ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 338 ล้วงความลับอย่างมีสติ
อวิ๋นเจี่ยวที่กำลังตรวจการบ้านมองไปยังชาวสวนอิ้งที่พิงอยู่ริมหน้าต่างด้วยสีหน้าฉงน ก่อนจะตอบกลับ “ไม่เหมาะสม”
“ฮะ?” ชาวสวนอิ้งผงะไป ไม่เหมาะสมอะไรกัน นางกับเยี่ยยวนไม่เหมาะสมเหรอ นางจะทิ้งเยี่ยยวน? เรื่องนี้เขาสนับสนุน!
แต่เขากลับได้ยินอวิ๋นเจี่ยวพูดขึ้น “ตอนนี้ไม่เหมาะสมที่จะไปดินแดนปีศาจ” สามโลกเพิ่งทำสงครามกับเผ่าปีศาจไป ถึงแม้ภายนอกจะดูเหมือนว่าพวกเขาชนะ แต่ดินแดนปีศาจมีความสามารถเพียงใด พวกเขาไม่อาจรู้ได้ สิ่งที่เธอเป็นกังวลยิ่งกว่าคือ สงครามที่ดูเหมือนว่าทั้งสองโลกจะพยายามอย่างสุดกำลังนั้น อันที่จริงแล้วเป็นการเคลื่อนไหวที่มาจากปีศาจเลือดเพียงตัวเดียว หากเป็นเช่นนั้นคงจะน่ากลัวอย่างยิ่ง!
“ผู้ที่ลงคำสาปต่ออาจารย์ปู่คือเทพปีศาจ ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ แต่อีกฝ่ายคงจะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในดินแดนปีศาจ ไม่ว่าข้าจะเอาชนะเขาได้หรือไม่ แต่สามโลกก็ไม่อาจต้านทานปีศาจเลือดได้อีกตัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเทพปีศาจ!”
ผลลัพธ์จากการเป็นฝ่ายหาเรื่องดินแดนปีศาจ ไม่เพียงแต่อาจารย์ปู่จะตื่นขึ้นมาได้หรือไม่เท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึงความพร้อมในการรับมือกับดินแดนปีศาจของเสวียนเหมินและสามโลก
“แต่เจ้าย่อมรู้ว่าหากเยี่ยยวนตื่นขึ้นมา ปัญหาเหล่านี้จะไม่ใช่ปัญหา” ชาวสวนอิ้งยิ่งฉงน เพียงแค่เยี่ยยวนยืนอยู่ข้างนาง ดินแดนปีศาจก็ไม่ใช่ปัญหา อีกทั้งผู้ที่ลงคำสาปคือ…”
“สิ่งสำคัญคืออาจารย์ปู่ตื่นขึ้น!” อวิ๋นเจี่ยวมองตรงไปยังเขา หากมีสิ่งเหนือการคาดหมายเกิดขึ้น เช่นนั้นสิ่งที่ต้องสูญเสียไม่ใช่เธอตัวคนเดียวสามารถจัดการได้ อีกทั้งเธอไม่รู้แม้แต่คำสาปบนตัวอาจารย์ปู่คืออะไร วิธีการแก้เป็นอย่างไร ซึ่งหมายความว่าอัตราความสำเร็จของเธอเท่ากับศูนย์
อิ้งหลุนขมวดคิ้วมุ่น มองตรงไปยังคนที่มีสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “แต่ว่าเจ้าชอบเขาไม่ใช่หรือ” ทั้งที่ร้อนใจอย่างมากเมื่อรับรู้ว่าเยี่ยยวนต้องคำสาป อีกทั้งยังล้วงความลับบางส่วนจากเขาได้ แต่เหตุใดตอนนี้นางถึงสงบเช่นนี้ ทันใดนั้นอิ้งหลุนไม่เข้าใจ “เหตุใดเจ้าจึงไม่ลองช่วยเขาดูล่ะ?”
เขากอบกุมความเป็นความตาย พบเห็นคู่รักที่แยกจากกันมากมายในยมโลก มีใครบ้างที่ไม่รักอีกฝ่ายจนจะเป็นจะตาย บ้างถึงขั้นวิญญาณสลายก็จะรั้งอีกฝ่ายเอาไว้ อีกทั้งยังมีบางคนที่แม้แต่หนทางแห่งสวรรค์ยังไม่มีวิธี ถึงแม้ะถูกแม่น้ำหยินชะล้างความทรงจำ แต่ชาติหน้าก็ยังคงสามารถตามหาอีกฝ่ายจนเจอและได้ครองคู่กัน เมื่อเป็นเช่นนี้ความเป็นความตายจึงไม่ได้สำคัญเช่นนั้น
กรณีแบบนี้มีไม่น้อย คนที่รักใคร่กันสองคนทำทุกวิถีทางเพื่อให้อยู่ด้วยกัน ไม่ว่าต้องสูญเสียอะไรก็ตาม ถึงแม้เขาจะไม่มั่นในความรักของศิษย์ตัวน้อยที่มีต่อเยี่ยยวนจะถึงระดับนั้นแล้วหรือไม่ แต่เพียงแค่บุกเข้าไปในดินแดนปีศาจเพื่อหาวิธีการแก้คำสาป เหตุใดอวิ๋นเจี่ยวจึงไม่ยอม
“อิ้งหลุน…” อวิ๋นเจี่ยวถอนหายใจ ก่อนจะวางพู่กันในมือลง “ข้าชอบอาจารย์ปู่ก็จริง หากเป็นไปได้ การสูญเสียอะไรบางอย่างใช่ว่าจะไม่ได้ แต่สิ่งที่ต้องสูญเสียต้องเป็นของพวกเขาเท่านั้น แต่ข้าเป็นอาจารย์เสวียนเหมิน ไม่ว่าข้าอยากหรือไม่ เพียงแต่เกิดความขัดแย้งกันย่อมต้องกระทบต่อสามโลก ความรัก ความสัมพันธ์เป็นเรื่องของเราสองคน ย่อมต้องให้เราสองคนรับผิดชอบ แต่เหตุใดสามโลกจึงต้องเสี่ยงและรับผิดชอบต่อความรักของพวกเราสองคน”
“…” อิ้งหลุนผงะ
“ข้าอยากให้เขาตื่นขึ้นมาในเร็ววัน หรือหากพูดในภาพรวม การตื่นของเขาจะทำให้สามโลกมีความมั่นใจมากขึ้น สำหรับสามโลกแล้วใช่ว่าจะไม่มีข้อดี หรือเหมือนที่ท่านพูด เพียงแค่เขาตื่นขึ้น ปัญหาของดินแดนปีศาจจะไม่ใช่ปัญหา แต่ข้ออ้างก็คือข้ออ้าง เหตุผลมากมายแค่ไหนก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงจุดประสงค์ที่ข้าจะดึงทุกคนในสามโลกจมน้ำไปด้วยกัน แต่ข้าไม่อาจนำเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องของทุกคนในสามโลก เพราะมันไม่ใช่เรื่องของพวกเขาตั้งแต่ต้น แต่เป็นเรื่องของพวกเราสองคน”
เพื่อการตื่นของอาจารย์ปู่ ทำให้สรรพสิ่งในสามโลกตกอยู่ในอันตราย ทำให้พวกเขาต้องมารับความเสี่ยงจากดินแดนปีศาจ เธอทำไม่ได้!
“แต่เยี่ยยวนไม่เหมือนกัน…” อิ้งหลุนคัดค้าน
“ไม่มีอะไรไม่เหมือนกัน” อวิ๋นเจี่ยวพูดขัดเขา ก่อนจะส่ายหัว “บางทีสำหรับข้า สำหรับท่าน สำหรับชายแก่แล้ว อาจารย์ปู่เป็นคนสำคัญที่ไม่มีใครแทนที่ได้ ถึงแม้จะต้องสูญเสียบางอย่างไป พวกเราล้วนไม่ลังเล แต่สิ่งเหล่านี้…เกี่ยวข้องกับคนอื่นได้อย่างไร เหตุใดคนอื่นต้องสูญเสียกับคนที่สำคัญต่อพวกเรา แต่ละคนล้วนเป็นปัจเจก ใครไม่มีคนสำคัญบ้าง เหตุใดเราจึงสูงส่งกว่าคนอื่น”
“…” เขาพูดไม่ออกในทันใด
“ข้าเป็นหมอ ในสายตาข้าชีวิตก็คือชีวิต ล้วนมีค่าเช่นเดียวกัน ไม่มีชีวิตของใครสำคัญกว่า ความรักคือสิ่งสวยงาม ไม่ใช่ข้ออ้างในการหลอกลวงคนอื่น หากข้าทำเพื่อตัวข้าเองทำให้ทั้งสามโลกตกอยู่ในความอันตราย เช่นนั้นข้าจะแตกต่างจากเผ่าปีศาจตรงไหนกัน”
“…”
อิ้งหลุนผงะ มองเธอด้วยความตกตะลึงอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะตั้งสติได้เขาหัวเราะอย่างเยาะเย้ยตัวเองออกมา พร้อมกับมองไปยังอวิ๋นเจี่ยวด้วยสีหน้าจริงจัง “เฮอะ…ศิษย์ตัวน้อย เจ้าช่างทำให้คนตกตะลึง ข้าเข้าใจแล้วว่าเหตุใดตาเฒ่าเยี่ยยวนถึงได้ลงมือกับเจ้าอย่างอดไม่ได้”
เพียงแค่ความคิดของเธอนี้ แม้แต่พวกเขาทั้งสามยังเทียบไม่ได้ อีกทั้งมีอยู่ชั่วเสี้ยววินาทีที่แม้แต่เขายังปรากฏความละอายขึ้นมา
“ช่างเถิด อย่างไรเยี่ยยวนก็จะตื่นขึ้น ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน” เขามองไปยังอวิ๋นเจี่ยวอีกครั้ง ดวงตาของเขามืดมนลงไปราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้ “เสียดายที่เยี่ยยวนเป็นคนเจอเจ้าก่อน หากเป็นคน…” เขาพูดเพียงครึ่งเดียวก็หยุดชะงักลง ก่อนจะรีบส่ายหัวราวกับคิดถึงบางอย่างที่น่ากลัว
“ท่านพูดไม่ผิด อาจารย์ปู่…จะตื่นขึ้นในเร็ววัน!” อวิ๋นเจี่ยวก้มหน้าลงจนมองไม่เห็นใบหน้าของเธอ ร่างกายของเธอห่อเหี่ยวเล็กน้อย ตอนนี้ท่าทางของเธอราวกับตกอยู่ในความโศกเศร้า
อิ้งหลุนรู้สึกผิดเล็กน้อย นึกถึงชายหนุ่มหญิงสาวที่จะเป็นจะตายในยมโลก เขาก็พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้
“เฮ้อ อันที่จริงเจ้าไม่ต้องโศกเศร้ามาก เพียงแค่รออีกระยะหนึ่ง ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องของดินแดนปีศาจมาก มันไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่เจ้าคิด”
“ไม่ร้ายแรง?” อวิ๋นเจี่ยวเงยหน้าขึ้นด้วยความฉงนภายในดวงตามีบางอย่างแวบผ่านไป เธอหรี่ตาลงก่อนจะใช้เสียงทุ้มกว่าเวลาปกติพูดขึ้น “เกิดสงครามในคราก่อนขึ้นแล้ว ยังไม่ร้ายแรง?”