อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 27 เธอควรระวังไว้ [รีไรท์]
ตอนที่ 27 เธอควรระวังไว้
ฉิวซีขมวดคิ้วขึ้น “เลขาหลิน คุณมีหลายอย่างต้องทำนี่ มาที่แผนกวางแผนทำไม?”
หลินจือเซี๋ยวรู้ดีว่าตัวเองนั้นถูกฉิวซีจ้องมองอยู่ เธอยื่นเอกสารในมือไปให้อันโหรวพลางยิ้มและตบไหล่เธอเบา ๆ
“อันอีหาน นี่คือรายชื่อศิลปินที่ถูกคัดเลือกมาตามความต้องการของคุณ วันนี้คุณอาจจะต้องส่งแผนการคัดเลือกที่เหมาะสมกับการโฆษณา และส่งให้ประธานจิ่งในวันถัดไปด้วย”
เมื่อพูดจบหลินจือเซี๋ยวก็ยิ้มและหันไปมองฉิวซี สายตานั้นบ่งบอกถึงความภาคภูมิใจ
“อันอีหานมาที่แผนกวางแผนไม่ใช่มาเพื่อชงกาแฟให้คุณหรอกนะ เธอมีความสามารถมากกว่านั้น มากกว่าการชงกาแฟเยอะเลย เรื่องพวกนี้ที่คุณใช้ออกจะเกินความจำเป็นไปหน่อยนะ”
ฉิวซีเริ่มไม่พอใจ แผนกวางแผนของทีม A เป็นเธอที่ดูแลมาโดยตลอด การที่หลินจือเซี๋ยวพูดแบบนี้มันเกินกว่าที่เธอคาดคิดเอาไว้
นอกจากนี้อันอีหานเองก็ถูกรับให้เข้ามาทีม A ทั้งยังเป็นลูกน้องของเธอ เธอสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ ไม่ใช่สิ่งที่คนนอกควรเข้ามายุ่ง
ฉิวซีเค้นเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอ ดวงตาเผยความเย็นชาและเอ่ยออกไปว่า “อันอีหาน ทำอะไรอยู่ เธอรีบไปโฟกัสงานของเธอสิ เบื้องหลังเธอใหญ่ขนาดนี้ ฉันคงไม่กล้ารบกวนเธอแน่ ๆ” เมื่อพูดจบเธอก็หันหลังกลับไปทันที
นับตั้งแต่ต้นจนจบ อันโหรวยังไม่ได้พูดสักประโยค เธอเห็นการต่อสู้ชิงดีชิงเด่นกันมาเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นด้วยตำแหน่งหน้าที่ของฉิวซี อายุคนนี้ก็ต้องมากกว่าหลินจือเซี๋ยว แต่ตอนนี้หลินจือเซี๋ยวเป็นเลขาของประธานจิ่ง ส่วนเธอเป็นหัวหน้าแผนก เธอคงรู้สึกตงิด ๆ อยู่ในใจแน่นอน
ในตอนนี้เองหลินจือเซี๋ยวก็โค้งตัวมาหาพลางกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของเธอ
“อย่าดูถูกฉิวซีนะ ยัยคนนี้เก่งมาก แถมยังมีเล่ห์เหลี่ยมเยอะด้วย เธอต้องระวังให้ดี”
อันโหรวยิ้มอย่างไม่สนใจ ก่อนจะตอบเบา ๆ กลับไปว่า “คนแบบนี้ฉันเห็นมาเยอะแล้ว สำหรับเธอนั้นก็แค่พวกมือใหม่”
หลินจือเซี๋ยวกลั้นเอาไว้ไม่ไหวจึงหัวเราะออกมาดัง ๆ เพื่อนของเธอบอกว่าฉิวซีผู้นี้เหมือนกับพวกมือใหม่ ถ้าหากยัยนั่นรู้เข้าละก็ ไม่รู้ว่าจะโกรธขนาดไหน!
หลินจือเซี๋ยวกะพริบตาสองที “ฉันจะเฝ้าดูเธอ”
เมื่อพูดจบเธอก็ก้าวออกไปด้วยความมั่นใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
อันโหรวหยิบรายชื่อศิลปินและนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของเธอ เธอดูมันอย่างตั้งใจ ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนที่หยิบปากกาขึ้นมาขีดเขียนเป็นครั้งคราว ในช่วงที่เขียนแผนที่สองอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ของผู้หญิงที่อยู่ข้างหลัง
“ผลิตภัณฑ์ใหม่นี่เป็นเหมือนเรือธงสุดล้ำค่าของบริษัทจิ่งในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นการจะหาคนมาเป็นโฆษกจึงจำเป็นต้องใช้นักแสดง นักร้อง หรือไม่ก็นายแบบนางแบบที่มีชื่อเสียง เธอกลับวงพวกที่เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยภาพยนตร์ที่ยังไม่ทันจบ เธอไม่คิดว่านี่มันดูไร้สาระไปหน่อยเหรอ?”
คำพูดที่ดังขึ้นมานั้นเป็นฉิวซีที่เอ่ย มือของเธอกำลังถือแก้วกาแฟพลางจิบอย่างช้า ๆ
อันโหรวไม่ได้หยุดปากกาที่อยู่ในมือ ทั้งยังไม่หันกลับไปมองด้วย แต่เพียงแค่ตอบกลับไปเบา ๆ ว่า “ตั้งแต่ที่ประธานจิ่งส่งแผนพวกนี้มาให้ฉัน การจะเลือกหรือไม่เลือกอะไรนั้น ฉันล้วนคิดดีแล้ว ฉันจะพยายามไม่ให้คุณเหนื่อยนะคะ”
ฉิวซีที่จิบกาแฟอยู่นั้นหยุดจิบทันที ดวงตาของเธอแฝงไปด้วยความดุร้าย “ฉันขอเตือนเธอก่อนเลยนะ อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า ไม่ใช่แค่เข้ามาและก็ออกไป แบบนั้นมันออกจะตลกเกินไปหน่อย”
ครั้งนี้อันโหรวก็ไม่ได้สนใจเช่นกัน เธอยังคงมองหารายชื่อศิลปินที่อยู่ในมือของเธอต่อ
การกระทำราวกับไม่รู้ไม่ชี้นี้ส่งผลทำให้ฉิวซีเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมา เธอมองไปที่กาแฟในมือ ก่อนจะชำเลืองสายตามองไปที่ด้านหลังของอันโหรว จากนั้นจึงค่อย ๆ เดินไปอย่างช้า ๆ และแกล้งทำเป็นสะดุดกับขาโต๊ะ ส่งผลให้กาแฟหกไปถูกอันโหรว
ภาพนี้ทุกคนที่อยู่ในทีมต่างก็เห็นอย่างชัดเจน และรู้ดีว่าหัวหน้าทีมของพวกเขานั้นจงใจทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่พวกเขาต่างก็ไม่เอ่ยคำพูดอะไรออกมา ยังไงอันอีหานก็ดูโดดเด่นเกินไป บดบังหัวหน้ากลุ่มของพวกเขาเป็นอย่างมาก
กาแฟที่เพิ่งจิบไปไม่นานค่อนข้างร้อน ถ้าหากมันหกกระเซ็นไปโดนตัวของอันโหรวจะต้องเกิดแผลพุพองแน่ ๆ
แต่ว่าพวกเขากลับทำเป็นไม่สนใจ ใครใช้ให้เธอโดดเด่นเกินไป มันก็สมควรที่จะโดนแบบนี้!
เพียงแต่ว่าสิ่งที่ทุกคนคิดไม่ถึงก็คืออันโหรวสามารถหลบมันได้!
แก้วกาแฟที่ร้อน ๆ กระเซ็นไปคนละทิศคนละทางที่ตรงกันข้ามกับที่ฉิวซีตั้งใจ
เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาทันที ก่อนจะตามมาด้วยเสียงแก้วที่แตกกระจาย
สวรรค์! ใครจะคิดว่ากาแฟที่หัวหน้าทีมทำหกใส่จะกลายเป็นใบหน้าของตัวเองไปเสียได้
อันโหรวมองฉิวซีที่กำลังกรีดร้องด้วยเสียงอันดัง “ดูเหมือนคุณต้องระวังเท้า ระวังมือหน่อยนะ ไม่อย่างนั้นกาแฟร้อน ๆ อาจจะหกใส่ฉันได้”
น้ำเสียงที่นิ่งสงบนั้นทำให้ผู้คนที่ได้ยินต่างก็ตัวสั่นกันยกใหญ่