ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่350 อยากเรียบง่าย
ตรวจสอบคนนอกที่มาเมืองหลวงอย่างเถ้าแก่เกา คนอื่นอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่
สําหรับสกุลเผยและสกุลอินแล้ว ก็เป็นปัญหาเพียงใช้เวลาสองวันหรือสามวันเท่านั้น
เผยเยี่ยนและอินหมิงหย่วนสืบหาเบาะแสของเถ้าแก่เกาผู้นี้ออกมาได้วันเดียวกัน เผย
เยี่ยนลังเลว่าจะบอกอวี้ถังอย่างไรอยู่บ้าง อินหมิงหย่วนกลับไม่ได้คิดมาก บอกเรื่องของเถ้าแก่
เกากับสวีเซวียนอย่างตรงไปตรงมา ให้สวีเซวียนไปจัดการเรื่องนี้ เพราะเรื่องที่ตรวจสอบเถ้าแก่
เกา ก็เป็นสวีเซวียนที่ร้องขอเช่นกัน
บ่ายวันนั้นสวีเซวียนโอ้เอ้อยู่พักหนึ่งก่อนจะไปสกุลเผย ไม่คาดคิดว่าถึงสกุลเผย อวี้ถัง
จะกําลังนั่งคุยกับอวี้หย่วนในห้องหนังสือ ชิงหยวนนํานางไปคอยที่โถงบุปผาเล็กในเรือนอวี้ถัง
ก่อนจะยกผลไม้ที่ส่งมาตอนเช้าตรู่ให้นางกินเล่น ยังเอ่ยว่าของพวกนี้เป็นอวี้ถังที่กําชับมา หาก
นางมาเร็ว ให้นั่งตรงนี้สักพักก่อน อวี้ถังคุยกับอวี้หย่วนเสร็จแล้วจะมาหานาง
“สองวันนี้คุณชายอวี้หย่วนไม่ได้ออกไปไหนเลยรึ?” สวีเซวียนถามอย่างแปลกใจ
ชิงหยวนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไปเจ้าค่ะ ไปทําความรู้จักมักคุ้นกับสมาคมพ่อค้าของหังโจว
รุ่งเช้าวันนี้จึงมาคุยธุระกับนายหญิงสามเจ้าค่ะ”
คงมีเรื่องอะไรต้องการขอร้องอวี้ถัง
ขณะที่สวีเซวียนครุ่นคิด ก็เอนกายบนเก้าอี้อย่างสบายๆ กินผลไม้ ก่อนจะฟังสาวใช้
อ่านหนังสือ
ด้านอวี้ถังกลับขมวดคิ้วแน่น เอ่ยยืนยันกับอวี้หย่วน “ข่าวของท่านแม่นยําอย่างนั้นรึ?”
“ย่อมเชื่อถือได้!” อวี้หย่วนเอ่ยอย่างกระตือรือร้น “ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้พูดกับเจ้า กลัวว่า
จะถ่ายทอดคําพูดผิดๆ ออกไป ทําให้เกิดปัญหา เมื่อวานข้าไปสมาคมพ่อค้าของหังโจว ตามหา
คนที่ทําเรื่องเช่นนี้โดยเฉพาะ ถามเขาด้วยตัวเอง เขาก็บอกข้าว่า วันฉลองหมื่นพรรษาของ
2787
ฮ่องเต้ จะจัดงานเลี้ยงเชียนโส่วเยี่ยน กล่องสํารับต่างๆ ล้วนต้องสั่งทําใหม่ สํานักพระราชวังเริ่ม
หาสกุลที่เกี่ยวข้องมารับหน้าที่ หากสกุลพวกเราคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ ภายหลังยังต้องกลัดกลุ้ม
เรื่องค้าขายอะไรอีก!”
เครื่องลงรักในร้านค้าสกุลอวี้ก็จะขึ้นชื่อว่าเป็นของบรรณาการแล้ว
แต่การค้าเช่นนี้มักจะไม่ทําเงินเท่าใด ถึงกระทั่งยังต้องตีสนิทกับคนอื่นทั้งใช้เงินทอง
อวี้ถังเอ่ยว่า “เช่นนั้นท่านวางแผนจะนําเงินออกมาเท่าใด?”
อวี้หย่วนลูบศีรษะอย่างกระดากอายอยู่บ้าง เอ่ยว่า “นี่ก็คือเรื่องที่อยากขอน้องเขย…ข้า
ได้ยินเถ้าแก่เกากล่าวว่า เมืองหลวงมีสกุลใหญ่มากมายเลี้ยงนกพิราบส่งสาร วันหนึ่งบินไกลได้
นับพันลี้ จากเมืองหลวงถึงหลินอัน ก็ใช้เวลาเพียงสี่ห้าวันเท่านั้น ก่อนหน้านี้ข้าไม่รู้ว่าเรื่องนี้จริง
หรือไม่ อย่าว่าแต่เจ้าเลย กระทั่งท่านพ่อข้าและท่านอา ข้าก็ไม่ได้บอกสักคํา ยามนี้เมื่อรู้ว่ามี
เรื่องเช่นนี้ ย่อมไม่อาจปล่อยไป ข้าครุ่นคิดว่า น้องเขยพอจะสามารถให้ข้ายืมนกพิราบของสกุล
ใดได้บ้างหรือไม่ ข้าจะเขียนจดหมายกลับไป ดูว่าในเรือนพอจะใช้เงินได้เท่าไร จะหาวิธีคว้า
การค้านี้เอาไว้”
เพียงแค่ยืมนกพิราบส่งสารอย่างนั้นรึ?
อวี้ถังเอ่ยว่า “เงินค่านํ้าร้อนนํ้าชา มีเงินเท่าใดก็ใช้ได้หมดทั้งนั้น อีกอย่าง เรื่องเช่นนี้ไม่
เพียงต้องอาศัยเรื่องค่านํ้าร้อนนํ้าชา แต่ต้องหาเส้นสายด้วยจึงจะสําเร็จผล”
อวี้หย่วนเข้าใจความหมายของอวี้ถัง เขาหัวเราะเหอะๆ เอ่ยว่า “ข้าย่อมไม่อาจให้เจ้า
อยู่ที่สกุลเผยโดยถูกคนอื่นดูแคลนได้ น้องเขยแอบให้สกุลพวกเรายืมนกพิราบส่งสารได้ก็
เพียงพอแล้ว เรื่องนี้ ข้าจะจัดการเอง ไม่คิดจะให้น้องเขยออกหน้า เขาเป็นคนใหญ่คนโต ไฉน
จะมาติดค้างนํ้าใจคนอื่นเพราะเรื่องกิจการเล็กๆ เช่นนี้ได้ ส่วนเจ้าก็อย่าได้กังวลไป ดูแลเรื่อง
เสื้อผ้าอาหารการกินน้องเขยก็เพียงพอแล้ว รอกิจการของข้าไปได้ดี ค่อยขอเจ้าช่วยกลับมาดู
บัญชีที่เรือนอีกที”
2788
นี่กลัวว่าสกุลเผยจะติดค้างนํ้าใจคนอื่นมากไปอย่างนั้นรึ?
อวี้ถังไม่ได้สนใจเรื่องที่เผยเยี่ยนออกหน้าแต่อย่างใด อย่างไรหากสกุลอวี้ไปได้ดี เผย
เยี่ยนก็จะมีภาระน้อยลง กระนั้นนางยังคงมีแผนอื่น
งานฉลองหมื่นพรรษาของฮ่องเต้นับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยาก แต่หลังจากนางเข้าเมือง
หลวงก็พบว่างานเฉลิมฉลองในเมืองยังคงมีมาก ไม่มีงานฉลองหมื่นพรรษา ก็ยังมีงานฉลองพัน
สารท ขอเพียงแค่มีความตั้งใจ ย่อมสามารถหาโอกาสได้ แต่ชาติก่อน สกุลอวี้เกิดเรื่องเร็ว
เกินไป อวี้หย่วนและลุงใหญ่ของนางแบกรับภาระหนักในเรือนมาตั้งนานแล้ว อวี้หย่วนในยามนี้
กล้าเดินทางด้วยตัวคนเดียวไปทั่วแล้ว หลังจากนางเกิดใหม่อีกครั้ง ก็เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต
ของคนในเรือน ทว่ากลับทําให้อวี้หย่วนสูญเสียโอกาสในการฝึกฝนประสบการณ์มากมาย
บางที ครั้งนี้ให้อวี้หย่วนลองดูสักตั้งด้วยตัวเอง อาจจะเป็นผลดีกับสกุลอวี้และตัวเขา
เองมากกว่า
อวี้ถังครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะเห็นด้วยกับความคิดของอวี้หย่วน เอ่ยว่า “ในเมื่อท่าน
ตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นก็ทําตามประสงค์ของท่านเถิด หากท่านต้องการให้ช่วยอะไร ค่อยเอ่ยปาก
กับข้าอีกครั้งก็ไม่สาย”
อวี้หย่วนชื่นใจอย่างยิ่ง
นางกลัวว่าอวี้ถังจะดึงดันยื่นมือช่วยเหลือเขา
เขาไม่ใช่คนที่ไร้สมอง ก่อนที่จะมาเขาก็สืบข่าวมาแล้ว นายท่านรองสกุลเผยเลื่อน
ตําแหน่งเป็นรองเจ้ากรมคลัง หนึ่งในจิ่วชิง ไม่แน่ว่าอาจมีวันหนึ่งสามารถเข้าสู่เน่ยเก๋อร์ได้ หาก
อยากช่วยเขา นายท่านรองแค่นอนบนเตียงก็สามารถรับงานฉลองหมื่นพรรษานี้มาได้แล้ว แต่
เมื่อเป็นเช่นนี้ นายท่านรองย่อมจะเหลือจุดอ่อนหนึ่งเอาไว้ หากวันใดถูกคนเล่นงานจุดอ่อนนี้
ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นตัวต้นเหตุทําร้ายนายท่านรองหรอกรึ?
