ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 336 รองผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ
บทที่ 336 รองผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ
“งานหาได้แล้วหรอ?”
“ยังครับ” เฉินเฟิงส่ายหัว ในใจแอบสงสัย นี่หวางหงอี้คิดว่าตัวเองจะมาพึ่งใบบุญเขาที่จงไห่นี่หรือไงกัน?
วินาทีต่อมา ความคิดเป็นจริง เห็นหวางหงอี้สะบัดมือบอก: “ในเมื่อยังไม่มี งั้นก็ไม่ต้องหาแล้วล่ะ เราไปทำงานที่บริษัทการค้าของอาเลยละกัน ฝ่ายจัดซื้อตอนนี้ขาดรองผู้จัดการพอดี เรามาทำงานให้อา อาให้เงินเดือนเดือนละหมื่นสอง”
รองผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ?
เงินเดือนเดือนละหมื่นสอง?
พอหวางหงอี้พูดแบบนี้ บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเงียบลงทันที
หลี่สื้อผิงกับหวางซือหยวนลอบสบตากัน หวางซือหยวนแอบอิจฉา ทำไมพ่อถึงดีกับไอ้บ้านนอกขนาดนี้?
หวางเต๋อฟาโกรธมาก พ่อทำเกินไปแล้ว ตัวเองเป็นลูกชายเขาแท้ๆ แต่กลับทำได้แค่รองผู้จัดการของบริษัทการค้า และคำแหน่งรองผู้จัดการนี่ตัวเองต้องพยายามตั้งหลายปีกว่าจะได้มา แต่เฉินเฟิงมาแป๊บเดียว พ่อก็ให้เป็นรองผู้จัดการเลย มันอะไรกันเนี่ย?!
“ไม่ได้!” เพิ้งเย้นฟางคัดค้านออกมาเลย โกรธเหมือนคางคกพองลม: “หวางหงอี้ ไอ้บ้านนอกนี่เป็นลูกนอกสมรสคุณหรือไงหะ? ทำไมต้องดีกับมันขนาดนี้?”
“ตำแหน่งรองผู้จัดการน่ะ หลานฉันขอคุณมาครึ่งปี คุณก็ไม่ยอมรับปากเขา”
“เรื่องอะไรไอ้บ้านนอกนี่มา คุณก็ให้มันไปทำ?”
“มันรู้เรื่องการค้าหรอ? มันเคยทำการค้าหรอ? คุณไม่กลัวมันทำบริษัทเจ๊งหรือไง?” เพิ้งเย้นฟางด่ากราดรัวไม่เว้นช่องไฟ
หวางหงอี้ขมวดคิ้วมุ่น ไม่คิดว่าเพิ้งเย้นฟางจะคัดค้านใหญ่เบอร์นี้
“เย้นฟาง หลานคุณนิสัยยังไงคุณน่าจะรู้ดีนะ เขาเหมือนลูกชายเรา เป็นนักพนันเหมือนกัน ถ้าผมให้เขาเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ไม่เกินหนึ่งเดือน เขาคงเอาบริษัทพนันหมดแน่” หวางหงอี้พูดเสียงขรึม
“หลานฉันไม่ได้? ไอ้บ้านนอกนี่ได้? คุณรู้ไหมเมื่อก่อนมันเคยทำอะไรมา?”
“มันเป็นพนักงานส่งของ!”
“คุณจะให้รองผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อกับคนที่เคยเป็นพนักงานส่งของเนี่ยนะ คุณคิดว่าคนอื่นในบริษัทเขาจะคิดยังไงกัน?” เพิ้งเย้นฟางคาดคั้น เธอยอมรับได้ที่หลานเธอไม่สามารถเป็นรองผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ แต่เธอยอมรับไม่ได้ที่จะให้เฉินเฟิงมาเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ
หวางหงอี้สีหน้าลำบากใจ คำพูดของเพิ้งเย้นฟางก็มีเหตุผล ถ้าเขาดื้อดึงให้เฉินเฟิงเป็นรองผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ คนอื่นในบริษัทคงคัดค้านเขาแน่ แน่นอนว่ามันไม่ดีกับเฉินเฟิงด้วย
อย่างน้อยเฉินเฟิงคงโดดเดี่ยวไม่น้อย
เฉินเฟิงขมวดคิ้ว อันที่จริงเขาไม่เคยคิดจะทำงานที่จงไห่เลย แต่หวางหงอี้เข้าใจเขาผิด คิดว่าเขามาจงไห่หาเขาครั้งนี้เพื่อมาหางานทำ
เฉินเฟิงกำลังจะบอกปฏิเสธ หลี่สื้อผิงกลับหัวเราะพลางแทรกขึ้นว่า: “คุณลุง ถ้าไงให้เฉินเฟิงมาทำงานที่บริษัทเราเถอะ”
“ช่วงนี้บริษัทเรากำลังหาคน ฝ่ายขายยังมีตำแหน่งว่างอยู่เพียบ”
“ผมจะบอกฝ่ายบุคคล ให้พวกเขารับเฉินเฟิงเข้าทำงาน”
หวางหงอี้ขมวดคิ้ว ข้อเสนอของหลี่สื้อผิงทำให้เขาเริ่มหวั่นไหว แต่ช่วงนี้หลี่สื้อผิงกำลังตามจีบหวางซือหยวน ถ้าเขารับปากหลี่สื้อผิง เท่ากับเขาติดสินน้ำใจหลี่สื้อผิงครั้งหนึ่ง…
หวางหงอี้คิดเยอะมาก แต่เพิ้งเย้นฟางกลับไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น เธอยิ้มร่าบอก: “สื้อผิง พูดจริงหรอ? มีทางให้ไอ้บ้านนอกนี่ไปทำงานที่บริษัท?”
หลี่สื้อผิงพยักหน้ายิ้มๆ: “จริงครับคุณน้า ตอนนี้ผมเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย ฝ่ายบุคคลนั่นผมสนิทอยู่พอดู ให้พวกเขารับคนเข้าทำงาน นี่ไม่ยากเลย”
“ดีดีดี งั้นรบกวนช่วยรับไอ้บ้านนอกนี่เข้าไปหน่อยนะ” เพิ้งเย้นฟางพูด ในสายตาเธอ เฉินเฟิงเป็นตัวซวย ถ้ามาทำงานที่บริษัทการค้าของตัวเอง อาจจะก่อเรื่องอะไรขึ้น แต่ถ้ายัดเข้าบริษัทหลี่สื้อผิงก็ดีกว่ามากนัก ถึงเวลานั้นเฉินเฟิงจะอยู่หรือไป ก็ขึ้นอยู่กับคำพูดคำเดียวของหลี่สื้อผิง
“คุณลุง ว่าไงครับ?” หลี่สื้อผิงเบนสายตากลับไปที่หวางหงอี้ เขารู้ดีว่า หวางหงอี้ถึงจะเป็นเสาหลักของตระกูลหวาง เรื่องใหญ่เรื่องเล็กของตระกูลหวางต้องให้หวางหงอี้ตัดสินทั้งสิ้น
หวางหงอี้ชะงักเล็กน้อยก่อนพยักหน้ารับปาก: “งั้นก็รบกวนด้วยนะ สื้อผิง”
