ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 33 ความคิดของ สวีเฟยหรง
บทที่ 33 ความคิดของสวีเฟยหรง
“สองหมื่นหรือ? ” ส้งจุน ดูเหมือนตื่นตกใจเล็กน้อย จ้องมองไปที่เฉินเฟิงถามว่า “พูดตามตรงเถอะพี่เฉิน เงินเดือนที่จ้าวโย่วจะให้นี้ ผมก็สั่นไหวเล็กน้อยแล้ว ถ้าหากว่าพี่เฉินไม่รังเกียจล่ะก็ สามารถไปทำงานที่ร้านจ้าวโย่วนั่น ทุกคนล้วนคุ้นเคยกัน เชื่อว่าจ้าวโย่วจะปฏิบัติต่อพี่เฉินอย่างดีแน่นอน”
สวีเฟยหรงไร้สีหน้าจ้องมองเฉินเฟิงนี่จึงเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอ ยังไงก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมเสี้ยเมิ่งเหยาให้เลิกกับเฉินเฟิงเอง ถ้าอย่างนี้ก็เพียงแค่ลงมือกับเฉินเฟิงแล้ว เธอยืมมือของส้งจุนกับจ้าวโย่วสักกี่คน ทำให้เฉินเฟิงรู้สึกถึงว่า ตัวเขาเองกับเสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้เป็นคนในโลกเดียวกันอยู่แล้ว ดีที่สุดก็ถอยออกไปเร็วดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงความอัปยศอดสู
เฉินเฟิงยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม สองคนนี้ ถึงขนาดยังแสดงอยู่ต่อหน้าตัวเขาเองขึ้นมาแล้ว
“ความหวังดีของประธานส้งกับประธานจ้าวผมรับด้วยใจแล้ว แต่ว่าผมคนนี้ก็ชอบเป็นคนส่งอาหาร งานของร้านอัญมณีที่สูงส่งยิ่งใหญ่แบบนี้ ผมทำไม่ได้” เฉินเฟิงกล่าวด้วยความจริงจัง
จ้องมองสีหน้าที่ไม่สนใจเต็มใบหน้าของเฉินเฟิงสวีเฟยหรงโมโหจนกัดฟัน ช่างเป็นแมงกินฟันที่ไม่คิดถึงความก้าวหน้า! อีกทั้งหน้ายังหนาเหลือเกิน ทั้งๆที่รู้ว่าตนเองไม่เหมาะสมกับเสี้ยเมิ่งเหยายังจะผูกมัดเสี้ยเมิ่งเหยาไว้
“พี่เฉินพูดตลกแล้ว พี่เฉินสามารถแต่งกับหญิงงามดั่งนางฟ้าอย่างคุณเสี้ยเช่นนี้ แค่งานในร้านอัญมณีเล็กอย่างหนึ่งจะทำไม่ได้ได้ยังไงล่ะ” ส้งจุนหัวเราะแบบแกล้งๆ พูด
“พี่เฉิน คุณเสี้ยสวยเช่นนี้ อีกทั้งยังมีความสามารถอย่างนี้ อายุน้อยๆก็เป็นผู้รับผิดชอบของโครงการยู่ฉวนซานแล้ว ถ้าหากคนอื่นได้รู้ว่าสามีของคุณเสี้ยเป็นคนส่งอาหารคนหนึ่ง หน้าตาของคุณเสี้ยเกรงว่ารักษาไว้ไม่ได้แล้วนะ” จ้าวโย่วยิ้มพูด ในคำพูดเต็มเปี่ยมด้วยความยุแยง
“หน้าตาของฉันรักษาไว้ได้หรือไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหรือ?” เสี้ยเมิ่งเหยาเอ่ยปากอย่างเย็นชา เธอไม่รู้ว่าเฉินเฟิงทำไมอารมณ์ดีเช่นนี้ ถ้าหากเปลี่ยนเป็นเธอถูกส้งจุนกับจ้าวโย่วพูดส่อเสียด ดูถูกเช่นนี้ เกรงว่าเธอคงโยนจากประตูออกไปตั้งนานแล้ว
จ้าวโย่ว ยิ้มเยาะเย้ยกล่าวว่า “คุณเสี้ย อย่าโมโหสิ อย่าโมโหสิ ผมล้อเล่นล่ะ”
เสี้ยเมิ่งเหยาฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง ไม่สนใจคนเหล่านั้นสักคนอีกเลย
บรรยากาศในห้องมีความอึดอัดเล็กน้อยในทันทีนั้น ใครๆก็นึกไม่ถึง เสี้ยเมิ่งเหยาถึงขนาดปกป้องเฉินเฟิงเช่นนี้
