อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 445 พิธีมอบรางวัลจะต้องครึกครื้นมากกว่านี้!
ตอนที่ 445 พิธีมอบรางวัลจะต้องครึกครื้นมากกว่านี้!
งานพิธีมอบรางวัลจะต้องครึกครื้นมากแน่ ๆ
“อยากสิ!”
ไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอรู้สึกน่าเบื่อเกินไปหน่อย แถมงานก็น้อยลงจนน่าสงสาร แต่ก็ต้องคิดเพื่อลูกน้อยที่อยู่ในท้องของเธอ ซึ่งนี่ก็ถือเป็นเรื่องปกติทั่วไปของผู้หญิงที่ตั้งท้อ อง!
บริษัทถังเป็นตัวแทนที่จะมอบรางวัลในงานเทศกาลภาพยนตร์ ซึ่งถังซั่วได้เชิญจิ่งเป่ยเฉินเป็นแขกผู้มีเกียรติที่จะมอบรางวัลให้ เนื่องจากพวกเขาทั้งสองคนต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดี
แต่ทันทีที่ข่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทั่วทั้งเมือง A ต่างก็ลุกฮือขึ้น ผู้คนต่างก็เข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ครั้งนี้กันอย่างมากมาย
แต่น่าเสียดายตรงที่บิ๊กบอสจิ่งมีคู่หมั้นแล้ว ถึงแม้คู่หมั้นจะทิ้งเขาไว้ตอนงานแต่ง แต่สุดท้ายก็กลับมาอยู่ดี
ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากจะเห็นว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกันแน่ ถ้าหากไปไม่ได้ด้วยดี ผู้หญิงหลายคนต่างก็พร้อมจะเข้าไปสวมตำแหน่งคุณนายตระกูลจิ่งอย่างแน่นอน
แต่ทว่าพวกเขาก็ต้องรู้ก่อนหน้าว่าไม่กี่ปีก่อน บิ๊กบอสจิ่งคนนี้มีข่าวลือซุบซิบมากมายและเลื่องลือว่ามีแฟนทั่วฟากฟ้า ลือกันอีกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งถูกทุบตี โดนโน่นนี่บ้าง ส สุดท้ายก็ไม่เคยได้รับการยอมรับใด ๆ
อันโหรวที่กำลังนั่งอยู่ในรถมองดูแสงไฟในโรงแรมที่ประดับไว้ด้านนอก พร้อมกับมีพรมแดงปูไว้ มันทำให้เธอรู้สึกเสียใจไม่ใช่น้อย
รู้แบบนี้น่าจะมากับจิ่งเป่ยเฉินก่อนหน้านั้น และก็ควรเข้าไปที่ประตูหลังแทน!
เพราะเธอเองก็ไม่อยากจะถูกถ่ายรูปเท่าไรนัก!
บิ๊กบอสมองดูนักข่าวที่อยู่ข้างนอกค่อนข้างเยอะ นัยน์ตาสีดำกวาดมองไปทุกพื้นที่อย่างเงียบ ๆ ก่อนจะลงจากรถและโอบเอวของเธอให้เดินไปตรงพรมแดง
แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบปรากฏตัวในสถานที่แบบนี้สักเท่าไร แต่ทว่าตอนนี้มันไม่เหมือนกัน เขากำลังโอบที่เอวเธอเพื่อบ่งบอกกับทุกคนว่าผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาในตอนนี้เป็นผู หญิงของเขา
พวกเขาช่างดีมากจริง ๆ
แสงแฟลชต่างก็กระจายไปทั่ว ผู้คนมากมายต่างก็เอ่ยคำถาม แต่ใบหน้าของจิ่งเป่ยเฉินเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ไม่ว่าใครจะพูดอะไร เขาก็ทำเหมือนกับไม่ได้ยิน
อันโหรวสวมชุดสีม่วงกระโปรงยาวอ่อน ๆ เธอแต่งหน้าให้เข้ากับแสงแฟลช มันถ่ายออกมาแล้วดูสวยงามมาก ตลอดทางที่เดินไปเธอยิ้มบาง ๆ ให้ราวกับเป็นคนใจกว้าง ท่าทางสงบนิ่งเป็นอย่างม มาก
สมกับเป็นกุลสตรีที่ผู้คนอยากจะเป็น!
