Midterm Fantasy - ตอนที่ 280
งานพิธีอภิเษกถูกจัดเตรียมขึ้นอย่างเร่งด่วนในหมู่บ้านโอลเซ่น โบสถ์ประจำหมู่บ้านถูกซ่อมแซมและจัดสถานที่อย่างงดงาม
ข่าวพิธีอภิเษกระหว่างรัชทายาทแห่งแอสคาลอนและวีรสตรีผู้ปราบกองทัพมังกรแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรอย่างรวดเร็ว และท่ามกลางความยินดีของผู้คนนั้นเอง สภาแห่งแอสคาลอนก็ประกาศข่าวอีกข่าวออกมา
จักรพรรดิลูเซียส ลาตินัส ที่ 6 สละบัลลังก์
ข่าวนี้แม้จะทำให้เกิดความหวั่นไหวในใจผู้คนบ้าง แต่ข่าวการอภิเษกของเจ้าชายดีโอก็ทำให้ทั่วอาณาจักรเกิดความสงบขึ้นมาบ้าง … ความหวาดหวั่นไม่มั่นใจในอนาคตน้อยลงไป ยิ่งเมื่อประกาศคู่ครองของเจ้าชายคือโรล่า ผู้ฆ่ามังกร ผู้กล้าที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งซีแลนเดีย ประชาชนก็ยิ่งอุ่นใจ
อนาคตของแอสคาลอนมั่นคงแล้ว
ในเวลาเดียวกันนั้น รอนก็วิ่งวุ่นไปทั่ว เขาพยายามติดต่อพ่อค้ากลาสเพื่อคุยเรื่องสถานะทางการเงินและกำลังของ ARMAMENT
หลังจากฝ่ากำแพงทางภาษาอย่างยากลำบาก รอนก็พอทำความเข้าใจได้ว่า กำลังของARMAMENTนั้นน้อยเกินไป … กำลังเงิน กำลังคน ล้วนน้อยกว่าราชวงศ์ในปัจจุบันเสียอีก
ถ้ากำลังของจักรพรรดิยังสร้างความมั่นใจไม่ได้
ARMAMENTก็ไม่มีทางทำได้
รอนเลยหันไปหาพ่อแม่ของแพท เผื่อว่าเขาจะได้ศิลานักปราชญ์คืนมาและใช้พลังมหาศาลจากในนั้นทำอะไรบางอย่าง
…
แต่ว่าพ่อและแม่ของแพทนั้นเดินทางไปที่แนวหน้าและทำการรบกับมอนสเตอร์ที่ยังไม่ยอมแพ้อยู่ ติดต่อไม่ได้
สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“รอน ไปกันเถอะ” แพทเรียก “ไปงานแต่งงานของโรล่ากัน”
รอนสวมชุดเกราะปราบจลาจลและเหน็บอาวุธเต็มยศ เดินตามออกไปอย่างเงียบขรึม
“เป็นยังไงบ้าง นอนหลับไหม” แพทถาม
“ได้อยู่” รอนตอบยิ้มๆ
ทั้งสองเดินตรงไปที่โบสถ์ประจำหมู่บ้าน ที่นั่นเหล่านายทหารทั้งของแอสคาลอนและทัพพันธมิตรต่างอยู่ในชุดเกราะติดอาวุธเต็มยศ … นักผจญภัย ทหารรับจ้าง ตัวแทนของเอลฟ์ คนแคระ ศาสนจักรแห่งแสง ล้วนมาพร้อมกันในพิธี
พ่อเฒ่าเบรเซอร์กับมาเรียอยู่ที่หน้าโบสถ์ ทั้งสองอยู่ในชุดที่หรูหราสง่างาม พ่อเฒ่าทักทายรอนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แม้จะฟังไม่ออกแต่เด็กหนุ่มก็ไม่อยากจะทำลายบรรยากาศของงาน ได้แต่ยิ้มตอบกลับ
รอนและแพทไปยืนอยู่ที่แถวหลังสุด ยืนร่วมกับพ่อเฒ่าเบรเซอร์ มาเรีย และนักบวชร็อคโค่กับภรรยาทั้งสาม
…
ขณะที่รอนฟังเสียงพ่อเฒ่าเบรเซอร์คุยกับนักบวชร็อคโค่และครอบครัวอย่างออกรส เสียงฮือฮาทางด้านหลังก็ดังขึ้น เด็กหนุ่มหันไปมองตามต้นเสียงนั้น
ร่างน้อยๆของเด็กสาวที่คุ้นเคย
ผมสีทองสลวยถูกรวบเอาไว้ที่ด้านหลัง เด็กสาวอยู่ในชุดเกราะหญิง เกราะโลหะประดับลวดลาย สวมทับอยู่บนเสื้อสีน้ำเงิน เกราะไหล่และต้นแขนทั้งสองสีเงินสะท้อนแสง ท่อนล่างเป็นกางเกงสีเขียวเข้ม
นับเป็นชุดแต่งงานที่โรล่าเลือกเอง เป็นชุดที่แสดงถึงการอภิเษกเข้าในฐานะการเป็นนักรบผู้กล้าที่ดูแลอาณาจักร
ทหารประจำพิธีการเข้าไปและยื่นดาบพิธีการส่งให้
โรล่าส่ายศีรษะไม่รับเอาไว้ หากแต่ชี้ไปที่มีดเก่าๆที่คาดเอวไว้
มีด20บาท …
มีดเล่มแรกที่รอนมอบให้กับโรล่าเมื่อข้ามมิติมา
ทหารพิธีการพยายามอย่างไร้ผล จนที่สุดเจ้าชายดีโอต้องโบกมือให้ถอยกลับไป
จากที่นั่งด้านหลัง รอนจ้องดูโรล่าเดินไปที่แท่นพิธี
บิชอปคาร์มิลล่าเป็นผู้ประกอบพิธี พิธีดำเนินไปด้วยภาษาที่เด็กหนุ่มฟังไม่รู้เรื่อง
เขาเฝ้ามองด้วยใจที่หนักอึ้ง
เจ้าชายดีโอหยิบมงกุฎเทียร่าขึ้นมา สวมลงไปบนศีรษะของเด็กสาว ก่อนที่จะเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ จุมพิตไปที่หน้าผาก
รอนมองภาพแล้วใจเต้นอย่างหวิวโหวง เด็กหนุ่มจับกุมที่หน้าอกของตน
ทำไมกันนะ
ความรู้สึกแบบนี้นี่มัน
มันเหมือนกับว่าโรล่ากำลังเรียกเขาอยู่
ในเวลานั้นเอง โรล่าที่แท่นพิธีหันมามองรอนด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง และขยับปาก
“รอน”
แม้จะไม่สามารถสื่อสาร แต่ชื่อที่เรียกออกมานั้นไม่ผิดแน่
ความรู้สึกนี้
โรล่ากำลังเรียกเขา
รอนเหลือบตามองไปที่แพทวูบนึง เด็กสาวยิ้มพยักหน้าให้
เด็กหนุ่มก้าวออกจากที่นั่งไปยืนอยู่กลางทางเดิน เสียงในโบสถ์เงียบกริบลงในทันใด … เด็กหนุ่มเดินก้าวออกไป เดินไปที่แท่นพิธีที่โรล่าและเจ้าชายดีโอยืนอยู่
เด็กสาวเดินลงมาเรียกชื่อเขาอีกครั้ง น้ำตาเอ่อล้นที่ขอบตา
“รอน”
เด็กหนุ่มก้าวขึ้นไปบนแท่นพิธี ดึงร่างของโรล่ามาอยู่ในอ้อมกอด จากนั้นทั้งสองก็จุมพิตกันและกัน เป็นจุมพิตด้วยความรัก มิใช่การจุมพิตแบบพิธีการ
เสียงฮือดังขึ้นที่ที่นั่ง แต่รอนไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว
ความรู้สึกในหัวใจที่เชื่อมโยงนี้ … รอนรับรู้ได้ว่าโรล่ารักเขาแค่ไหน และเขาก็รักโรล่าแค่ไหน
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาก็จะพาโรล่าออกไปให้ได้
เสียงตะโกนดังมาจากด้านหลัง จักรพรรดิลูเซียสลุกจากที่ประทับชักดาบออกจากฝัก นายทหารทั้งหลายที่อยู่ในพิธีต่างชักดาบในฝักของตนออกมาจนเสียงโลหะดังก้องทั่วโบสถ์
รอนเอื้อมมือลงไปที่ด้ามดาบอย่างรวดเร็ว แต่ช้าเกินไป ดาบอันเย็นเยือกของจักรพรรดิลูเซียส ลงมาพาดที่ไหล่และลำคอของเด็กหนุ่มเสียงแล้ว … ขณะเดียวกันโรล่าก็จับยึดมือของรอนไม่ให้ชักดาบและเงยหน้าขึ้นพูดอะไรบางอย่างกับจักรพรรดิ
ทั่วทั้งโบสถ์เงียบกริบ
โรล่าหยิบเยลลี่แปลภาษาส่งให้รอนกิน
“คุณรอนฟังโรล่าเข้าใจแล้วใช่ไหมคะ”
รอนพยักหน้า
“งั้นพวกเราดำเนินพิธีต่อเลยค่ะ”
จักรพรรดิลูเซียสยิ้มร่า ยกดาบที่พาดไหล่รอนขึ้นแล้วนำไปแตะที่ไหล่อีกข้างหนึ่ง
“ด้วยอำนาจนี้ ข้าขอแต่งตั้งรอน เป็นดักซ์แห่งโอลเซ่น ปกครองเมืองโอลเซ่น แยกเขตการปกครองจากเมืองกาล่า” จักรพรรดิกล่าว “และเป็นเจ้าชายสวามี แห่งเจ้าหญิงโรล่าแห่งแอสคาลอน”
“เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ”
เหล่าทหารชูดาบขึ้นโห่ร้องอย่างยินดี โดยเฉพาะทหารเมืองกาล่าและโอลเซ่นที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง
“เอ๊ะ!”
รอนลืมตาโตมองไปรอบๆ … ที่ชักดาบนั่นมันทุกคน … แม้แต่แพทก็ชักดาบชูด้วย
นี่มันอะไรกัน?
“มาเรีย” โรล่าร้องเรียก
มาเรียเดินจากที่นั่นด้านหลัง ตรงมาที่แท่นพิธี เจ้าชายดีโอสวมมงกุฎให้และแต่งตั้งเป็นชายาในตำแหน่งที่รองลงมาจากโรล่า ก่อนจะจุมพิตที่หน้าผากเฉกเช่นเดียวกัน
“นี่ นี่มันอัลลัยกัน!” รอนร้องเสียงหลงอย่างงงๆ
“โรล่าไม่ได้บอกเจ้าเหรอ” เจ้าชายดีโอถาม
“เปล่าครับ” รอนตอบงงๆ
“เดี๋ยวสิ แล้วถ้าไม่รู้เรื่อง … เจ้าขึ้นมาบนแท่นพิธีได้ยังไง” จักรพรรดิงง
“คือได้ยินเสียงเรียกชื่อ แล้วก็ … ผมกะจะขึ้นมาชิงตัวโรล่า … นี่มันอะไรกัน ผมงงไปหมดแล้ว”
จักรพรรดิกลอกตาไปมา คิดทำลายงานแต่งเรอะ
“คือโรล่าทำข้อตกลงกับจักรพรรดิไว้” แพทเดินมาจากด้านหลัง “ในเมื่อการแต่งงานมันจำเป็นและเลี่ยงไม่ได้ โรล่าก็เลยตั้งข้อแม้ไว้”
“ค่ะ ข้อแม้ก็มีว่า
1.จะต้องแต่งตั้งคุณรอนให้เป็นเจ้าชายสวามีร่วมกัน
2.ลูกที่เกิดจากคุณรอนและโรล่าจะต้องมีสถานะที่ชัดเจน
3.ต้องแต่งมาเรียเข้ามาด้วย”
“เห?”