สวีเฟยหรงถอนหายใจหนึ่งที เธอพบเห็นว่าตัวเธอเองคาดการณ์ความหนาของหน้าเฉินเฟิงต่ำเกินไป ยิ่งคาดการณ์ความชอบที่เสี้ยเมิ่งเหยามีต่อเฉินเฟิงต่ำเกินไป
“ฉันไปห้องน้ำสักหน่อย”สวีเฟยหรงค่อยๆลุกขึ้นมา เธอจะออกไปสงบสติสักหน่อย
หลังจากสวีเฟยหรงออกไป ล้างหน้าอยู่ในห้องน้ำ เพิ่งเตรียมตัวจะออกไป กลับมีชายหัวล้านที่รูปร่างอวบอ้วนสวมใส่สร้อยทองเส้นใหญ่เดินมาจากข้างหน้า
กลิ่นโชยเข้าจมูกมาสวีเฟยหรงก้าวไปทางซ้ายโดยสัญชาตญาณก้าวหนึ่ง แต่ใครจะรู้ ชายที่เมามากหัวเราะ เฮอะ เฮอะ ถึงขนาดพุ่งไปทางสวีเฟยหรงโดยตรง มือหมูเค็มก็จับไปทางหน้าอกอวบอิ่มของสวีเฟยหรง
ใบหน้างดงามของสวีเฟยหรงหนาวเหน็บ ยกเท้าเตะไปยังท้องของชายสร้อยทองใหญ่โดยตรง
ชายสร้อยทองใหญ่ถูกสวีเฟยหรงเตะจนถอยหลังสองก้าว กลับไม่โมโห เนื้อบนใบหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยไขมันกลับปรากฏรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความยั่วยวน “เฮอะ เฮอะ น้องสาว รุนแรงจริงๆนะ”
“ช่างน่ารังเกียจ!”สวีเฟยหรงรังเกียจด่าออกมาคำหนึ่ง หมุนตัวกำลังจะออกไป
“อีกะหรี่ มึงแกล้งทำอะไรวะ ใส่เซ็กซี่อย่างนี้ ก็ไม่ใช่ออกมาขายเหรอ? เฮียให้มึงสิบล้าน นอนเป็นเพื่อนเฮียสักคืน!” ชายสร้อยทองใหญ่ทั้งด่าทั้งบ่นเดินเข้าไปยื่นมือไปกอดเอวเซ็กซี่ของสวีเฟยหรง
“เพี๊ยะ”
สวีเฟยหรงไม่ได้เกรงใจกับเขา โต้ตอบกลับด้วยหนึ่งฝ่ามือ ตกอยู่บนใบหน้าของไอ้สร้อยทองใหญ่
หนึ่งฝ่ามือนี้สวีเฟยหรงใช้แรงสิบสองส่วน หน้าของชายสร้อยทองใหญ่บวมขึ้นมาโดยตรง
“เย็ดแม่ง! ไว้หน้าให้แต่ไม่เอา กูจะฆ่าให้มึงตาย!” หน้าถูกตบจนบวม ชายสร้อยทองใหญ่สีหน้าโมโหเต็มใบหน้าในทันที หยิบขวดเหล้าขึ้นมาก็ฟาดไปทางสวีเฟยหรง
ไม่ว่ายังไงสวีเฟยหรงก็ยังเป็นผู้หญิง ที่ไหนล่ะจะเคยเห็นสถานการณ์อย่างนี้ ตาเห็นขวดเหล้าของชายสร้อยทองใหญ่ฟาดตรงมาที่ตัวเธอเอง อยู่ในภายใต้ความตื่นตระหนกถึงขนาดแม้แต่จะหลบหนีก็ลืมไปเลย
ได้เพียงแค่ตาโตจ้องมองขวดเหล้าฟาดลงไปที่หน้าผากของตัวเธอเอง
สวีเฟยหรงหลับตาโดยสัญชาตญาณ แต่ขวดเหล้าที่รู้คิดไว้กลับไม่ได้ฟาดลงมาสักที
สวีเฟยหรงลืมตาขึ้นโดยอัตโนมัติ กลับมองเห็นมือใหญ่มือหนึ่ง จับขวดเหล้าที่จะฟาดลงมาอย่างแน่น
เจ้าของของมือใหญ่นั้น ก็คือเฉินเฟิงนั่นเอง
ผ่านไปเวลานานสวีเฟยหรงจึงรู้สึกตัวกลับมา ตัวเธอเองถึงขนาดถูกคนไม่เอาไหนอย่างเฉินเฟิงคนนี้ช่วยเหลือแล้ว
เฉินเฟิงใช้แรงเบาๆ แย่งขวดเหล้าออกจากมือของชายสร้อยทองใหญ่
“คุณเมาแล้ว” เฉินเฟิงจ้องมองชายสร้อยทองใหญ่ที่โกรธมากแต่ไม่มีที่ระบายหนึ่งที พูดอย่างเฉยเมย
“เมาแม่งสิ!” ชายสร้อยทองใหญ่อับอายและโกรธเต็มใบหน้า ไม่เอ่ยอะไรก็กำกำปั้นต่อยไปทางเฉินเฟิง
เฉินเฟิงส่ายหัว ยกเท้าเตะไปที่บนน่องของชายสร้อยทองใหญ่ เตะชายสร้อยทองใหญ่จนล้มดั่งสุนัขหน้าทิ่มปักโคลนโดยตรง จมูกไถไปกับพื้น
ริมฝีปากแดงของสวีเฟยหรงอ้านิดๆ คนไม่เอาไหนคนนี้ยังมีฝีมือเช่นนี้หรือ?
“เฟยหรงคุณเป็นยังไงบ้างแล้วล่ะ?” ในเวลานี้ ส้งจุนกับจ้าวโย่วที่ได้ยินเสียงวิ่งเข้ามา
“หมูอ้วนตัวนี้อยากจะลวนลามฉัน” มือทั้งสองข้างของสวีเฟยหรงกอดอก ชี้ไปยังชายสร้อยทองใหญ่ที่อยู่บนพื้นพูดอย่างเย็นชา
นัยน์ตาส้งจุนกวาดสีหน้าดุร้ายไป นับได้ว่าสวีเฟยหรงก็ยังเป็นแขกคนหนึ่งของเขา หมูอ้วนตัวนี้ ถ้าหากลวนลามสวีเฟยหรงไปแล้วจริงๆ ถือว่าไม่ใช่ตบหน้าเขาไปแล้วหรือ
“เย็ดแม่ง!” ส้งจุนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เท้าเหยียบอยู่บนแขนของสร้อยทองใหญ่โดยตรง
เสียง “กรอบแกรบ” ดังขึ้น
ชายสร้อยทองใหญ่ร้องอย่างทรมานออกมาเสียงหนึ่ง คาดว่ากระดูกแขนน่าจะถูกส้งจุนเหยียบแตกโดยตรงแล้ว
“แม้แต่พี่เฟยหรงก็ยังกล้าลวนลาม ช่างไม่รู้จักคำว่าตายเขียนยังไงแล้ว!” จ้าวโย่วก็เดินเข้ามาอีกเช่นกัน ยกเท้าเตะไปที่ใบหน้าของชายสร้อยทองใหญ่หลายที่
หลังจากต่อยเตะไปสักพักแล้ว ชายสร้อยทองใหญ่ที่น่าสงสาร เหลือเพียงแค่ลมหายใจเข้าไม่มีลมหายใจออกแล้ว
เฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ชายหลายคนนี้ลงมือจะไม่โหดเกินไปหน่อยเหรอ ตีคนจนถึงตายโดยตรง ดูเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่บนกายของชายสร้อยทองใหญ่นี้ ล้วนมียี่ห้อ ย่อมไม่ใช่เป็นบุคคลเล็กๆที่ไร้ชื่อเสียงอะไรแน่นอน
ถ้าหากว่าเกิดเรื่องจริงๆ ส้งจุนและคนอื่น เกรงว่าจะต้องเจอบทเรียนที่น่าดูเลยล่ะ
“พอประมาณก็พอแล้ว ตีต่ออีกก็จะตายเลย” เฉินเฟิงเตือนด้วยความหวังดี ไม่ใช่เขาสงสารชายสร้อยทองใหญ่ แต่ว่าถ้าชายสร้อยทองใหญ่ตายแล้วจริงๆ เขากับเสี้ยเมิ่งเหยาก็จะถูกพัวพันไปด้วย
“มึงยุแหย่อะไรล่ะ? ตีจนตายแล้วมึงก็ไม่ต้องรับผิดชอบด้วย” จ้าวโย่วจ้องมองเฉินเฟิงอย่างดูถูกหนึ่งทีแล้วพูด
“อย่าพูดถึงว่าตีไม่ถึงตาย แม้ว่าตีจนตายแล้วจริงๆ เรื่องนี้ผมก็สามารถจัดการให้เรียบร้อยได้” หนุ่มผอมสูงหวังไห่เทากล่าวมาประโยคหนึ่งอย่างราบเรียบ ระหว่างคำพูดความมั่นใจเต็มเปี่ยม
เฉินเฟิงส่ายหัว ไม่พูดอะไรอีก
ส่วนสวีเฟยหรงก็ถอนหายใจอยู่ในใจ มีความรู้สึกดีๆที่สะสมขึ้นมาต่อกับเฉินเฟิงอย่างไม่ง่ายดาย ก็หายไปในทันทีอีก เฉินเฟิงยังคงแย่เกินไปแล้ว ไม่มีสภาพที่ผู้ชายคนหนึ่งควรมีแม้แต่นิด
“ช่างเถอะ พวกเรากลับไปกินข้าวต่อเถอะ”สวีเฟยหรงพูดอย่างเบื่อหน่าย
“โอเค ทำตามพี่เฟยหรง” จ้าวโย่วยกเท้าเตะชายสร้อยทองใหญ่อย่างรุนแรงอีกหนึ่งที หัวเราะแล้วพูด
คนทั้งหลายกลับมาที่ห้องอีก หลังจากนั่งลงแล้ว ส้งจุนจ้องมองเฉินเฟิงอีกหนึ่งที กล่าวว่า “ถ้าหากว่าคุณกลัวล่ะก็ สามารถกลับไปก่อนได้”
เฉินเฟิง ยิ้มแล้ว ไม่ได้พูดอะไร วิธียุแยงของส้งจุนนี้ เล่นอย่างเล็กน้อยมาก