ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 671 ถ้ามันเห่าแล้ว มันจะไม่น่ากลัว / ตอนที่ 672 ลุ่มหลงอยู่กับการหาเงิน!
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 671 ถ้ามันเห่าแล้ว มันจะไม่น่ากลัว / ตอนที่ 672 ลุ่มหลงอยู่กับการหาเงิน!
ตอนที่ 671 ถ้ามันเห่าแล้ว มันจะไม่น่ากลัว
เฮ่อเล่อเฟิงพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น “มีบาดแผล มีบาดแผลจริงๆ พี่สาวผมมีบาดแผลทั้งตัวเลย!”
มั่วซูอวิ๋น “…”
“หัวหน้ามั่ว คุณว่าใช่หรือเปล่า พี่สาวผมมีแผลทั้งตัวเลย” เฮ่อเล่อเฟิงมองมั่วซูอวิ๋น
มั่วซูอวิ๋นใช้สายตาที่ยากจะสาธยายออกมาได้มองเฮ่อเล่อเฟิง หมอนี่ถนัดทำให้เสียเรื่องโดยเฉพาะเลยหรือไง?!
ฝีมือแข่งรถห่วยขนาดนั้นก็ช่างมันเถอะ แต่แม้แต่สมองก็เหมือนจะไม่ค่อยดี ทำไมเขามีสมาชิกทีมที่ซื่อบื้อขนาดนี้ได้นะ!
ตอนนี้มั่วซูอวิ๋นอยากจะขายเฮ่อเล่อเฟิงให้ทีมอื่นให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
แน่นอนว่าจะขายออกหรือเปล่านั้นคงพูดยากแล้ว
“เอ่อ…เหมือน เหมือนจะใช่นะ” ด้วยความจนใจ มั่วซูอวิ๋นจึงได้แต่ยอมรับคำพูดของเฮ่อเล่อเฟิง
“เหอะๆ มีแผลทั้งตัว ช่างร้ายกาจซะจริงเลยนะ” ซูไฉ่พูดประชด
“ก็ไม่ได้โอเวอร์ขนาดนั้น แค่มีแผลที่ขา แถมยังค่อนข้างหนักเท่านั้นเอง” หลินเยียนอธิบาย
“ได้ครับ คุณหลินเยียน ในเมื่อคุณบอกว่าบาดแผลที่ขาส่งผลกระทบต่อการแสดงฝีมือตามปกติของคุณ งั้นพวกเราจะให้ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจร่างกายคุณสักหน่อย คุณสะดวกหรือเปล่าครับ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดกับหลินเยียน
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาเลยสักนิด” หลินเยียนผงกศีรษะ
ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ทั้งหลายก็พาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมายังสถานที่เตรียมตัวเข้าแข่งขันของทีมตระกูลเฮ่อ
คนนอกหลบออกไป เหลือไว้เพียงหลินเยียนกับทีมแพทย์ไม่กี่คนเท่านั้น
…
“คุณหลินเยียน อาการบาดเจ็บที่ขาของคุณค่อนข้างหนัก ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลระยะยาว เมื่อกี้ผมเพิ่งตรวจร่างกายคุณไป ตอนนี้ยังไม่เป็นอะไรมาก แต่อาการบาดเจ็บอาจจะกำเริบขึ้นมาได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้คุณคงไม่ได้ไปโรงพยาบาลมานานมากแล้วสินะครับ”
หัวหน้าทีมแพทย์มองหลินเยียนพร้อมเอ่ยถาม
“ค่ะ ไม่ได้ไปโรงพยาบาลมาช่วงหนึ่งแล้ว ฉันคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใหญ่โต ใครจะรู้ว่าจะกำเริบตอนที่แข่งกับทีมบลาสท์วันนี้ ก็เลยไม่ได้แข่งอย่างเต็มความสามารถ กลายเป็นว่ากลับถูกคิดว่าแข่งขันกันแบบหลอกๆ เสียได้” หลินเยียนตอบระคนยิ้ม
“คุณหลินเยียน ฝีมือในการแข่งรถของคุณช่างแข็งแกร่งเสียเหลือเกิน อยู่ในช่วงที่อาการบาดเจ็บกำเริบ แต่ยังเอาชนะทีมเดอะแฟลชได้อีกนะครับ…ร้ายกาจ” สมาชิกทีมแพทย์คนหนึ่งชูนิ้วโป้งให้หลินเยียน
สมาชิกทีมแพทย์คนนี้เป็นแฟนคลับที่คลั่งไคล้รถแข่งมากเช่นเดียวกัน รู้เรื่องทีมใหญ่ภายในประเทศเป็นอย่างดี ไม่เคยพลาดทุกสนามแข่ง เขาดูการแข่งของหลินเยียนกับทีมเดอะแฟลชในวันนี้จนตะลึงงัน
มิหนำซ้ำเขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเยียนกลับมีอาการบาดเจ็บอยู่ด้วย
“แค่โชคดีเองค่ะ” หลินเยียนตอบระคนยิ้ม
“คุณหลินเยียน คุณถ่อมตัวเกินไปแล้ว เพียงแต่คุณต้องระวังซูไฉ่คนนั้นสักหน่อย เธอร้องเรียนว่าคุณแข่งขันแบบหลอกๆ คุณถูกเธอเพ่งเล็งเข้าแล้ว นั่นไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะครับ แต่พวกเราต้องคืนความเป็นธรรมให้คุณแน่นอน”
“ขอบคุณค่ะ” หลินเยียนกล่าวขอบคุณ
…
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งทุกคนก็กลับมา
ซูไฉ่มองทีมแพทย์เหล่านั้น “เป็นยังไงบ้างคะ?”
