ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 109 หวังเจียเมิง
บทที่ 109 หวังเจียเมิง
เสี้ยเมิ่งเหยาคิดเช่นนี้ แต่หวังเจียเมิงรู้สึกว่า เสี้ยเมิ่งเหยากำลังพูดด้วยอารมณ์โกรธ ผู้หญิงคนไหนหวังให้สามีตัวเองเป็นคนส่งอาหารล่ะ?
โดยเฉพาะเสี้ยเมิ่งเหยา สมัยอยู่มหาวิทยาลัยเขาเป็นคนหยิ่งผยองมีชื่อเสียง ในบรรดาคนที่มาจีบ มีแต่ลูกคนรวยและลูกข้าราชการเข้าหาไม่ขาดสาย แม้กระทั่งหนุ่มยาจกที่มีพรสวรรค์ แต่ผู้ชายเหล่านั้น ไม่เคยอยู่ในสายตาเสี้ยเมิ่งเหยา
ตอนนั้นทุกคนต่างก็คิดว่า ต่อไปหากเสี้ยเมิ่งเหยาจะออกเรือนทั้งที ผู้ชายคนนั้นจะต้องสูงส่ง ดีเลิศประเสริฐศรีและไม่ธรรมดา
แต่ทุกคนก็คิดไม่ถึง พอเสี้ยเมิ่งเหยาเรียนจบ ก็แต่งงานเลย อีกอย่างผู้ชายที่เขาแต่งงานด้วย ทำอาชีพเป็นคนส่งอาหาร
ตอนนั้น เหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนตกตะลึง เป็นที่ฮือฮาในแวดวงศิษย์เก่าอย่างมาก ไม่รู้ว่าชายหนุ่มกี่คนเมาจนหัวราน้ำ ที่งานแต่งของเสี้ยเมิ่งเหยาในวันนั้น
แน่นอน และผู้หญิงมากมายที่นับไม่ถ้วน พอได้รู้ข่าวนี้ ก็ตื่นเต้นกันเป็นวันๆ ในที่สุดก็เงามืดของเสี้ยเมิ่งเหยาก็ไม่ปกคลุมอีกต่อไปแล้ว
ตอนนั้นหวังเจียเมิงก็อิจฉาเสี้ยเมิ่งเหยาเป็นธรรมดา เพราะบรรดาหนุ่มๆที่เธอชอบ กลับไม่ชอบเธอ และยังชอบเสี้ยเมิ่งเหยาอีก เป็นเพราะเหตุนี้ เธอจึงอิจฉาเสี้ยเมิ่งเหยามานาน จนถึงจุดที่รู้สึกขยะแขยงเลยทีเดียวเชียวล่ะ
แต่ต่อมา หลังจากที่ได้ยินเรื่องที่เสี้ยเมิ่งเหยาแต่งงานกับเด็กส่งอาหาร ความรู้สึกอิจฉาก็บรรเทาลงเยอะเลย
จนมาถึงปัจจุบัน เห็นสภาพน่าสังเวชของเสี้ยเมิ่งเหยาเช่นนี้ หวังเจียเมิงยิ่งรู้สึกอิจฉาไม่ลง จนรู้สึกเห็นอกเห็นใจ เกิดมาสวยแต่จะมีประโยชน์อะไร ชีวิตไม่ดีก็ไร้ประโยชน์
พูดได้แค่ว่าจิตใจของผู้หญิงซับซ้อนเกินไป หากเสี้ยเมิ่งเหยารู้เข้า เพียงเพราะคำพูดคำเดียวของเธอ ก็ทำให้หวังเจียเมิงคิดมากได้ขนาดนี้ เกรงว่าจะทำให้ตกตะลึงจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว
“ใช่แล้ว เสี้ยเมิ่งเหยา เธอบอกว่าแผลบนใบหน้าของเธอ สามีไม่ได้เป็นคนทำ แต่ผู้หญิงคนหนึ่งทำ แล้วทำไมนางต้องตบเธอด้วยล่ะ?” หวังเจียเมิงพูดอย่างสงสัย นิสัยของเสี้ยเมิ่งเหยาเป็นพวกชนิดที่ว่าอ่อนโยนและเงียบขรึม ปกติแล้วจะไม่เริ่มหาเรื่องใครก่อน ทำไมวันนี้ถึงโดนตบได้ล่ะ
เสี้ยเมิ่งเหยาเล่าเรื่องอีกครั้งในร้านค้า แต่
หลังจากฟังจบหวังเจียเมิงก็อดโมโหไม่ไหว พูดอย่างไม่แยแสว่า “ยัยกะหรี่คนนี้ ทำไมถึงหยิ่งยโสได้ขนาดนี้?”
เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหัวและฝืนยิ้ม เหตุผลที่หยานชุนเหมยหยิ่งขนาดนี้ ต้องมีอาศัยอิทธิพลของคนอื่นอย่างแน่นอน และคนหนุนหลังเขาก็คือฉินหู่แต่คราวนี้ เห็นเฉินเฟิงโกรธแบบนี้ เกรงว่า ต่อให้มีฉินหู่10 คนก็เอาไม่อยู่แน่
“แกว่า สามีของแกอยู่จัดการยัยกะหรี่นั่นเหรอ แกไม่ถามเขาเหรอว่าเขาจัดการมันยังไง? ไม่ใช่ว่าพอแกเดินไป สามีของแกก็ปล่อยยัยกะหรี่คนนั้นไปแล้ว”หวังเจียเมิงถาม เธอไม่ได้โง่ ถ้าสิ่งที่เสี้ยเมิ่งเหยาพูดเรื่องความจริงละก็ งั้นก็เห็นได้ชัดว่าคนที่ตบเสี้ยเมิ่งเหยา ต้องมีคนหนุนหลังแน่นอน
อีกอย่างสามีของเสี้ยเมิ่งเหยา เป็นแค่คนส่งอาหารคนหนึ่งเท่านั้น จะเผชิญหน้ากับคนหนุนหลังของยัยผู้หญิงคนนั้น อย่าพูดว่าเขาจะจัดการได้เลย ไม่โดนฝั่งนู้นจัดการก็บุญเท่าไหร่แล้ว ร้ายแรงกว่านั้นอีกหน่อยหวังเจียเมิงคิดว่า หลังจากที่เสี้ยเมิ่งเหยาเดินจากไป เฉินเฟิงกลัว อาจจะยอมรับผิดและขอโทษผู้หญิงคนนั้นไป
เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหัวและพูดว่า “ไม่หรอก ฉันเชื่อใจสามีของฉัน”
หวังเจียเมิงแบะปาก เชื่อกับผีดิ เห็นๆอยู่ว่าสามีเธอน่ะขี้ขลาด คิดยอมแพ้ ไม่อย่างนั้นก็ต้องให้เธออยู่ด้วยสิ ให้เห็นกับตาว่าเขาสั่งสอนยัยกะหรี่คนนั้น
แต่หวังเจียเมิงก็ได้แต่เก็บคำพูดพวกนี้ไว้ในใจเท่านั้น พูดออกมาไม่ได้ ถ้าพูดออกมา เห็นได้ชัดว่าจะทำให้เสี้ยเมิ่งเหยาเสียหน้าแน่ และจะทำให้เสี้ยเมิ่งเหยาไม่สบายใจ
ตอนนี้ เฉินเฟิงเข้ามาแล้ว
เห็นเสี้ยเมิ่งเหยาดูสงบสุขดี จนในที่สุดเฉินเฟิงถอนหายใจอย่างโล่งใจ
“ที่รัก กลับมาแล้วเหรอ” เสี้ยเมิ่งเหยายกมุมปากขึ้น มองดูเฉินเฟิง ภายนอกของเธอดูนิ่งๆ แต่ภายในใจของเธอยุ่งเหยิง
“อืม รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” เฉินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ไม่เป็นอะไรแล้ว” เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหัวและกล่าว
“นายคือสามีของเมิ่งเหยาเหรอ?”หวังเจียเมิงอดไม่ได้ที่จะพูด เธอเริ่มดูท่าทีเฉินเฟิง ตั้งแต่เฉินเฟิงเข้ามา มองดูตอนนี้ ก็ธรรมดาอย่างที่คิด แล้วก็ไม่รู้ว่าเสี้ยเมิ่งเหยาชอบตรงไหนของเขา
เฉินเฟิงมองหวังเจียเมิงด้วยความสงสัย คนนี้ใคร?
