ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 130 พบอาจารย์อีกครั้ง
ขนมเปี๊ยะที่ถูกบดอยู่บนพื้น ทั้งสี่คนได้สติกลับมาแล้ว โดยเฉพาะหยวนเจียง เขามองไปยังคนตรงหน้าด้วยสายตาเหลือเชื่อ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะจากไป เขาถึงได้เงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“อาจารย์!” เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง เขากำลังฝันไปหรือเปล่า อีกฝ่ายคืออาจารย์ที่หายตัวไปกว่าหมื่นปี เขารู้สึกเพียงร้อนผ่าวที่ดวงตา อยากจะร้องไห้ออกมา “ท่านจริงๆ หรืออาจารย์…ศิษย์…ศิษย์ได้พบท่านแล้ว พวกข้าตามหาท่านเป็นหมื่นปี ในที่สุด…”
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ได้ยินเยี่ยยวนหันกลับมาพูด
“เจ้าเป็นใคร”
แคร๊ก!
เหวินชิง: “…”
เถิงสี: “…”
หัวหน้าห้อง: “…”
เอ่อ เหมือนได้ยินเสียงอะไรแตกออกจากกัน!
ส่วนเยี่ยยวนอุ้มศิษย์หลานที่สลบไปแล้วหันหลังเดินออกไปข้างนอก หลังจากออกจากประตูห้องอาหาร เขาก็พบไป๋อวี้ที่นอนสลบอยู่ไม่ไกล ทันใดนั้นขมวดคิ้วครุ่นคิด ก่อนจะส่งพลังออกไป
อีกฝ่ายฟื้นตื่นขึ้นมาอย่างตกใจ เขากวาดตามองไปรอบด้าน ก่อนที่สายตาจะจับจ้องไปยังคนที่อุ้มคนอยู่ “เอ๊ะ! อาจารย์ปู่ เจ้าหนูกลับมาแล้วหรือ”
“ขวางอยู่ทางนี้ทำไม หลบออกไป!” เยี่ยยวนพูดเสียงเย็น
“อ้อ” ไป๋อวี้หลบออกไปเล็กน้อย ก่อนที่จะนึกอย่างหนึ่งขึ้นได้…เดี๋ยว! เมื่อกี้ตอนที่เขากำลังจะเข้าประตูได้ถูกพลังโจมตีจนสลบไป อีกทั้งพลังนั้นเป็นของอาจารย์ปู่! ใช่อย่างแน่นอน!
ตัวเองโจมตีไม่ดู โทษข้า?
อีกฝ่ายอุ้มคนเดินจากไปอย่างเรียบเฉย
ชายแก่น้อยใจ แต่ชายแก่ไม่พูด
(ಥ_ಥ)
——————
ยอดเจดีย์
“เจ้าคือหยวนเจียง?” เยี่ยยวนขมวดคิ้ว กวาดตาขึ้นลงมองคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนรูปร่างของเจ้ากว้างกว่านี้ ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นเช่นนี้” หรือว่าเหมือนที่ศิษย์หลานพูดประจำว่าลดความอ้วนสำเร็จแล้ว?
หยวนเจียงปากกระตุก ใบหน้าที่แขวนรอบยิ้มอ่อนโยนมีรอยร้าวในทันใด แต่เขาก็ยังตอบตามความจริง “ตอบอาจารย์ คนที่อ้วนคือศิษย์น้องห้า”
“อย่างนั้นหรือ” เยี่ยยวนไม่รู้ตัวว่าจำคนผิดแม้แต่น้อย ก่อนจะพูดต่อ “เช่นนั้นเจ้าก็คือคนที่ตัวใหญ่กว่า?”
“อาจารย์ คนนั้นคือศิษย์น้องเจ็ด”
“คนที่ตัวสูงสุด”
“…นั่นคือศิษย์น้องสี่”
“คนที่ตัวเตี้ยสุด”
“…นั่นคือศิษย์น้องหก”
“คนที่แก่สุด”
“นั่นคือศิษย์น้องเล็ก เหวินชิง” เขาหันไปมองด้านขวา “เขาอยู่ข้างข้า”
เหวินชิง: “…”
รู้สึกเหมือนโดนปืนยิงอย่างไรไม่รู้ แก่แล้วทำไมกัน?! เขาเรียกหนักแน่น!
“ช่างเถอะ!” คิ้วของเยี่ยยวนขมวดมุ่น ความรังเกียจในสายตาจะล้นออกมาอยู่แล้ว โง่ก็พอแล้วยังจำยากขนาดนี้อีก “ทำไมพวกเจ้าถึงปรากฏอยู่ที่นี่อย่างอนาถเช่นนี้!”
หยวนเจียงและเหวินชิงสีหน้าเปลี่ยนไป สบตากันหนึ่งที ก่อนจะพูดอย่างระมัดระวัง “ที่จริงแล้วพวกข้าก็อาศัยศิษย์อวิ๋น…” เขากำลังจะพูดว่าศิษย์หลาน ทันใดนั้นได้รับการถลึงตาใส่ ทันใดนั้นตัวสั่นไปเล็กน้อย ยังดีที่สมองของเขาว่องไว นึกถึงคำเรียกของเหวินชิงจึงรีบเปลี่ยนคำ “ต้องขอบคุณศิษย์อวิ๋น ที่ถูกอาจารย์ท่านเรียกกลับมาจากยมโลก”
“ยมโลก?!” เยี่ยยวนจับประเด็นสำคัญได้ รังสีอำมหิตเริ่มแผ่ออกมาจากตัวอย่างบ้าคลั่ง ทันใดนั้นบริเวณรอบข้าหนาวเหน็บราวกับฤดูหนาว สายตาจ้องเขม็งไปยังทั้งสองคน “ข้าจำได้ว่า ข้าตักเตือนพวกเจ้าไปเมื่อไม่นานนี้!” ทำหูทวนลมกันหรือไง
“ขออภัยอาจารย์!” ทั้งสองคนรีบคุกเข่าลงไป เหวินชิงที่อยู่ด้านข้างรีบอธิบาย “ศิษย์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของยมโลก เพียงแต่รับปากศิษย์อวิ๋นว่าจะสืบเรื่องของชือเซียวในเมืองทางตะวันตกให้กระจ่าง ดังนั้นถึงได้ไปยมโลก ไม่คิดว่าถูกกับดักจนเกือบไม่รอด โชคดีที่ศิษย์อวิ๋นปรากฏตัวช่วยพวกข้าออกมา”
เยี่ยยวนขมวดคิ้ว ก่อนจะเก็บพลังเย็นบนตัว “เจ้าบอกว่า…ศิษย์หลานข้าไปยมโลกเอง?”
“อืมๆ” เหวินชิงพยักหน้าอย่าง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตนเอง
หยวนเจียงอธิบายขึ้น “สถานการณ์ในยมโลกมีความผิดปกติ มีคนปลอมตัวเป็นยมราช แม้แต่ข้ากับศิษย์พี่ยังแยกไม่ออก คงจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว ส่วนศิษย์อวิ๋นปรากฏตัวในยมโลกได้อย่างไร พวกข้าไม่รู้จริงๆ”
เยี่ยยวนเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้น “ช่างเถอะ เธอยังพักผ่อนอยู่ อย่าเพิ่งไปปลุก เรื่องนี้พรุ่งนี้ค่อยถามเถอะ”
หยวนเจียง: “…”
เหวินชิง: “…”
ทำไมถึงปลุกศิษย์หลานไม่ได้ แต่พวกเขาบาดเจ็บสาหัสยังต้องคุกเข่ารับโทษ!
