ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 609 เป็นความสัมพันธ์ทั่วไปได้ยังไงล่ะ? / ตอนที่ 610 ครอบครัวเดียวกัน?
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 609 เป็นความสัมพันธ์ทั่วไปได้ยังไงล่ะ? / ตอนที่ 610 ครอบครัวเดียวกัน?
ตอนที่ 609 เป็นความสัมพันธ์ทั่วไปได้ยังไงล่ะ?
คลับเฮ้าส์เซเลียน
หลังจากหลินเยียนมาถึงแล้วได้ส่งข้อความให้หลินเยว่ทง ผ่านไปสักพักมีชายหนุ่มที่เหมือนจะเป็นบริกรเดินมุ่งมาทางเธอ
“ไม่ทราบว่าใช่คุณหลินเยียนไหมครับ?”
“ฉันเองค่ะ”
บริกรเหลือบมองรถวินเทจเน่าๆ ที่อยู่หลังหลินเยียนแล้วเผยสีหน้าอย่างบอกไม่ถูก
“ครับ คุณหลิน ตามผมมาได้เลยครับ” แต่เนื่องจากการฝึกอบรมที่เคร่งครัด บริกรไม่เผยสีหน้าใดๆ ให้เห็น เขาพาเธอเข้าไปในสโมสรอย่างสุภาพ
หลินเยียนตามบริกรขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า จากนั้นได้หยุดอยู่ตรงหน้าห้องวีไอพี
การตกแต่งภายในห้องวีไอพีหรูหราโออ่ามาก อุปกรณ์ทางการบันเทิงเพียบพร้อมครบถ้วน แขกที่ดูเหมือนจะเป็นเถ้าแก่รายใหญ่กลุ่มหนึ่งกำลังดื่มเหล้ากันเฮฮา มีเถ้าแก่ที่รูปร่างอ้วนท้วมคนหนึ่งกำลังถือไมค์ร้องเพลงอยู่ด้วยท่าทางมึนเมา เสียงหลงจนกู้กลับมาไม่ได้ แต่กลับมีแต่เสียงโห่เชียร์อยู่ไม่หยุด
หลินเยียนกวาดสายตามองห้องวีไอพีอย่างไม่ได้ตั้งใจ และได้เห็นกับระดับป๋าในวงการที่ปรากฎตัวอยู่ในทีวีบ่อยๆ ดูเหมือนว่างานในวันนี้มีระดับอยู่ไม่น้อย
แต่หลังจากนั้นเธอกลับเห็นเผยหนานซวี่บนโซฟาที่ห่างจากนั้นไม่ไกล!
เผยหนานซวี่สวมอยู่ในชุดไปรเวท กำลังนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางสบายๆ โฉมหน้าหล่อเหลาพร้อมด้วยรอยยิ้มอันสดใส ทำให้ห้องวีไอพีนั้นแลดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ
หลินเยียนคิดว่าตัวเองตาลาย เธอขยี้ตาแล้วตั้งใจมองอีกครั้ง คนนั้นคือเผยหนานซวี่จริงๆ ด้วย คนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาคือเถ้าแก่ของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ ฉู่จยาเหยา ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกับผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งอยู่
ชายวัยกลางคนคนนั้นแลดูคุ้นหูคุ้นตามาก เหมือนจะเป็นผู้กำกับชื่อดังบางคน
แต่ได้มาเจอเผยหนานซวี่ในครั้งนี้…ไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ!
ก่อนหน้านั้นเผยหนานซวี่ไม่ค่อยอยู่ในคฤหาสน์ หลังจากเผยอวี้เฉิงไปทำงานต่างประเทศแล้ว เผยหนานซวี่ก็ไม่เคยกลับมาแม้แต่ครั้งเดียวเลย หลินเยียนไม่เจอเขามาพักใหญ่แล้วล่ะ
ไม่คิดว่าจะได้เจอที่นี่
คิดไม่ผิดจริงๆ ที่มานี่
หลินเยียนมองได้ไม่นาน หลินเยว่ทงก็ได้ปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
“ทำไมนานจัง?” หลินเยว่ทงขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วมองไปทางหลินเยียน
หลังจากโดนพี่หลิงด่าชุดใหญ่มาแล้ว ตอนนี้เธอขับรถนิ่งและช้ากว่าเดิมมาก
หลินเยียนไม่อยากพูดมาก เธอถามขึ้นอย่างขวานผ่าซาก “มีอะไรเหรอ?”