“คุณรอน … ไม่รู้เหรอคะว่ามาเรียกับโรล่าเป็นอะไรกัน” โรล่ากับมาเรียเอียงคอ
เด็กหนุ่มนึกหัวหมุนติ้ว …. แว้กกก มิน่าล่ะ ตั้งแต่มาโลกนี้ มาเรียเลยมีท่าทางไม่เป็นมิตรกับเขาตลอด แถมทั้งสองคนนี้ก็อยู่ด้วยกัน นอนเตียงเดียวกัน ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง
“เดี๋ยวสิ แล้วข้อสอง ลูกที่เกิดกับโรล่าและผม …”
“เรื่องนั้นก็เป็นหนึ่งในความตั้งใจของข้า”จักรพรรดิบอก “ดีโอน่ะ เนื่องจากใช้พลัง Time Stop ระดับกองทัพ เลยทำให้เกิดผลเสียร้ายแรง ร่างกายแก่ชราในหลายส่วน ผมขาวโพลนเป็นหนึ่งในนั้น … เรื่องการมีบุตรก็น่าจะยาก โอกาสมีทายาทสืบทอดต่อก็น้อยลง”
“โรล่าเป็นคนของที่นี่ เราถือเรื่องการมีคู่ครองมากกว่าหนึ่งคนเป็นเรื่องปกติต่างจากโลกของท่าน … และในเมื่อโรล่าก็รักท่านอยู่แล้ว … หากดีโอไม่อาจมีลูกกับโรล่าและมาเรียได้ พวกเราก็จะมีลูกของรอนและโรล่าเป็นทายาทสืบต่อ เพียงแต่ว่าเด็กคนนั้นจะต้องอาศัยในวัง ไม่อาจไปอยู่กับคุณรอนได้”
รอนลืมตาโตอย่างงงงวย หันไปมองโรล่าและแพท
“วันก่อนนั้น … นี่เธอสองคนรู้อยู่แล้วใช่ไหม”
“ใช่ และที่ไม่บอกนาย ก็ถือเป็นการลงโทษนายที่เป็นคนทำให้เรื่องมันล่วงเลยมาจนแก้ไม่ได้แบบนี้” แพทเขกหัวเป้กนึง ขณะที่โรล่าหัวเราะร่วน
“นี่นาย … เรื่องแต่งงานน่ะ เฉพาะกับโรล่านะ อย่าเอาชั้นไปเกี่ยวข้อง” มาเรียเดินเข้ามาใกล้แล้วคำรามใส่ทีนึง
“แน่นอน แบบคุณน่ะผมก็ไม่เอาด้วยหรอก … แต่ก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยแล้วกัน” รอนกัดฟัดกรอดตอบ ในบรรดาคนในโลกนี้ มาเรียกวนประสาทมากที่สุดแล้ว
จักรพรรดิหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข ขณะที่เจ้าชายดีโอขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ท่านพ่อ … อาการบาดเจ็บของท่าน?”
เจ้าชายเดินไปเลิกเสื้อของจักรพรรดิ ไม่มีบาดแผลแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ ถ้าข้าไม่แกล้งถ่วงเวลารักษา เจ้าจะยอมขึ้นเป็นจักรพรรดิแทนข้าแล้วเข้าพิธีอภิเษกหรือไง”
“ท่านพ่อ!”
“ไปกันคาร์มิลล่า ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว ข้าเบื่อกฎบ้าๆที่ว่าบิชอปสูงสุดไม่อาจแต่งงานกับผู้ปกครองนั่นมาหลายสิบปีแล้ว ตอนนี้ข้าไม่ใช่จักรพรรดิแล้ว พวกเราไม่มีอะไรมาขวางแล้ว”
“ท่านพ่ออออออ” เจ้าชายดีโอร้องเสียงหลง มิน่าเล่า วันก่อนที่เขายั่วยุว่าจะแต่งกับบิชอป ท่านพ่อเลยถึงกับกระอักเลือด
“ยินดีกับลูเซียส ยินดีกับคาร์มิลล่า”
“เฮฮฮ”
เหล่าเจ้าเมืองและนายทหารชั้นสูงต่างชูดาบแสดงความยินดี เห็นได้ชัดว่าทุกคนรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว
“พวกท่าน” เจ้าชายแทบกระอักเลือดออกมา ตาแก่เจ้าเล่ห์พวกนี้!
“เอาน่าท่านดีโอ … ท่านพ่อของท่านน่ะปกครองอาณาจักรมาเกินครึ่งชีวิต ตั้งแต่อายุน้อยกว่าท่านในตอนนี้เสียอีก” โซล่าเดินมาตบบ่า “แต่ก่อนนั้น พวกเราทั้งหลายเป็นสหายร่วมรบกันมานาน … เค้าทั้งสองรอเวลานี้มาหลายสิบปีแล้ว ปล่อยๆไปเถอะ”
รอนเฝ้ามองอดีตจักรพรรดิและบิชอปคาร์มิลล่านั่งรถม้าออกไปโดยเอามือก่ายหน้าผาก …
เรื่องบ้าไรกันเนี่ยวันนี้