ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 203 ใครหยิ่งผยองกว่ากัน!
พลังวิญญาณที่แฝงคุณสมบัติ!
เจียงหลีอุทานด้วยความตื่นตะลึงในใจ
สายเลือดที่ติดตัวมานั้นมีคุณสมบัติแตกต่างจากคุณสมบัติที่ได้รับปรุงแต่งของวิชาเฉพาะจากตำหนักหลีหั่วและมีพลังมากกว่ามาก
แน่นอนว่าสายเลือดยังมีข้อได้เปรียบอีกมากมาย แต่ตอนนี้เจียงหลียังไม่เข้าใจ
นาง ณ เวลานี้ กำลังตกตะลึงกับโลกนับพันอันน่ามหัศจรรย์ และเมื่อใดก็ตามที่นางคิดว่าการตระหนักรู้มีพอประมาณแล้ว ในความเป็นจริงกลับเผยผ้าคลุมหน้าอีกชั้นออกมาให้เห็น
ทันใดนั้น นางรู้สึกประหลาดไม่น้อยเกี่ยวกับเทพที่สร้างโลกแห่งนี้!
ดังที่เว่ยจี๋กล่าวไว้ เทพผู้สร้างในดินแดนจิ่วฮวง เขาต้องเป็นคนแบบไหนกันถึงจะสร้างโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลได้ถึงเพียงนี้
อีกอย่าง หากดินแดนจิ่วฮวงถูกสร้างขึ้นจริง นอกโลกจะมีโลกอีกหรือไม่
ในชั่วพริบตา ก็ได้ทำให้เจียงหลีตกตะลึงอย่างมาก
ณ เวลานี้ พื้นที่ว่างเปล่านี้ถูกหลิงหวังสกุลจงซานแช่แข็งไว้และได้ยินเสียง แคว่ก ในทุกที่
“ฮึ! ข้าแนะนำให้พวกเจ้าทั้งสองถูกจับโดยละม่อม จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว” หลิงหวังคนหนึ่งเอ่ย
คุนอู๋พูดด้วยน้ำเสียงดูแคลน “สกุลจงซานจากตงฮวงจะดูหยิ่งผยองเกินไปแล้ว”
หยิ่งผยองหรือ
หลิงหวังสกุลจงซานยิ้มกว้าง “หากพวกเจ้ามีฝีมือพอ ก็หยิ่งผยองได้เช่นกัน”
เจียงหลีเลิกคิ้ว
ประโยคนี้ ฟังรื่นหูนัก
“พูดได้ดี!” คุนอู๋โค้งริมฝีปากยิ้ม ทำให้ใบหน้าของเขายิ่งงดงามและโดดเด่น “ถ้าเช่นนั้นก็ลองดู ใครจะหยิ่งผยองกว่ากัน”
“หยิ่งผยอง!”
“หยิ่งผยอง!”
หลิงหวังสกุลจงซานทั้งสองคนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
“ฮ่าๆ!” ได้ยินเพียงเท่านี้ เจียงหลีถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
แต่เวลานี้ หนึ่งในหลิงหวังสกุลจงซานได้กระโจนเข้าใส่นาง
ดวงตาของเจียงหลีตึงเครียด หุบยิ้ม และปรากฏแสงประกายอันทรงพลังในดวงตา มาดูกันว่าตกลงใครหยิ่งผยองกว่ากัน
ศิษย์น้องเล็ก พลังของจู๋อินไม่มีผลกับพลังจิต เมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้น คุนอู๋รีบส่งเสียงไปยังเจียงหลีอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของเจียงหลีกะพริบเบาๆ และตระหนักรู้ในทันใด
นางโค้งมุมปาก ทำให้รอยยิ้มอันน่าหลงใหลปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ทรงเสน่ห์ของนาง
รอยยิ้มนี้ทำให้หลิงหวังสกุลจงซานที่จะมาจับนางดูตกตะลึงและดึงพลังกลับไปไม่น้อย
ร่างของเจียงหลีกะพริบและหายไปต่อหน้าต่อตาหลิงหวังสกุลจงซาน
หลิงหวังสกุลจงซานประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งและหันกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่กลับมองเห็นเพียงรอยฝ่ามือที่ตกลงมาทางเขา หลิงหวังสกุลจงซานพุ่งความสนใจไปที่รอยฝ่ามือนั่นและยิ้มเยาะ อย่างเหยียดหยาม แล้วยกมือปัดรอยฝ่ามือนั่นทิ้ง
เมื่อรอยฝ่ามือถูกเขาปัดจนกระจาย เสียงที่กระแทกหูดูเหมือนทิ่มแทงหัวใจของเขาในทันที ทำให้หัวใจของเขาราวกับถูกฟ้าผ่าก็ไม่ปาน
ความเจ็บปวดเช่นนี้…ยากจะอธิบายให้คนอื่นฟัง!
