ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่390 ย้อนกลับ
ป่ าไผ่ส่งเสียงซู่ซ่า เงาเขียวชอุ่มปกคลุมไปทั่ว เสียงเหยียบกิ่งไม้หักดังเป๊ าะ ใบไผ่ไหวลู่
ตามลม นางคล้ายจมอยู่กลางทะเลเวิ้งว้าง เสียงกระซิบที่ถาโถมเข้าใส่ ทําให้นางเหมือนหลุด
เข้าไปอยู่ในป่ าไผ่หลังอารามดับทุกข์อีกครั้ง
“เจ้าเห็นแต่คนงามจนขาดสติ!”
“นี่เป็นการแสดงความบริสุทธิ์
ใจอย่างหนึ่ง!”
“แล้วเจ้าจะแบกรับมันไหวเช่นนั้นหรือ?!”
“เจ้าอย่าเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลย!”
เสียงเยาะหยันอันเย็นเยียบของเผิงสืออีนั้น เหมือนมีดคมกริบที่กรีดความทรงจําซึ่ง
นางได้ฝังตายเอาไว้ให้ทะลักออกมา ความทรงจําที่นางพยายามลบทิ้งกลับผุดขึ้นมาไม่หยุด
ภาพต่างๆ ปรากฏขึ้นมาในสมองนางอย่างต่อเนื่อง
สายตาตื่นตะลึงของหลี่ตวน
สีหน้าโหดเหี้ยมของเผิงสืออี
กรรไกรที่คบกริบ
อวี้ถังขนลุกชันไปทั่วร่าง ได้ยินเสียงกรีดร้องในใจ
สัญชาตญาณกําลังร้องเตือนถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามา
“ไป!” อวี้ถังลากอาซิ่งวิ่งไปทางร้านอาหาร
ตอนแรกอาซิ่งยังลังเล หันหน้ากลับไปมองเผิงสืออีทีหนึ่ง
นัยน์ตาของเผิงสืออีแผ่ไอสังหารออกมาจนนางใจสั่นไปหมด
3100
สมองของนางขาวโพลน ไม่เพียงสับขาวิ่งตามอวี้ถัง แต่เพราะร่างกายแข็งแรงกว่าจึงวิ่ง
นําหน้าอวี้ถังไป แล้วลากอวี้ถังให้วิ่งตามนางแทน
เผิงสืออีประหลาดใจ
เขาเดาออกว่าอวี้ถังจะวิ่งหนี แต่ไม่คิดว่าประสาทสัมผัสของนางจะไวเพียงนี้ แค่มอง
ตาเขาทีเดียว คนก็วิ่งหนีแล้ว
หรือสีหน้าของเขามีอะไรผิดปกติ?
เผิงสืออีไม่มีเวลาขบคิดอย่างละเอียด สาวเท้าสวบๆ ตามอวี้ถังไป แต่ในใจพลันรู้สึก
เสียใจขึ้นมา
เขาไม่ควรจะออกหน้าด้วยตนเอง
แต่หากเขาไม่ออกหน้าแล้วไหว้วานให้คนอื่นทําแทน พอคนพวกนั้นรู้ว่าอวี้ถังเป็นใคร
แค่ไม่เอาความลับไปบอกสกุลเผยก็นับว่าดีแล้ว ไม่ต้องพูดเรื่องจะช่วยเขาจับคนอีก
ขนาดคนที่เคยรับปากเขาเป็นมั่นเป็นเหมาะอย่างเถ้าแก่เกา ก็ยังทําท่าอ้อยอิ่งตอนที่
เขาขอให้ตามสืบเรื่องอวี้ถัง จนเขาต้องอ้างว่า เขาต้องการส่งของขวัญให้นาง เผื่อนางจะช่วย
เขาพูดจาน่าฟังต่อหน้าเผยเยี่ยนสักหลายประโยค เถ้าแก่เกาถึงได้ฝืนใจช่วยเขาตามสืบเรื่อง
ของอวี้ถัง
คิดถึงตรงนี้ กลางอกคล้ายมีกองไฟสุมไหม้ เขาชักกริชออกมา นัยน์ตาเต็มไปด้วย
ความอํามหิต แล้วเร่งฝีเท้าให้ไวกว่าเดิม
เพียงไม่กี่อึดใจ อวี้ถังก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว อีกแค่นิดเดียว เขาก็ยื่นมือไปคว้าผมของอวี้
ถังไว้ได้แล้ว
เผยเยี่ยนต้องการให้เขาตาย เขาก็จะทําให้หัวใจของเผยเยี่ยนตายจากไปเช่นกัน!
