ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 403 ไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย / ตอนที่ 404 เอาเงินแต่ไม่เอาชีวิต
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 403 ไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย / ตอนที่ 404 เอาเงินแต่ไม่เอาชีวิต
ตอนที่ 403 ไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นว่าซิงเฉินไม่ได้พูดต่อไป ฉินฮวนถึงเบาใจลงได้
คนอื่นไม่เข้าใจเผยอวี้เฉิง แต่เขาเข้าใจมากเหลือเกิน
ผู้ชายคนนี้ไม่มีความรู้สึกสักกระผีกเดียว เหมือนเครื่องจักรที่ทำตามขั้นตอนซึ่งกำหนดค่าเอาไว้อยู่แล้ว ทั้งเย็นชาทั้งโหดเหี้ยม
ถ้าหากซิงเฉินยังไม่รู้จักแยกแยะเช่นนี้ต่อไป…เขาอาจจะตายก็ได้…
อาจถูกเผยอวี้เฉิงทำลายให้แหลกสลายด้วยตัวเอง!
ถึงแม้ ถึงแม้ซิงเฉินจะติดตามเขามาตั้งแต่เด็ก แต่เผยอวี้เฉิงไม่มีวันใจอ่อนเด็ดขาด ก็เหมือนกับหลิงเย่ว์ที่ซิงเฉินพูดถึง
ผู้ชายคนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน น่ากลัวจนถึงขั้นที่แม้จะนั่งอยู่ไกลๆ ท่าทางไม่มีพิษมีภัย แต่กลับทำให้คนรู้สึกเย็นวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยการมองเพียบแวบเดียว
อย่าคิดหงายการ์ดความรู้สึกกับเผยอวี้เฉิง เพราะเขาไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย…
หลินเยียนขมวดคิ้ว ยื่นหน้าเข้าไปสำรวจภายในห้องรับแขก
เกิดอะไรกับซิงเฉินคนนั้นกันแน่?
ภายในห้องรับแขก เผยอวี้เฉิงอ่านเอกสารหน้าสุดท้ายจบแล้ว สายตาเคลื่อนไปอยู่ที่ร่างซิงเฉินอย่างแช่มช้า
ทั้งที่ใบหน้าอันอ่อนโยนของเผยอวี้เฉิงใบหน้านั้นยังคงปราศจากความเปลี่ยนแปลงใดๆ ดังเดิม แต่บรรยากาศที่อยู่โดยรอบกลับทำให้คนสั่นสะท้านภายในชั่วพริบตา แรงกดดันมหาศาลทำให้เหงื่อเย็นที่อยู่บนหน้าผากซิงเฉินไหลพร่างพรูลงมา
“เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ” เผยอวี้เฉิงเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา
เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ของเผยอวี้เฉิง ซิงเฉินกับฉินฮวนก็ตัวสั่นทันที
ฉินฮวนในตอนนี้กล้าอ้าปากที่ไหนกัน ถ้าเขากล้าพูดอีกแม้แต่คำเดียว ไม่เพียงซิงเฉินจะต้องมีเคราะห์แม้แต่เขาเองก็ต้องประสบเภทภัยแน่นอน!
“พี่อวี้ ผะ…ผมไม่ได้พูดอะไรครับ” ซิงเฉินกัดฟันกรอด
เผยอวี้เฉิงกล่าวเรียบๆ “ถ้าฉันจำไม่ผิด ยังเหลืออีกสองปีใช่ไหม”
หลังจากเผยอวี้เฉิงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเอง ดวงตาซิงเฉินก็กระจ่างวูบ เหมือนจะมีความหวังแล้ว ดังนั้นจึงพยักหน้าทันที “พี่อวี้ ใช่ครับ หลิงเย่ว์ เธอใกล้จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ยังเหลืออีกสองปี นานเกินไปแล้วนะครับ!”
เผยอวี้เฉิงทำท่าราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “อย่างงั้นเหรอ”
ทันใดนั้นนิ้วมือเรียวยาวของเผยอวี้เฉิงก็เคาะโต๊ะหนังสือเบาๆ อย่างแช่มช้าคล้ายเป็นจังหวะ “งั้นก็เพิ่มอีกเป็นสิบปีก็แล้วกัน”
“อะไรนะครับ?!”
ขณะนี้ซิงเฉินยืนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย ดวงตาผุดประกายเหลือเชื่อออกมา
แค่สองปีหลิงเย่ว์ก็ทนไม่ไหวแล้ว
สิบปี!
ทำไมถึงเป็นแบบนี้! เขาทำผิดอะไรกันแน่!
เป็นเขา เป็นเขาที่ทำร้ายหลิงเย่ว์…
เขานึกว่าเผยอวี้เฉิงจะเปลี่ยนแปลง จะมีความรู้สึกของมนุษย์ที่ไม่เคยมีมาก่อนเพิ่มมากขึ้น เพราะการมาของผู้หญิงคนนั้น แต่ตอนนี้ซิงเฉินเพิ่งจะพบว่า เขาผิดไปแล้ว ผิดอย่างรุนแรง…
“นายอยากไปอยู่กับเธอรึเปล่า”
จู่ๆ เผยอวี้เฉิงก็เปลี่ยนหัวข้อ
“พี่อวี้…ผม…” ดวงตาซิงเฉินฉายแววประหวั่นลนลาน
ต่อให้ต้องตายเขาก็ไม่มีวันไปที่นั่นเด็ดขาด นั่นเป็นห้องแล็บที่มีแต่ความสิ้นหวังเท่านั้น!
“นายยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ” เผยอวี้เฉิงมองซิงเฉินด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก
“ผม…ไม่ไปครับ…” ลมหายใจซิงเฉินกระชั้นถี่เล็กน้อย
“ออกไปได้” เผยอวี้เฉิงเอ่ย
ฉินฮวนรีบประคองซิงเฉินหนีลนลานออกไปทันที
…
ในห้องครัว เมื่อหลินเยียนมองเห็นฉินฮวนประคองซิงเฉินที่เดินกระโผลกกระเผลกเดินผ่านมาทางนี้ก็รีบยื่นหน้าออกไปร้องเรียกทันที
“นี่!”
“เหวอ!”
จู่ๆ ก็มีหัวโผล่ออกมา ทำให้ฉินฮวนตกใจจนใจหายวาบ
“คุณหลิน?” เมื่อเห็นชัดว่าเป็นหลินเยียน ซิงเฉินก็อึ้งเล็กน้อย
“มานี่ๆ …” หลินเยียนรีบเรียกให้ทั้งสองคนเข้าไปหา
“จะทำอะไรน่ะครับ?” ฉินฮวนสงสัยเล็กน้อย
หลินเยียนไม่อธิบายเช่นกัน ลากสองคนเข้าไปในห้องรับแขกทันที
ตอนที่ 404 เอาเงินแต่ไม่เอาชีวิต
“เมื่อกี้มันเกิดอะไรกันน่ะ”
หลินเยียนปิดประตูห้องครัว จ้องมองซิงเฉินกับฉินฮวนสองคนพร้อมไต่ถาม
เมื่อครู่เธออยู่ไกลเกินไป ได้ยินไม่ชัดเจน จู่ๆ เผยอวี้เฉิงก็ระเบิดอารมณ์ ส่วนสองคนก็หนีหัวซุกหัวซุนออกมาทันที ทิ้งให้เธอเผชิญหน้ากับเผยอวี้เฉิงที่อยู่ในโหมดระเบิดโทสะอยู่ตามลำพัง ทำให้เธอรู้สึกกลัวและลนลานมากเหลือเกิน ดังนั้นจึงต้อมถามให้ชัดเจนกันสักหน่อย!
“เอ่อ ไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น คุณหลิน คุณอยากรู้อยากเห็นมากเกินไปแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย” ฉินฮวนตอบ
อย่างไรก็ตามแววตาของซิงเฉินซึ่งกำลังมองหลินเยียนที่อยู่ด้านข้างนั้นกลับกระจ่างวูบเล็กน้อย
“คุณหลินเยียน ใช่…คุณหลินจะต้องช่วยผมนะครับ!” ซิงเฉินจ้องมองหลินเยียนด้วยอารมณ์อันพลุ่งพล่านเล็กน้อย
“ฉัน?” หลินเยียนชี้ตัวเองโดยอัตโนมัติ ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ซิงเฉิน!” ฉินฮวนขมวดคิ้วมุ่นทันที “นายบ้าไปแล้วเหรอ นายคิดทำร้ายเธอรึไง?!”
“เปล่า ไม่แน่ว่า…พี่อวี้ อาจฟังเธอก็ได้…”
หลินเยียนในตอนนี้ถือเป็นฟางช่วยชีวิตของซิงเฉิน
“ซิงเฉิน อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ นายรู้อยู่แก่ใจดี พี่อวี้เป็นใคร คุณหลินไม่รู้ แต่นายกับฉันสองคนรู้แจ่มแจ้งเป็นอย่างดี ถ้าเมื่อครู่นายพูดต่อไป ฉันอาจต้องเก็บศพให้นายแล้วก็ได้นะ นายเข้าใจรึเปล่า” ฉินฮวนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
เมื่อได้ยิน ซิงเฉินก็มองแขนโลหะของตัวเองโดยอัตโนมัติ เขารู้สิ…เขารู้ว่าที่แท้เผยอวี้เฉิงไปคนอย่างไรกันแน่ แต่…นี่คือโอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว เขาจะให้เสี่ยวเย่ว์…อยู่ที่นั่นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว!
“ที่แท้มันเรื่องอะไรกัน” เมื่อเห็นซิงเฉินกับฉินฮวนเป็นแบบนี้ หลินเยียนก็ยิ่งตึงเครียด
นี่มันเรื่องสำคัญถึงชีวิตอะไรกันแน่นะ?
“คุณหลิน…เพื่อนในทีมของเราคนหนึ่งชื่อหลิงเย่ว์ เธอติดตามพี่อวี้มาตั้งแต่เด็ก แต่ หลายปีก่อนเพราะทำเรื่องผิดพลาดเล็กน้อยบางอย่าง เลยถูกพี่อวี้ลงโทษ” ซิงเฉินจ้องมองหลินเยียน ตอบตามความเป็นจริง
“แบบนี้นี่เอง ในเมื่อเป็นความผิดเล็กน้อย ฉันรู้สึกว่าคุณเผยไม่ใช่คนใจแคบเหมือนกัน ลงโทษพอสมควรก็พอแล้ว คงไม่ถึงขั้นหนักหนารุนแรงเกินไปใช่หรือเปล่า” หลินเยียนเอ่ย
“ไม่ถึงขั้นเหรอครับ” ฉินฮวนมุมปากกระตุกเล็กน้อย “เมื่อกี้เจ้าโง่นี่ขอร้องพี่อวี้ เดิมที อีกสองปีเสี่ยวเย่ว์ก็ออกมาได้แล้ว ผลกลายเป็นว่าการขอร้องครั้งนี้นอกจากทำให้ตัวเองบาดเจ็บ แถมเวลาที่เสี่ยวเย่ว์จะได้กลับมาก็เพิ่มเป็นสิบปีด้วยซ้ำไป!”
“หา?”
พอได้ยินคำพูดนี้ หลินเยียนก็มีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย
ไม่ถึงขั้นนี้หรอกน่า?
เผยอวี้เฉิงเป็นคนแล้งน้ำใจขนาดนี้เชียว?
“คุณหลินเยียน ขอร้องคุณล่ะครับ คุณช่วยขอร้องพี่อวี้แทนผมได้หรือเปล่า แค่…แค่เหลือสองปีเท่าเดิมก็ได้แล้วล่ะครับ!” ซิงเฉินพูดด้วยอารมณ์อันพลุ่งพล่าน
เมื่อมองซิงเฉินที่มีบาดแผลเต็มตัวตรงหน้า หลินเยียนเผยสีหน้าลำบากใจ
ซิงเฉินเป็นถึงคนสนิทของเผยอวี้เฉิง เมื่อครู่เขาไปขอร้อง กลับถูกทำจนมีสารรูปเป็นแบบนี้ แถมยังเพิ่มโทษเสี่ยวเย่ว์คนนั้นให้หนักขึ้นไปอีก
ถึงเธอจะอยากช่วยมากเหมือนกันก็ตาม แต่เธอช่วยไม่ได้จริงๆ นี่นา…
“นี่…ถึงฉันอยากช่วยนายมากเหมือนกัน แต่ว่าแม้แต่คนสนิทอย่างนายไปขอร้องก็ยังไร้ประโยชน์ ฉันรู้จักคุณเผยได้แค่ไม่กี่วันเองนะ!” หลินเยียนตอบ
ซิงเฉินรีบพูดต่อไปว่า “คุณหลินเยียน ขอเพียงคุณรับปากช่วยผม คุณจะให้ผมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นครับ!”
หลินเยียนถอนหายใจ “ไม่ใช่ฉันไม่ช่วยนาย แต่ฉันช่วยไม่ได้จริงๆ ฉัน…”
ซิงเฉิน “หรือคุณจะบอกราคามาเลยก็ได้ครับ!”
หลินเยียนพูดด้วยสีหน้าจนใจ “นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงิน! นายจะให้เท่าไหร่?”
ซิงเฉิน “…”
ฉินฮวน “…”
พอรู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป หลินเยียนก็อยากตบปากตัวเองเสียเหลือเกิน นี่เธอบ้าไปแล้วหรือไง เอาเงินแต่ไม่เอาชีวิตเหรอ!