ก่อนหน้านั้นท่าทางของคุณหนูคนนี้ยังคงถูกประทับ เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินมาด้วยกันก็รู้สึกได้เลยว่าหนึ่งหนุ่มที่ดูหล่อเหลา หนึ่งสาวที่ดูงดงาม ดูแล้วเข้ากันมากจริง ๆ
พวกเขาดูเหมาะสมกันมาก!
ระหว่างทางที่เดินไปก็แจกลายเซ็นไปบ้าง จิ่งเป่ยเฉินมองดูเธอเซ็นชื่อ ก่อนที่เขาจะไปเซ็นข้าง ๆ ลายเซ็นของเธอ
อันโหรวเหลือบมองไปที่เขา คิดอยู่ว่าจำเป็นต้องขนาดนี้ไหม?
ขนาดชื่อยังจำเป็นต้องใกล้ขนาดนั้นด้วยงั้นเหรอ?
พิธีกรถือไมโครโฟนขึ้นมา ก่อนจะมองและคิดอยากจะเอ่ยถาม แต่ก็ถูกสายตาของจิ่งเป่ยเฉินมองกลับจนไม่กล้าเอ่ยแม้แต่คำพูดใด ๆ ออกมา ไม่ช้าเขาก็เดินไปพร้อมกับอันโหรว
แค่แขกรับเชิญที่มอบรางวัล ต้องมีอะไรมากมายขนาดนี้ด้วยงั้นเหรอ!
อันโหรวรู้ดีว่าเขาไม่ชอบ ก่อนจะยิ้มขอโทษขอโพย แล้วพวกเขาทั้งสองคนก็เดินออกไปทันที
ถังซั่วและพวกเหล่าดาราที่เล่นภาพยนตร์จนเป็นดาวเด่นของบริษัท ตอนนี้ต่างก็มายืนอยู่ที่ด้านหลังของพวกเขา และมองเห็นพวกเขาเดินออกไปพร้อมกัน
ถังซั่วยิ้มอย่างอ่อนโยนเป็นประจำ แต่ในดวงตากลับไม่เผยอารมณ์ยิ้มตามใด ๆ ทั้งสิ้น เขาอยู่ในวงการนี้มานานมากแล้ว เขารู้ดีว่าตัวเองควรทำตัวยังไงถึงจะดูเหมาะสมมากที่สุด
อันโหรวและจิ่งเป่ยเฉินเดินเข้าไปในงาน พวกเขาต่างก็ยืนอยู่ที่ด้านหน้า
หลังจากที่พวกเขาเดินเข้าไปก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนมากมายทันที บางคนก็รู้สึกอิจฉา บางคนก็รู้สึกหึงหวง
อันโหรวจู่ ๆ ก็ขยับเข้ามาใกล้เขา “เมื่อกี้นี้จู่ ๆ ฉันก็คิดคำถามขึ้นมาได้ ที่รัก วันนี้เป็นดาวเด่นมากหรือเปล่านะ จะต้องเคยมีดาราสาวสวยมากมายเป็นข่าวซุบซิบกับนายแน่ ๆ เลย ย” อีกอย่างลูซี่ก็ไม่น่าจะใช่ผู้หญิงคนเดียวแน่ ๆ ที่เคยอยู่ในวงการนี้!