“ไม่รบกวนเลยครับ เป็นเกียรติของผมมากกว่าที่ทำประโยชน์ให้คุณลุงได้” หลี่สื้อผิงส่ายหัว ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้มอบอุ่น ทำให้คนรู้สึกอ่อนไหว
“ดูสิ สื้อผิงนี่ปากหวานจริง” เพิ้งเย้นฟางชมเปาะไม่ขาดปาก
“จริงสิ สื้อผิง จะให้ไอ้บ้านนอกนี่ไปทำงานที่บริษัทเราน่ะได้ แต่อย่าให้ตำแหน่งสูงมากล่ะ เขาไม่มีความสามารถอะไร จะทำให้เราขายหน้าเปล่าๆ” เพิ้งเย้นฟางพูด หลี่สื้อผิงเป็นลูกเขยในอนาคตของเธอ ดังนั้นเอาจริงๆ พวกเธอเป็นครอบครัวเดียวกัน ให้เฉินเฟิงเข้าไปทำงานทำบริษัทหลี่สื้อผิงได้ แต่ถ้ามีผลกระทบกับผลประโยชน์ของหลี่สื้อผิง แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“คุณป้า ผมว่าเฉินเฟิงเขามีความสามารถนะ” หลี่สื้อผิงหัวเราะ จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า: “แต่มีความสามารถก็เรื่องหนึ่ง กฎของบริษัทก็อีกเรื่อง เพิ่งเริ่มเข้าบริษัท ไม่ว่าใครก็ต้องทำจากระดับพื้นฐานก่อน”
“ดังนั้นอย่างมากผมก็ให้เงินเดือนเฉินเฟิงได้แค่เดือนละสามพันห้าพัน”
หวางหงอี้ขมวดคิ้ว เงินเดือนเดือนละสามพันห้าพันถือว่าต่ำไปหน่อยในจงไห่
เหมือนรู้ว่าหวางหงอี้คิดอะไร หลี่สื้อผิงหัวเราะพลางว่า: “คุณอาหวางวางใจเถอะครับ มีผมคอยคุ้มครองเฉินเฟิง เขาจะเติบโตได้ไวแน่นอน”
“ไม่เกินครึ่งปี เงินเดือนจะเกินหมื่นแน่ครับ”
หวางหงอี้พยักหน้าน้อยๆ เห็นได้ชัดว่าพอใจ เขาเบนสายตาไปที่เฉินเฟิง: “เสี่ยวเฟิง เราว่าไงล่ะ?”
เฉินเฟิงยิ้มเหนื่อย ตอนนี้เขายังมีทางเลือกอีกหรือไง?
หวางหงอี้แสดงชัดว่าอยากช่วยเขาจริงๆ ถ้าเขาปฏิเสธความหวังดีของหวางหงอี้ คงทำเขาเสียหน้าแน่
“ผมได้หมดครับ” เฉินเฟิงคิดพิจารณาแล้ว และตัดสินใจรับปาก
ด้านหนึ่งเพื่อเห็นแก่หน้าหวางหงอี้ อีกด้านช่วงนี้เขาอยู่จงไห่ ต้องมีฐานะที่สามารถออกสู่สังคมได้
พนักงานตัวเล็กๆของบริษัท ไม่ดึงดูดสายตาคน สะดวกให้เขาจัดการเรื่องต่างๆ
“งั้นดี เฉินเฟิงพรุ่งนี้มารายงานตัวที่บริษัทละกัน ถึงผมจะสนิทกับผู้จัดการฝ่ายบุคคล แต่ขั้นตอนต่างๆก็ยังต้องทำ” หลี่สื้อผิงหน้ายิ้ม แต่แววตาส่อแววรังเกียจและเยาะหยันกลายๆ ถ้าไม่ใช่เพื่อจีบหวางซือหยวน เขาไม่คิดจะชายตาแลคนอย่างเฉินเฟิงสักนิด
“อืม พรุ่งนี้ผมจะไปรายงานตัวที่บริษัทคุณนะ” เฉินเฟิงพูดเสียงเรียบ เพิ้งเย้นฟางกับหลี่สื้อผิงคิดยังไงเขารู้ดี แต่เขาขี้เกียจเปิดโปงทั้งคู่ งั้นก็ให้ทั้งคู่เข้าใจว่าเขาเป็นแค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมียละกัน