ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่364 โต้ตอบ
แม้จะเป็นเช่นนี้ เผยเยี่ยนยังคงไม่พอใจอย่างยิ่ง เอ่ยว่า “ต่างก็อายุยังน้อย ใครบ้างจะ
ไม่กระทบกระทั่งกัน ทําเรื่องอะไรนิดหน่อยก็ต้องให้ผู้ใหญ่ออกหน้าแล้วอย่างนั้นรึ?”
พูดราวกับว่าพวกเขาไม่ใช่สามีภรรยาที่อายุน้อยอย่างนั้นแหละ
อวี้ถังข่มกลั้นรอยยิ้ม ไปหาเผยเซวียนพร้อมกับเผยเยี่ยน
ระหว่างทาง พวกเขาก็พบกับสองสามีภรรยาเผยเซวียนที่มีท่าทีรีบร้อน
เผยเซวียนเปิดปากได้ก็ตําหนิทันที “เจ้าว่า สกุลพวกเราคนเยอะเพียงนี้ ใครบ้างเพิ่ง
แต่งงานก็ทะเลาะกันเสียแล้ว? ยังดีที่อยู่เมืองหลวง หากเป็นที่เรือนเก่า คงทําให้พวกญาติพี่
น้องคนอื่นขบขันเป็นแน่!”
ด้านนายหญิงรองกลับเอ่ยอย่างกังวล “น้องสะใภ้ เจ้ารู้ว่าพวกเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร
หรือไม่?”
“พวกเราก็เพิ่งทราบข่าวเช่นกัน” อวี้ถังเอ่ยละลํ่าละลัก “ยังอยากถามท่านพอดีว่ารู้
อะไรบ้างหรือไม่?”
นายหญิงรองสั่นศีรษะ คล้องแขนอวี้ถัง เอ่ยว่า “พวกเรารีบไปดูกันหน่อยเถิด! นี่หาก
เรื่องแพร่งพรายออกไป คงขายหน้าอย่างยิ่ง!”
อวี้ถังก็คิดเช่นนี้
โดยเฉพาะยามสําคัญอย่างสกุลเผยและสกุลฉินกําลังจะเจรจาแต่งงาน หากมีข่าวลือ
ออกไปว่าหลานชายและหลานสะใภ้ผิดใจกัน คนอื่นยังจะคิดว่าคนของสกุลพวกเขาดีเพียง
เปลือกนอกเท่านั้น!
ทั้งสี่คนสาวฝีเท้าไปยังเรือนของกู้ซี
2896
นางก็นับว่ามีสมอง ในเรือนนั้นเงียบสงบ เหลือหญิงรับใช้คนหนึ่งเฝ้าประตูไว้ ทั้งเป็น
หญิงรับใช้สินเดิม คนที่ติดตามสกุลเผยล้วนถูกไล่กลับห้องของตัวเอง เมื่อถึงโถงหลัก ก็พบสาว
ใช้สินเดิมสองคนของกู้ซีกําลังเก็บกวาดห้องโถงที่ถูกทําลายอย่างว่องไว เผยถงก้มหน้า เสื้อผ้า
อาภรณ์ยังเป็นระเบียบ กลับมีท่าทีทุลักทุเลไม่น้อย นั่งคนเดียวบนเก้าอี้ไท่ซือกลางห้องโถง
ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว เขาจึงเงยศีรษะขึ้น ชั่วขณะนั้นใบหน้าก็แดงกํ่าขึ้นมา ตะโกน
เสียงดังไปทางเรือนในว่า “กู้ซี!”
หรือเขาไม่รู้เรื่องที่กู้ซีไปเชิญผู้ใหญ่?
ขณะที่อวี้ถังครุ่นคิด ก็เห็นเผยถงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าละอายใจ คํานับให้พวกเขา เอ่ย
เสียงแผ่วว่า “อารอง อาสาม”
เผยเซวียนที่ปกติมักปฏิบัติกับคนอื่นอย่างมีเมตตา ยามนี้กลับใบหน้าแข็งทื่อ ดูเคร่ง
ขรึมอย่างยิ่ง นั่งอยู่ด้านซ้ายของห้องโถงไม่พูดไม่จา
เผยเยี่ยนก็ปิดปากเงียบเช่นกัน ใบหน้าดําราวก้นหม้อ นั่งอยู่ทางขวาของเผยเซวียน
เผยถงยืนอยู่ตรงนั้น มุมปากสั่นระริก เผยท่าทีราวกับไม่รู้จะทําอย่างไร
อวี้ถังครุ่นคิดว่าตัวเองควรจะนั่งตรงไหนดี นายหญิงรองกลับมองเผยถงไปที ก่อนถอน
หายใจ เอ่ยตักเตือนเขาเสียงเบา “กู้ซื่อล่ะ? เจ้าไปเรียกนางออกมาเถิด! ในเมื่ออารองและอา
สามเจ้ามาแล้ว ย่อมต้องช่วยพวกเจ้าคลี่คลายเรื่องราว”
เผยถงตอบรับเสียงแผ่ว เข้าไปยังเรือนใน
ไม่นาน เรือนในก็มีเสียงโต้เถียงไม่ชัดเจนลอยออกมา
เผยเยี่ยนเลิกคิ้ว ชี้ไปที่ด้านล่างของตัวเอง เอ่ยกับอวี้ถังว่า “เจ้าก็นั่งลงเถิด! ดูท่าจะ
ไม่ใช่เรื่องชั่วครู่ชั่วยามแล้ว”
อวี้ถังย่อมฟังตามเผยเยี่ยน
2897
นายหญิงรองนั่งตรงข้ามอวี้ถังเช่นกัน ทั้งยังกําชับสาวใช้ที่เก็บกวาดในห้อง “พวกเจ้า
ออกไปก่อนเถิด! ยกชาเข้ามาสองถ้วย”
สาวใช้ทั้งสองราวกับยกภูเขาออกจากอก ขานรับอย่างนอบน้อมว่า “เจ้าค่ะ” ออกไปยก
ชาเข้ามา ก่อนจะอันตรธานหายไปจากห้องโถงราวกับหนีตาย พร้อมทั้งปิดประตูห้องโถงเสร็จ
สรรพ
นายหญิงรองไม่รู้ว่าอยากพูดแทนกู้ซี หรือเห็นสีหน้าของสองพี่น้องเผยเซวียนดูไม่ได้
อย่างยิ่ง จึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “สาวใช้ข้างกายของกู้ซีใช้ได้ไม่น้อย รู้จักคํานึงถึงความเหมาะสม นี่
ย่อมดีกว่าอะไรทั้งนั้น”
เผยเซวียนฟังจบ ค่อยคลายโทสะไปบ้าง
เผยเยี่ยนกลับยังคงทําหน้าราวกับพญามัจจุราช
เผยถงและกู้ซีเดินตามกันเข้ามาจากเรือนใน คํานับให้เผยเซวียนและเผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนไม่ได้กล่าวอันใด ด้านเผยเซวียนถามพวกเขาอย่างเคร่งขรึม “ตกลงเป็นเรื่อง
อะไร? พวกเรามากันแล้ว พวกเจ้าก็พูดออกมาเถิด”
เผยถงเอ่ยพึมพําประมาณว่า “แค่ความเห็นไม่ตรงกัน” “คาดไม่ถึงว่าจะทําให้ท่านอา
ทั้งสองตกใจ” “ล้วนเป็นความผิดของข้า” ส่วนทะเลาะกันเรื่องอะไร กลับไม่พูดออกมาอย่าง
ชัดเจนแม้แต่น้อย
กู้ซีที่ยืนอยู่อีกด้านฟังเผยถงพูดอย่างเรียบนิ่ง เห็นเผยถงพูดไปพูดมาก็ยังไม่เอ่ยถึง
ความขัดแย้งระหว่างทั้งสอง นางก็อดแค่นหัวเราะไม่ได้ ตัดบทคําพูดคลุมเครือของเผยถง เอ่ย