บิ๊กบอสมองหน้าเธออย่างด้วยสายตาล้ำลึก “ที่รัก พวกเขาต่างก็เป็นข่าวซุบซิบกันทั้งนั้น แต่เธอเป็นตัวจริง”
หลังจากที่ทั้งสองคนนั่งลง อันโหรวก็รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเป้าสายตา วงการบันเทิงมักเป็นเรื่องปกติทั่วไปสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเศรษฐี ข่าวซุบซิบอะไรพวกนั้น เธอล้วนเค คยชินจนหมดแล้ว
แต่เธอเชื่อว่าจิ่งเป่ยเฉินน่าจะไม่ตกหลุมพรางอะไรพวกนี้แน่ ๆ
“ไม่เป็นไร ฉันดีใจนะที่ที่รักของฉันโด่งดังขนาดนั้น ฉันไม่รู้สึกโกรธเลยสักนิด” เธอยิ้มบาง ๆ ออกมา ก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้
ความจริงแล้วงานพวกนี้ไม่ใช่ว่าเธอมาเป็นครั้งแรก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาพร้อมกับจิ่งเป่ยเฉิน
การที่ได้มาเห็นดาราสาวเป็นดาวเด่นที่เคยมีข่าวซุบซิบกับเขาถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สดใหม่มากพอสมควรสำหรับตัวเธอ
“เธอโกรธชัด ๆ” บิ๊กบอสเผยริมฝีปากที่เย็นชาออกมา ไม่ใช่ว่าโกรธมาก แต่บางทีก็อย่าโกรธมากจนเกินไปก็ถือว่าโอเคแล้ว
โหรวโหรวคือคนที่อยู่ในหัวใจของเขา เป็นโหรวโหรวที่มักจะโกรธเก่ง บางครั้งก็ชอบหนีหายราวกับควัน บางครั้งก็เผยอารมณ์ที่เย็นชาและดุดันออกมา
“ยังไงฉันก็เป็นผู้หญิงขี้โมโหอยู่แล้ว ก็สามีของตัวเองชอบถูกคนอื่นแย่งไปอยู่เรื่อย แน่นอนว่าต้องโกรธละนะ แต่ว่า……….” จู่ ๆ เธอก็เข้าไปกระซิบข้าง ๆ หูของเขา หากมองจากที่ ไกล ๆ ดูแล้วทั้งสองคนสนิทสนมและดูรักใคร่กันมาก
จิ่งเป่ยเฉินรอฟังคำพูดของเธอ แต่เสียงที่อ่อนโยนดังขึ้นในหูของเขากลับเป็น “แต่ว่าสามีของฉันรักฉันขนาดนี้ ในใจย่อมไม่มีคนอื่นอยู่แล้ว ฉันเชื่อนายนะ!”
“ที่รักของฉันนี่ช่างดีจริง ๆ” พอพูดจบ เขาก็ก้มหน้าลงไปหอมแก้มเธอเบา ๆ
การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ถูกถ่ายภาพเอาไว้แทบทั้งหมด แน่นอนว่ามันถูกฉายไปบนหน้าจอขนาดใหญ่ด้วย ทำให้ทุกคนได้เห็นกับตาตัวเอง
เดิมทีอันโหรวก็ไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น เพราะเป็นเรื่องปกติที่พวกเขามักจะทำจนเคยชิน
แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นไปมองและเห็นใบหน้าของเธอฉายอยู่บนหน้าจอใหญ่ขนาดนั้น ใบหน้าเล็ก ๆ ขาว ๆ ของเธอก็พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
การแสดงความรักก็เป็นอีกเรื่อง แต่การแสดงความรักของพวกเขาทั้งสองคนกลับถูกผู้คนจับตามองดูอยู่
…….
“ไล่ช่างภาพและพนักงานที่เกี่ยวข้องออกได้หรือเปล่านะ?” ไม่ง่ายเท่าไรกว่าเธอจะกลับมาดูเย็นชาตามปกติและเอ่ยคำพูดอย่างเรียบเฉยออกมาได้
“ฉันกลับรู้สึกว่าควรเพิ่มโบนัสให้เขามากกว่า”
ดีจริง ๆ ถ่ายภาพได้ไม่เลวเลย!
ไม่เพียงแต่จะเพิ่มโบนัส จะเพิ่มมื้ออาหารสุดหรูให้พวกเขากินด้วยซะเลย
อันโหรวเงยหน้ามองไปที่เขา ก่อนที่มือเล็ก ๆ ของเธอจะบีบไปที่ต้นขาของเขา “จิ่งเป่ยเฉิน!”