3101
สายตาของเขาเผยความดํามืด เขากําลังจะคว้าตัวอวี้ถัง แต่จู่ๆ สาวใช้ที่วิ่งอยู่ข้างหน้า
ก็กรีดร้อง แล้วผลักอวี้ถังเต็มแรงจนนางกระเด็นไปทางป่ าไผ่ที่อยู่ข้างๆ
“จะฆ่าคนแล้ว! จะฆ่าคนแล้ว!” อาซิ่งตะโกนร้อง แล้วกระโจนเข้าใส่เผิงสืออี
อวี้ถังได้แต่เบิกตามองค้าง “อาซิ่ง!”
ไม่ว่าจะชาติก่อนหรือชาตินี้ อวี้ถังก็ยังไม่เคยรู้จักตัวตนของอาซิ่งอย่างถ่องแท้ นางแค่
ต้องการตอบแทนบุญคุณเมื่อชาติก่อน อยากจะมอบชีวิตที่ดีกว่าเดิมให้ จากนั้นก็เลือกคู่ชีวิตที่
ดีให้สักคน ใช้ชีวิตอย่างสุขสงบภายใต้การคุ้มครองของสกุลเผย แต่คิดไม่ถึงว่า ชาติก่อนไป๋ ซิ่ง
เคยช่วยนางเอาไว้หนหนึ่ง มาถึงชาตินี้ ไป๋ ซิ่งกลับเด็ดเดี่ยวกล้าหาญยิ่งกว่าเดิม ตัดสินใจเลือก
เส้นทางที่ยากลําบากไม่แพ้ชาติที่แล้ว
นางกระเสือกกระสน พยายามปีนขึ้นไปบนตัวของเผิงสืออี แล้วบีบคอเขาเอาไว้
ชาตินี้ นางจะทําให้สําเร็จให้ได้
ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องลากเผิงสืออีให้ตายไปด้วยกัน
เพียงแต่ไม่รอให้นางปีนขึ้นไปได้สําเร็จ นางก็เห็นเงาของเผยเยี่ยนปรากฏขึ้นที่ปลายสุด
ของป่ าไผ่
“สยากวง!” อวี้ถังกรีดร้อง แต่ไรก็ไม่เคยตะโกนสุดเสียงเช่นนี้
จากนั้นนางก็เห็นเผยเยี่ยนกระโจนเข้ามาด้วยสีหน้าแตกตื่น
ด้านหลังเขา มีผู้คุ้มกันของสกุลเผยอยู่
เผิงสืออียิ้มขื่น
ชะตาของเขา ขาดเพียงโชคดีอีกก้าวเดียวเท่านั้น
3102
เขาถูกคนในสกุลโกรธเกลียด ถูกคนทําลายจนเสียโฉม ผลจากการจงรักภักดีต่อสกุล
ทําให้เขาต้องล่วงเกินเผยเยี่ยน อํานาจของสกุลเผยเพิ่มขึ้นทุกวัน เพื่อใบอนุญาตค้าเกลือนั่น
สกุลเขากลับคิดจะใช้เขาเพื่อเอาใจเผยเยี่ยนอีก
เขาไม่มีปัญญาจะแตะต้องนายท่านใหญ่เผิง แต่ไม่คิดจะปล่อยให้เผยเยี่ยนได้ใจ และ
รอดตัวไปได้อย่างไร้ปัญหา
เช่นนั้นก็สู้กันให้พังไปทั้งสองข้างเลย
เขาพลิกตัวลุกจะไปคว้าอวี้ถัง แต่กลับถูกอาซิ่งกอดขาเอาไว้
เผิงสืออีหัวเราะลั่น คิดว่าช่างน่าขันเป็นที่สุด
มักจะมีบ่าวซื่อสัตย์ผู้ไม่รักตัวกลัวตายเสมอ คนที่เชื่อว่าการรับคมมีดปลายดาบแทน
เจ้านายเป็นเรื่องที่สมควรทํา
เช่นนั้นเขาก็จะสนองให้
เขาไม่หยุดคิด เงื้อกริชแล้วแทงใส่อาซิ่งทันที
อวี้ถังรีบวิ่งไปกอดแขนของเผิงสืออีไว้ ก่อนจะกัดเขาเต็มแรง
แม้จะไม่ทําให้เผิงสืออีถึงตาย แต่ก็ต้องทําให้หนังเขาถลอกบ้างล่ะ
อวี้ถังเหมือนกับลูกวัวแรกเกิด เอาแต่รัดเขาไว้อย่างนั้น ไม่ยอมถอยไม่ยอมแพ้ เผิงสืออี
ที่ถูกงับอย่างแรงสะบัดแขนไปทางซ้ายทีขวาที เหมือนต้นไม้ที่ถูกลมพัดโหม แต่กลับทระนงตน
ไม่ยอมล้มโค่น
“นายหญิงสาม!” อาซิ่งกรอบตาร้อนฉ่า แล้วกัดลงที่ขาของเผิงสืออี
เผิงสืออีรู้สึกเจ็บ เขาเลิกสนใจอวี้ถัง แล้วหันไปแทงกริชใส่อาซิ่งอีกครั้ง
เผยเยี่ยนวิ่งมาคว้าข้อมือของเขาไว้ทัน
3103
“เผิงสืออี เจ้ารนหาที่ตาย!” ดวงตาเผยเยี่ยนแดงกํ่า ถีบเท้าใส่หน้าอกเขาเต็มแรง
เผิงสืออีร้องอัก มือกุมหน้าอกเอาไว้
ผู้คุ้มกันของสกุลเผยวิ่งกรูเข้ามา กดร่างเผิงสืออีแทบจมดิน
อวี้ถังกองอยู่กับพื้น ปากร้องเรียก “ไป๋ ซิ่ง” แต่กลับถูกเผยเยี่ยนอุ้มเอาไว้ในอกเสียก่อน
อาซิ่งมองไปที่อวี้ถังด้วยความมึนงง นางเห็นนายท่านสามที่ไม่เคยแสดงอารมณ์ทางสี
หน้ากําลังมือสั่นระริก คิดว่านายหญิงสามจะต้องตกใจมากเป็นแน่ ถึงได้เรียกชื่อนางผิดไป!
นางพยายามจะลุกขึ้น แต่ดันตัวอยู่พักหนึ่งก็ยังยืนขึ้นไม่ได้ ผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างๆ เห็น
ดังนั้นจึงช่วยประคองนางขึ้นมา นางถึงรู้ว่าริมฝีปากตัวเองแห้งผาก ขาสองข้างก็สั่นพั่บๆ ไป
หมด
อาซิ่งมองเผิงสืออีที่นิ่งงันไม่ไหวติงเฉกคนตาย ไม่รู้ว่าเมื่อครู่ตนไปเอาความกล้ามา
จากไหน คงเพราะอยากช่วยนายหญิงสามให้ได้กระมัง
นางหัวเราะเหอะๆ ก่อนจะมองเห็นนายหญิงรองกับพวกชิงหยวนที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้อนรนของนายหญิงรองดังมาแต่ไกลว่า “ข้าคิดว่าอาสามจะมาหา
น้องสะใภ้ เลยสั่งให้บ่าวรับใช้หลบไปอีกทาง เหตุใดจึง…”
ในความทรงจําของอาซิ่ง เหตุการณ์ต่อจากนั้นชุลมุนวุ่นวายยิ่ง
เผิงสืออีถูกพาตัวออกไป ร้านอาหารก็ปิดแล้ว นายหญิงใหญ่อู่ถูกเชิญออกไปด้วย
ความเกรงอกเกรงใจ สกุลเผยยืมห้องส่วนตัวของเถ้าแก่ร้านเพื่อรอท่านหมอมาตรวจชีพจร
ให้อวี้ถัง นายท่านสามกอดนายหญิงสามเอาไว้ตลอดเวลา กระซิบเสียงแผ่วว่า “เป็นความผิด
ข้าเอง” “ข้าลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท” เขาดูลนลาน คล้ายถูกทําให้ตกใจอย่างหนัก นายหญิงสามที่
เพิ่งจะถูกตามฆ่ากลับเป็นคนที่เยือกเย็นกว่านายท่านสามเสียอีก นางได้แต่ตบหลังนายท่าน
สามเบาๆ ปลอบเขาว่า “ข้าไม่เป็นไร” “ไม่มีใครเป็นอะไร”…
3104
อาซิ่งไม่กล้ามองต่อ นางตามชิงหยวนออกมาจากห้องด้วย แล้วกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ใหม่ รอจนท่านหมอมาถึง ลูกศิษย์ที่ติดตามมาด้วยก็ช่วยนางทําความสะอาดบาดแผล แล้วติด
รถม้ากลับไปที่คฤหาสน์ของนายหญิงสามด้วย
เผยเยี่ยนเดือดดาลเฉกสายฟ้าพิโรธ สั่งให้คนไปตามตัวสกุลเผิงมาทันที
อวี้ถังไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน และนางก็ไม่อยากรู้ด้วย
นางเชื่อว่าเผยเยี่ยนต้องให้บทเรียนกับคนสกุลเผิงแน่ เขาจะต้องช่วยนางแก้แค้น
แต่สิ่งที่นางคิดไม่ถึงก็คือ ตอนคํ่าพอเผยเยี่ยนกลับมา แขนสองข้างที่โอบกอดอวี้ถังซึ่ง
นอนหลับอยู่ก็ยังสั่นระริกไม่หาย
“ข้าไม่เป็นไรจริงๆ เจ้าค่ะ!” นางปลอบโยนเขาอีกครั้ง
เผยเยี่ยนไม่ยอมพูดจา เอาแต่กอดนางไว้แน่น คล้ายจะกดร่างนางให้กลืนหายไปกับ
ร่างเขา
อวี้ถังหัวเราะเสียงใส “ท่านจะรัดข้าให้ตายเลยใช่ไหม?”
“ห้ามพูดคํานั้นนะ!” เผยเยี่ยนคนที่ไม่เคยเกรงฟ้ากลัวดิน ตอนนี้แม้คําว่า ‘ตาย’ ก็ไม่
กล้าพูดออกมาแล้ว เขาตําหนิอวี้ถังเสียงเบาด้วยความหวาดกลัวว่า “เป็นความผิดข้าเอง ข้าไม่
เหลือทางหนีทีไล่ให้เขา แล้งนํ้าใจ ไม่รู้จักใจกว้างต่อผู้อื่น ทําให้เจ้าต้องตกอยู่ในอันตราย…”
นี่ไม่ใช่เผยเยี่ยนที่นางคุ้นเคย
เผยเยี่ยนที่อยู่ในใจนาง เขาเป็นคนมั่นใจในตัวเองจนแทบจะเย่อหยิ่ง ไม่เคยมีสักครั้งที่
เขานึกสงสัยในการตัดสินใจและหลักการของตน
อวี้ถังปวดใจ ยกมือขึ้นกอดเผยเยี่ยนเอาไว้ “เรื่องนี้จะโทษท่านได้อย่างไร? วันๆ หนึ่ง
ท่านมีเรื่องยุ่งตั้งมากมายเท่าไร ใช่ว่าทุกคนจะเหมือนกับเผิงสืออีเสียหน่อย พอล้มท่านไม่ได้ ก็
มาระบายอารมณ์กับผู้หญิงแทน? หากจะรู้สึกผิด ก็ควรต้องเป็นเผิงสืออีที่ต้องรู้สึกเช่นนั้น ทําไม
3105
คนที่ไร้ความผิดกลับมานั่งโทษตัวเอง แต่คนผิดกลับมีเหตุผลมากมายเต็มไปหมด? สยากวง ไม่
สมควรจะเป็นแบบนี้เลย!”
“แต่ถ้าไม่ใช่เพราะข้า…” เผยเยี่ยนเพิ่งจะเปิดปาก ก็ถูกอวี้ถังตัดบทว่า “หากจะพูดว่ามี
อะไรไม่ถูกต้อง ก็คงเป็นพวกเราที่ประมาทเกินไป ถอนรากไม่ถึงโคน พอลมพัดต้นก็งอกใหม่อีก
คนอย่างเผิงสืออีไม่สมควรจะได้รับโอกาส หากท่านไม่เชื่อ ก็ลองส่งคนไปสืบดู ตอนที่เขาถูก
สกุลเผิงตัดหางทิ้งไว้ที่ซีเป่ ย จะต้องทําเรื่องเลวๆ อื่นไว้อีกเป็นแน่”
เพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์ของสกุลเผิงแล้ว พวกเขาไม่มีทางปล่อย ‘คนมี
ความสามารถ’ อย่างเผิงสืออีไว้เฉยๆ โดยไม่ใช้งานแน่
อวี้ถังเอ่ยต่อว่า “ที่เขาหาเรื่องเรา มิใช่เพราะเขาชอบรังแกคนอ่อนแอแต่หัวหดกับคน
แข็งแกร่งกว่ารึ เขาไปล่วงเกินท่าน แต่คนที่ลงโทษเขาคือสกุลเผิง เหตุใดเขาถึงไม่กล้าไปเอา
เรื่องสกุลเผิงเล่า?”
นางให้ท้ายเผยเยี่ยนอย่างไร้เงื่อนไข
เขาคล้ายจะตั้งสติกลับมาได้อีกครั้งแล้ว
แต่เขาก็ยังจับมืออวี้ถังไว้ เอ่ยเสียงเบาว่า “อย่างไรก็ต้องระวังตัว เจ้าเคยฝันว่าเผิงสืออี
กับหลี่ตวนคุยกัน แล้วเจ้าบังเอิญไปได้ยินเข้า ข้าคิดแต่จะจัดการหลี่ตวน แต่ไม่เคยนึกว่า
ต้นเหตุจะมาจากเผิงสืออี จะว่าไป ก็เป็นเพราะข้าไม่ยอมเก็บคําของเจ้ามาคิดให้ละเอียด” เขา
มองหน้าอวี้ถังอย่างจริงจัง “ต่อไปข้าจะไม่เลินเล่อแบบนี้อีก”
เผยเยี่ยนพูดจบ จากนั้นก็รัดอวี้ถังเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง
อวี้ถังตบไหล่เผยเยี่ยนเบาๆ เอ่ยเสียงอ่อนโยนว่า “ท่านมิได้บอกว่าจะขึ้นเขาเซียงซาน
ไปเป็นเพื่อผู้เฒ่าจางหรือ? ทําไมจู่ๆ โผล่มาที่ทงโจวได้ล่ะ ทั้งยังรีบตามไปที่ร้านอาหารเนื้อแพะ
อีก?”
3106
หากว่าเผยเยี่ยนมาช้าอีกเพียงก้าวเดียว นางกับอาซิ่งอาจลงไปอยู่ในปรโลกแล้วก็
เป็นได้
เผยเยี่ยนร่างแข็งทื่อ ส่งเสียงอืมๆ แล้วตอบว่า “ข้าทางนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว จึงมาที่ทง
โจวเลย พวกเรามิใช่จะไปรับคนหรอกรึ?”
ไม่ใช่เพราะอยากจะเจอนางเร็วขึ้นหน่อยหรือ?
อวี้ถังซบลงที่หัวไหล่ของเผยเยี่ยน มุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้ม “สยากวง โชคดีที่ท่าน
มา!”
โชคดีที่ชีวิตนี้นางได้เจอกับเขา
แต่นางซาบซึ้งได้ไม่ถึงหนึ่งเค่อ เผยเยี่ยนก็เอ่ยอย่างอวดดีว่า “ก็ใช่น่ะสิ! หากไม่มีข้า
เจ้าจะต้องเดือดร้อนแน่”
ใช่! หากไม่ได้เผยเยี่ยน นางก็คงต้องเดือดร้อนอีกแน่
แต่หลี่ตวนไม่อยู่แล้ว เผิงสืออีไม่มีทางปรากฏตัวที่ข้างกายนางอีก สกุลอวี้ได้ใบสั่งงาน
จากพิธีหมื่นพรรษา คนสกุลเกาก็หนีไปกับพี่ชายในสกุล…ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
นางคิดถึงเผยเยี่ยนที่เจอตอนไปโรงจํานํา เผยเยี่ยนที่เจอบนถนนฉางซิ่ง เผยเยี่ยนที่เจอ
ในสวนป่ าสกุลอวี้…ทุกๆ ครั้ง เขาช่วยนางให้รอดพ้นจากเรื่องเลวร้ายเสมอ
นางคิดถึงอารามดับทุกข์
อวี้ถังตั้งใจว่าจะไปอารามดับทุกข์สักครั้ง อยากรู้ว่าญาติผู้พี่ที่เคยดูแลตนในตอนนั้นอยู่
ที่ไหน? อยากรู้ว่าชาติก่อนนางเคยได้รับความช่วยเหลือจากเขาหรือไม่
แม้ตอนนั้นนางจะตั้งหน้าตั้งตาแก้แค้นเพียงอย่างเดียว แต่วันนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป
แล้ว เรื่องบางเรื่อง นางไม่อาจจะสืบหาความจริงได้อีก แต่ก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่? แค่รู้เอาไว้ว่า
เขาในชาติก่อน ก็เคยมีวาสนากับนางเช่นกัน
3107
นางคิดถึงตอนที่เผยเยี่ยนกอดนางใต้เงาไม้ดกครึ้ม
ภาพสีเขียวชอุ่มหนาตา
เหมือนกับชาติก่อนตอนที่ร่างนางนอนอยู่บนพื้น ฉากภาพสุดท้ายที่สะท้อนในดวงตา
นาง
เพียงแต่ชาติก่อน นางไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว
วันนี้ คนที่รักนางโอบกอดนางเอาไว้
อวี้ถังประทับจูบลงข้างแก้มของเผยเยี่ยนด้วยความอาลัยและเสน่หา
…………จบ………..