เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1506 แก้นิสัยเสีย
บทที่1506 แก้นิสัยเสีย
คำพูดนี้ของหานมู่จื่อ มีหรือที่คุณนายถางจะฟังไม่เข้าใจ
เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “ต้องขออภัยจริงๆนะคะ ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องพวกนี้ แต่ในแวดวงนี้ก็เป็นแบบนี้เสมอมา บริษัทตระกูลถางของพวกเรารู้ตัวดีว่าเทียบไม่ได้กับบริษัทตระกูลเย่ ดังนั้นถึงได้มีความคิดแบบนี้ คุณนายเย่อย่าได้ถือสาเลยนะคะ”
“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ” หานมู่จื่อจูงมือของถางหยวนหยวนเอาไว้ แล้วดึงให้เธอเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง “คุณนายถางคุณเปิดใจให้กว้างเถอะค่ะ ฉันเองก็ชอบหยวนหยวนมาก ดังนั้นไม่มีทางมีความคิดอื่นหรอกค่ะ หยวนหยวน หนูว่าถูกไหมคะ ?”
ถางหยวนหยวนยื่นมืออวบน้อยๆของตัวเองโอบหานมู่จื่อเอาไว้ แล้วพูดเสียงเบาว่า “เมื่อไหร่พี่ชายจะมาคะ”
“เอ๋ ? เพิ่งเล่นกับพี่ชายไปแค่วันเดียวในสายตาก็มีแต่เขาแล้วเหรอ ทำไมจ๊ะ คุณน้าไม่ดีกับหนูเหรอ”
หานมู่จื่อล้อเธอเล่น ถางหยวนหยวนจ้องมองเธอด้วยดวงตาฉ่ำวาว แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “คุณน้าดีกับหยวนหยวนมาก ทำบัวลอยให้หยวนหยวนกินด้วย”
“แล้วทำไมหนูถึงหาแต่พี่ชาย ไม่หาคุณน้าล่ะคะ ?”
ถางหยวนหยวนเบิกตากลมโต ตอบคำถามไม่ออกไปชั่วขณะ ร้อนรนจนของตาเริ่มแดง หานมู่จื่อเดิมทีแค่อยากจะล้อเล่นเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะทำให้เธอร้อนรนขึ้นมา เลยรีบอธิบายว่า “เอาล่ะ เอาล่ะ คุณน้าแค่ล้อเล่นกับหยวนหยวนเท่านั้นเอง หยวนหยวนอย่าตื่นเต้นไปเลยนะ หนูจะหาพี่ชายใช่ไหม พี่ชายไปโรงเรียนแล้ว หนูไปเล่นกับคุณน้าและน้องสาวก่อนนะคะ รอให้พี่ชายกลับมา แล้วหนูค่อยไปเล่นกับพี่ชายดีไหม ?”
ถางหยวนหยวนมองไปที่หม่ามี๊ของตัวเอง จากนั้นก็กลืนน้ำตากลับไป พยักหน้า “ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณน้ามู่จื่อ”
พอพูดจบ เธอก็เขย่งเท้า เข้าไปหอมแก้มหานมู่จื่อทีหนึ่ง
“เด็กคนนี้ พอตื่นเต้นก็จะชอบร้องไห้ เหมือนที่คุณถามเมื่อครู่นี้ ตอนนั้นในใจเธอคิดหาคำตอบไม่ได้ ดังนั้นก็เลยอยากร้องไห้ขึ้นมา”
“ไม่เป็นไรค่ะ เด็กผู้หญิงเป็นแบบนี้ถึงจะดูน่าเอ็นดู”
จากนั้นก็คุยกันไม่กี่ประโยค แล้วคุณนายถางก็จากไป ทิ้งถางหยวนหยวนเอาไว้ ในระหว่างที่ถางหยวนหยวนรอเสี่ยวหมี่โต้วเลิกเรียนกลับมา ก็มาเล่นกับเสี่ยวโต้วหยาอยู่บ่อยครั้ง
ตอนที่เสี่ยวโต้วหยาตื่น เธอก็จะยืนจ้องเสี่ยวโต้วหยาอยู่ตรงนั้น ส่วนเสี่ยวโต้วหยาก็จ้องเธอ ทั้งสองคนจ้องกันไปมา อย่างเงียบสงบ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ถางหยวนหยวนก็ถามขึ้น “คุณน้ามู่จื่อคะ น้องสาวคนนี้ชื่ออะไรเหรอคะ”
“เธอเหรอ เธอชื่อเย่หยาหยา”
เย่หยาหยา ?
ถางหยวนหยวนส่งยิ้มให้เสี่ยวโต้วหยา ขณะยิ้มแก้มทั้งสองข้างก็มีลักยิ้ม พร้อมกับโบกมือ “สวัสดีน้องหยาหยา ฉันคือหยวนหยวน ถางหยวนหยวน”
เย่หยาหยานอนอยู่ตรงนั้น จ้องมองถางหยวนหยวนด้วยใบหน้าน้อยๆแสนบริสุทธิ์ ทารกอย่างเธอไม่รู้ ว่าในอนาคตชื่อถางหยวนหยวนนี้ จะพัวพันกับพี่ชายของตัวเอง และยังเกี่ยวข้องกับตัวเองอย่างลึกซึ้งด้วย
พอถึงเวลาต้องกลับบ้าน เสี่ยวหมี่โต้วก็ยังไม่กลับมา ถางหยวนหยวนรอจนเริ่มรู้สึกร้อนรน หานมู่จื่อจึงทำได้แค่ปลอบเธอ
“หนูรออีกหน่อยนะ อีกเดี๋ยวพี่ชายก็กลับมาแล้ว อีกเดี๋ยวพอเขามา คุณน้าจะถามเขาให้ละเอียด ว่าวันนี้ทั้งวันไปที่ไหนมา ทำไมถึงได้กลับมาช้าแบบนี้”
พอได้ยินแบบนั้น ถางหยวนหยวนก็ตกใจทันที แล้วรีบพูดแทนเสี่ยวหมี่โต้ว
“คุณน้าอย่าด่าพี่ชายนะ พี่ชายอาจจะมีเรื่องยุ่งอยู่ก็ได้ หยวนหยวนรออีกหน่อยไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
เพราะกลัวว่าตัวเองจะทำให้เสี่ยวหมี่โต้วต้องเดือดร้อน ถางหยวนหยวนเลยรีบปรับอารมณ์ของตัวเองทันที เธอนั่งอวบอ้วนอยู่ตรงนั้น มองดูน่ารักน่าเอ็นดู
ตอนที่เสี่ยวหมี่โต้วกลับมานั้นฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว เขาเตรียมตัวจะเข้าไปทักทายหม่ามี๊ก่อน จากนั้นก็กลับห้องไปพักผ่อน ขนาดข้าวเย็นก็ไม่อยากทาน
แต่เขากลับเห็นว่าหน้าประตูมียัยอวบตัวน้อยอยู่ ยัยหนูอวบกอดหมอนรูปหัวใจนั่งอยู่บนเก้าอี้ พิงประตูพร้อมกับเอียงคอนอนหลับ ขณะนอนหลับก็อ้าปากเล็กน้อย
เสี่ยวหมี่โต้วสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้พบว่ายัยหนูอวบใช้ปากหายใจ
ยัยหนูคนนี้ เวลาคนนอนหลับต้องใช้จมูกหายใจไม่ใช่หรือ แต่เธอกลับใช้ปาก แบบนี้ถ้าเวลานานเข้า จะทำให้ริมฝีปากบนหดสั้นลง กล้ามเนื้อริมฝีปากหย่อนยานและปัญหาใบหน้าต่างๆก่อตัวขึ้นมา
ไม่ได้เจอเธอมาหลายวันแล้ว เสี่ยวหมี่โต้วคิดว่าเธอจะไม่มาอีกแล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอเธออีก
เขาเดินไปตรงหน้ายัยหนูอวบ ยื่นมือออกไปโบกตรงหน้าเธอ เธอหลับสนิทมาก แทบไม่ได้รู้ตัวเลย
เสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่ได้คิดจะรบกวนเธอ แต่ว่าถ้ายังเอียงคอหลับอยู่แบบนี้ พอถึงเวลาตื่นเธอจะต้องไม่สบายตัวแน่ ดังนั้นสุดท้ายแล้วเสี่ยวหมี่โต้วก็เลยปลุกเธอให้ตื่น
ถางหยวนหยวนนอนฝันเห็นตัวเองกำลังกินช็อกโกแลต รสชาติหวานอร่อย มีรสขมนิดๆ แต่ว่ารสขมนี้พอผ่านไปแล้วในปากก็รู้สึกแห้งผาก ช็อกโกแลตนี้พี่ชายเป็นคนซื้อให้เธอ ดังนั้นช่วงนี้เธอก็เลยกินสายไหมจนหมด แต่กลับไม่กล้ากินช็อกโกแลต
