หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนพิเศษ 15-2 พลังมังกร สังหารทั่วทิศ
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนพิเศษ 15-2 พลังมังกร สังหารทั่วทิศ
ตอนพิเศษ 15-2 พลังมังกร สังหารทั่วทิศ
เจ้าของร้านดูการแต่งตัวของแม่นางน้อยคนนี้ก็รู้ว่าเป็นเด็กที่มีอิทธิพล จึงส่งยิ้มพลางเอ่ยว่า “แม่นางน้อย วันนี้น้ำตาลวาดขายหมดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่เถิด”
“แล้วเหตุใดนางถึงมี” แม่นางน้อยหันไปมองเฉียวเวยเวยด้วยความไม่พอใจ
เจ้าของร้านตอบว่า “นั่นเป็นอันสุดท้าย”
แม่นางน้อย “เช่นนั้นเจ้าก็ขายให้ข้าสิ!”
เจ้าของร้านเหลือบมองน้ำตาลวาดที่อยู่ในมือเฉียวเวยเวยแล้วเอ่ยด้วยความกระอักกระอ่วนใจว่า “นั่น…ข้าขายให้นางไปแล้วนี่”
แม่นางน้อยเดินไปขวางหน้าเฉียวเวยเวย ยื่นมือออกไปพร้อมเอ่ยอย่างไม่เกรงใจว่า “เอาน้ำตาลวาดมาให้ข้า!”
เฉียวเวยเวยไม่ให้
แม่นางน้อยขมวดคิ้ว “น้ำตาลวาดเป็นของข้า! ข้าเป็นคนเห็นก่อน!”
หญิงรับใช้ที่ติดตามนางมา “คุณหนูรอง พวกเราไปกินอย่างอื่นกันเถิด”
แม่นางน้อยชี้ไปยังน้ำตาลวาดในมือเฉียวเวยเวย “ไม่ได้ ข้าจะเอาอันนี้! ข้าจะเอานกหงส์ของนาง!”
เฉียวเวยเวยเลียตรงหัวของตัวนกให้ทีหนึ่ง
“เจ้ายังจะเลียอีก!” แม่นางน้อยโกรธจัด ยื่นมือจะไปแย่งน้ำตาลวาดจากมือเฉียวเวยเวย เฉียเวยเวยผลักนางออกตามสัญชาตญาณ นางเลยล้มลงกับพื้นแล้วร้องไห้จ้าออกมา!
หญิงรับใช้ไม่พอใจขึ้นบ้าง เอ่ยกับเฉียวเวยเวยด้วยน้ำเสียงดุดัน “เจ้าเด็กคนนี้ นี่มันอะไรกัน ไม่ให้ก็ไม่ให้สิ ยังจะทำร้ายกันด้วยหรือ”
แม่นางน้อยนั่งร้องไห้อยู่กับพื้น “นางรังแกข้า! สั่งสอนนางให้ข้าเดี๋ยวนี้! สั่งสอนนางเดี๋ยวนี้!”
เดิมทีหญิงรับใช้ไม่คิดว่าน้ำตาลวาดอันหนึ่งมีอะไรน่ากิน จึงเกลี้ยกล่อมคุณหนูของตนให้ไปกินอย่างอื่น แต่การเกลี้ยกล่อมนางเป็นเรื่องหนึ่ง การถูกผู้อื่นรังแกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เจ้าเด็กคนนี้ช่างใจกล้านัก ถึงขั้นทำร้ายคุณหนูต่อหน้านางเช่นนี้ หากนางไม่ช่วยกู้หน้าให้คุณหนูรองแล้วกลับไปคุณหนูรองเอาเรื่องนี้ไปฟ้องต่อนายท่าน นางคงได้เจ็บตัวกว่านี้แน่
เมื่อมีความคิดนี้ขึ้นมา หญิงรับใช้จึงยื่นมือไปจะหยิกหูของเฉียวเวยเวย
“หยุดนะ!” หลิงจือวิ่งออกมาจากในร้าน แล้วเอาตัวเฉียวเวยเวยไปอยู่ข้างหลังตน นางจับมือหญิงรับใช้คนนั้นไว้ “เจ้าคิดจะทำอะไร”
หลิงจือกับเฉียวเวยเวยล้วนอยู่ในเสื้อผ้าอย่างชาวบ้านธรรมดา แต่กระบี่ยาวในมือของหลิงจือมีตราของสำนักเชียนหลันสลักอยู่ หญิงรับใช้กวาดตามองทีหนึ่งแล้วยิ้มเยาะว่า “คนของสำนักเชียนหลันหรือ ข้าก็ว่าผู้ใดกันที่กล้าเพียงนี้ ถึงขั้นกล้ารังแกคุณหนูของพวกเรา”
อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในชุดประจำสำนัก และไม่ได้พกพาอาวุธ หลิงจือจึงถามด้วยความสงสัย “พวกเจ้าเป็นใครกัน”
“คนที่พวกเจ้ามีเรื่องด้วยไม่ได้น่ะสิ!” หญิงรับใช้พูดจบก็ชี้หน้าเฉียวเวยเวย “เด็กคนนี้ทำร้ายคุณหนูของข้า เจ้ารีบให้นางเอาน้ำตาลวาดคืนให้คุณหนูเดี๋ยวนี้ แล้วโขกศีรษะขอโทษคุณหนูข้าด้วย เรื่องในวันนี้ข้าจะเกลี้ยกล่อมให้คุณหนูไม่เอาความเจ้า!”
หลิงจือเอ่ยเรียบๆ ว่า “ข้านึกว่าเรื่องอะไรกัน แค่เด็กสองคนแย่งของกันเท่านั้น เจ้าจะร้องแรกแหกกระเชอไปไย”
หญิงรับใช้เอ่ยด้วยความไม่พอใจ “นางทำร้ายคุณหนูของข้า!”
หลิงจือหันไปมองเฉียวเวยเวย ชี้ไปยังแม่นางน้อยที่ดีดดิ้นอยู่กับพื้น “เวยเวย เจ้าทำร้ายนางหรือ”
เฉียวเวยเวยส่ายหน้า
“เช่นนั้นเจ้าแย่งน้ำตาลวาดของนางหรือไม่” หลิงจือถาม
เฉียวเวยเวยส่ายหน้าอีกครั้ง
เฉียวเวยเวยไม่เคยโกหก ในเมื่อนางบอกว่าเปล่า เช่นนั้นนางก็ไม่ได้ทำจริงๆ
หลิงจือเอ่ยกับหญิงรับใช้ว่า “พวกเจ้าพูดคุยกันด้วยเหตุผลดีหรือไม่ ของที่น้องสาวข้าซื้อมาก่อน พวกเจ้าคิดจะมาแย่งไปดื้อๆ พอแย่งไม่ได้ก็คิดจะทำร้ายกัน หากเจ้าเก่งนักก็ให้นางมาแย่งเองสิ หากนางแย่งเองข้าจะไม่แตะต้องตัวนาง แต่หากเจ้าจะมาช่วยแย่ง ข้าก็จะไม่เกรงใจเช่นกัน!”
หญิงรับใช้เชิดคางเอ่ยว่า “เจ้ารู้หรือไม่ของคุณหนูของข้าเป็นใคร”
หลิงจือ “ข้าไม่สนใจว่านางเป็นใคร! ของนี่น้องสาวข้าซื้อมาก่อน น้องสาวข้าไม่ได้แย่งของอะไรพวกเจ้า ไม่มีทางยอมยกให้ และยิ่งไม่ยอมโขกศีรษะขอโทษเด็ดขาด!”
หญิงรับใช้กัดฟันเอ่ยว่า “สุรามงคลมีไม่ดื่มจะดื่มสุราลงทัณฑ์สินะ ใครก็ได้! มาสั่งสอนนางเดี๋ยวนี้!”