อย่างไรก็ตามทีมแพทย์เหล่านั้นกลับไม่แยแสซูไฉ่แม้แต่น้อย นำผลตรวจที่ทำเป็นตารางแล้วมอบให้เจ้าหน้าที่
เมื่อทีมแพทย์จากไปแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหลายก็อ่านตารางผลตรวจ หลังจากอ่านอย่างถี่ถ้วนแล้วก็พูดกับหลินเยียนว่า “คุณหลินเยียน คุณต้องใส่ใจอาการบาดเจ็บของคุณสักหน่อยนะครับ ทีมแพทย์ของทางเราตรวจร่างกายให้คุณแล้ว อาการไม่เบาเลยทีเดียว”
“คุณหลินเยียน คุณนี่ช่างเป็นมืออาชีพจริงๆ ลงสนามพร้อมอาการบาดเจ็บ แถมยังเอาชนะทีมเดอะแฟลช แชมป์ของทีมซีได้อีก คุณสมศักดิ์ศรีแล้วจริงๆ ” เจ้าหน้าที่อีกคนยิ้มพร้อมกล่าวกับหลินเยียน
เมื่อเจ้าหน้าที่พูดจบ ซูไฉ่ก็ขมวดคิ้ว หมายความว่ายังไง? หลินเยียนบาดเจ็บจริงเหรอ?
ตอนนี้หลินเยียนเดินเข้าหาซูไฉ่พร้อมพูดกระซิบข้างใบหู “จำเอาไว้ หมาที่กัดมันไม่เห่า เพราะ…ถ้ามันเห่าแล้ว มันจะไม่น่ากลัว”
ตอนที่ 672 ลุ่มหลงอยู่กับการหาเงิน!
ทุกคนต่างคาดไม่ถึงว่าหลินเยียนจะมีอาการบาดเจ็บจริง แถมยังเจ็บที่ขาขวาซึ่งเป็นข้างที่สำคัญ มิหนำซ้ำอาการยังไม่เบาอีกต่างหาก
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ หลินเยียนยังเอาชนะทีมที่แข็งแกร่งมากที่สุดได้อีก!
ทุกคนมองหลินเยียนด้วยความประหลาดใจมากขึ้นทันที
มิน่าเธอถึงแสดงฝีมือได้ไม่เที่ยงเสียขนาดนั้น…
“จะได้ใจไปทำไม ก็แค่เอาชนะการแข่งธรรมดาที่อยู่ระดับล่างเท่านั้นเอง กบในกะลา!” เมื่อซูไฉ่เห็นว่าการร้องเรียนไม่เป็นผล จึงทำได้แค่กัดฟันกรอด แค่นเสียงเย็นชาแล้วเดินจากไปเท่านั้น
หลินเยียนที่เป็น ‘กบในกะลา’ ยักไหล่ ยิ้มพร้อมมองส่งเธอจากไป
……
ตระกูลเฮ่อ
หลังจบการแข่งขัน สมาชิกทีมออโรร่าของตระกูลเฮ่อทุกคนต่างมารวมตัวกันและเริ่มทบทวน
การทบทวนที่ว่านี้ก็คือการสรุปผลงานและการแสดงฝีมือของสมาชิกแต่ละคน การวิเคราะห์ภาพรวม หาข้อผิดพลาดของแต่ละคนออกมา สรุปเทคนิคและสิ่งที่ได้เจอมา รวมถึงคิดหาวิธีแก้ไขที่ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
การทบทวนถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการแข่งรถ
ทีมตระกูลเฮ่อเริ่มการประชุมทบทวนโดยมีมั่วซูอวิ๋นเป็นคนนำ
มั่วซูอวิ๋นเป็นหัวหน้าทีมมาหลายปี ประสบการณ์พรั่งพร้อม การแข่งขันระดับนี้ให้เขาเป็นคนนำการทบทวนถือว่าเพียงพอแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ทีมกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญที่จะพัฒนาต่อไป ทุกรายละเอียดปลีกย่อยล้วนสำคัญมาก ดังนั้นระหว่างการทบทวนหลินเยียนจึงจับจ้องอยู่ตลอด พร้อมพูดเสริมให้บางอย่าง