เขาเดินเซไปก้าวหนึ่ง ลมปราณของเขาไม่คงที่
เมื่อเงยหน้าขึ้น เขากลับมองเห็นสหายของเขาถูกชายหนุ่มรูปงามดั่งเซียนตบจนบินเหินออกไป ขณะเดียวกัน ผู้ที่อยู่ในอาณาเขตหลิงหวัง ความแข็งแกร่งของคุนอู๋ทำให้ดวงตาของเขาหดต ตัวอย่างรวดเร็ว
อ๊าก!
เขาตะโกนร้องด้วยเสียงทุ้มต่ำและปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ของตนเองทันที
เมื่อวิญญาณยุทธ์ทั้งห้าปรากฏตัวขึ้น ท่ามกลางแสงสีทอง ล้วนเต็มไปด้วยลมปราณที่เย็นเยือก น่าจะเป็นเพราะหลังจากวิญญาณยุทธ์ประสานกับเนตรญาณแล้ว ได้รับผลกระทบจากสายเลือดของพวกเขาจ จนปรากฏลักษณะผิดเพี้ยนไป
อ๊ากกก! ด้านหลังปรากฏเสียงของสหายดังขึ้น
แววตาของหลิงหวังผู้นี้ดุร้ายขึ้นมาก และมองหาร่างของเจียงหลีในทุกที่
“เจ้ากำลังมองหาข้าอยู่หรือ” จู่ๆ ปรากฏร่างหนึ่งเดินมาจากด้านข้าง
หลิงหวังหันกลับไปมองโดยไม่รู้ตัว แต่กลับตกเข้าไปในดวงตาที่สดใสคู่นั้นอย่างรวดเร็ว
เขามองเห็นดาบโปร่งแสงขนาดเล็กปรากฏอยู่ในดวงตาคู่นั้น ตัวดาบส่องแสงเจิดจ้า ทิ่มแทงดวงตาอย่างเจ็บปวด
“เนี่ยนซือ!” ทันใดนั้น เขาก็นึกขึ้นได้
จากนั้น เขาเห็นเพียงใบหน้าที่ทรงเสน่ห์อันน่าหลงใหลยิ้มเยาะใส่เขาอย่างเย้ยหยัน
หึ่ง!
พลังควบคุมอันน่ากลัวโจมตีเข้าใส่
แสงของดาบนับไม่ถ้วน ระเบิดในพื้นที่โล่งแห่งนี้
แคว่กๆ…!
เพราะแสงดาบนั้น ทำให้พื้นที่ที่ถูกแช่แข็งเริ่มพังทลาย แต่ลมปราณที่เย็นเยือกราวกับหลอมหลวมจนเข้ากระดูกดำและคงอยู่ต่อไป
พลังจู๋อินอันทรงพลังระเบิดออกจากร่างของหลิงหวัง
ร่างของเขาสูงใหญ่ขึ้น ลมปราณรอบตัวก็ยิ่งเย็นเยือก
“ทะลวง!”
ริมฝีปากสีแดงของเจียงหลีเปิดออกเบาๆ และระหว่างที่อ้าปาก พลังอันน่าสะพรึงกลัวของพลังควบคุมจิตบดขยี้พลังของจู๋อิน
การปะทะระหว่างการควบคุมและสายเลือด เมื่อพลังทั้งสองปะทะกัน บนท้องฟ้าได้รวมตัวกลายเป็นหลุมดำอันน่าสะพรึงกลัว และในหลุมดำนั้น ม้วนลมพายุที่บ้าคลั่งและทำลายทุกสิ่งถูกดูดเข้าม มาราวกับจะดูดกลืนทั้งสี่ทิศไปจนหมด
พลังแห่งการควบคุมของเจียงหลีไม่ได้จางหายไป แสงดาบจำนวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันเป็นดาบพลังควบคุมจิตขนาดใหญ่ยักษ์และส่องแสงสว่างไสว ตัวดาบปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวและพุ่งตรงเข้าใส ส่หลิงหวังผู้นั้น
น่ากลัวยิ่งนัก!
หลิงหวังสกุลจงซานไม่เข้าใจว่าเหตุใดอยู่แค่ในระดับหลิงจง ถึงมีพลังต่อสู้น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้
เป็นแค่หลิงจงแต่กลับเข้าใจถึงพลังควบคุมจิตถ่องแท้เช่นนี้เชียวหรือ
นี่คือสิ่งที่น่าหวาดกลัวของเนี่ยนซือ!
บนท้องฟ้า ดาบคมกริบได้ตกลงมา บางทีแสงนั้นอาจเจิดจ้าเกินไป โดดเด่นเกินไป จนหลิงหวังสกุลจงซานลืมที่จะหลบหลีก และยืนเหม่อลอยอยู่กับที่ รอดาบของการควบคุมจิตฟันมาที่ตน
ตูมมม!
ดูเหมือนว่าพลังอันแข็งแกร่งจะหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของหลิงหวัง ฉีกร่างของเขาออกเป็นชิ้นๆ
“ไม่…”
เขาตะโกนด้วยความหวาดกลัว แต่กลับไม่สามารถหยุดการโจมตีของพลังควบคุมจิตได้ ในชั่วพริบตา แสงดาบอันเจิดจ้าก็เข้าสู่ร่างกายของเขาแล้ว
นอกร่างกายของเขา มีรอยแผลที่น่ากลัวและรุนแรงนับไม่ถ้วน
“เจ้าคือใคร ตกลงเจ้าคือใครกันแน่!” ดวงตาของเขาสะท้อนความเกลียดชังอย่างแรงกล้าออกมา แทนที่ความประหลาดใจก่อนหน้านี้ ในอาณาเขตหลิงอู่ เขาไม่ตายจริงๆ หรอก แต่แผลสาหัสเช่นนี้ ท ทำให้ร่างจริงของเขาได้รับผลกระทบ และเกรงว่าจะกระทบต่อการฝึกฝนในวันข้างหน้า
“ข้าคือใครน่ะหรือ” ร่างของเจียงหลีกะพริบและปรากฏตัวต่อหน้าหลิงหวัง แล้วยกมือบีบคอของคู่ต่อสู้
“ข้าคือ…” เจียงหลียิ้มเล็กน้อย ดวงตานิ่งสงบ แต่ท่าทางและใบหน้าทรงเสน่ห์เช่นนี้ กลับทำให้หลิงหวังหวาดกลัว “หยิ่งผยอง”
ข้าคือคนที่หยิ่งผยอง!
ดวงตาของหลิงหวังหดตัวอย่างรวดเร็ว ดวงตาปรากฏความหวาดกลัวขึ้น
เห็นได้ชัดว่าการฝึกฝนของเขาอยู่เหนือกว่านาง แต่เขากลับไม่มีโอกาสที่แสดงความสามารถที่แท้จริง ออกมา ก็ถูกนางโจมตีอย่างรวดเร็วและแม่นยำอยู่ฝ่ายเดียว
หัวใจของเขาผุดความไม่ยอมแพ้ขึ้น แต่ตอนนี้กลับไร้ประโยชน์และเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“ลาก่อน” เจียงหลียิ้มมีเสน่ห์เป็นที่สุด แต่นิ้วทั้งห้าของนางค่อยๆ บีบแน่นขึ้น
เคล้ง!
เสียงที่คมชัดดังขึ้น
แววตาของหลิงหวังสกุลจงซานค่อยๆ จางหายไป และเป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสได้ถึงรสชาติแห่งความตายในอาณาเขตหลิงอู่ได้อย่างแท้จริง
ฮึ่ม!
ร่างของหลิงหวังสกุลจงซานแตกสลายและหายไปจากมือของเจียงหลี
เพราะความตาย เขาถึงต้องถอนตัวออกจากอาณาเขตหลิงอู่
ฮึ่ม!
เสียงเช่นเดียวกันดังขึ้น เจียงหลีหันไปมองและเห็นศิษย์พี่สามเหยียบวิญญาณสวรรค์ของหลิงหวังอีกคนอย่างโหดร้าย และไม่ลืมที่จะเอ่ยขึ้น “กล้ามาทำตัวหยิ่งผยองต่อหน้าข้าหรือ”