ว่า “อารอง อาสาม เรื่องเป็นเช่นนี้ วันนี้ป้าสะใภ้ใหญ่เข้ามาเป็นแขก เอ่ยถึงเรื่องเกี่ยวดองของ
สกุลพวกเรา ข้าคิดว่า ฝั่งหนึ่งมีอาทั้งสอง อีกฝั่งเป็นแม่สามีข้า ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้พวกเราก็ไม่
อาจตัดสินใจได้ พวกเราเป็นคนรุ่นหลัง ฟังผู้อาวุโสก็เพียงพอแล้ว ข้าจึงไม่แสดงท่าทีอยู่เรื่อยมา
ใครจะรู้ว่าสามีกลับมาในเรือน ฟังคําพูดของป้าสะใภ้ใหญ่ กลับรับปากจะออกหน้าให้นาง ช่วย
2898
จับคู่งานแต่งของสองสกุล ป้าสะใภ้ใหญ่ได้ฟังก็ดีใจยิ่งกว่าอะไร ข้ากลับคิดว่าสามีไม่ควรยื่นมือ
ยุ่งเรื่องภายใน เพียงต่อหน้าป้าสะใภ้ใหญ่ ไม่อาจพูดอะไรได้ รอป้าสะใภ้ใหญ่ไปแล้ว ข้าจึงเอ่ย
อ้อมๆ กับสามีเรื่องนี้ ให้สามีอย่าได้รบกวนท่านอาทั้งสอง ไม่กี่วันให้หลังค่อยไปบอกกล่าวกับ
ป้าสะใภ้ใหญ่ กล่าวว่าเรื่องนี้คิดไปคิดมาแล้ว พวกเราที่เป็นคนรุ่นหลังไม่อาจสอดมือยุ่งได้ ใคร
จะรู้ว่าเขากลับบันดาลโทสะ ชี้จมูกตําหนิว่า ข้าประจบเบื้องสูง กดขี่คนด้อยกว่า เอาแต่ตีสนิท
คนมีอํานาจ ดูแคลนสกุลตายายของเขา”
“ข้าอธิบายอยู่ค่อนวันก็พูดกับเขาไม่เข้าใจ”
“ข้าจึงคิดว่า เช่นนั้นเชิญอารองเข้ามาออกความเห็นให้พวกเราจะดีกว่า”
นางไม่เคยคิดจะบอกสองสามีภรรยาเผยเยี่ยน
ไม่รู้ว่าเหอเซียงฟังไม่กระจ่าง หรือว่าตะลีตะลานจนทําอะไรไม่ถูกจึงได้บอกกล่าวกับ
เผยเยี่ยนเช่นกัน
เดิมทีนางคิดว่าตัวเองแต่งให้เผยถงได้เป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งแล้ว…เผยเยี่ยนปฏิเสธเส้น
ทางขุนนาง เผยถงกลับมุ่งหาแสงอาทิตย์ ไม่แน่ว่าอาจจะมีวันใดสอบขุนนางได้ ภายหลังเผย
เยี่ยนทําไร่สวนของเขาไป นางเป็นภรรยาของขุนนาง ก็นับว่าอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขกับสกุล
เผยเช่นกัน
คาดไม่ถึงว่าเผยถงมีวิชาความรู้ กลับกตัญ�ูอย่างโง่เขลา เห็นได้ชัดว่านายหญิงใหญ่
ทําไม่ถูก ทนพูดไม่ได้ก็แล้วไป แต่ยามที่อยู่ในช่วงสําคัญ ยังเห็นแก่หน้ามารดา ยอมให้ตัวเอง
ได้รับความไม่เป็นธรรม ยอมให้นางลําบากใจ
เผยถงจะอุทิศตนให้สกุลหยาง นางย่อมควบคุมไม่ได้ แต่คิดให้นางใช้ไหล่ของตัวเอง
ยันให้สกุลหยาง นั่นก็เป็นไปไม่ได้
สีหน้าของกู้ซีเยือกเย็นขึ้นเรื่อยๆ เอ่ยว่า “เหตุใดสกุลหยางต้องเกี่ยวดองกับสกุลเผย
พูดให้กระจ่าง แค่อยากดึงท่านลุงทั้งสองขึ้นมาจากบึงโคลน ระหว่างญาติพี่น้องช่วยเหลือซึ่งกัน
2899
และกันเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไร้ทางแก้ไขเสียหน่อย เหตุใดจําต้องเกี่ยวดองให้ได้?
อารองช่วยท่านลุงทั้งสองออกมาก็เพียงพอแล้วมิใช่รึ? เดิมทียามที่สกุลหยางพวกเขายืนอยู่ฝั่ง
สกุลซุนก็ไม่เคยปรึกษาสกุลพวกเรา? ยามนี้เกิดเรื่อง สกุลพวกเรายินดีแบกรับยังไม่พอ ต้องให้
คุณหนูของสกุลพวกเราแต่งไปสกุลพวกเขา? ท่านย่าคัดค้านอย่างโจ่งแจ้ง พวกเรากลับรั้นจะ
ทําเช่นนี้ ข้าโตจนถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยเห็นลูกหลานที่ไม่รู้บุญคุณเช่นนี้มาก่อน คาดไม่ถึงว่า
เจ้ายังมีหน้ามาชี้ว่าข้าอกตัญ�ู หมวกใบนี้ข้าสวมไม่ไหวหรอก ไม่เชิญผู้ใหญ่ในเรือนมาพูดให้
กระจ่าง ภายหลังข้าจะยืดหลังตรงเป็นคนได้อย่างไร!”
สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปที่ร่างของเผยถง
เขาโมโหจนตัวสั่นเทา มุมปากกระตุกอยู่ค่อนวัน ค่อยกัดฟันพ่นคําพูดออกมา “เมื่อครู่
เจ้าตอบกลับข้าเช่นนี้รึ? เจ้าอย่าเบี่ยงประเด็นหลักไปพูดประเด็นรอง! ในเมื่อกล้าฟ้อง ก็ต้องพูด
ความจริง”
สายตาของทุกคนย้ายไปที่ร่างของกู้ซีอีกครั้ง
กู้ซีหยัดกายตรงยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าขาวซีดราวกับชุดไว้ทุกข์ นางเอ่ยอย่างไม่เกรง
กลัว “ใช่ ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้พูดเช่นนี้ ข้าถามสามีว่า เหตุใดจําต้องเกี่ยวดองให้ได้? หรือเขาคิด
ว่ามีเพียงต้องเกี่ยวดองกับสกุลหยางอีกครั้ง จึงจะสามารถเยียวยาความเสียใจที่เขาไม่ได้แต่ง
ผู้หญิงของสกุลหยางได้?”
อวี้ถังเห็นนางเป็นเช่นนี้ ก็นึกถึงชาติก่อนทันที หลังจากเรื่องที่หลี่ตวนอยากครอบครอง
นางถูกเปิดเผย กู้ซีก็ใช้ท่าทีเช่นนี้กับนางเป็นครั้งแรก
เหมือนกับตอนนี้ หยัดกายตรงราวกับต้นไป๋ หยาง ใบหน้าเผยท่าทีที่ตัดสินใจสู้สุดตัว
หรือครั้งนี้ เผยถงก็ทําให้นางผิดหวังเช่นกัน?
อวี้ถังอดกําผ้าเช็ดหน้าแน่นไม่ได้ มองเผยถงตาแทบไม่กะพริบ
ชาติก่อน กู้ซีและหลี่ตวนใช้ชีวิตด้วยความรักใคร่หวานซึ้งถึงสี่ห้าปี
2900
แต่ยามนี้ กู้ซีแต่งให้เผยถงยังไม่ถึงปีด้วยซํ้า
เผยถงหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม เอ่ยว่า “อารอง อาสาม พวกท่านไม่ได้คิดว่านางพูดจาไร้
สาระหรอกรึ? หากข้าคิดจะแต่งหญิงสาวสกุลหยางอีกครั้งจริงๆ จะรับปากแต่งงานกับนางไป
ทําไม? เดิมทีท่านแม่อยากให้ข้าแต่งงานกับญาติผู้น้องสกุลท่านลุง เพียงแต่ข้าไม่อยากจมอยู่
ในความทุกข์เหมือนอดีตที่ผ่านมา จึงไม่ยินยอมจะเกี่ยวดองกับสกุลหยาง ท่านแม่สงสารข้าจึง
ได้เจรจาแต่งงานกับสกุลกู้” พูดจบ เขาก็ถลึงตาใส่กู้ซีไปที เอ่ยว่า “เจ้าใจแคบเกินไปแล้ว ไฉนจึง
สงสัยข้าเช่นนี้ได้?”
“ข้าเป็นผู้หญิง ปกป้องครอบครัวของตัวเองนั้นเป็นสัญชาตญาณ” กู้ซีกลับไม่โต้แย้ง
ยังเอ่ยอย่างมั่นใจ “ในเมื่อสามีพูดเช่นนี้ ข้าก็จะขอโทษเจ้าต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสอง แต่เจ้าต้องทํา
ให้ข้าสบายใจเช่นกัน รับปากต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองกับข้าว่า ภายหลังจะไม่เอ่ยเรื่องเกี่ยวดองกับ
สกุลหยางอีกต่อไป”
นี่จึงจะเป็นเป้าหมายของกู้ซีกระมัง?