อวี้หย่วนไม่คิดให้คนของสกุลเผยสอดมือยุ่งอยู่แล้ว
2789
ในความคิดของเขา แทนที่สกุลเผยจะช่วยเขาทํากิจการ ยังมิสู้ช่วยชี้แนะให้ลูกชายของ
เขารํ่าเรียนหนังสือ
เขาไม่อยากเสียการใหญ่เพราะเรื่องเล็กๆ
อวี้หย่วนเอ่ยกับอวี้ถังว่า “เจ้าก็ไม่ต้องกังวลเกินไป ข้ายังอยู่ที่สกุลเผย นับว่าอาศัย
บารมีสกุลเผยเช่นกัน ไม่พูดถึงเรื่องอื่น แต่อย่างน้อยผู้คนย่อมไม่กล้ารังแก หากยังทําได้ไม่ดี
ภายหลังคงต้องพักความคิดนี้ มุ่งมั่นแต่พื้นที่ของหลินอันก็เพียงพอแล้ว”
คําพูดนี้ก็มีเหตุผล
หาปลามาให้ยังมิสู้สอนวิธีหาปลา
ขอเพียงญาติผู้พี่ของนางมีความสามารถ ย่อมฟื้นฟูกิจการครอบครัวได้
อวี้ถังถามด้วยรอยยิ้มว่าเขาวางแผนจะแก้ปัญหาเรื่องเงินอย่างไร
อวี้หย่วนเอ่ยยิ้มๆ “พี่สะใภ้ของเจ้าให้เงินส่วนตัวมาห้าพันตําลึง ข้าคิดว่าขอท่านพ่อ
และท่านอาอีกพันสองพันตําลึงก็เพียงพอแล้ว ส่วนเรื่องเส้นสาย ข้าได้นัดกับคนของสมาคม
พ่อค้าหังโจวแล้ว ตอนกลางวันจะกินข้าวด้วยกัน ดูว่าคุยกันเป็นอย่างไรแล้วค่อยว่ากันอีกที”
ญาติผู้พี่มีแผนในใจแล้ว อวี้ถังจึงไม่มากความอีก กําชับเขาเรื่อง ‘ระมัดระวังตัว’ ก่อน
จะส่งอวี้หย่วนออกจากประตูด้วยตัวเอง ยามนี้ค่อยไปพบสวีเซวียน
สวีเซวียนเอ่ยทันที “พี่ชายเจ้ามาหาเจ้าทําไม? มีอะไรให้ช่วยเหลืออย่างนั้นรึ?” นางเผย
ท่าทีกระตือรือร้นอย่างยิ่ง
อวี้ถังเล่าแผนการและจุดประสงค์ที่อวี้หย่วนมาให้สวีเซวียนฟัง
สวีเซวียนได้ฟังก็ยิ้มออกมา เอ่ยว่า “พี่ชายเจ้าฉลาดจริงๆ รู้จักมาอยู่ในสกุลเผย ทั้ง
ความคิดก็ดีไม่น้อย บางทีเขาอาจจะทําเรื่องสําเร็จจริงๆ ก็ได้!”
2790
อวี้ถังเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ดังนั้นข้าจึงปล่อยมือไม่ยุ่งแล้ว เขามีเรื่องอะไรค่อยมาหาข้าอีก
ที”
สวีเซวียนพยักหน้า คิดว่าสองพี่น้องสกุลอวี้สามารถคิดได้เช่นนี้ ย่อมตั้งตัวขึ้นมาได้
เช่นกัน นางจึงเอ่ยถึงเรื่องของเถ้าแก่เกา “เถ้าแก่เกาผู้นั้นฉากหน้าดูเหมือนจะทํากิจการของ
ตัวเอง แต่ความจริงเบื้องหลังยังมีสกุลเผิงยืนอยู่ กิจการค้าเกลือของเขาครั้งนี้คงจะเป็นของ
สกุลเผิงเช่นกัน แต่หากเขาได้รับตราประทับของกรมคลัง สกุลเผิงอาจจะมอบกิจการค้าเกลือให้
เขาหนึ่งถึงสองแห่งเป็นค่าตอบแทนให้เลยกระมัง”
อวี้ถังไม่พอใจ เอ่ยว่า “ก็หมายความว่า หากสกุลพวกเราช่วยเขาประทับตรา ในความ
เป็นจริงกลับช่วยเหลือสกุลเผิง”
สวีเซวียนพยักหน้า
อวี้ถังไม่เข้าใจอยู่บ้าง นางเอ่ยว่า “เช่นนั้นเหตุใดสกุลเผิงไม่มาหาโดยตรง?”
ขอแค่มีผลประโยชน์ร่วมกันไปตลอด ย่อมไม่มีศัตรูอีกแล้ว
สกุลเผยและสกุลเผิงไม่ได้มีความแค้นฆ่าบิดาชิงภรรยาที่ไม่อาจแก้ไขได้เสียหน่อย
สวีเซวียนมองนางอย่างตกใจ “เจ้าไม่รู้รึ? เผยสยากวงของสกุลพวกเจ้า ส่งเผิงสืออีไป
อยู่ในคุก สกุลเผิงนําตัวเผิงสืออีออกมาอย่างยากลําบาก ยังไม่ทันได้แตกหักกับเผยเยี่ยนอย่าง
ชัดเจน ไฉนจะมีหน้ามาขอให้สกุลเผยช่วยเหลือ? ไม่แน่ว่าสกุลเผิงยังกลัวสกุลเผยจะฉวย
โอกาสสร้างความลําบากให้พวกเขา!”
เผิงสืออีถูกขังในคุก?
เป็นเรื่องตั้งแต่เมื่อใดกัน?
เพราะเหตุใด?
เหตุใดเผยเยี่ยนต้องทําเช่นนี้?
2791
ความคิดสับสนปนเปพวกนี้วาบขึ้นมาในสมองของอวี้ถัง จู่ๆ นางก็นึกถึงคําพูดเหล่านั้น
ที่นางเคยโกหกเผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนคงไม่ทําเพราะนางบอกเขาว่าเผิงสืออีและหลี่ตวนจะทําร้ายนางหรอก
กระมัง?
หากเป็นเช่นนี้ เผิงสืออีก็เป็นผู้เคราะห์ร้ายจริงๆ แล้ว!
มารร้ายในใจอวี้ถังเช็ดเหงื่อที่เต็มหน้าผาก นั่งเล่นเป็นเพื่อนสวีเซวียนทั้งวันอย่างใจ
ลอยอยู่บ้าง รอเผยเยี่ยนกลับมา นางก็ดึงเผยเยี่ยนไปถามเรื่องนี้ทันที
เผยเยี่ยนคาดไม่ถึงว่าสวีเซวียนจะบอกเรื่องของเถ้าแก่เกากับอวี้ถังเร็วถึงเพียงนี้ ยังถือ
โอกาสเอ่ยเรื่องเผิงสืออีอีก นี่ทําให้ใจที่บีบรัดเขาค่อยผ่อนคลายลงได้
เช่นนี้ก็ดี เขาจะได้ไม่ต้องหาวิธีอีกว่าจะพูดเรื่องพวกนี้กับอวี้ถังอย่างไร
เผยเยี่ยนผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เอ่ยขึ้นมาเรียบนิ่งราวกับไม่ใส่ใจเท่าใด “ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
อันใด จึงไม่ได้พูดกับเจ้า”
เขาเล่าเรื่องที่พบว่าเผิงสืออีเป็นคนเป่ าหูเจ้าทุกข์ไปฆ่าหลี่ตวน ทั้งระหว่างเผิงสืออี
