อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 365 ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง
ตอนที่ 365 ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง
ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงข้างราวบันไดเกือบสิบนาทีได้ อันโหรวค่อย ๆ พูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ ว่า “เมื่อกี้นายบอกว่ามีเรื่องอะไรอีกเรื่องหนึ่งนะ?”
“เธอแน่ใจนะว่าอยากจะรู้จริง ๆ” เขาไม่แน่ใจสักนิดว่าเธอคิดอยากจะรู้เรื่องพวกนี้
“ตอนนี้ฉันยังมีเรื่องอะไรอีกที่ไม่ต้องรับรู้ ตอนนี้ฉันก้าวมาไกลมากพอแล้ว” ผู้ชายที่เธอเชื่อใจกลับมีบ้านเล็กบ้านน้อย ทั้งยังมีลูกสาวอีกด้วย
วันที่เธอแต่งงานแบบนี้แล้วเพิ่งมารู้ ยังจะมีอะไรที่น่าเศร้ากว่านั้นอีกงั้นเหรอ?
ฉีหย่วนหยางเหลือบมองไปยังแก้วไวน์ที่ว่างเปล่า ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เธอไม่อยากใช้คอมแล้วสินะ ไปกันเถอะ”
ตรงห้องคอมพิวเตอร์ที่ดูโล่งและสว่าง เขาชอบตกแต่งห้องนี้ด้วยกระจกที่เรียบง่ายและดูโปร่งแสงตลอดเวลา
ตรงห้องคอมพิวเตอร์มีทั้งหมดห้าแฉก ผนังสามด้านล้วนแล้วเป็นกระจกใส ภายในห้องตกแต่งแบบเรียบง่าย เมื่อวางคอมพิวเตอร์ลงก็มีเก้าอี้สองตัววางเอาไว้ใกล้ ๆ คอมพิวเตอร์ พร้อมกับมีกระถางต้นไม้ประดับอยู่สองอัน
ฉีหย่วนหยางเทไวน์อีกแก้ว ครั้งนี้อันโหรวมองไปที่ขวด
อุตสาหกรรมไวน์ของบริษัทจิ่งเรียกได้ว่าครอบคลุมไปทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นสูงหรือระดับต่ำสุดก็เรียกได้ว่าเป็นผู้นำแห่งด้านนี้จริง ๆ
ส่วนบริษัทที่เป็นผู้นำอีกด้านนี่ก็คือ อันจวินเซวี่ยน
และไวน์ที่ฉีหย่วนหยางกำลังถืออยู่ตอนนี้ไม่ใช่ของบริษัทจิ่ง แต่กลับเป็นของบริษัทอัน
เมื่อคืนเขาบอกว่ามีคนอื่นส่งมา คงไม่ใช่หมายถึงอันจวินเซวี่ยนใช่ไหม?
ครั้งที่แล้วที่ได้เจอเขาตอนงานเลี้ยงปีใหม่ก็ผ่านมานานมากแล้ว แป๊บเดียวก็ล่วงเลยไปได้สักพัก
ฉีหย่วนหยางถือแก้วไวน์ไว้ในมือ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้สีเขียวด้วยท่าทีที่ขี้เกียจ จากนั้นจึงเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอก็เดินเข้ามา
เขาเอนตัวลง ก่อนจะดื่มไวน์ที่อยู่ในมือ ส่วนมืออีกข้างก็ขยับเม้าส์ไปมา
“เช้านี้ตอนที่ฉันได้รับข้อความมานั้น ดูเหมือนว่าสถานการณ์พวกนี้ฉันจะไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย” ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเธออยากดู เขาคงไม่มีทางที่จะใส่ใจกับมันเท่าไรนัก
หัวใจของอันโหรวเริ่มเต้นแรงด้วยความเคร่งเครียด ก่อนจะจ้องมองไปที่ภาพที่กำลังเคลื่อนไหวไปมา
ด้วยความรวดเร็ว ฉีหย่วนหยางก็ได้เปิดเอกสารที่ถูกส่งมาจากเกาเซิน ข้างในนั้นเต็มไปด้วยภาพและวิดีโอสั้น ๆ
อันโหรวมองเห็นจิ่งเป่ยเฉินที่กำลังสวมชุดสีแดงยืนอยู่ตรงเวที ทิศทางตรงกันข้ามเขาเป็นผู้หญิงที่สวมชุดแต่งงานสีแดงเช่นกัน
ชุดนี้เธอค่อนข้างคุ้นเคยดี เพราะมันเป็นของเธอมาก่อน แต่เธอไม่ได้อยู่ที่นั้นด้วยซ้ำ และเขาก็ยังคงแต่งงานต่อแบบนี้
แทบไม่ต้องคิดเลยว่าเขาแต่งงานกับใคร ไม่จำเป็นต้องคิดให้มากความ
เพราะนอกจากอันหย่าพั่นแล้วก็ไม่มีใครคนไหนอีก
เธอมันโง่จริง ๆ โง่ที่ถูกเขาหลอกอยู่คนเดียวแบบนี้
ภาพที่หนึ่งค่อย ๆ เลื่อนผ่านไป ภาพต่อมาก็เห็นพวกเขากำลังโค้งคำนับกัน และกำลังยืนเผชิญหน้ากันและกัน
ฉีหย่วนหยางยังคงไม่ขยับเม้าส์ไปไหน เธอเองก็ยังคงก้มมองดูอยู่ ทันใดนั้นก็เข้ามาแย่งเม้าส์จากเขาไป “ไม่ต้องเลื่อนแล้ว! ฉันไม่อยากดูมัน!”