หลินเยว่ทงกวาดสายตามองการแต่งตัวของหลินเยียนตั้งแต่หัวจรดเท้า พบว่าเธอแต่งตัวถือว่าพอใช้ได้ สีหน้าค่อยดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ตามพ่อมา พ่อจะแนะนำคนให้แกรู้จัก”
พูดจบ เขาได้พาหลินเยียนเดินไปหาเถ้าแก่ที่กำลังร้องเพลงอยู่
ในขณะเดียวกัน เผยหนานซวี่ที่กำลังพูดคุยกับคนอื่นอยู่ไม่ไกล หางตาชำเลืองมองเห็นหลินเยียน การที่ได้เห็นหลินเยียนปรากฎตัวอยู่ที่นี่ เขารู้สึกเซอร์ไพร์สมาก
หลินเยว่ทง…
ถ้าเขาจำไม่ผิด นั่นน่าจะเป็นพ่อของหลินเยียน
เห็นหลินเยว่ทงพาหลินเยียนมาอยู่ตรงหน้าหยางปั๋วฉง สีหน้าเผยหนานซวี่แลดูเจื่อนกว่าเดิม
“เอ้ะ หนานซวี่ นั่นมันแฟนสาวใต้ดินที่นายแอบซ่อนไว้ไม่ใช่เหรอ? ที่พ่อตานายเรียกเธอมาคงจะไม่ได้คิดไปทางที่ดีเท่าไหร่สินะ!” ฉู่จยาเหยาที่อยู่ข้างๆ มองตามสายตาเผยหนานซวี่ไป จากนั้นไปพูดเจ๊าะแจ๊ะอยู่ข้างหูเผยหนานซวี่
เผยหนานซวี่ไอจนสำลักอยู่พักหนึ่งแล้วเอ่ยปากพูดขึ้นด้วยความอึดอัด “คุณฉู่ ผมพูดไปหลายรอบแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณหลินไม่ได้เป็นเหมือนที่คุณคิดครับ”
ฉู่จยาเหยาเบ้ปาก “ไม่ใช่อย่างที่ฉันคิด หรือจะเป็นความสัมพันธ์แบบญาติจริงงั้นรึ? ฉันเชื่อนายก็บ้าแล้ว!”
เผยหนานซวี่ “…” ความจริงคือแบบนั้นแหละครับ…
ฉู่จยาเหยาพูดด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม “อีกอย่าง นายคิดว่าฉันตาบอดเหรอ? พอผู้หญิงคนนี้ปรากฎตัวขึ้น แววตานายดูเปลี่ยนไปเลย นี่จะเป็นความสัมพันธ์ทั่วไปได้ยังไงล่ะ?”
ตอนที่ 610 ครอบครัวเดียวกัน?
เผยหนานซวี่ “…”
เขาไม่ได้บอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับหลินเยียนเป็นแบบคนทั่วไปเลยนะ จริงๆ ก็ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ แต่เป็นแบบที่ถ้าพูดออกไปแล้วจะสะเทือนทั้งวงการบันเทิงเลยน่ะ…
เผยหนานซวี่ขี้เกียจอธิบายต่อ เขายังคงมองไปทางหลินเยียนด้วยสายตาเรียบนิ่ง กลัวว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างหลินเยียนและพ่อของเธอ เขาก็พอจะได้ยินมาอยู่บ้าง หลินเยว่ทงจะใจดีพาหลินเยียนมางานแบบนี้ได้ยังไง ที่หลินเยว่ทงเรียกหลินเยียนมาในวันนี้ คงจะเหมือนที่ฉู่จยาเหยาพูดว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
ขณะนี้ หลินเยว่ทงเดินมาอยู่ตรงหน้าหยางปั๋วฉงแล้วเอ่ยปากขึ้น “เสี่ยวเยียน รีบมานี่เร็ว นี่คือคุณหยาง เถ้าแก่เหิงต้า อินเตอร์ มีเดีย!”
หลินเยียนได้ยินแล้วเสยคิ้วขึ้นเล็กน้อย ป๋าในวงการบันเทิง เถ้าแก่เหิงต้า อินเตอร์ มีเดีย… หยางปั๋วฉง?
ชื่อนี้ถือว่าโด่งดังในวงการบันเทิงมาก
งานระดับนี้ หลินเยว่ทงไม่พาหลินซูหย่ามาแต่ให้เธอมาแทน? อีกทั้งยังแนะนำหยางปั๋วฉงให้เธออีกด้วย?
