ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 38 วงจรสมองที่แปลกๆ
บทที่ 38 วงจรสมองที่แปลกๆ
“ก็คือเขา! ลูก! คนไม่เอาไหนนี่ตอนนี้โอหังยิ่งนัก เมื่อกี้กูเดินดีๆอยู่บนถนน คนไม่เอาไหนนี้ ถึงกล้าอยากจะขับรถชนกูตาย กูไปเจรจากับเขา เขาไม่เพียงแค่ไม่มีเหตุผล ยังอยากจะตีกู ลูก ถ้าแกไม่มาอีก แม่อาจจะถูกคนไม่เอาไหนคนนี้ตีจนตายแล้ว!” ซุนกุ้ยฟางความน้อยใจเต็มใบหน้า ร้องไห้พูด
แค่ได้ยินว่าคนตรงหน้านี้คือเฉินเฟิงก็มีความมั่นใจอยู่ในใจลึกๆของหลินต้าจูนในทันทีนั้น สองปีนี้เขาไม่เคยไปบ้านเสี้ย แต่ชื่อเสียงของคนไม่เอาไหนเฉินเฟิงกลับยังเคยได้ยิน พูดได้ว่า ใครๆก็สามารถเหยียบอยู่บนหัวเฉินเฟิงขี้เยี่ยวได้ นึกถึงตรงนี้ใบหน้าของหลินต้าจูนก็เข้มลงในทันที เขาเย็นชาจ้องมอง เฉินเฟิงกล่าวว่า“เมื่อกี้ใช้มือไหนตีแม่กูหรือ?”
“หลินต้าจูน เฉินเฟิงเขาไม่ได้ลงมือกับแม่คุณ!” เสี้ยเมิ่งเหยาโมโหจนจะตายแล้ว ญาติของบ้านอื่นได้เจอเรื่องแบบนี้ ล้วนคือเรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กกลายเป็นไม่มีอะไร ซุนกุ้ยฟางกลับดีนะ กลัวว่าเรื่องจะก่อไม่ใหญ่พอ ยังเสริมเติมอยู่ที่นี่
“หุบปาก! กูไม่ได้ถามมึง! คนที่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา! ” หลินต้าจูนเหลือบตาเย็นชามองเสี้ยเมิ่งเหยาหนึ่งที เสี้ยเมิ่งเหยาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกับเขา แม้กระทั่งไม่ช่วยเขาพูด อีกทั้งยังยืนอยู่ฝั่งเฉินเฟิง
“คุณพูดว่าใครกินบนเรือนขี้รดบนหลังคาหรือ?” สีหน้าของเฉินเฟิงเย็นชาลงมา
จ้องมองสายตาที่เย็นชาของเฉินเฟิง หลินต้าจูนใจเต้นเล็กน้อยโดยไม่รู้สาเหตุ นี่ยังเป็นคนไม่เอาไหนที่แม้แต่จะพูดเสียงดังก็ไม่กล้าคนก่อนหน้านั้นหรือ?
“ยังไงหรือ?” เธอคือรุ่นพี่รุ่นน้องของผม เธอไม่ช่วยผมพูด กลับช่วยมึงที่เป็นคนนอกคนหนึ่ง นี่ไม่ใช่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคาคืออะไรล่ะ?!”ทุกคำพูดของ หลินต้าจูนพูดอย่างมีเหตุผล
เฉินเฟิงเกือบจะถูกคำพูดนี้โมโหจนอยากจะหัวเราะแล้ว เขาไม่รู้ว่านี่เป็นวงจรสมองอะไรของหลินต้าจูน ถึงขนาดรู้สึกว่าความใกล้ชิดของสามีสู้ไม่ได้กับรุ่นพี่รุ่นน้อง
“นั่นก็ใช่สิ ลูกชายของกูอย่างน้อยยังเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องของเมิ่งเหยามึงล่ะ? แค่เป็นคนไม่เอาไหนคนหนึ่งที่เกาะเมียในตระกูลเสี้ยกินเท่านั้น มึงมีสิทธิ์อะไรทะเลาะกันกับลูกชายกู!” ซุนกุ้ยฟาง มือสองข้างเท้าสะเอว มีหลินต้าจูนอยู่ข้างๆ เห็นได้ชัดว่าเธอมีความมั่นใจมาก
“ป้า! คุณพูดจามีความเกรงใจหน่อย! ” เสี้ยเมิ่งเหยาดูต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว“ไม่ต้องพูดถึงแท้ที่จริงแล้วเฉินเฟิงก็ไม่ได้เกาะเมียกิน แม้ว่าเขาเกาะเมียกิน ที่เกาะกินก็เป็นข้าวของบ้านเราเอง ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคุณ!”
หลังจากพูดจบแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาก็หันหน้าไปมองหลินต้าจูนอย่างเย็นชาหนึ่งที “ยังมีอีก หลินต้าจูน ฉันไม่มีรุ่นพี่รุ่นน้องอย่างคุณแบบนี้ ขอให้คุณหลังจากนี้อย่าติดธงอยู่บนใบหน้าของตนเอง!อยู่ในใจของฉัน ความสำคัญของเฉินเฟิงเทียบเท่ากับพวกคุณทั้งบ้าน ล้วนจะต้องเหนือกว่าสิบเท่าร้อยเท่า!”
คำพูดเหล่านี้ ในทันทีนั้นก็ทำให้สองคน โมโหไม่น้อย ซุนกุ้ยฟางยิ่งแค้นอับอายจนโกรธ ชี้ไปที่จมูกของเสี้ยเมิ่งเหยาเสียงแหลมด่าโดยตรงว่า“เสี้ยเมิ่งเหยามึงทำไมพูดอย่างนี้ล่ะ?! ในตายังมีคำว่าผู้ใหญ่ผู้น้อยสูงต่ำหรือหลินหลัน ก็สอนมึงพูดจากับผู้ใหญ่เช่นนี้หรือ?”
“ฉันไม่มีผู้ใหญ่อย่างพวกคุณเช่นนี้!” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดเสียงเย็นชา
“อะไรนะ?! ไม่มีผู้ใหญ่อย่างพวกกูเช่นนี้!” ซุนกุ้ยฟางโมโหรุนแรงจนเสียงยิ่งเพิ่มความแหลม หันหน้าไปมองหลินต้าจูน หนึ่งทีกล่าวว่า “ลูก ตบหน้า! คนต่ำต้อยคนนี้ให้แรงๆหลายทีให้กูหลินหลัน สั่งสอนลูกสาวเธอไม่ได้ กูจะมาสั่งสอนแทน!”
หลินต้าจูนเดินไปถึงต่อหน้าเสี้ยเมิ่งเหยายกมือขึ้นเตรียมตัวที่จะตบลงไป
“เพี๊ยะ”
เสียงตบหน้าเพี๊ยะดังขึ้น แต่คนที่ถูกตบไม่ใช่เสี้ยเมิ่งเหยาแต่ว่าเป็นหลินต้าจูน
หลินต้าจูนเอามือปิดหน้า เพียงแค่รู้สึกว่าหูดัง อึ้งอึ้ง ก็เหมือนดั่งเช่นมีแมลงวันหนึ่งหมื่นตัวบินอยู่
ซุนกุ้ยฟางก็อึ้งยืนอยู่ที่เดิม ความสงสัยเต็มใบหน้า คนไม่เอาไหน เฉินเฟิงคนนี้ ถึงกล้าที่จะลงมือตีคนหรือ? หลังจากที่รู้สึกตัวกลับมาแล้ว ในทันทีนั้นซุนกุ้ยฟางเสียสติ พุ่งไปที่เฉินเฟิง
“มึงมีสิทธิ์อะไรตีลูกกูหรือ?! กูสู้กับมึงเลย!”
“เพี๊ยะ”
เฉินเฟิง หัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง ไม่ได้เกรงใจซุนกุ้ยฟางแม้แต่นิด ตบหน้าซุนกุ้ยฟางจนล้มอยู่กับพื้นโดยตรง
ไม่ตีผู้หญิงหรือ?
ขออภัยจริงๆ สำหรับเฉินเฟิงนี้ ไม่มีกฎเกณฑ์นี้
“กูเย็ดแม่งมึง………” เห็นซุนกุ้ยฟางถูกตบหน้าล้มอยู่กับพื้น ในทันทีนั้นหลินต้าจูนก็หยิบท่อนเหล็กขึ้นมา ตาแดงพุ่งไปทางเฉินเฟิง
เสี้ยเมิ่งเหยาตาโต ก็อยากจะดึงเฉินเฟิงกลับมา ปกป้องเฉินเฟิงโดยสัญชาตญาณ
แต่ใครจะรู้ แท้ที่จริงเฉินเฟิงไม่มีคำว่ากลัว เขาไม่ถอยกลับก้าว เดินเข้าไปหน้าท่อนเหล็กของหลินต้าจูนโดยตรง
จากนั้นฉากที่ทำให้เสี้ยเมิ่งเหยาอ้าปากตาโตปรากฏออกมาแล้ว ท่อนเหล็กของหลินต้าจูนแฝงไว้ด้วยพลังแห่งสายฟ้า ฟาดไปที่ศีรษะของเฉินเฟิงแต่เฉินเฟิงแค่ยกมือขึ้นตามสบายก็จับท่อนเหล็กไว้ได้แล้ว
หลินต้าจูน ใช้แรงทั้งสองมือ สายตาโมโหเปิดกว้าง อยากจะดึงท่อนเหล็กออกจากมือของเฉินเฟิงแต่เขากลับพบเห็นว่า ตัวเขาเองแท้จริงแล้วไม่สามารถทำได้!
ก็เหมือนว่า ในร่างกายที่ดูเหมือนผอมโทรมของเฉินเฟิงแฝงไว้ด้วยพลังที่ไร้สิ้นสุด!
ใบหน้าหลินต้าจูนแดงระเรื่อ อีกทั้งเพราะว่าใช้แรงมากเกินไป หน้าผากล้วนมีเส้นเลือดโผล่ขึ้นมา
เฉินเฟิงยิ้มอย่างดูถูก ใช้แรงเบาๆ ก็แย่งท่อนเหล็กที่อยู่ในมือของหลินต้าจูนออกมาแล้ว จากนั้นเขาจับแขนของหลินต้าจูนไว้ โยนข้ามไหล่อย่างไม่ลังเล ฟาดหลินต้าจูนที่ไหล่ใหญ่เอวกลมลงไปบนพื้นโดยตรง
เฉินเฟิงมีฝีมือเช่นนี้ได้ยังไงหรือ?! ความตื่นตะลึงในเวลานี้ของเสี้ยเมิ่งเหยา เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ แต่งงานกันไปแล้วสามปี เธอเพียงแค่รู้สึกว่าเฉินเฟิงก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง อย่าเพิ่งพูดถึงเลยมือแม้แต่จะให้ไปผูกไก่ก็ไม่มีเรี่ยวแรง ก็แตกต่างกันไม่มากกว่านี้ แต่ว่าวันนี้เฉินเฟิงกลับแสดงพลังการต่อสู้ที่เหนือกว่าคนธรรมอยู่ต่อหน้าเธอ
สามารถทำให้คนโหดร้ายที่ต่อสู้อยู่บนถนนมาโดยตลอดอย่างหลินต้าจูนแบบนี้ ล้มลงอย่างง่ายดาย เฉินเฟิงย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
หลินต้าจูนที่นอนอยู่บนพื้น ในเวลานี้เพียงรู้สึกว่ากระดูกทั้งตัวเหมือนแตกกระจายไปหมดเลย ต่อเฉินเฟิงทั้งเกลียดทั้งกลัว เขาไม่ค่อยเข้าใจ คนไม่เอาไหนที่ทุกคนล้วนรังแกได้อย่างนี้ ทำไมจู่ๆจะมีพลังที่น่ากลัวเช่นนี้ขึ้นมา
“ฆ่าคนแล้ว ฆ่าคนแล้วล่ะ! สัตว์เดรัจฉานที่สูญเสียมโนธรรมตัวนี้ รังแกลูกกำพร้าหญิงหม้ายอย่างพวกเราล่ะ”
“ทุกคนรีบมาจัดการหน่อยเถอะ”
“ถ้าไม่มีคนสนใจพวกเราอีก พวกเราก็จะถูกสัตว์เดรัจฉานตัวนี้ตีจนตายแล้วล่ะ”
เห็นหลินต้าจูนล้วนไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับเฉินเฟิง ซุนกุ้ยฟางหมุนลูกตา เริ่มร้องไห้อย่างรุนแรงทันที แกล้งทำเป็นสภาพที่ความทุกข์ทรมานยิ่งใหญ่ความแค้นลึก หวังจะดึงดูดสายตาคนเดินผ่านให้สังเกต
พูดได้ว่า วิธีนี้ของซุนกุ้ยฟางได้ผลมาก ชอบดูความคึกคักคือนิสัยเดิมของคนในประเทศ การร้องไห้นี้ของเธอ ก็มีคนล้อมรอบขึ้นมาไม่น้อย รวมตัวกันในทันที
“ทุกคนช่วยฉันด้วยเถอะ สัตว์เดรัจฉานที่ฆ่าพันมีดตัวนี้ สองปีก่อนเขายืมเงินพวกเราห้าแสน พูดตลอดเวลาว่าจะคืนทันที จะคืนทันที แต่ว่าสองปีผ่านไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังไม่คืนฉันแม้แต่บาทเดียว วันนี้ยังจะขับรถชนฉันตาย!”
“ลูกชายของฉันทนดูไม่ไหว อยากจะเข้ามาช่วยฉัน ยังถูกสัตว์เดรัจฉานตัวนี้ตีอย่างโหดร้าย”
“ฟ้าดินยังมีกฎระเบียบหรือไม่! ใครจะมาช่วยเราแม่ลูกทั้งสองล่ะ! ”
ซุนกุ้ยฟางพูดทั้งน้ำมูกน้ำตา
“เธอพูดเหลวไหลอะไรอยู่ ทุกคนอย่าเชื่อเธอ!” เสี้ยเมิ่งเหยาโมโหจนหน้าอกสั่น ซุนกุ้ยฟางแสดงให้เธอเห็นอีกครั้ง อะไรเรียกว่าทำตัวต่ำต้อยก็คืออยู่อย่างคงกะพันธ์
แต่คนข้างทางหลายคนกลับไม่เชื่อแม้แต่นิด ออดี้ 6ของเฉินเฟิงก็จอดอยู่ที่ข้างๆ หลินต้าจูนที่นอนอยู่บนพื้นยังร้องอยู่ บวกกับซุนกุ้ยฟางที่มีความทุกข์ทรมานยิ่งใหญ่ความแค้นลึกอีก ใครๆก็จะจินตนาการถึง บทละครที่ซุนกุ้ยฟางแม่ลูกถูกรังแกเรื่องหนึ่งออกมา