“พวกเจ้าลงไปเถอะ” เยี่ยยวนไล่คนไปด้วยความรังเกียจ กวาดตามองทั้งสองคนก่อนจะพูดเสริม
“บาดแผลของพวกเจ้า รอพรุ่งนี้ให้ศิษย์หลานรักษาให้”
ทั้งสองคนดีใจขึ้นมาในทันใด มีความรู้สึกอยากร้องไห้ อาจารย์ยังห่วงใยพวกเขาอยู่ กำลังจะตอบรับ กลับได้ยินเขาพูดเสริมขึ้น
“อย่าลืมให้เงิน!”
ทั้งสองคน: “…”
ทำไมรู้สึกอาจารย์แค่อยากหาเงิน ไม่ได้ใส่ใจพวกเขา ไม่! ต้องเข้าใจผิดเป็นแน่ อาจารย์ของพวกเขาไม่มีทางใจร้ายเช่นนี้!
“จริงสิ” เขานึกบางอย่างขึ้นได้ กระแอมไอทีหนึ่ง “แค่ก…พวกเจ้าลงไปแล้ว นำเอาขวดขนาดกลางในห้องไป๋อวี้ขึ้นมา” พูดจบก็หายตัวเข้าไปในป้ายบูชา”
ขวดอะไรสำคัญเช่นนี้หรือว่าเป็นอาวุธที่อาจารย์หลอมขึ้นมาใหม่ ศิษย์พี่ศิษย์น้องสีหน้าฉงน แต่ก็ยังเข้าไปในห้องของไป๋อวี้ตามคำสั่ง เดิมทีคิดว่าหยิบของง่ายๆ แต่ไม่คิดว่าไป๋อวี้คัดค้านอย่างมาก!
“ไม่ได้!” ไป๋อวี้กอดขวดสีน้ำตาลนั้นไว้ ไม่ยอมปล่อยมือแม้แต่น้อย ไร้สิ้นท่าทางเขารำก่อนเข้าห้อง ส่งสายตามองทั้งสองคนราวกับมองศัตรู
“ไม่ได้เด็ดขาด! ทำไมต้องหยิบของข้า พวกท่านให้อาจารย์มาเอง ทำไมถึงไม่มีเหตุผลเช่นนี้! ขวดนี้เจ้าหนูแบ่งให้ข้ามา บนนี้ยังเขียนชื่อของข้าอยู่…ไป๋อวี้! มันคือของข้า!”
ทั้งสองคนตกใจกับท่าทางของเขาอย่างมาก สบตากันอยู่สักพัก ถึงได้พูดขึ้น “ศิษย์หลาน นี่เป็นคำสั่งของอาจารย์ พวกข้าไม่อาจคัดค้านได้!”
“ข้าไม่ฟัง!” ไป๋อวี้พูด “ไม่ได้กินข้าวเพราะเจ้าหนูหลับ ก็มาแย่งของข้า! ลูกศิษย์แล้วทำไม ลูกศิษย์กินข้าวสารบ้านท่านหรือไง ข้าวสารในอารามเจ้าหนูเป็นคนซื้อทั้งนั้น!” ไม่สน อย่างไรเขาก็ไม่ให้ เขายังไม่ได้กินข้าวเลย!
ทั้งสองคนไม่มีวิธี หยวนเจียงครุ่นคิด ก่อนจะกัดฟันหยิบอาวุธชั้นดีออกมา “ศิษย์หลานไป๋ นี่เป็นอาวุธชั้นดีที่ข้าใช้ไฟสวรรค์หลอม ข้าเห้นว่าเจ้ากำลังฝึกคาถาเสวียนซินอยู่ ใช้อาวุธนี้เป็นอาวุธประจำตัวพอดี ข้าแลกกับเจ้าได้หรือไม่”
ไป๋อวี้ผงะ มองดูอาวุธที่เต็มไปด้วยพลังเทพในมือเขา ก่อนจะมองขวดขนมในอ้อมอก
ครึ่งวันยังไม่ได้สติกลับมา
อาวุธเทพ…แลกขนม!
Σ(°△°|||)︴
อาจารย์ทั้งสอง…โง่หรือเปล่าเนี่ย?
“ได้สิ…ให้!”
“…”