๆ
“ชิวเหลียง หยุดพูดก่อน!”
จ้าว ชินเจีย รีบหยุดไอโง่คนนี้ทันที เขาเดินเข้าไปกระซิบใส่หูของ ชิวเหลียง อย่างรวดเร็ว“คนที่เดินอยู่ข้างหน้าคือเสี่ยวหลัว…”
“ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะเป็น จาง หลัว หรือ หม่า หลัว! ตอนนี้เรากำลังอยู่ในระหว่างการซ้อมและทุกคนจะต้องฟังฉัน” ชิวเหลียง พูดขึ้นพร้อมกับขัดคำพูดของ จ้าว ชินเจีย เขามีความมั่นใจมากและต้องการเดินไปตามเส้นทางนี้ต่อไปทำให้ผู้หญิงเหล่านี้ตกหลุมรักเขา
ทันใดนั้น เสี่ยวหลัว จูเสี่ยวเฟยและเติ้งไค ในที่สุดพวกเขาทั้งสามคนก็เดินมาถึง
จูเสี่ยวเฟย แคะจมูกของเขาขณะที่ถาม ฮวาง รั่วหราน:“ผู้ดูแล ผู้ชายคนนี้คือใคร? ทำไมเขาถึงสั่งให้เราทำนี่ทำนั่น?”
“เขาคือ ชิวเหลียง ฉันเชิญเขามาสอนเราและปรับปรุงมาตรฐานการร้องเพลงประสานเสียงโดยรวมของเรา” ฮวาง รั่วหราน อธิบาย
“อ่อ เขามาที่นี่เพื่อช่วยเรา ขอโทษนะ ชื่อของฉันคือ จูเสี่ยวเฟย ขอบคุณที่ทำงานหนักเพื่อพวกเรานะ” จูเสี่ยวเฟย กล่าวขึ้น ขณะที่เขาเดินไปจับมืออย่างอบอุ่นกับ ชิวเหลียง
ชิวเหลียง ปฏิเสธที่จะจับมือ เขารักษาทัศนคติที่เย็นชาของเขาเอาไว้ มิเช่นนั้นภาพลักษณ์ที่เขาเพิ่งสร้างขึ้นมันก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยหนะสิ เขากลับพูดตำหนิแทน“หยุดทำตัวใสซื่อได้แล้ว! การที่มาอยู่ในคณะนักร้องมันไม่ใช่เรื่องตลก ตั้งแต่ที่นายมาช้า ฉันจะให้นายร้องเพลงห้าครั้งเพื่อเป็นการลงโทษ!”
“หืม? มันน่าอายนะตอนนี้กำลังมีหลายคนมองเราอยู่” จูเสี่ยวเฟย ตอบเมื่อเขามองไปรอบๆ
เติ้งไค กล่าวเสริมว่า“หอพักของพวกเราอยู่ไกลจากที่นี่มาก พวกเรารีบมาที่นี่เร็วที่สุดแล้ว พวกเราไม่ได้ตั้งใจที่จะมาสาย”
“ไม่ได้ พวกนายมาช้าต้องถูกลงโทษ พวกนายทั้งสามคนยืนอยู่ข้างหน้าพวกผู้หญิงและร้องเพลงให้เสียงดัง พวกนายจะต้องร้องเพลงห้าครั้งไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น!” ชิวเหลียง เชิดหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างชอบธรรม
เสี่ยวหลัว หัวเราะเล็กน้อย แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า“โทษทีนะ แต่ฉันจะไม่ร้องเพลง!”
ไม่ว่าเขาจะไม่มีส่วนร่วมในการแข่งขันร้องประสานเสียงหรือไม่ก็ตาม แต่คำขอของ ชิวเหลียง มันก็ค่อนข้างมากเกินไป เขาขอให้พวกเขาทั้งสามคนร้องเพลง “แม่น้ำเหลือง” ต่อหน้าพวกผู้หญิงเอกอังกฤษทั้งหมดเนี้ยนะ นี่มันไม่ใข่ให้พวกเขาไปแสดงเป็นตัวตลกต่อหน้าพวกผู้หญิงหรือไง?
เสี่ยวหลัวไม่สามารถทำตามคำขอ ที่มากเกินไปแบบนี้ได้
“พวกนายมาช้าพวกนายต้องถูกลงโทษ หากทุกคนเป็นเหมือนพวกนาย พวกเขาก็ไม่ต้องมาฝึกซ้อมร้องเพลงกันแล้ว!” ชิวเหลียง กล่าวตอบ
เสี่ยวหลัวขี้เกียจเกินกว่าที่จะอธิบายเหตุผล เขาเดินกลับไปที่ตำแหน่งของเขาในทันที
เมื่อมองดูเสี่ยวหลัว ผู้ซึ่งมองว่าตัวเองเป็นอากาศธาตุ ชิวเหลียง ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนความองอาจที่เขาสร้างขึ้นนั้นมานั้นได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เขาโกรธและตวาดเสียงดังว่า “ไอหนูท่อ แกไม่มีอะไรเลย นอกจากเป็นได้แค่หนูท่อที่เหม็นเน่า! แกได้ทำลายความหวังจากพวกผู้หญิงเอกอังกฤษไปทั้งหมดแล้ว!”
สู๊ดดด…
จ้าว ชินเจีย และนักศึกษาจากสาขาการวัดและการควบ สูดอากาศที่หนาวเย็นมากขึ้นเข้าไปในปอด ในขณะเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกเวทนา ชิวเหลียง
อันหวนเธอไม่สามารถทนเห็นเสี่ยวหลัวถูกดูถูกได้ เธอลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธในทันทีและพูดกับ ชิวเหลียง ว่า“นายพูดพอหรือยัง? ขนาดพวกเรายังไม่ว่าอะไรเขาเลย นายจะมาว่าเขาแทนพวกเราทำไม นายเป็นคนจากสาขาอื่นจะมาเดือดร้อนแทนพวกเราทำไม? จักรพรรดิไม่รีบร้อนทำไมขันทีจึงต้องรีบร้อน นายเป็นขันทีหรือไง”
เมื่อมี อันหวน เป็นผู้นำ พวกผู้หญิงที่ถูกกดขี่จึงเริ่มพูดขึ้นบ้างเช่นกัน
“ใช่แล้ว! พวกเราเชิญนายมาที่นี่เพื่อให้มาเพิ่มมาตรฐานในการร้องประสานเสียงโดยรวมของพวกเรา ไม่ใช่เชิญนายมาเพื่อ ต่อว่า พวกเรา!”
“ถึงแม้ว่าพวกเราอาจจะร้องเพลงได้ไม่ดี แต่พวกเราก็พยายามกันอย่างเต็มที่ นายช่วยแสดงความเคารพต่อพวกเราหน่อยได้ไหม”
“นายเอาแต่ต่อว่าและตำหนิพวกเรา ตามแต่ที่นายพอใจ นายกำลังทำอะไรกับพวกเรากันแน่”
ฮวาง รั่วหราน ไม่ได้หยุดยั้งใครในครั้งนี้ เธอรู้สึกว่า ชิวเหลียง กำลังใช้อำนาจในทางที่ผิด ถ้าพวกเธอไม่โกรธเลย หลังจากที่เห็นผู้ชายในสาขาของพวกเธอถูกต่อว่าย่างไม่ยุติธรรม นั่นก็หมายความว่า สาขาของเธอขาดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แต่เห็นได้ชัดว่าวิชาเอกภาษาอังกฤษของพวกเธอไม่ใช่แบบนั้น
ชิวเหลียง ไม่ได้คาดคิดเลยว่าคำพูดของเขา จะไปกระตุ้นให้เกิดการคัดค้านของคนจำนวนมากได้ขนาดนี้ เขาใช้อาวุธลับของเขาในทันทีแล้วตะโกนว่า “พวกเธอยังต้องการที่จะร้องเพลงแม่น้ำเหลือง ให้ได้อยู่อีกไหม”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา เสียงทั้งหมดก็สลายหายไปในพริบตา
พวกเธอทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือต้องการร้องเพลงที่ดีและ ชิวเหลียง ผู้ซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าของพวกเธอในตอนนี้ เขาเป็นนักดนตรีตัวจริง หากเขาสอนพวกเธอไม่ต้องสงสัยเลยว่าความสามารถในการร้องเพลงของพวกเธอจะต้องเข้าสู่ระดับใหม่อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าตัวเอง สามารถทำให้พวกผู้หญิงจากเอกภาษาอังกฤษทั้งหมดหยุดพูดได้ ชิวเหลียง ก็รู้สึกภูมิใจกับตัวเองมาก ปากของเขาปรากฏรอยยิ้มขึ้น: “ดูเหมือนว่าพวกเธอยังคงต้องการที่จะร้องเพลง แม่น้ำเหลือง ให้ดีสินะ ถ้าพวกเธอยังอยากที่จะร้องเพลงให้ดี พวกเธอต้องฟังฉัน ถ้าไม่ ฉันก็จะไป ตอนนี้พวกเธอก็คิดให้ดีละกัน… ”
“ไปเถอะ! พวกเราไม่ต้องการแกหรอก!” เสียงพูดที่แผ่วเบาดังลอยขึ้นมา
พวกเธอหันไปมองผู้ที่พูด พวกเธอตกใจผู้ที่พูดก็คือเสี่ยวหลัว แม้ว่าพวกเธอจะไม่ชอบ ชิวเหลียง แต่ถ้าเขาจากไป การร้องเพลงของพวกเธอก็จะต้องมีปัญหาแน่ๆ
ชิวเหลียง ตกตะลึงเล็กน้อย เขาพูดพร้อมกับจ้องมองไปที่ ฮวาง รั่วหราน:“ผู้ดูแลเธอจะไม่พูดอะไรเลยเหรอ เธอคิดว่าเขาพูดในนามของเอกภาษาอังกฤษทั้งหมด ได้งั้นเหรอ?”
จ้าว ชินเจีย ตอนนี้เขารู้สึกตื่นตระหนกและรู้สึกเหมือนกับว่าตอนนี้หัวใจของเขากำลังจะวายแล้ว เขาเดินเข้าไปหา ชิวเหลียง และต่อว่าในทันที“ไอโง่! ชิวเหลียง นั่นคือเสี่ยวหลัว เขาคือสัตว์ประหลาดที่เอาชนะทุกคนในชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แกไม่รู้จริงๆงั้นเหรอ หรือแกแค่แกล้งทำเป็นไม่รู้?”
ตอนนี้ จ้าว ซินเจีย เขาโกรธจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว หากเขารู้ก่อนหน้านี้ว่า ชิวเหลียง มันจะทำตัวโง่เง่าขนาดนี้ เขาคงไม่พามันมาช่วยปรับปรุงการร้องเพลงของพวกเธอ
สถานการณ์ในตอนนี้ดูแย่มาก ไม่เพียงแต่เขาล้มเหลวในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองสาขาเท่านั้น หากพวกเขาทำให้ เสี่ยวหลัว ไม่พอใจ สาขาการวัดและควบคุมทั้งหมดจะต้องมีปัญหาและกลายเป็นแบบชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้าแห่งที่สองแน่ๆ