ดึงพวกเขาออกมาจากเรื่องนี้ อย่างน้อยต้องดึงครอบครัวเล็กๆ ของพวกเขาออกมา
จากเรื่องนี้
อวี้ถังพลันกระจ่างใจ มองไปทางเผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนรับรู้ในใจ หันกลับมา เห็นเข้ากับแววตากลมโตวับวาวของอวี้ถัง
ในใจคิดอะไร เขามองอย่างทะลุปรุโปร่ง
เขามองไปทางเผยเซวียนและนายหญิงรอง
เผยเซวียนขมวดคิ้ว คิดว่าเรื่องเช่นนี้ก็ต้องทะเลาะกันจนให้ผู้ใหญ่ออกหน้าตัดสิน ไร้
สาระเกินไปจริงๆ ด้านนายหญิงรองกลับเผยรอยยิ้ม ราวกับรู้สึกว่าความหึงหวงของกู้ซีน่า
ขบขันไม่น้อย
ยังคงเป็นสาวน้อยของเขาที่หัวไวมีไหวพริบ วิธีการของกู้ซีไม่อาจหลอกล่อนางได้
2901
เขากระแอมไอเบาๆ
เผยถงและกู้ซีไม่ทะเลาะกันแล้ว เผยเซวียนและนายหญิงรองก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน ทุก
คนล้วนมองมาทางเผยเยี่ยน ตั้งใจฟังคําพูดของเขา
ยามนี้เผยเยี่ยนค่อยเอ่ยอย่างไม่เร็วไม่ช้า “อาถง เรื่องเกี่ยวดองกับสกุลหยาง ยามนี้เจ้า
คิดเห็นอย่างไร?”
เผยถงมีไหวพริบอย่างยิ่ง เอ่ยทันที “ย่อมต้องฟังผู้อาวุโส”
เผยเยี่ยนพยักหน้าอย่างเรียบนิ่ง เอ่ยว่า “ข้าคิดว่ากู้ซื่อพูดมีเหตุผล ในเมื่อมีวิธีอื่น เหตุ
ใดสกุลหยางยังต้องพยายามเกี่ยวดองกับสกุลเราให้ได้?” พูดคํานี้จบ เขาก็เบะปากเผยสีหน้า
รังเกียจ เอ่ยว่า “อาถง สกุลหยางเป็นสกุลตายายของเจ้า เจ้าและลุงเจ้าตัดกระดูกให้ขาดยังต่อ
กันได้ ข้าว่า เรื่องนี้ฝากให้เจ้าก็เพียงพอแล้ว เข้าไปถามสกุลหยางอย่างละเอียด ตกลงสกุลพวก
เขาต้องการทําอะไร? หากเพียงแค่ช่วยเหลือลุงสองคนของเจ้าจากสถานการณ์ยากลําบาก ข้า
และอารองเจ้าจะหาวิธีทําให้เขาพ้นภัยก็เพียงพอแล้ว หากอยากใช้ประโยชน์เรื่องนี้เกี่ยวดองกับ
สกุลเผยอีกครั้ง เจ้าก็ต้องถามให้ชัดเจนว่า สกุลหยางเกี่ยวดองกับสกุลพวกเราเพราะอยากได้
อะไรกัน? คนสกุลหยางอยู่ต่อหน้าเจ้าย่อมสบายใจยิ่งกว่าอยู่ต่อหน้าข้าและอารองเจ้า”
เผยถงและกู้ซีต่างพากันตกตะลึง
เผยเยี่ยนยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เอ่ยว่า “ทําไมรึ? ไม่ยินดี? หรือคิดว่าทําไม่ได้?”
เผยถงค้อมศีรษะ เอ่ยอย่างลังเล “ไม่ หาใช่ไม่ยินดี ข้ากลัวว่าตัวเองจะทําได้ไม่ดี”
“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร!” เผยเยี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “กู้ซื่อความคิดรอบคอบ หากเจ้า
คิดว่าตัดสินใจไม่ได้ ก็ปรึกษากับนาง นางย่อมมีวิธีการมากกว่าเจ้า”
นี่กําลังชมกู้ซีหรือว่าเหน็บแนมนางกันแน่?
อวี้ถังกะพริบตาด้วยความฉงนใจ