ฉีหย่วนหยางมองไปที่มือของเธอที่กำลังเข้ามากุม ฝ่ามืออุ่น ๆ ของเธอมันเบาสบาย แต่ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงเหงื่อเย็น ๆ ที่ไหลซึมออกมาจากมือของเธออย่างชัดเจน
ดูท่าเธอน่าจะวิตกกังวลพอสมควร แต่กับเขาแล้วไม่มีเลยสักนิด
เขาดึงมือของเขาออกจากมือของเธอ ก่อนที่จะสลับแก้วไวน์ให้เปลี่ยนเป็นมือขวาของเขาแทน จากก็ดื่มเพื่อปกปิดการสั่นเล็ก ๆ น้อย ๆ
อันโหรวรู้สึกเหมือนว่าตอนนี้หัวใจของเธอราวกับถูกเข็มนับพันทิ่มแทง กระทั่งเห็นเขาดึงมือกลับจึงได้สติกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเธอจะออกไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้กระทบต่องานแต่งของเขาเลยสักนิด หนำซ้ำยังเปลี่ยนคนอีกด้วย
เธอเดินเข้าไปนั่งที่หน้าคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง ก่อนจะเปิดเครื่องด้วยท่าทีที่คล้ายกับศพเดินได้ เธอจ้องมองไปยังหน้าจอที่ดำสนิท ก่อนที่มันจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสว่างขึ้น
ภายในหัวใจของเธอตอนนี้เจ็บแปลบราวกับว่ากำลังโดนเฉือนหัวใจออกมาทีละน้อย พร้อมกับถูกขย้ำออกมาเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ
“ฟู่…….”
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ความเจ็บปวดตอนนี้มันยังคาอยู่ในหัวใจไม่ยอมหายไปไหน
ที่แท้ก็มีบางอย่างที่ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าของเธอ มันคือการที่ว่าที่สามีของเธอกำลังจะแต่งงานและมีลูกสาวกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ที่ด้านนอก หนำซ้ำผู้หญิงคนนั้นยังมาแทนที่เธอ สวมชุดแต่งงานของเธอ
พวกเขาจะรีบร้อนไปหน่อยไหม?
ทำไมถึงปล่อยให้เกิดขึ้นในเหตุการณ์ที่เธอออกไปแบบนั้น ยังมาแต่งงานกันแบบนี้อีก?
ฉีหย่วนหยางทำทีว่ากำลังจะดื่มไวน์ต่อ แต่อันที่จริงแล้วยังคอยมองดูท่าทีของเธออยู่ตลอด สักพักหนึ่งเมื่อเห็นเธอขยับเม้าส์ มือทั้งสองข้างก็ค่อย ๆ ขยับไปกดที่แป้นพิมพ์
พิมพ์หนึ่งครั้งมีเสียงไหลติ๋งมาหนึ่งติ๋ง สองติ๋ง สามติ๋ง…….
น้ำตาค่อย ๆ ไหลลงมาที่คีย์บอร์ดเรื่อย ๆ เขามองท่าทีของเธอ ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์ของเขาทันที เขามองไปที่รอบ ๆ ว่าควรจะหาอะไรมาดีไหม?
อย่างพวกกระดาษทิชชูอะไรแบบนั้น
อันโหรวมองดูเอกสารเรื่องการหย่าตรงหน้า ก่อนจะเขียนชื่อของลงเธอไป ราวกับว่ามีเลือดไหลออกมาจากหัวใจไม่หยุด
เธอรู้สึกว่าตัวเองทั้งโกรธและเศร้าในเวลาเดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องดี มันไม่ใช่ปัญหาที่จะช่วยให้ดีขึ้นเลยสักนิด
เขาทำกับเธอแบบนี้ เธอทนไม่ได้หรอก!
เขามันเป็นผู้ชายชั่ว เลวบริสุทธิ์!
ก่อนหน้านั้นมีข่าวลูกไม้มากมาย แต่เธอก็ยังคงเชื่อคำพูดของเขาอยู่ดี เพราะอะไรกัน ตั้งแต่ซูรั่วหย่าแนะนำให้เขานัดบอด ที่แท้ก็มีข่าวลือภายนอกอยู่เต็มไปหมด
ถ้าหากเขาไม่ไปนัดบอด ไม่ได้บอกเรื่องผู้หญิงคนอื่น ๆ จะรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงพวกนี้ที่เป็นข่าวลือจะเป็นผู้หญิงของเขาจริง ๆ
เธอนี่มันเป็นคนโง่ชะมัดเลย!