“ว่าไง” เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร ก่อนจะแนบหูไปข้าง ๆ เธอ “ที่รัก มีอะไรจะพูดอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่ออันโหรวเห็นท่าทางแบบนั้นก็รู้สึกว่าทำไมมีแต่พวกเขาสองคนอยู่ในจอใหญ่แบบนั้น มันหมายความว่ายังไงกันแน่
ช่วงเวลาที่พวกเขาใกล้ชิดหรือคุยกันเมื่อไหร่ก็จะถูกถ่ายเอาไว้
เป็นใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้ จับตาที่พวกเขาไม่ยอมปล่อยเลยงั้นเหรอ?
“ไม่ใช่ว่านายแอบเอาเงินไปให้ช่างภาพหรอกนะ” เธอเอ่ยพลางยิ้มหัวเราะไม่ออก
“เปล่า” ถ้าหากยัดเงินให้จริง บางทีพวกเขาอาจจะถ่ายภาพพวกเขาสองคนอยู่ตลอดเวลาโดยไม่เปลี่ยนภาพเลยสักนิดเดียว
แต่ไม่นานก็มีคนมานั่งข้าง ๆ พวกเขา ถังซั่วนั่งลงข้าง ๆ จิ่งเป่ยเฉิน ส่วนทางด้านอันโหรวก็มีผู้หญิงสวยคนหนึ่งมานั่งข้าง ๆ เช่นกัน
ขนตางอนยาวอย่างเห็นได้ชัด มีแต้มไฝสีแดงเล็ก ๆ ตรงสันจมูก เธอจำหญิงสาวคนนี้ได้เป็นอย่างดี เธอเป็นดาราสาวที่ชื่อว่า อิ้งเจ๋ว์เยว่
ซึ่งบริษัทจิ่งเคยจ้างเธอเป็นนางแบบโฆษณามือถือมาก่อน แถมยังขายดีมากอีกด้วย
“คุณนายจิ่ง คุณดูสวยมากเลยนะ ดูอารมณ์ดีมากอีกด้วย โชคดีจริง ๆ ที่คุณไม่ได้เข้าวงการบันเทิง ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ได้เกิดแน่ ๆ เลย!” อิ้งเจ๋ว์เยว่ยิ้มให้กับเธอ ไฝสีแดงบนจ จมูกก็เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
อันโหรวไม่ได้ตอบกลับทันที อิ้งเจ๋ว์เยว่กลับหันหน้าไปเหลือบมองจิ่งเป่ยเฉินที่อยู่ข้าง ๆ อันโหรวแทน “ประธานจิ่ง คุณดูแลภรรยาดี ๆ ไว้เลยนะ อย่าให้เธอเข้าสู่วงการบันเทิงเชีย ยว ปล่อยให้ฉันได้เฉิดฉายบ้างนะคะ!”
“ฉันไม่มีทางเข้าวงการบันเทิงหรอกค่ะ” อันโหรวยิ้มพลางตอบกลับไป
จิ่งเป่ยเฉินจะตอบคำถามของอิ้งเจ๋ว์เยว่ได้ยังไง ควรเป็นตัวเธอเองมากกว่าที่ควรจะตอบ
“ดีเลย! ไม่ได้จะว่าประธานถังไม่มีคุณสมบัติหรอกนะ! ถ้าหากฉันเป็นประธานถังละก็ ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ จะพยายามหลอกล่อให้เธอเข้าวงการบันเทิงให้ได้เลย แน่นอนถ้าหากมีชื่อเสียงมาก กละก็ คงได้รับเงินเป็นกอบเป็นกำแน่ ๆ เผลอ ๆ อาจจะโด่งดังไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้นะ!”
อันโหรวมองดูเธอที่อายุน้อยขนาดนี้แต่กลับเป็นดาวเด่นคับฟ้า นี่เธอคิดจะหาฟากฟ้าสักคนมาดูแลหรือยังไงกันนะ?
จิ่งเป่ยเฉินไม่ได้รู้จักกับอิ้งเจ๋ว์เยว่มาก่อน ทั้งยังไม่เคยได้ยินชื่อของเธอเลยสักนิด แต่ถังซั่วที่อยู่ข้าง ๆ จิ่งเป่ยเฉินนั้นไม่เหมือนกัน ทุก ๆ คำพูดที่เธอพูดมา เขาฟังแล้ว วก็ล้วนเข้าใจหมด
เธอกำลังหลอกล่อตัวเขานี่เอง!!