จู่ๆ ก็ทำดีใส่…ในหัวหลินเยว่ทงกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ขณะนี้ หยางปั๋วฉงถือไวน์อยู่ในมือแล้วยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าหยิ่งยโส ไม่แม้แต่มองไปทางหลินเยียน
หลินเยว่ทงไม่ได้ใส่ใจ เขาพูดต่อ “คุณหยาง นี่คือลูกสาวคนโตของผม หลินเยียน”
ขณะนี้ ถึงหยางปั๋วฉงจะมองไปทางหลินเยียนอย่างไม่แยแส แววตาหยิ่งทะนงคู่นั้นของเขา หลังจากได้เห็นหน้าตาของหลินเยียนแล้ว แลดูมีประกายขึ้นมาเล็กน้อย
หยางปั๋วฉงแลดูสนใจขึ้นมา “ฉันคิดว่าซูหย่าสวยพอแล้ว แต่ไม่คิดว่าเถ้าแก่หลินยังซ่อนลูกสาวหน้าตาดีแบบนี้ไว้อยู่!”
หลินเยว่ทงเห็นท่าทางของหยางปั๋วฉงเปลี่ยนไปจึงรู้สึกโล่งอกขึ้นมา “คุณหยางเกรงใจเกินไปครับ ลูกสาวคนโตของผมเทียบกับซู่หย่าไม่ได้เลย เธอยังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ หวังว่าคุณหยางจะช่วยชี้แนะหน่อยนะครับ”
สายตาหยางปั๋วฉงมองไปทางหลินเยียนอย่างไม่เกรงใจใดๆ เขาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มจอมปลอม “ฉันไม่ชี้แนะคนอื่นมั่วซั่วหรอกนะ”
หลินเยว่ทงหัวเราะตาม “เหอๆ ใช่ครับๆ เผลอๆ จากนี้ไปเราจะได้เป็นคนครอบครัวเดียวกัน!”
ฟังไปฟังมา หลินเยียนยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย
คนครอบครัวเดียวกัน?
บ้าอะไรกัน!
ขณะนี้หลินเยียนถึงเข้าใจอย่างกระจ่างมากขึ้น
นี่มันไม่ใช่งานเลี้ยงอะไรเลย นี่มันคลุมถุงชนกันชัดๆ!
หยางปั๋วฉงนี่อายุมากกว่าหลินเยว่ทงอีก หย่าไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง มีลูกชายหกคน ลูกสาวสามคน ลูกสาวคนที่เล็กที่สุดคงจะอายุพอๆ กับเธอเลย…
ได้ข่าวว่าชอบทำร้ายร่างกายอีกด้วย เหล่าภรรยาของเขาโดนเขาตีจนพิการไปหลายคน ส่วนคนที่เพิ่งจะหย่ากันไปก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด หยางปั๋วฉงใช้เงินมหาศาลกว่าจะกดเรื่องนี้ลงไว้ได้
หลินเยว่ทงตั้งใจคิดมุกจริงๆ ปล่อยเธอลอยแพไว้มาตั้งหลายปี แต่วันนี้เรียกเธอมาแบบงงๆ แล้วแนะนำโรคจิตชอบใช้กำลังที่อายุมากกว่าพ่อตัวเองให้เธอซะงั้น…
‘ความรักของพ่อ’ ที่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้เธอรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
หยางปั๋วฉงได้ยินเช่นนั้นแล้วก็ใช้สายตาเหมือนกำลังมองสินค้าบางอย่างอยู่มองไปทางหลินเยียน พลันเอ่ยปากขึ้นเบาๆ “หลินเยียน…คุณหลินใช่ไหม? เหอๆ ช่วงนี้คุณหลินไม่ธรรมดาเลยนะ! ผมก็พอจะได้ยินอยู่บ้าง!”
ตอนที่หยางปั๋วฉงพูดว่า ‘พอได้ยินอยู่บ้าง’ สีหน้าแฝงไปด้วยเลศนัยบางอย่าง เขามองไปทางหลินเยว่ทงแล้วพูดขึ้น “ประธานหลิน ตระกูลหยางของผมถือว่าเป็นตระกูลรักการอ่านมากความรู้ ค่อนข้างจะเน้นไปทางอนุรักษ์นิยม…”