ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 84 คุณชายเฉินได้โปรดไว้ชีวิต
บทที่ 84 คุณชายเฉินได้โปรดไว้ชีวิต
เฉินเฟิงยังไม่ได้เอ่ยพูด หลินต้ายงก็ทรุดตัวคุกเข่าลงบนพื้น จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้น “คุณชายเฉิน ได้โปรดไว้ชีวิต ผมยังมีแม่ที่อายุสูงถึงแปดสิบปี แล้วยังมีลูกน้อยอายุสามขวบ ผมไม่มองตาม้าตาเรือเอง……”
เฉินเฟิงนวดขมับของตัวเอง แล้วไม่ได้พูดอะไรออกมา ทำไมหลินต้ายงต้องเป็นแบบนี้
“ไปเถอะๆ ฉันก็ไม่ได้คิดจะหาเรื่องแก” เฉินเฟิงผายมือแล้วพูดขึ้น เขาไม่ได้คิดจะหาเรื่องหลินต้ายงแล้วอยู่ มันตกต่ำเกินไป
“ขอบคุณคุณชายเฉินครับ!” หลินต้ายงแทบจะออกจากที่นั่นทั้งคลานและกลิ้งไป ในใจกำลังคิดจะถามบรรพบุรุษชั่วสิบแปดรุ่นของจวงเห่าหยินอยู่แล้ว
จวงเห่าหยินที่อยู่ข้างหลังทำสีหน้าที่ขาวซีด น่องเล็กและท้องเริ่มสั่นเทา
สีหน้าของโจวจิ่งเหวินก็ไม่ได้ดูดีถึงไหน ถ้าเฉินเฟิงเป็นประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้าหลงก็ค่อยยังดี ก็ยังสามารถเห็นแก่หลายปีนี้ที่เขาได้ทำอะไรมากมายไว้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้าหลง ต่อให้เขาไม่ได้สร้างประโยชน์อะไร แต่อย่างน้อยเขาก็ออกแรงและลำบากมามาก แล้วยังปล่อยเขาไปได้
แต่ประเด็นคือ เฉินเฟิงไม่ใช่ท่านประธานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้าหลง!
ตำแหน่งของเขา มันเหนือกว่าท่านประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้าหลงอีก! เฉินเฟิงจะกำจัดเขา ก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรเลย!
“เฮียจวง แกยังจะกินไฟข้างถนน……” เฉินเฟิงไม่ได้โจวจิ่งเหวิน ทว่ากลับมองจวงเห่าหยินเหมือนยิ้มและเหมือนไม่ยิ้ม
จวงเห่าหยินอยากร้องไห้ ตีให้ตายยังไงเขาก็นึกไม่ถึง เฉินเฟิงที่เขาเจอตอนนั้นอยู่บนรถไฟจะเป็นบุคคลสำคัญขนาดนี้ ทำให้เห็นอย่างชัดเจน บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้าหลงที่เขาไม่มีวันเอื้อมถึง จะเป็นกิจการของเฉินเฟิง
และเขายังพูดจาโอ้อวด บอกให้เฉินเฟิงแจ้งชื่อของเขา แล้วจะหางานให้เฉินเฟิง
“คุณชายเฉิน ได้โปรดยกโทษ……” จวงเห่าหยินทรุดลำตัวคุกเข่าลงทันที
“ผมตาไม่ดีที่มองคุณต้อยต่ำ คุณเป็นผู้สูงส่ง ถือว่าผมไม่ได้พูดอะไรออกมาแล้วกัน…….” จวงเห่าหยินพูดไปแล้วก็ตบตัวเอง เขาใช้แรงตบตัวเองแรงมากจริงๆ ทำให้เสียงตบดังขึ้นไม่หยุด
“ท่านประธานเฉียวครับ ผมก็ไม่ควรตามใจน้องชายของผม เลยทำให้เขากล้าดีมากขนาดนี้ แม้กระทั่งคุณชายเฉินยังกล้ามีเรื่องด้วย เชิญท่านประธานเฉียวลงโทษเขาได้เลยครับ” โจวจิ่งเหวินพูดด้วยเสียงเรียบเฉย เวลานี้เขาเองก็ยังไม่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง เรื่องที่มันเกิดขึ้นทั้งหมด มีเพียงวิธีเดียวก็คือการยอมรับผิดด้วยตัวเองก่อน จะได้มีโอกาสรอดได้
เฉียวเสี่ยวโย่วไม่ได้สนใจโจวจิ่งเหวิน, สายตาคู่นั้นจับจ้องไปยังเฉินเฟิง แค่เฉินเฟิงเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้
“พอเถอะ ไสหัวไปเถอะ” เฉินเฟิงเอ่ยพูดด้วยเสียงนิ่งเฉย เขาก็ขี้เกียจไปเรียกร้องอะไรจากจวงเห่าหยิน เชื่อว่าหลังจากเรื่องนี้ เขาก็คงไม่กล้าเป็นบ้าขนาดนี้อีก