ช่วงหลายวันที่ทบทวนและฝึกซ้อมนี้ ในทุกๆ วันหลินเยียนต้องไปร่วมประชุมและฝึกซ้อมกับทีม ระหว่างนั้นยังทำงานเสริมอีกสองอย่างด้วย บางครั้งยังหาเวลาว่างรับจ้างช่วยเล่นเกมอีกสักหลายตาเพื่อหารายได้เสริมเล็กน้อยอีกด้วย ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ลุ่มหลงอยู่กับการหาเงินจนถอนตัวไม่ขึ้น
เจเอ็ม คอร์เปอเรชั่น
เผยอวี้เฉิงมองโทรศัพท์มือถือ ช่วงก่อนหน้านี้เผยอวี่ถังเคยส่งข้อความหาเขา [พี่ใหญ่ พี่วางใจได้ ผมเตือนพี่สะใภ้ใหญ่เรื่องวันเกิดของพี่แล้ว พี่เขาไม่มีทางลืมแน่นอน เธอบอกว่าถึงเวลาจะเตรียมเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ให้พี่แน่นอนครับ ฮิๆๆ]
เซอร์ไพรส์…
วันนี้เป็นวันเกิดของเขาแล้ว แต่ว่าจนถึงตอนนี้หลินเยียนกลับไม่มีการแสดงออกใดๆ เลย และไม่ได้นัดเจอเขาอีกด้วย
โทรศัพท์มือถือของเผยอวี้เฉิงยังคงเงียบสนิท ไม่มีข้อความหรือสายเรียกเข้า
นิ้วมือของชายหนุ่มดันกรอบแว่นที่อยู่บนดั้งจมูก จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความวีแชทออกไป
เผยอวี้เฉิง : [วันนี้มีแผนที่จะทำอะไรหรือเปล่า]
ตอนที่ข้อความวีแชทของเผยอวี้เฉิงส่งมานั้น หลินเยียนกำลังดูการฝึกซ้อมของสมาชิกในทีมไปพลางรับจ้างเล่นเกมเพื่อหาเงินไปพลาง หลังจากขาดลูกค้ารายใหญ่อย่างวังจิ่งหยาง เธอจึงทำได้เพียงรับลูกค้ารายย่อยจำนวนหนึ่งเท่านั้นเอง
เมื่อหน้าจอปรากฏข้อความวีแชทของเผยอวี้เฉิง หลินเยียนลังเลว่าจะหาเงินต่อไปหรือว่าจะตอบข้อความของแฟนหนุ่มไปหนึ่งวินาที จากนั้นเธอก็เลือกที่จะเล่นเกมตานี้ให้จบ
เพียงแต่เพราะรีบที่จะตอบข้อความของเผยอวี้เฉิง เธอจึงพยายามเล่นเกมตานี้ให้จบภายในช่วงเวลาอันสั้น
เมื่อเล่นเสร็จแล้ว หลินเยียนก็รีบตอบกลับไป [วันนี้เหรอคะ วันนี้เหมือนจะมีธุระมากเหลือเกิน ตอนเช้าต้องไปที่พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ พี่หลิงบอกว่าจะรับงานโฆษณาอะไรสักอย่างให้ฉัน เหมือนครั้งนี้จะได้เงินมากด้วยนะคะ ส่วนตอนบ่ายก็ต้องไปสถานีโทรทัศน์เพื่อเป็นแขกรับเชิญในรายการโทรทัศน์ เพราะฉันถูกกำหนดตัวให้แสดงเรื่องเลเจนด์แล้ว ดังนั้นค่าตัวในการเป็นแขกรับเชิญของฉันเลยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จริงสิ ตอนเย็นฉันต้องไปเป็นล่ามที่บริษัทเกมที่ฉันทำงานพิเศษ เถ้าแก่คนนั้นซื่อบื้อแต่เงินเยอะ แปลครั้งหนึ่งราคาแพงกว่าข้างนอกสิบกว่าเท่าก็ยังกล้าเชื่ออีก…]
หลินเยียนตอบกลับไปเป็นชุดโดยไม่รู้จักแบ่งประเด็นสำคัญ
เผยอวี้เฉิงอ่านตารางการทำงานอันแน่นขนัดที่ยุ่งยิ่งกว่าเขาเสียอีกของหลินเยียนพลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
เผยอวี้เฉิง : [ตอนเย็นมีเวลาหรือเปล่า]
เผยอวี้เฉิงลองส่งข้อความเลียบเคียงถามอีกครั้งหนึ่ง