“ที่รัก เธอชื่อหวังเจียเมิงเป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยเรียนมหาวิทยาลัย” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอธิบาย
“สวัสดีครับ ผมชื่อเฉินเฟิง”
“สวัสดี” แม้จะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม แต่หวังเจียเมิงก็ต้องยื่นมือและจับมือกับเฉินเฟิง
“เฉินเฟิง นายจัดการผู้หญิงคนนั้นของเมิ่งเหยายังไงเหรอ?”หวังเจียเมิงถาม
“ผมแจ้งความแล้ว เขาถูกตำรวจพาไปแล้ว” เฉินเฟิงยิ้มและพูด
“แจ้งความเหรอ?”หวังเจียเมิงค่อนข้างดูถูก “แจ้งความจะมีประโยชน์อะไร เห็นชัดๆว่ายัยกะหรี่คนนั้นมีคนหนุนหลังอยู่ อย่างมากเขาก็แค่จ่ายเงินให้ตำรวจ จากนั้นเรื่องก็จบ”
เฉินเฟิงส่ายหัว แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เขาบอกหวังเจียเมิงไม่ได้อยู่แล้ว ว่าเขาให้ หยานชุนเหมยกับโจวลี่ชดใช้ด้วยราคาของชีวิต
เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหัวแล้วยิ้ม เฉินเฟิงจะแจ้งความงั้นเหรอ? ยังไงเธอก็ไม่เชื่อ
เห็นเฉินเฟิงไม่พูดหวังเจียเมิงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ จึงเรียกร้องความยุติธรรมให้เสี้ยเมิ่งเหยา กล่าวว่า “ถ้าให้ฉันพูด นายก็ไม่ควรไปแจ้งความ แต่นายควรฉีกปากของผู้หญิงเลวคนนั้น นายแจ้งความ แล้วปล่อยให้เมิ่งเหยาโดนทำร้ายฟรีๆได้อย่างไรกัน”
”เจียเมิง เรื่องมันก็ผ่านแล้ว อีกอย่างเราก็เชื่อใจตำรวจ” เสี้ยเมิ่งเหยาไกล่เกลี่ย
“เชอะ ยังไงซะถ้าเป็นสามีของฉันมาเจอเรื่องแบบนี้ เขาจะไม่แจ้งความแน่นอน เขาจะต้องไปฉีกไปอีนังนั่นแน่นอน”หวังเจียเมิงแบะปากพูด ในใจยิ่งรู้สึกดูถูกเฉินเฟิง เป็นแค่คนส่งอาหาร แถมยังไม่มีความสามารถอะไร แม้กระทั่งภรรยาของเขาถูกตบ ก็ยังสามารถทนกล้ำกลืนได้ ไร้ประโยชน์เสียจริงๆ
เฉินเฟิงฝืนยิ้ม ต้องถูกคนอื่นดูหมิ่นดูแคลนอีกแล้ว แต่มีบางเรื่อง ไม่สามารถพูดออกไปได้ ทำได้เพียงแค่ปล่อยให้หวังเจียเมิงคิดไปแบบนั้น
“จริงสิ เสี้ยเมิ่งเหยา มะรืนนี้เป็นวันเลี้ยงรุ่นของห้องเรา อย่าลืมเรื่องนี้ล่ะ ถึงตอนนั้น พาสามีเธอไปด้วย เพื่อนร่วมห้องของเราหลายคน อยากจะเห็นสามีของเธอ “หวังเจียเมิงพูดแล้วหันไปมองเฉินเฟิง ตั้งแต่เสี้ยเมิ่งเหยาแต่งงาน ก็ไม่เคยได้ร่วมงานเลี้ยงรุ่นกับเพื่อนร่วมห้องอีกเลย
ไม่ต้องพูดหวังเจียเมิงก็พอเดาได้ เสี้ยเมิ่งเหยากลัวว่าเข้าร่วมงานเลี้ยงรุ่นจะทำให้เขาขายหน้า สุดท้ายแล้วเธอก็แต่งงานกับคนส่งอาหาร แล้วอีกอย่างบรรดาอดีตคนที่ตามจีบเธอ ไม่ใช่แค่ผู้บริหารบริษัท ก็เป็นเจ้าของธุรกิจ ถ้าได้เจอหน้ากัน จะไม่รู้สึกอึดอัดตายหรือยังไงกัน
แต่คราวนี้ ตั้งแต่เสี้ยเมิ่งเหยาปรากฏตัวต่อจินหลิงแล้ว แม้ว่าจะต้องลากไป เธอก็จะต้องลากเสี้ยเมิ่งเหยาเข้าไปให้ได้ อีกอย่างต้องมีหลายๆคนสนใจเฉินเฟิง
“อืม ฉันจะไป” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างยิ้มๆ เธอรู้ ปกติแล้วเพื่อนร่วมชั้นเหล่านั้นก็ไม่ได้อยากเจอเฉินเฟิง แต่อยากเห็นเรื่องตลกของเธอ ทว่าครั้งนี้เธอจะลองไปดู ถึงตอนนั้นจะเห็นเรื่องตลกของใครกันแน่
“ได้ งั้นฉันขอตัวก่อนนะ เจอกันวันมะรืนนี้” หวังเจียเมิงยิ้มแล้วยืนขึ้น เขามีความสงสัยนิดหน่อย คราวนี้บรรดาอดีตคนที่ตามจีบของเสี้ยเมิ่งเหยา ถ้าเห็นเฉินเฟิงเข้าจะแสดงความรู้สึกออกมาแบบไหนกันนะ