ดังนั้นขนาดในฝันก็ยังนึกอยากกินขึ้นมา
หลังจากถูกเสี่ยวหมี่โต้วปลุกให้ตื่น พอถางหยวนหยวนลืมตาขึ้นมาก็เจอกับใบหน้าของเสี่ยวหมี่โต้ว เลยเผลอพูดออกมาว่า “พี่ชายคะ ช็อกโกแลตอร่อยมากเลย”
พอได้ยินแบบนั้น เสี่ยวหมี่โต้วก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าจะได้สติกลับมา
หรือว่าที่ยัยหนูนี่มาหาเขา ก็เพราะอยากให้เขาพาไปซื้อช็อกโกแลตอีก
พอพูดจบ ถางหยวนหยวนก็ปิดตาลงอีกครั้ง
“หยวนหยวน ไม่ต้องนอนแล้วหยวนหยวน” เสี่ยวหมี่โต้วตบแก้มของเธอเบาๆ เพื่อตบให้เธอตื่น พลางพูดว่า “จะมาหลับตรงนี้ไม่ได้ ถ้าจะนอนก็เข้าไปนอนข้างใน อีกอย่างต่อไปตอนหลับห้ามใช้ปากหายใจนะ ไม่อย่างนั้นต่อไปจะต้องขี้เหร่แน่”
ขณะที่พูดคำพูดเหล่านี้ เสี่ยวหมี่โต้วก็ดึงตัวถางหยวนหยวนขึ้นมาด้วย พอถางหยวนหยวนลุกขึ้นมาก็สะลึมสะลือเดินตามเขาเข้าไปข้างใน เดินไปพลางพูดไปพลางว่า “พี่ชาย พี่กลับมาแล้วเหรอ หยวนหยวนรอพี่นานมากเลย”
รอ เธอมารอที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้วเหรอ ?
เสี่ยวหมี่โต้วหันกลับไปมองเธอ “รอนานแล้วเหรอ ?”
ถางหยวนหยวนขยี้ตาที่ยังลืมไม่ขึ้นของตัวเอง “ไม่ได้นานมาก พี่ชายไปโรงเรียนสนุกไหมคะ ใช่แล้ว เมื่อกี้ตอนหยวนหยวนหลับพี่ชายบอกว่ามีปัญหาอะไรเหรอคะ”
เสี่ยวหมี่โต้วนั่งลงตรงหน้าเธอ มองเธออย่างหน่ายใจแล้วเริ่มพูดใหม่อีกรอบ
“บอกว่าตอนหลับเธออย่าอ้าปากหายใจ พวกเราต้องใช้จมูกหายใจ”
พอได้ยินแบบนั้น ถางหยวนหยวนก็เอียงคอแล้วพูดอย่างหดหู่ว่า “แต่ว่าหยวนหยวนชอบถนัดใช้ปากหายใจนี่นา”
“ใช้ปากหายใจไม่ดี ดังนั้นต่อไปเวลานอนเธอพยายามอย่าอ้าปาก ตอนแรกต้องไม่ชินแน่ พอค่อยๆแก้แล้ว เธอก็จะเปลี่ยนไปชินเอง”
ปกติหม่ามี๊ของถางหยวนหยวนเองก็ค่อยพร่ำสอนเธอแบบนี้ แต่เธอรู้สึกว่าอ้าปากหายใจแล้วรู้สึกสบาย เธอเคยชินแล้ว อยากจะเปลี่ยนแปลงกะทันหันนั้นก็ยากจริงๆ
ในตอนนั้นเอง จู่ๆเสี่ยวหมี่โต้วก็เปิดปากพูดต่ออีกประโยคหนึ่งว่า “หยวนหยวนอยากจะโตขึ้นมากลายเป็นคนขี้เหร่เหรอ ?”
พอได้ยินแบบนั้น ถางหยวนหยวนก็ส่ายหัวอย่างร้อนรน “ไม่เอา”
“ถ้าอย่างนั้นก็ถูกแล้ว ถ้าใช้ปากหายใจนานเข้า ก็จะไม่สวยเหมือนเดิมแล้ว”
“หา ถ้าอย่างนั้นต่อไปหยวนหยวนจะแก้ไข พี่ชายอย่ารังเกียจถ้าหยวนหยวนขี้เหร่นะ หยวนหยวนอยากเล่นกับพี่ชาย”
“ไม่รังเกียจหรอก แต่ว่าเธอต้องแก้นิสัยเสียก่อน”
“อืม หยวนหยวนจะแก้ไข”
“วันนี้อยากจะกินอะไร”
เอ๋ กินได้เหรอ ที่จริงถางหยวนหยวนไม่ได้มาเพื่อกินอาหาร เธอก็แค่รู้สึกว่าพี่ชายดีกับเธอมาก อยากจะมาเล่นกับพี่ชายเท่านั้นเอง