คนที่มีนิสัยแย่ขนาดนี้ ยากที่จะมีชีวิตที่ยืนยาว
“คุณชายเฉิน ขอบคุณครับ! ขอบคุณคุณชายเฉินมากนะครับ!” จวงเห่าหยินรู้สึกขอบคุณจนน้ำตาไหล ทีแรกวันนี้ก็นึกว่าเฉินเฟิงจะหักขาเขาสักอีก เพื่อเป็นการลงโทษ เฉินเฟิงกลับใจกว้างกับเขาขนาดนี้
จริงๆ แล้วจวงเห่าหยินไม่รู้ว่าใช่ ไม่ได้เป็นเพราะว่าเฉินเฟิงใจดี ทว่าเฉินเฟิงรู้สึกว่า ถ้าไปเรียกร้องอะไรกับคนที่มีนิสัยเสียแบบนี้ ก็ต้องอะไรหลายอย่าง
“โจวจิ่งเหวิน หลังจากที่กลับไป คุณไปรายงานตัวที่แผนกโลจิสติกส์ได้เลย” เฉียวเสี่ยวโย่วมองโจวจิ่งเหวินด้วยสายตานิ่งเฉย จากนั้นก็เอ่ยพูด เฉินเฟิงไม่เรียกร้องอะไรจากโจวจิ่งเหวินได้ ทว่าเขากลับต้องให้หน้าเธอ
แผนกโลจิสติกส์? แล้วมันต่างอะไรจากการที่ไล่เขาออกจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้าหลงล่ะ? โจวจิ่งเหวินทำสีหน้าที่หม่นหมอง ทว่าปากของเขายังคงพึมพำขึ้น “ขอบคุณครับท่านประธานเฉียว”
“คุณชายเฉิน เราขึ้นรถกันเถอะคะ วิลล่าที่คุณเข้าพักที่จินหลิง ดิฉันได้มอบหมายให้คนไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว” เฉียวเสี่ยวโย่วยิ้มพลางเอ่ยพูดขึ้น
“ไม่ต้องหรอก หาโรงแรมแถวนี้ แล้วส่งเราไปก็พอ” เฉินเฟิงส่ายหัวพลางพูดขึ้น เขายังต้องคิดหาวิธีตามหากู้ตงเชิน แน่นอนว่าเขาห้ามทำตัวสูงส่งเกินไป ถ้าทำให้ตระกูลไป๋สังเกตเห็นก็คงไม่ดี
“ครับ คุณชายเฉิน” ถึงแม้จะสงสัย ทว่าเฉียวเสี่ยวโย่วก็ไม่กล้าถามมาก
จากนั้นก็เชิญเฉินเฟิงและอาเหาไปนั่งอยู่บนรถโรสส์-รอยซ์ที่มีป้ายทะเบียนเป็นเลขแปดสี่ตัว
หลิ่วอีอีที่อยู่ข้างนอก ก็เห็นรถโรสส์-รอยซ์เดินจากไป จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเหมือนถูกปลดปล่อย เธอกลัว กลัวว่าเฉินเฟิงที่ชอบถือสา จะมาหาเรื่องเธอ
เวลานี้ ก็ได้คิดถึงเฉินเฟิงตอนที่ทำสีหน้าที่ไม่สนใจเธอในครั้งก่อน หลิ่วอีอียังคงรู้สึกอับอายและโกรธเคืองมากๆ คนอื่นไม่ได้คิดลึกอะไรกับเธอเลย มีแค่เธอที่คิดไปเอง
หลังจากที่รถโรลส์-รอยช์จากไปสิบนาทีก็มีปอร์เช่หนึ่งคันมา
พอเห็นรถปอร์เช่ ใบหน้าอันสะสวยของหลิ่วอีอีจึงจะได้สติกลับมา
“ลูกรัก คุณไม่เป็นไรใช่ไหม” มีผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังดูสาวแต่งตัวหรูคนหนึ่งลงจากรถ จากนั้นก็เดินมาตรงหน้าหลิ่วอีอี
หลิ่วอีอีส่ายหน้า แล้วพูดขึ้น “แม่ หนูไม่เป็นไรค่ะ”
“ลูกรัก หนูไม่ได้บอกว่าเมื่อกี้ตอนอยู่บนรถไฟเจอคนชั่วไม่ใช่หรอ? พวกเขาทำอะไรหนูหรือเปล่า? บอกแม่ แม่จะไปจัดการพวกมัน!” หญิงวัยกลางคนถามขึ้น
หลิ่วอีอีทำหน้าแดงก่ำแล้วพูดขึ้น “แม่ ไม่มีอะไรแล้วค่ะ หนูเข้าใจคนผิดไปเอง”
“จริงหรอ?” หญิงวัยกลางคนมองด้วยความสงสัย
หลิ่วอีอีจึงรีบส่ายหัวทันที “ไม่มีจริงๆ ค่ะ”
“ใช่แล้ว แม่ หนูรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเฉียวเสี่ยวโย่วคือใคร?” หลิ่วอีอีถามขึ้น เฉินเฟิงมีเบื้องหลังอะไรกันแน่
“เฉียวเสี่ยวโย่ว?!” สีหน้าของหญิงวัยกลางคนเปลี่ยนไป แล้วรีบถามขึ้น “ลูก ลูกถามผู้หญิงคนนี้ทำไม ลูกไปมีเรื่องอะไรกับคนอื่นเขา?”
หลิ่วอีอีหัวเราะอย่างขมขื่น “เปล่าค่ะ หนูเพิ่งเห็นเธอพาคนพวกหนึ่งมา แล้วมารับคนที่นี่…….”
“เบื้องหลังของเฉียวเสี่ยวโย่ว แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ทว่าก็เคยได้ยินปู่ของหนูเคยพูดคำๆ หนึ่ง เบื้องหลังของเธอยิ่งใหญ่จนทำให้คนตกใจได้ ตระกูลที่อยู่เบื้องหลังของเธอ เป็นตระกูลร่ำรวยติดหนึ่งในห้าของทั้งหวาเซี่ย” หญิงวัยกลางคนรู้สึกแปลกใจ หรือว่ามีคนในตระกูลที่อยู่เบื้องหลังของเฉียวเสี่ยวโย่วมาจินหลิง?
“เป็นคนที่ยิ่งใหญ่?” หลิ่วอีอีรู้สึกตกใจ ทีแรกเธอประเมินฐานะของเฉินเฟิงให้สูงอยู่แล้ว นึกไม่ถึงว่าเธอประเมินเขาต่ำเกินไป ในทั้งหวาเซี่ย ได้ติดอันดับห้าอันดับ จึงไม่ต้องพูดถึงว่าจะร่ำรวยขนาดไหน
“ลูก ลูกอย่าคิดมากขนาดนั้น ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุอะไร ตระกูลของเรา ทั้งชีวิตของเราก็คงไม่ต้องไปมีความสัมพันธ์อะไรกับพวกเขา รีบกลับบ้านกับแม่ คุณชายไป๋ยังรอหนูที่บ้าน” หญิงวัยกลางคนรีบพูดขึ้น
“ไป๋กว่างยี่?” หลิ่วอีอีทำสีหน้าที่ขมขื่น “แม่ หนูไม่อยากเจอเขา”
ไป๋กว่างยี่เป็นคู่นัดบอร์ดที่ที่บ้านหาให้ ทว่าหลิ่วอีอีไม่ได้รู้สึกดีใจกับไป๋กว่างยี่เลยสักนิด ไป๋กว่างยี่เป็นลูกผู้ลากมากดีที่โด่งดังเรื่องมั่วสุม ไม่เอาการเอางานในจินหลิง แค่มหาวิทยาลัยจินหลิงของพวกเธอ ก็มีผู้หญิงที่ถูกเขาทำให้ท้องไปประมาณสิบกว่าคน หลิ่วอีอีเกลียดผู้ชายที่หวังแต่จะฉวยโอกาสลวนลามผู้หญิงที่สุด
“ลูกรัก ลูกกำลังพูดอะไรอยู่! พ่อของหนูไม่ง่ายเลยที่จะแนะนำหนูให้คุณชายไป๋ เวลานี้ถ้าแกไม่ไปเจอเขา ไม่ใช่ว่าแกกำลังจะทำให้พ่อต้องลำบากหรอ? คุณชายไป๋ ยังไงแกก็ต้องให้หน้าเขา” หญิงวัยกลางคนพูดอย่างจริงจัง ตระกูลหลิ่วมีฐานะทางครอบครัวที่อยู่ในระดับสามเท่านั้น และตระกูลไป๋กลับเป็นตระกูลที่มีฐานะลำดับสอง ต่อให้เป็นครอบครัวระดับสอง ตระกูลไป๋ก็ถือว่าเหนือกว่าใครๆ สามารถบอกได้ว่า ตอนนี้ครอบครัวหลิ่ว กำลังคิดจะจับตระกูลไป๋อยู่
“แต่ว่า ไป๋กว่างยี่เขา……” หลิ่วอีอีเบะปากน้อยๆ เธออยากบอกว่าไป๋กว่างยี่มีสาวเยอะ