หญิงรับใช้สั่งเสียงเข้ม ลูกศิษย์ที่ติดตามคณะมาหลายคนกรูกันเข้ามา เข้ามาขวางหลิงจือกับเฉียวเวยเวยไว้อย่างแน่นหนา
หลิงจืออุ้มเฉียวเวยเวยไปวางลงใต้ชายคาร้านขายอาวุธ “รอข้าอยู่ที่นี่นะ อย่าไปไหน”
เฉียวเวยเวยเลียน้ำตาลวาด “อื้อๆ”
หลิงจือกับลูกศิษย์พวกนั้นเริ่มปะทะฝีมือกัน พอได้ปะทะ หลิงจือก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นใคร วิชากระบี่กับการเดินวรยุทธ์เช่นนี้ไม่ใช่ลูกศิษย์ของสำนักว่านเซี่ยงหรอกหรือ
ถนนหนทางช่างแคบยิ่งนัก จะซื้อของยังมาเจอกับศัตรูคู่อาฆาตอย่างสำนักว่านเซี่ยงเสียได้!
อีกด้านหนึ่ง เด็กสาวรากปราณสวรรค์กับสาวใช้ก็เดินผ่านมาแถวนั้น ทั้งสองได้ยินเสียงคนสู้กันทางนี้ สาวใช้จึงเอ่ยด้วยความตกใจว่า “คุณหนู ท่านดูสิ หลิงจือสู้กับพวกเขาแล้ว พวกเราจะเข้าไปช่วยดีหรือไม่”
“คนของสำนักว่านเซี่ยง?” เด็กสาวรากปราณสวรรค์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยว่า “ตัวเองไปมีเรื่องกับคนเขา หรือว่าข้าต้องคอยตามเช็ดก้นให้ด้วยหรือ”
“หากเกิดนางบาดเจ็บไปจะทำอย่างไร” สาวใช้ถาม
เด็กสาวรากปราณสวรรค์แค่เสียงหึ “หากกระทั่งศิษย์ในช่วงฝึกปราณแค่ไม่กี่คนยังเอาชนะไม่ได้ นางก็ไม่ต้องอยู่ต่อแล้ว”
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ถึงแม้อีกฝ่ายจะพวกมากกว่า แต่ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ฝึกตนในขั้นฝึกปราณเท่านั้น ไม่เท่าไรก็ถูกหลิงจือเล่นงานจนลงไปโอดโอยอยู่กับพื้น กระทั่งหญิงรับใช้ที่โอหังนั่น หลังจากลอบโจมตีไม่สำเร็จ ยังถูกฝ่ามือหลิงจือเข้าไปอย่างจังจนตัวกระเด็นไปอีกด้วย
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหลิงจือจะได้รับชัยชนะไปนั้น จู่ๆ ตรงขอบฟ้าก็มีสิงโตม่วงสองปีกตัวมหึมาบินมา สิงโตม่วงตัวนี้ไม่ใช่สัตว์แปลกใหม่ในแดนกลาง มันก็คือสัตว์เลี้ยงของคุณชายที่เป็นบุตรชายของรองหัวหน้าสหพันธ์นั่นเอง มันได้หลุดพ้นจากขอบเขตสัตว์อสูรทั่วไปแล้ว เป็นสัตว์มารที่ดุร้ายยิ่งกว่าสัตว์อสูรขั้นเก้าเสียอีก ความสามารถเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนในขั้นผสานตันเลยทีเดียว
บนหลังของมันมีเด็กสาวในอาภรณ์สีม่วงขี่อยู่
เด็กสาวในชุดสีม่วงมองดูแล้วอายุเพียงสิบหกสิบเจ็ดปี เส้นผมดำขลับราวกับน้ำหมึก ผิวพรรณเนียนผ่องดั่งหยก เครื่องหน้าประณีตงดงาม รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร ราวกับเดินหลุดออกมาจากภาพวาดก็มิปาน
ชั่วขณะที่นางปรากฏตัว ทั่วทั้งถนนพากันเงียบงัน
นางกดสายตามองทุกคนที่อยู่เบื้องล่าง “ผู้ใดกันที่กล้ารังแกศิษย์สำนักว่านเซี่ยงของข้า”
แม่นางน้อยที่เดิมทีขวัญเสียจนทำอะไรไม่ถูก พอเห็นเด็กสาวและได้ยินเสียงคุ้นหูก็รีบเงยหน้าขึ้นมาร้องไห้แงๆๆๆ เสียยกใหญ่ “พี่สาว! พวกนางรังแกข้า! พวกนางทำร้ายข้า!”