ทันใดนั้นเองก็มีกระดาษสีขาวมาขวางสายตาของเธอไว้ เมื่อเธอละสายตาขึ้นไปมองก็เห็นเป็นกระดาษทิชชู
เธอกะพริบตาเล็กน้อย ก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองนั้นกำลังร้องไห้อยู่
ร้องไห้ทำไมกัน ไม่เห็นคุ้มค่าเลยที่ทำตัวอ่อนแอแบบนี้!
เธอหยิบกระดาษทิชชูออกมาพร้อมกับเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพิมพ์คำสุดท้ายลงไปทันที
“นายมีเครื่องปริ้นต์ไหม?”
“มี” ฉีหย่วนหยางเหลือบมองไปยังหน้าจอของเธอ “เธอเอาจริงใช่ไหม?”
“หรือฉันควรจะรอให้เขามาหาฉันก่อน?” เธอกดพิมพ์ออกมา
“เปล่า พวกเธอไม่ใช่ว่าหมั้นอย่างเดียวเหรอ? แต่งงานกันตั้งแต่ตอนไหน?” ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย!
เขากำแก้วไวน์ในมือแน่น ก่อนจะมองลงไปที่หน้าจอ จริง ๆ แล้วพวกเขานั้นแต่งงานกันแล้ว!
ส่วนเกาเชินทำบ้าอะไรอยู่กันเนี่ย ทำไมพวกเขาแต่งงานกันฉันถึงไม่รู้เรื่องเลย คนในเมือง A น่าจะมีไม่กี่คนด้วยซ้ำมั้งที่รู้ว่าพวกเขาแต่งงานกันแล้ว!
แต่งงานกันแบบลับ ๆ นี่เอง!
ถ้าหากเปลี่ยนเป็นเขาละก็ เขาจะประกาศให้กึกก้องไปทั่วโลกเลยด้วยซ้ำ
“นี่ไม่ใช่ประเด็นหรอก” เธอมองไปที่หน้าจอ ก่อนจะพูดต่อด้วยใบหน้าที่เงียบสงบ “ถ้าหากฉันส่งไปละก็ เขาต้องพบมันแน่ ๆ นายช่วยฉันหน่อยละกัน”
“คำขอของสุภาพสตรีแน่นอนต้องช่วยอยู่แล้ว” ข้อตกลงในการหย่าเล็ก ๆ น้อยแบบนี้ ไม่สิ้นเปลืองเวลาเท่าไรหรอก
……
ณ โรงพยาบาลรุ่ยหยา ห้องคนไข้วีไอพี จิ่งเป่ยเฉินสวมชุดคนไข้สีฟ้าขาวนอนอยู่บนเตียงและข้างเตียงก็มีหน่วนหน่วนนั่งอยู่บนตักของถังซั่ว
“พี่เฉิน! สีหน้าของพี่ต้องซีดกว่านี้นะ!” หมิ่นลี่ตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง
มีอะไรจะซีดไปกว่านี้อีก หรือว่าตอนนี้สีหน้าของเขายังขาวซีดไม่พออีกเหรอ?
“ไม่ต้องขาวไปกว่านี้แล้ว!” หน่วนหน่วนมองจิ่งเป่ยเฉินอย่างเจ็บปวด ทั้งผ้าพันแผลบนหน้าผากและร่องรอยของสีดำและสีม่วงช้ำบนใบหน้าที่หล่อเหลา
“พ่อจ๋าน่าสงสาร……” หน่วหน่วนมองเขาด้วยความเจ็บปวด แม่จ๋าไม่อยู่ แม้แต่พ่อจ๋าเองก็ได้รับบาดเจ็บ
หยางหยางนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แต่ว่าสายตาของเขากลับเผยถึงความกังวลออกมา แต่ว่าตอนนี้เขาเป็นห่วงแม่จ๋ามากที่สุด
จู่ ๆ แม่จ๋าก็หายตัวไป ตอนนี้แม่จ๋าจะไปอยู่ที่ไหน สถานที่แห่งไหนกัน?
กินข้าวหรือยัง ได้นอนหลับหรือเปล่า จะกลับมาไหม?
“พ่อจ๋าไม่เป็นอะไร” ขอเพียงอันโหรวกลับมา เขาก็ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น
“ฉันอัปโหลดแล้ว!” จู่ ๆ หมิ่นลี่ก็ตะโกนออกมาอย่างกะทันหัน
“คุณลุงหมิ่นอัปโหลดอะไรเหรอคะ?” หน่วนหน่วนมองไปที่เขาอย่างพยายาม เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด