ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 201 ไล่ล่าอย่างไม่ลดละ
ไม่ต้องคิด ทั้งสองก็รู้ว่าถูกคิดบัญชีเข้าแล้ว
“ตาม! ตามไอ้พวกสารเลวสองตัวนั้นไป!” หลิงหวงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
ที่เหลือหกคน ทำได้เพียงไม่สนความเหนื่อยล้าและบาดแผล กัดฟันไล่ตามไปข้างหน้า เร่งรุดตามไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วราวกับฝนดาวตกตกข้ามป่าเขา กลายเป็นเงาคนเจ็ดเส้น
แต่ทว่า สองคนข้างหน้าก็ไม่ได้ช้าเลย ตามมาระยะหนึ่ง ก็ไม่สามารถลดระยะห่างระหว่างสองฝ่ายได้
ณ เวลานี้ ในใจคนพวกนี้โกรธแค้นไอ้หัวขโมยสมควรตายนี่มาก วิธีแก้แค้นในความคิดของพวกเขาก็มี
จับพวกเจ้าได้ ข้าจะต้องสับพวกเจ้าเป็นชิ้นๆ ถึงจะสามารถลบล้างความแค้นในใจของข้าได้! หลิงหวงที่ไล่ตามอยู่ด้านหน้าสุดนั้น ก็โกรธแค้นที่สุด
เพราะว่าเปลือกวิญญาณที่เก็บวิญญาณยุทธ์นั้นถูกแย่งชิงไปจากมือเขา เรื่องทำนองนี้หากเผยแพร่ออกไป เขาคงต้องเสียหน้าอย่างมาก และไม่อาจบอกกับครอบครัวได้
ดังนั้น เขาจึงอยากจะตามไอ้สองคนข้างหน้านั่นมาให้ได้เร็วที่สุด อาจเป็นเพราะแรงกระตุ้นเช่นนี้ในใจ ทำให้ความเร็วของเขา ถึงได้เร็วขึ้นมาอีกแต่ทว่า เขากลับไม่รู้ว่า หลังจากที่ พวกเขาออกมานั้น ในพุ่มไม้ที่เปลือกวิญญาณตกลงไปนั้น มีคนสองคนค่อยๆ โผล่ขึ้นมา
สองคนนั้นก็คือคุนอู๋กับเจียงหลี
ถ้าเช่นนั้น…สองคนเมื่อครู่นี้คือ…
เจียงหลีปัดเศษหญ้าในมือ แล้วยกยิ้มเอ่ยว่า “ศิษย์พี่สาม ศาสตร์ลับของฮวงเสินของพวกเรานี่เยี่ยมไปเลย ร่างตัวแทนที่ท่านสร้างขึ้นมานั้นช่างเหมือนจริงอะไรเช่นนี้”
“วิชากลั้นลมปราณของศิษย์น้องเล็กก็ไม่เลวเลย ยังสามารถพรางตัวจากผู้แข็งแกร่งได้เลย” คุนอู๋ก็เยินยอเจียงหลีด้วยเช่นกัน
เจียงหลีมุมปากยกขึ้นโค้งเป็นรอยยิ้ม “ศิษย์พี่สาม ร่างตัวแทนจะอยู่ได้นานเท่าไหร่หรือ”
“ก็ต้องรอดูว่าคนพวกนั้นจะตามได้นานแค่ไหน” คุนอู๋หรี่ตาทั้งสองข้างเล็กน้อย ร่างตัวแทนทั้งสองนั้น เป็นใบไม้แถวนั้นที่เขาเสกขึ้นมา หากถูกเข้าไปตีใกล้ๆ ก็คงจะพบพิรุธไ ได้ง่ายๆ
“พวกเราไปกันเถิด” คุนอู๋เอ่ยกับเจียงหลี
เขาพูดพลางนำเปลือกวิญญาณที่ใส่เทียนหยาเอาไว้มอบให้เจียงหลี หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วนำเปลือกวิญญาณใส่เข้าไปในกระเป๋าวิเศษ
สถานการณ์อันตรายยังไม่ผ่านพ้นไป นางยังคงไม่กล้าเสี่ยงรวมตอนนี้
“ศิษย์พี่สาม พวกเราไปตามหาวิญญาณยุทธ์ที่ท่านต้องการกันเถิด” เจียงหลียิ้มเอ่ย
คุนอู๋พยักหน้า แล้วย้อนกลับไปอีกทางพร้อมกับเจียงหลี
…
อีกด้านหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งแห่งตงฮวงก็ตามร่างตัวแทนของเจียงหลีกับคุนอู๋ทั้งสองคนอย่างไม่ลดละ เพื่อจะตามแย่งเทียนหยากลับคืนมาให้ได้ เขาจึงไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด
ในที่สุด ความพยายามไม่เคยทำให้คนตั้งใจจริงผิดหวัง
หลิงหวงที่วิ่งเร็วที่สุด ในที่สุดก็มองเห็นศัตรูสองคนที่สมควรตายอยู่ตรงหน้าตน
เขาเผยยิ้มร้ายอันเยือกเย็น คว้ามือไปจับทั้งสองคนเอาไว้
ฟู่!
ทันใดนั้น ตอนที่มือของเขาสัมผัสเข้ากับสองคนนั้น คนที่เห็นอยู่ดีๆ เมื่อครู่ กลับหายวับไปในทันที กลายเป็นใบไม้สองใบ แล้วปลิวร่วงลงบนพื้น
ใบไม้สองใบนั้นมีสีเขียวสด ลักษณะสมบูรณ์แบบ
แต่ทว่า นัยน์ตาของหลิงหวงกลับวาวโรจน์ไปด้วยไฟแห่งความโกรธเกรี้ยว ประสาทสัมผัสทั้งห้าบิดคดขึ้นมา เขารู้สึกว่าใบไม้พวกนี้ กำลังหัวเราะเยาะความโง่เขลาของเขาอยู่!
ใช่แล้ว ไม่ผิดหรอก! นี่มันโง่ชัดๆ!
เขาถูกหลอกหรือนี่!
“คนล่ะ”
“คนไปอยู่ที่ไหนแล้ว”
“ตามทันหรือไม่”
“เปลือกวิญญาณล่ะ”
“…”
ด้านหลังเขา มีเงาหกคนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่ามองซ้ายมองขวา กลับไม่พบสองคนที่ตามมาเมื่อครู่นี้
สังหารแล้วหรือ
คงไม่หรอก ถึงจะสังหารแล้ว ก็คงไม่น่าจะเร็วขนาดนี้ อีกทั้งยังไม่เหลือซากให้เห็นเลย
หนีไปแล้วหรือ
ยิ่งเป็นไปไม่ได้ หากหนีไปแล้วจริงๆ ท่านผู้อาวุโสจะมายืนนิ่งๆ อยู่ที่นี่ได้เช่นไร
“ท่านผู้อาวุโส…”
กลุ่มคนจับต้นชนปลายไม่ถูก ในนั้นมีหลิงหวังท่านหนึ่ง ตรวจสอบอย่างระมัดระวัง
อ๊ากกก!
ดังเสียงฟ้าคำราม!
หลิงหวงนั่นระเบิดอารมณ์โกรธขึ้นทันที ทั้งร่างกระจายกระแสความหนาวเย็นออกมา ทำให้รอบด้านที่เป็นน้ำแข็ง แตกออกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นที่โล่งเตียน ในขณะที่เขากำลังโกรธเกรี้ยว ทั้ง งหกคนก็รีบหนีกระเจิดกระเจิงไปทางด้านหลัง เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ
หลังจากเขาสงบสติอารมณ์ลงได้ หลิงหวงอีกคนจึงเข้ามาเอ่ยถาม “น้องสี่ เจ้าเป็นบ้าอะไร เทียน
หยาล่ะ มันเป็นของหมั้นชิ้นหนึ่ง จะหายไปไม่ได้เด็ดขาด”
“พี่สาม” หลิงหวงผู้ถูกเรียกว่าน้องสี่ กัดฟันพูดขึ้นมาหนึ่งคำ
“มีสิ่งใดก็พูดมา” ท่านผู้อาวุโสสามสีหน้าแน่วแน่เอ่ยขึ้น
ผู้อาวุโสสี่เงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำมองยังเขา กัดฟันเอ่ย “พวกเราถูกหลอกแล้ว!”
ผู้อาวุโสสามถลึงตาทั้งสองข้างขึ้นทันที
หลิงหวังทั้งห้าคนก็เดินเข้ามาใกล้ๆ บังเอิญได้ยินประโยคนี้เข้า
“หมายความว่าอย่างไร” ผู้อาวุโสสามเอ่ยถามอย่างเร่งรีบ
ผู้อาวุโสสี่มีสีหน้าไม่สู้ดี “ที่พวกเราไล่ตามมานั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่คน มันคือร่างตัวแทน”
“ศาสตร์ลับ!” ผู้อาวุโสสามหรี่ตา แววตาวาวโรจน์ฉายแววดุดันออกมา
ผู้อาวุโสสี่มองเขา “เป็นสกุลหลิ่วเซียงหรือ”
“ก็ไม่แน่” ผู้อาวุโสสามส่ายศีรษะเบาๆ อย่างไม่ค่อยแน่ใจ
“ผู้ที่รู้จักศาสตร์ลับดี นอกจากคนสกุลหลิ่วเซียง จะยังมีใครได้อีก” ผู้อาวุโสสี่ร้องโห่อย่างตื่นเต้น
ผู้อาวุโสสามพึมพำอย่างเยือกเย็นออกมา “ที่เจ้าว่า มีเพียงตงฮวง”
ผู้อาวุโสสี่ตื่นตระหนก นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
ผู้อาวุโสสามเยาะเย้ย “ที่กล่าวว่า ในซีฮวง ศาสตร์ลับฮวงเสินมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก”
ผู้อาวุโสสี่ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น “ฮวงเสินแห่งซีฮวง? ก็แค่กลุ่มอำนาจระดับสูงที่ตกต่ำจนต้องไปเป็นเพียงกลุ่มอำนาจระดับกลางเท่านั้น พวกเขาต้องกล้ามากเพียงใดจึงจะมาหาเรื่องพวกเ เราได้เล่า อีกอย่าง ที่ระดับอำนาจต้องทดถอยก็คงเพราะพวกศิษย์นั้นไร้ความสามารถ”
“เจ้ามั่นใจว่าเป็นพวกสกุลหลิ่วเซียงหรือ” ผู้อาวุโสสามแววตาเฉียบคมมองเขา
ผู้อาวุโสสี่ยิ้มเยือกเย็น “ศาสตร์ลับของสกุลหลิ่วเซียง ก็ต้องใช้สื่อนำ อีกทั้ง ข้าได้ยินว่า นายน้อยตระกูลพวกเขา น่าจะหลงรักองค์หญิงสกุลกูเย่ว์ท่านนั้น บัดนี้ ข่าวคราวสกุล ลจงซานของข้ากับสกุลกูเย่ว์จะแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กันได้แพร่สะพัดไปทั่วตงฮวงแล้ว เจ้าเทียนหยานี่ก็เป็นของหมั้นชิ้นหนึ่งที่องค์หญิงน้อยสกุลกูเย่ว์กำหนดไว้ สกุลหลิ่วเซีย ยงจะไม่รังควานได้หรือ”
ผู้อาวุโสสามได้ฟังเขาเล่าแล้วนิ่งเงียบไม่เอ่ย แววตาขบคิด
“น่าแค้นใจนัก สกุลจงซานของข้าต้องสูญเสียทรัพยากรมากถึงเพียงนี้กว่าจะจับเทียนหยาได้ แต่กลับถูกสกุลหลิ่วเซียงเอารัดเอาเปรียบ ขโมยไปต่อหน้าต่อตา” ผู้อาวุโสสี่เอ่ยอย่างเคียดแค้น นราวกับว่าเขามั่นใจว่าผู้ที่ชิงตัวเทียนหยาไปก็คือสกุลหลิ่วเซียงแห่งตงฮวง
“แต่ทว่า…พวกเรากับสกุลหลิ่วเซียงก็ลงรอยกันและไม่เคยทะเลาะวิวาทกันมาก่อน เพียงเพื่อl9iuคนเดียว ก็กล้าทำสงครามเช่นนี้ ช่างไม่คุ้มค่าเลย” ผู้อาวุโสสามยังคงรู้สึกลังเล
ผู้อาวุโสสี่กลับเอ่ยอย่างมั่นใจ “ท่านพี่สาม ท่านอย่าลืมสิ นายน้อยสกุลหลิ่วเซียงท่านนั้นเดิมทีก็เป็นแค่คนบ้า ทำเรื่องอะไรไม่คิดถึงผลที่จะตามมา ทำตามความชอบใจตัวเอง ตอนที่ พวกเรามา เขาก็เคยกล่าวไว้ว่า หากสกุลจงซานกล้าไปสู่ขอองค์หญิงสกุลกูเย่ว์ เขาก็จะไปชิงตัว”
หลิงหวงทั้งห้า ฟังผู้อาวุโสสองท่านสนทนากัน ในใจก็รู้สึกกระวนกระวายชั่วขณะ
ในเรื่องนี้ คาดไม่ถึงว่าจะพัวพันกันถึงสามสกุลใหญ่!
“ท่านผู้อาวุโสทั้งสอง ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไรดี” หลิงหวังคนหนึ่งถามขึ้นอย่างใจกล้า
“คนก็หนีไปตั้งนานแล้ว! พวกเขาจะโง่จนถึงขนาดซ่อนอยู่หรือ” ผู้อาวุโสสี่เอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว
ผู้อาวุโสสามกลับเอ่ยพร้อมแววตาดุดัน “ไม่ว่าอย่างไร ค้นหาให้ละเอียดก่อน พบคนที่น่าสงสัย ต่อให้สังหารผิดก็จะไม่ยอมปล่อยไป”
“ไม่เลว! พวกเขาเพิ่งจะชิงเทียนหยาไปได้ น่าจะยังอยู่ในอาณาเขตหลิงอู่” ผู้อาวุโสสี่ก็เอ่ยขึ้นอย่างเห็นด้วย