และหลี่ตวนมีความบาดหมางที่ไม่อาจพูดได้อย่างกระจ่างชัด เขานึกถึงความฝันที่อวี้ถังเคย
บอกกับเขา คิดว่าให้เผิงสืออีลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างนอกเช่นนี้อันตรายเกินไป จึงเปิดเผยเรื่อง
สกปรกที่เผิงสืออีทําให้สกุลเผิงทราบ ทั้งส่งเผิงสืออีเข้าคุก บอกอวี้ถังจนหมดสิ้น คล้อยหลังยัง
เอ่ยว่า “คาดไม่ถึงว่าเผิงอวี่จะเลื่อนขั้นเป็นรองเจ้ากรมอาญา ข้าประมาทไปชั่วครู่ ทําให้สกุล
เผิงช่วยเผิงสืออีออกมา ในความคิดของข้า ทางที่ดีที่สุดควรทําให้เผิงสืออีถูกเนรเทศไปซีเป่ ย
ชั่วชีวิตนี้อย่าได้เข้าใกล้เจ้าในระยะห้าพันลี้”
พูดไปพูดมา ยังคงเป็นเพราะว่าคําพูดเหล่านั้นของนาง
อวี้ถังซาบซึ้งจนนํ้าตาคลอ นางกอดแขนเผยเยี่ยน เอ่ยเสียงแผ่ว “ไฉนเจ้าจึงโง่เช่นนี้”
ทําให้เผิงสืออีติดคุก ต้องเสียแรงใจและทรัพย์สินไปตั้งเท่าใด ยังต้องติดค้างนํ้าใจคนอื่น ไม่
2792
คุ้มค่าเอาเสียเลย “ข้าอยู่ข้างกายเจ้า ยังจะมีใครกล้าทําร้ายข้า?” ขณะที่นางพูด ก็อดไม่ไหวมุด
ศีรษะไปซบหน้าอกของเผยเยี่ยน
ท่าทางนั้นราวกับแมวที่ออดอ้อน ไม่รู้ว่าให้ความไว้วางใจเขาตั้งเท่าใด
เผยเยี่ยนเห็นก็ลอบดีใจ ยื่นมือออกมาลูบศีรษะนาง
อวี้ถังแข็งทื่อไป ไม่อยากให้เขาทําผมของตัวเองยุ่ง แต่นึกถึงยามที่เผยเยี่ยนลูบผมนาง
เผยความใกล้ชิดสนิทสนม ทําให้นางรับรู้ถึงความอบอุ่น ก็คิดปล่อยวาง ช่างเถิด ปล่อยให้คน
อื่นมีความสุขหน่อยแล้วกัน ส่วนเรื่องทรงผมนั้น อย่างมากก็ให้พวกชิงหยวนทําให้ใหม่เท่านั้น
แต่ที่เผยเยี่ยนพูดว่า เผิงสืออีคอยช่วยสกุลเผิงทําเรื่องสกปรกมาโดยตลอด เช่นนั้นชาติ
ก่อน…ก็คงเป็นแบบนี้เช่นกัน
ดังนั้นนางตายเพราะเปิดเผยการแลกเปลี่ยนระหว่างเผิงสืออีและหลี่ตวนอย่างนั้นรึ?
นึกมาถึงตรงนี้ ใจที่เต็มไปด้วยความสงสัยมาโดยตลอดของอวี้ถังก็ค่อยๆ วางลงบนพื้น
ชาติก่อน นางไม่ได้ใส่ร้ายสกุลหลี่ ชาตินี้นางก็ไม่ได้ทําอะไรผิดเช่นกัน
นี่ก็ดีแล้ว
เหมือนไม่ติดค้างหนี้อันใด นางรู้สึกสบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“อย่างไรระวังไว้หน่อยก็ดี” เผยเยี่ยนเอ่ย “ข้าคิดว่าสกุลเผิงย่อมทราบว่าข้าไป
ตรวจสอบเถ้าแก่เกา สกุลพวกเขาไม่อาจปล่อยสกุลพวกเราไปเช่นนี้ได้ ช่วงนี้เจ้าก็พยายามอย่า
ออกไปข้างนอก เจ้าเป็นเครื่องเคลือบลายคราม พวกเราไม่จําเป็นต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเศษหิน
อย่างพวกเขา”
เผิงสืออีถูกเขาปอกเปลือก ไม่อาจช่วยสกุลเผิงทําเรื่องสกปรกพวกนั้นได้อีกแล้ว นับว่า
เป็นลูกที่ถูกทิ้ง ใครจะรู้ว่าเขาจะยอมเสี่ยงอันตรายเพราะเข้าตาจนหรือไม่?