ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 551 ความยากระดับนรก / ตอนที่ 552 แสดงอย่างอิสระ
ตอนที่ 551 ความยากระดับนรก
และเนื่องจากเยวามีตัวตนอยู่จริง อีกทั้งบุคลิกส่วนตัวนั้นก็ฝังรากลึกอยู่ภายในจิตใจคนมากเกิน ทำให้ตัวละครตัวนี้มีความยากระดับนรกเลยทีเดียว
ดังนั้นหลินเยียนจึงไม่คิดที่จะใช้ทักษะการแสดงไปสยบใคร แต่แสดงตามธาตุแท้ของตัวเองก็พอ
เมื่อผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เผยอวี่ถังขับรถมาถึงทางด้านซ้ายของตึกใหญ่แห่งหนึ่งและจอดอยู่ริมฟุตบาท
“พี่สะใภ้ ถึงแล้วครับ”
หลินเยียนเปิดประตูแล้วลงจากรถ มองเผยอวี่ถังที่อยู่บนที่นั่งคนขับพร้อมหัวเราะเบาๆ “ลำบากแล้วนะ เดี๋ยวพอฉันกลับไปตอนเย็นแล้วจะพาเธอไปเล่นเกมแข่งชิงอันดับนะ…”
เมื่อหลินเยียนพูดจบ เผยอวี่ถังหน้าซีดเผือดทันที ไม่สนใจที่จะตอบหลินเยียนแม้แต่ครึ่งประโยค เขาเหยียบคันเร่งจนมิดจนรถยนต์ระเบิดเสียงดังกระหึ่มอันน่าลุ่มหลง
อย่างมากก็แค่ไม่กี่วินาที รถยนต์ที่เผยอวี่ถังขับมาก็หายลับไปจากสายตาหลินเยียน
เมื่อเห็นแบบนั้น รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าหลินเยียนก็แข็งค้าง…
เธอเป็นผู้เล่นระดับเทพแท้ๆ แต่กลับ…ถูกพวกกระจอกอย่างเผยอวี่ถังรังเกียจซะได้!
…
ไม่นานนักหลินเยียนก็เดินเข้าไปในอาคาร
อาคารหลังนี้มีทั้งหมดแปดสิบชั้น ทีมกองถ่ายเลเจนด์มีเงินทุนหนา ตอนนี้เช่าชั้นที่หกสิบไว้เป็นสำนักงาน
ภายในลิฟท์มีคนอัดแน่น หลินเยียนกวาดตามองสำรวจอย่างลวกๆ ครั้งหนึ่ง ในนั้นกลับมีใบหน้าที่ไม่ถือว่าแปลกหน้านักอยู่หลายคน
หลายคนเป็นหญิงสาวที่แต่งหน้าแต่งตามาอย่างพิถีพิถัน หลินเยียนจำได้ว่าน่าจะเป็นดาราสาวระดับรองๆ รวมถึงแขกรับเชิญประจำของรายการวาไรตี้โชว์ชื่อดังอีกหลายคน
เมื่อหลินเยียนปรากฏตัวสู่สายตาของทุกคน ผู้หญิงคนหนึ่งในนั้นก็จ้องมองหลินเยียนด้วยสายตาเป็นประกายเล็กน้อย
“คุณคือ…หลินเยียน?”
หญิงสาวเดินก้าวมาข้างหน้าสองก้าว จ้องมองหลินเยียนด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย “หลินเยียนจริงๆ ด้วย!”
“อา…ฉันเองค่ะ”
พริบตานั้นหลินเยียนยังคงรู้สึกอึ้งอยู่บ้าง
หญิงสาวที่กำลังพูดอยู่นี้ หลินเยียนเคยเห็นในรายการวาไรตี้โชว์อยู่หลายครั้ง ถ้าหลินเยียนจำไม่ผิดเธอน่าจะชื่อว่าหวังเวยน่า
“ดีจังเลย เป็นคุณจริงๆ ด้วย ฉันชอบหลินเผี่ยนรั่วที่คุณแสดงมากเหลือเกิน คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอคุณตัวจริงที่นี่นะ!” หญิงสาวกล่าวระคนยิ้มให้หลินเยียน
“ขอบคุณๆ ค่ะ!” หลินเยียนยิ้มตามมารยาทให้หญิงสาว
“พี่หลินเยียน ช่วงนี้กำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ คู่ปรับมหากาฬมีแผนที่จะถ่ายทำภาคสองบ้างหรือเปล่า…เฮ้อ ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยอ่านต้นฉบับ แต่เพราะหลินเผี่ยนรั่วที่พี่แสดง ฉันเลยตั้งใจอ่านต้นฉบับจนจบโดยเฉพาะเลยนะคะ!” หวังเวยน่าจ้องมองหลินเยียน
ตอนนี้หลินเยียนกลับรู้สึกทนรับไม่ไหวอยู่บ้างแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสได้ถึงไมตรีจิตจากแฟนคลับเพราะการแสดงของตัวเอง
อย่างไรก็ตามหลินเยียนยังไม่ทันได้เอ่ยปาก หวังเวยน่าก็พูดต่อไปว่า “อ้อ จริงสิคะ พี่หลินเยียน ฉันชื่อ หวังเวยน่า เป็นแฟนคลับของพี่นะคะ”
“ฉันรู้จักคุณ ฉันชอบรายการวาไรตี้โชว์ของคุณมากเลยนะคะ” หลินเยียนกล่าวระคนยิ้ม
เมื่อได้ยิน หวังเวยน่าจึงหัวเราะพร้อมเอ่ยว่า “จริงเหรอคะ งั้นก็ดีเหลือเกิน พี่หลินเยียน มา…แอดวีแชทกัน!”
เมื่อเผชิญหน้ากับความกระตือรือร้นของหญิงสาว หลินเยียนกลับไม่กล้าปฏิเสธ
“พี่หลินเยียน พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?” หวังเวยน่าจ้องหลินเยียนพร้อมเอ่ยถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
“ฉันมาออดิชัน” หลินเยียนไม่ได้ปิดบังเช่นกัน
“กองถ่ายเลเจนด์?” ใบหน้าหวังเวยน่าเต็มไปด้วยความสงสัย
“อืม” หลินเยียนผงกศีรษะเล็กน้อย
“พวกเรามาออดิชันกับกองถ่ายเลเจนด์กันทั้งนั้น พี่หลินเยียนจะมาออดิชันบทไหนเหรอคะ?”
“เยวา” หลินเยียนยิ้มแย้มพร้อมตอบกลับไป
ขณะนี้เองเมื่อหลินเยียนพูดจบ ทุกคนที่อยู่ในลิฟท์ส่วนใหญ่ต่างมีสีหน้าแปลกประหลาดเล็กน้อย กระทั่งว่ายังมีบางคนที่มองหลินเยียนแปลกๆ อีกด้วย
หวังเวยน่ามีสีหน้าประหลาดใจ “พี่หลินเยียน…พี่หมายถึงเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาอย่างนั้นเหรอคะ?”
“ใช่แล้วล่ะ” หลินเยียนผงกศีรษะ
ตอนที่ 552 แสดงอย่างอิสระ
หญิงสาวหลายคนที่อยู่ในลิฟต์กลับส่งเสียงหัวเราะออกมาทันที
“บทของเยวาไม่ใช่ว่าอยากจะออดิชันก็ออดิชันกันได้ง่ายๆ ตามใจชอบนะ ถ้าอยากได้บทนี้ ฝีมือการแสดงต้องยอดเยี่ยมโดดเด่น แถมยังต้องมีความรู้ด้านการแข่งรถและความสามารถในการปฏิบัติจริงอย่างมหาศาลอีกด้วย”
“ก็นั่นน่ะสิ ถึงแม้บทของเยวาจะออกมาน้อย แต่กลับเป็นจิตวิญญาณของหนังเรื่องเลเจนด์ ถ้าเยวาไม่ใช่ชาวจีน คงไม่มาเลือกนักแสดงที่ประเทศจีนหรอก”
“เธอชื่อหลินเยียนใช่หรือเปล่า ฉันคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปทำเรื่องแบบนี้เลยสักนิด บทของเยวา หลินซูหย่าคงได้ไปแล้ว…”
ผู้หญิงเหล่านี้ส่วนใหญ่มาออดิชันที่กองถ่ายเลเจนด์เช่นเดียวกัน ถึงกระนั้นกลับมีส่วนน้อยยิ่งกว่าน้อยที่ไปออดิชันบทของเยวา
ไม่ใช่เพราะสาเหตุอื่นใด ประการแรกคือรู้จักประมาณตัวเองดี โดยเฉพาะหลังจากที่หลินซูหย่าประกาศว่าต้องเอาบทนี้มาให้ได้ก็ยิ่งทำให้ล้มเลิกความคิดไป
“ยังจะพูดอีกเหรอ ช่วงหลายวันนี้มีพวกไม่รู้จักประมาณตัวเองไปออดิชันตัวละครเยวานี้ไม่น้อยเลยจริงๆ กระทั่งว่ายังมีบางคนที่กล้าไปเสี่ยงโชคโดยไม่เคยแตะรถแข่งเสียด้วยซ้ำ”
หวังเวยน่ายังไม่ทันได้เอ่ยปาก ลิฟต์ก็จอดถึงชั้นที่ทุกคนจะลงแล้ว
นอกจากหวังเวยน่าที่เดินออกจากลิฟต์ ยังมีหญิงสาวอีกสามคน ต่างมาออดิชันกับกองถ่ายเลเจนด์เช่นเดียวกัน
“พี่หลินเยียน ฉันมาออดิชันตัวละครตัวหนึ่งในเรื่องเลเจนด์ เป็นสมาชิกทีมดับเบิ้ลยูซี เป็นชาวจีนเหมือนกับเยวา…” หวังเวยน่าพูดเบาๆ กับหลินเยียน
“หา?”
หลินเยียนมองหวังเวยน่าด้วยสีหน้างุนงง
อวี๋หันเป็นสมาชิกทีมดับเบิ้ลยูซีจริงๆ เพียงแต่เขาไม่ใช่คนจีน แถม…อวี๋หันยังเป็นผู้ชายอีกด้วย…
ดูท่าหวังเวยน่าคนนี้จะทำการบ้านมาไม่พอ
“อวี๋หันเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ชาวจีน”
หลินเยียนมองหวังเวยน่าพร้อมพูดเตือน
“เป็นไปไม่ได้น่า? ก่อนหน้านี้ฉันเคยค้นหาข้อมูลในเน็ตแล้ว…ฉันจำได้ว่าเป็นผู้หญิงนี่นา หรือว่าฉันจะหามาผิด!” หวังเวยน่าสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
หลินเยียน “…”
“หลินเยียน ใครคือหลินเยียน หลินเยียนมาแล้วหรือยัง!”
เสียงหนึ่งดังมาจากข้างหน้า ถามขึ้นโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้หลินเยียนได้เอ่ยปากพูด
หลินเยียนรีบชูมือขึ้น “อยู่นี่ค่ะ!”
“นี่คือป้ายหมายเลขของเธอ” ผู้รับผิดชอบส่งป้ายหมายเลขให้หลินเยียนทันที เป็นหมายเลข 11
หลังจากรับป้ายหมายเลขมาแล้ว หลินเยียนก็ถูกเรียกให้ไปรอที่ห้องแต่งตัว
ช่วงนี้มีนักแสดงมาออดิชันมากเป็นพิเศษ คนที่มาออดิชันบทเดียวกันจะถูกจัดให้อยู่ในห้องแต่งตัวห้องเดียวกัน
ภายในห้องแต่งตัวสามารถเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าได้อย่างอิสระ พอเจ้าหน้าที่เรียกถึงหมายเลขก็จะต้องไปออดิชันทันที
ห้องแต่งตัวที่หลินเยียนอยู่นั้นมีคนจำนวนไม่น้อยที่มารอออดิชัน แต่ละคนต่างสวมชุดแข่งรถสีเงินและกอดหมวกกันน็อกสีเงินเอาไว้
หลินเยียนแทบจะนิ่งอึ้งไป นึกว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในห้องพักของทีมรถแข่งทีมใดทีมหนึ่งเสียอีก
หลินเยียนที่อยู่ต่อหน้าคนเหล่านั้นในตอนนี้ดูแตกต่างอยู่บ้างอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่ได้สวมชุดแข่งรถสีเงินและไม่มีหมวกกันน็อกสีเงินอีกด้วย สวมเพียงชุดลำลองตัวหนึ่งเท่านั้น ดูแล้วเหมือนจะไม่เข้าพวกอยู่บ้าง
หญิงสาวซึ่งสวมชุดแข่งรถสีเงินหลายคนไม่ได้สนใจมองหลินเยียน ต่างคนต่างนั่งรออย่างสงบนิ่ง
ผ่านไปราวเจ็ดแปดนาที เจ้าหน้าที่ก็มาเรียกหมายเลขอย่างต่อเนื่องไปจำนวนไม่น้อย และหมายเลข 11 ของหลินเยียนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน
หลินเยียนตามทุกคนออกจากห้องแต่งตัว เดินไปยังสถานที่ออดิชันที่อยู่ข้างหน้าทันที
……
ภายในสถานที่ออดิชันเงียบสงัดอย่างยิ่ง แทบจะไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย
กรรมการออดิชันรับหน้าที่โดยผู้กำกับและผู้เขียนบทเรื่องเลเจนด์ ส่วนโจวเฉียวลูกศิษย์ของลั่งหมั่งนั่งอยู่ตรงกึ่งกลาง
ขณะนี้โจวเฉียวหยิบแก้วที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาพร้อมจิบน้ำด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก จากนั้นก็กวาดสายตามองทุกคนอย่างช้าๆ ทันที
“เริ่มตามกำหนดการกันเถอะครับ แต่ละคนมีเวลาหนึ่งนาที ให้แสดงได้อย่างอิสระ” โจวเฉียวกล่าวเรียบๆ
“แสดงได้อย่างอิสระ?”
เมื่อโจวเฉียวพูดจบ นักแสดงที่มาออดิชันจำนวนไม่น้อยต่างพากันขมวดคิ้วทันที