หลิงจือไม่ได้ทำร้ายแม่นางน้อยคนนี้เลยนะ!
ผู้คนที่อยู่โดยรอบล้วนรู้ความจริงข้อนี้ แต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูดค้าน เด็กสาวบอกแล้วว่านางเป็นคนของสำนักว่านเซี่ยง ซ้ำยังขี่สัตว์เลี้ยงของบุตรชายรองหัวหน้าสหพันธ์อีก นางมีฐานะเช่นไร ไม่ต้องบอกก็รู้ได้
น้องสาวของนาง พวกนางจะกล้าผิดใจด้วยหรือ
สายตาของเด็กสาวในชุดม่วงพลันเปลี่ยนเป็นดุดัน “กล้าทำร้ายน้องเล็กข้าเชียวหรือ! ช่างกล้านักนะ!”
นางพูดจบก็ยกมือเรียวขึ้น สะบัดตบหน้าหลิงจือกลางอากาศ!
หลิงจือเพิ่งเริ่มเข้าสู่ขั้นพื้นฐาน แต่นางกลับเป็นขั้นพื้นฐานที่สมบูรณ์แล้ว การฝึกตนของนางอยู่เหนือกว่าหลิงจือ หลิงจือจึงหลบฝ่ามือนี้ของนางไม่พ้น
พอเสียงเพี๊ยะดังขั้น ข้างแก้มของหลิงจือจึงมีรอยนิ้วมือสีแดงเพิ่มเข้ามาหลายรอย
ปากที่แทะเล็มน้ำตาวาดของเฉียวเวยเวยพลันชะงัก ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเด็กสาวที่อยู่กลางอากาศ
เด็กสาวรู้สึกได้ถึงสายตาของเฉียวเวยเวย แต่นางไม่แม้กระทั่งจะเหลือบมอง นางที่เป็นถึงบุตรีแห่งสวรรค์ จะสนใจสายตาของเด็กคนหนึ่งได้อย่างไร
สิงโตม่วงสองปีกแผ่พลังของยอดฝีมือชั้นผสานตันออกมาตามคำสั่งของเด็กสาว
มีเพียงหลิงจือที่ฝึกตนอยู่ในขั้นพื้นฐานเท่านั้นที่ถูกกดทับจนขยับไม่ได้ นางคิดจะดึงกริชที่เอวออกมา แต่ไม่อาจขยับแขนได้เลย
เด็กสาวยกมือขึ้นอีกครั้ง คิดจะสะบัดตบหลิงจืออีกครั้ง แต่ในตอนนั้นเอง พลังมังกรขนาดมหาศาลพลันพวยพุ่งเข้าใส่ พลังมังกรขุมนี้ไม่มีผลโจมตีใดๆ ต่อผู้ฝึกตน แต่มังกรปีกม่วงตัวนั้นจู่ๆ ก็เกิดคลุ้มคลั่ง คำรามเสียงก้อง ยกตัวขึ้นพุ่งทะยานขึ้นบนท้องฟ้า!
เด็กสาวไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ พอนั่งไม่อยู่จึงตกลงมาจากหลังสิงโตม่วง
นางรีบชักกระบี่ออกมาขึ้นเหยียบบนกระบี่แทน
ในขณะที่กำลังจะลงถึงพื้นอย่างมั่นคงนั้น สิงโตม่วงตัวนั้นที่พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจู่ๆ ก็หันกลับมากระโจนใส่นางอย่างดุดัน!
เด็กสาวตกใจจนเบิกตาโต ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าสิงโตม่วงตัวนั้นก็กัดมือนางขาดเสียแล้ว!
มือข้างนั้น…ที่เคยตบหน้าหลิงจือ