เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 107 นักฆ่าผู้มาพร้อมระเบิด!
บทที่ 107 นักฆ่าผู้มาพร้อมระเบิด!
“ฮี่ฮี่……”
เมื่อมองไปยังข้อความที่เพิ่งได้รับ ชายชราผู้นอนอยู่บนม้านั่งจึงหัวเราะออกมา ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นนั่ง จ้องไปยังหญิงตั้งครรภ์ที่เดินผ่าน และกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “เธอควรจ จะมาอยู่บนสนามหญ้าของฉันนะ”
กล่าวจบ เขาผิวปาก
“ไอ้ขอทานตัวเหม็น!”
หญิงตั้งครรภ์เหลือบมองชายชรา สบถออกมาและเดินหนีไป
……
คืนที่สาม
นักศึกษาตัวแทนทุกคนเข้ามายังหอประชุมของโรงแรมด้วยความเคยชิน
“บัดนี้ ฉันจะประกาศผลการคัดเลือก ตัวแทนการแข่งขันในสาขานรีเวชศาสตร์หรือแขนงสตรี”
หลิวเจิ้นเฉียงที่ยืนอยู่บนเวทีกล่าวกับทุกคน “ในศาสตร์แขนงนี้ ผู้ที่ทำคะแนนไปได้มากที่สุดก็คือ หลี่เชี่ยนหยวี!”
ในหอประชุม
หญิงสาวหน้าเรียวทรงไข่ห่าน ไว้ผมทรงหางม้า นั่งยืดหลังตรงและยิ้มรับสายตาของทุกคน
เธอคือหลี่เชี่ยนหยวี
เนื่องจากทุกคนเคยได้ยินชื่อของเธอมาก่อน จึงไม่มีใครแปลกใจกับการได้เป็นตัวแทนในสาขานรีเวชศาสตร์ และยังได้ยินมาอีกว่า เธอถึงกับโดดเรียนคาบในวิทยาลัยเพื่อไปหาและเรียนจากหม มอรู้แจ้ง
ก็ถือว่าเธอเหมาะสมดี
“ต่อด้วยศาสตร์แห่งการรักษาบาดแผล” หลิวเจิ้นเฉียงประกาศต่อไป “ผลการคัดเลือก ตัวแทนการแข่งขันในศาสตร์แขนงนี้ จ้าวชุนอวี่ ได้คะแนนสูงสุดไป!”
สิ้นเสียงประกาศ
ชายในชุดลำลอง หน้าตาแจ่มใส ตัวไม่สูงมาก เดินออกมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม
เขาย้อมผมสีบลอนด์เหมือนต้นปอแห้ง แม้ว่าจะไม่โดดเด่นด้านความสูง แต่ผมยาวถึงหลังของเขาก็ดึงดูดสายตานักศึกษาสาวจำนวนมาก
“สุดท้ายคือศาสตร์แห่งการรักษาไข้”
ระหว่างที่พูด สายตาของหลิวเจิ้นเฉียงก็อยู่ที่ซูเย่แล้ว
ผู้คนในหอประชุมทั้งหมดเองก็เช่นกัน
นี่เป็นศาสตร์แขนงที่ซูเย่ลงสมัครคัดเลือก
ก็คงเป็นเขาอีกแล้วใช่ไหม?
“ผลการคัดเลือก ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดก็คือ ซูเย่”
หลิวเจิ้นเฉียงสูดหายใจเข้าลึก ระงับความรู้สึกตื่นเต้นในใจไว้ และประกาศต่อ “ยินดีด้วยที่ได้เป็นตัวแทนการแข่งขัน!”
ผู้คนทั่วทั้งหอประชุมตะลึงไปอีกครั้ง แม้ว่าจะคาดเดาผลเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่เมื่อได้ยินประกาศ พวกเขาก็ยังตกใจอยู่ดี
เจ็ดสาขา!
นี่เป็นศาสตร์แขนงที่เจ็ดแล้ว ที่ชายคนนี้ได้เป็นตัวแทน!
จากสิบสามสาขา เขาเอาไปแล้วเกินครึ่ง!
ยังใช่มนุษย์อยู่หรือเปล่า?
‘แปะแปะแปะ’
เสียงปรบมือดังขึ้น
นักศึกษาทุกคนที่เข้าคัดเลือกในการรักษาไข้ ล้วนมีสีหน้าเต็มไปด้วยความขมขื่น ไม่มีใครเอาชนะได้อีกแล้ว
“หมอนี่เชี่ยวชาญได้หลายศาสตร์ขนาดนี้ได้อย่างไร?”
“ไม่ใช่ว่าเขามาจากสาขาพัฒนาการแพทย์หรอกเหรอ? เพิ่งเริ่มเรียนแพทย์แผนจีนได้ยังไม่ถึงปีเลยนี่ ทำไมถึงเก่งได้ขนาดนี้? อัจฉริยะเหรอ? ไม่สิ พระเจ้าเลยมั้งเนี่ย?”
เสียงปรบมือซาลง
หลิวเจิ้นเฉียงจึงเริ่มกล่าวต่อ “ในวันพรุ่งนี้จะเป็นการคัดเลือกตัวแทนของสาขาผิวหนังหรือตจวิทยา โสต ศอ นาสิกวิทยาหรือคอ หู จมูก กับทันตกรรม (ฟัน) และจักษุวิทยา (ตา) รวมเป็น นสี่แขนง จะเริ่มให้ลงสมัครคัดเลือกตั้งแต่บัดนี้ ยกมือขึ้นหากต้องการลงคัดเลือกแขนงผิวหนัง”
พรึ่บ!
ทุกคนหันไปมองซูเย่อย่างพร้อมเพรียง
ซูเย่ยิ้มอยู่โดยไม่ได้ยกมือ
เมื่อได้เห็นเช่นนั้น
นักศึกษาตัวแทนในศาสตร์แห่งการรักษาโรคผิวหนัง จึงถอนใจออกมาด้วยความโล่ง จากนั้นยกมือขึ้นเพื่อสมัคร
“หากต้องการเข้าคัดเลือกในโสต ศอ นาสิกวิทยา ขอให้ยกมือขึ้นเพื่อสมัครด้วย”
พรึ่บ!
ทุกคนจ้องมองซูเย่อีกครั้ง
ซูเย่ยิ้ม ยังคงไม่ยกมือ
นักศึกษาที่ลงสมัครในศาสตร์แห่งการรักษาหู คอ จมูกเองก็โล่งใจ ยกมือขึ้นกันหลายคน
ส่วนตัวแทนที่เตรียมลงสมัครในทันตกรรมและจักษุวิทยาพากันวิตกกังวล ซูเย่จะต้องเลือกหนึ่งในสองอย่างแน่นอน
“สำหรับคนที่ต้องการเข้าคัดเลือกในทันตกรรม ช่วยยกมือขึ้นด้วย”
ทุกคนจากสองศาสตร์ที่เหลือมองไปยังซูเย่อีกครั้ง
ซูเย่ไม่ได้ยกมือ
ทำให้นักศึกษาตัวแทนในศาสตร์แห่งทันตกรรมทุกคนตาเป็นประกาย ส่วนตัวแทนจากจักษุวิทยาพากันกัดริมฝีปากอย่างหมองหม่น
สุดท้ายก็หนีไม่พ้น!
“จักษุวิทยาเหรอ?”
“เป็นอีกศาสตร์ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงเลยนะ ถ้าเขาชนะได้ ก็จะเป็นตัวแทนไปถึงแปดสาขา”
“ถ้าไม่มีกฏบังคับ ฉันสงสัยว่าเขาจะลงแข่งทั้งหมดสิบสามแขนงแน่!”
ผู้คนพูดคุยซุบซิบกัน
รอจนกระทั่งเก็บข้อมูลการลงสมัครของทุกสาขาเรียบร้อยแล้ว ซูเย่ก็ตามฝูงชนออกมาจากหอประชุม กลับไปยังห้องเพื่อพักผ่อน
ซูเย่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง เข้าสู่สภาวะฝึกตน
สองชั่วโมงต่อมา เวลาเที่ยงคืน
“หือ?”
ซูเย่ที่ทำการฝึกตนอยู่ ลืมตาตื่นขึ้นมา แสงอันเย็นยะเยือกปรากฏที่ใต้ดวงตาของเขา
มองออกไปนอกหน้าต่าง
“อาหารว่างกลางดึก!”
เขารู้ตัวมาโดยตลอด ว่ามีผู้ฝึกยุทธ์กำลังเข้ามาใกล้
เขายิ้มเยาะ ร่างของซูเย่ขยับ เปิดหน้าต่างออกและกระโดดลงมาจากชั้นหกของตึกสูง
ลงมาอย่างเงียบงัน
หลังจากกระโดดออกมาจากหน้าต่าง ซูเย่เป็นดั่งวิญญาณ ไม่ส่งเสียงใด ๆ ลงมาถึงประตูด้านหลังโรงแรม
ร่างของเขาแวบหายไปเข้าสู่ด้านในของโรงแรม
บนบันไดของโรงแรมที่แทบไม่เคยมีใครแตะต้อง ได้มีบุคคลหนึ่งก้าวเดินขึ้นไปอย่างเชื่องช้า
กลางดึก แม้ว่าจะพยายามอย่างไร ก็จะมีเสียงฝีเท้าดังไปตามโถงทางเดินอยู่ดี
ไปยังมุมด้านหนึ่งของชั้นพักบันไดชั้นแรก
ชายคนนั้นหยุดลง ปลดระเบิดและสายชนวนที่ติดอยู่กับเอว นำไปติดตั้งไว้กับกำแพงของบันไดตรงชั้นพักที่สาม
‘ติ๊ด!’
มีเสียงตามมาในทันใด
ระเบิดถูกติดตั้งเรียบร้อย
มีกระทั่งตัวเลขนับถอยหลัง เวลา 3 นาที
ชายคนนั้นยิ้มออกมา หันหลังและเดินออก
‘ฟิ้ว’
ทันใดนั้น เขารู้สึกได้ว่ามีลมเย็นพัดผ่าน
มือวางระเบิดสั่นกลัวขึ้นมา รีบเตรียมตัวออกจากโรงแรมอย่างตื่นตระหนก
ทว่าเมื่อหันไปนั้น
“อ๊า!”
ได้มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาอย่างใกล้ชิด
ใกล้เสียจนหน้าของทั้งสองเกือบจะชนกัน
พอได้เห็นซูเย่
สีหน้าของมือวางระเบิดก็เปลี่ยนไปในทันที พร้อมหยิบมีดขึ้นมา
ซูเย่ตบลงไปบนมีด และจับขึ้นมาโดยตรง
มองไปยังระเบิดที่อีกฝ่ายเพิ่งติดตั้ง และเขาก็หน้าเสียเพราะมาช้าเกินไป
“ใครเป็นคนสั่งให้แกมา?”
ที่เขาลงมา เดิมทีนั้นเพราะต้องการจะไล่ตามปราณของผู้ฝึกยุทธ์ที่เขาสัมผัสได้ แต่เมื่อลงมาถึงพื้น ร่องรอยของผู้ฝึกยุทธ์ก็อันตรธานหายไปโดยสมบูรณ์ ได้ยินเพียงเสียงในโถงทางเดิ น ก็เลยไล่ตามมา
แต่ตอนนี้
มือวางระเบิดนั้นไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ กลับเป็นเพียงคนธรรมดา!
“แก้ระเบิดเดี๋ยวนี้!” ซูเย่กดหัวของอีกฝ่ายลงไปจ่อข้างระเบิด
“ไม่ ฉันไม่ทำ” ชายคนนี้กล่าวออกมาอย่างเสียขวัญ “ฉันรับเงินมาเพื่อทำหน้าที่นี้ และฉันก็ไม่รู้วิธีแก้ระเบิดด้วย”
“จะแก้หรือไม่แก้? ถ้าไม่แก้ แกก็ตาย” มือของซูเย่ออกแรงกดมากกว่าเดิม
อีกฝ่ายร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด “ฮือ…. ฉันไม่รู้จริง ๆ!”
ซูเย่จ้องมองด้วยสายตาเอาจริง เพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหก เขาเอื้อมมือออกไปและใช้นิ้วเคาะลงบนจุดตายของอีกฝ่าย
ทันทีที่นิ้วแตะลงไป อีกฝ่ายก็สั่นกลัวอย่างหนัก จนร่างแข็งทื่อและทรุดลงกองอยู่กับพื้น
มองกลับไปที่ระเบิด
ยังเหลือเวลาอยู่ 2 นาที 30 วินาที
“จะอพยพผู้คนก็สายเกินไป!”
ดวงตาของซูเย่หรี่เล็ก เขาทิ่มมือลงไปบนกำแพงโดยตรง จากนั้นคว้านบริเวณรอบ ๆ ของระเบิดอย่างรวดเร็วและเงียบงัน
ทั้งระเบิดและกำแพง ถูกดึงออกมาทั้งสองอย่าง!
แรงที่ใช้ถูกควบคุมเป็นอย่างดี ทำให้ไม่เกิดระเบิดขึ้นมา
“ไป!”
ซูเย่ถือแผ่นกำแพงติดระเบิดด้วยมือหนึ่ง และคว้าคอของชายที่ทรุดอยู่ด้วยอีกมือ วิ่งพุ่งตรงออกนอกโรงแรมไปอย่างว่องไว
พลังจิตในราชวังแห่งความทรงจำทำงาน เริ่มค้นหาทุกความรู้ที่เกี่ยวข้องกับระเบิด เรียนรู้อย่างบ้าคลั่งและรวดเร็ว
10 วินาทีต่อมา
ความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งและแก้ระเบิดปรากฏขึ้นมาในจิตของซูเย่
ระเบิดเวลานั้นจะอาศัยการทำงานของวงจร เมื่อเวลาหมด มันจะปล่อยสัญญาณเพื่อให้ระเบิดทำงาน ตราบใดที่วงจรเสียหาย ก็จะสามารถหยุดชนวนได้
การที่จะพังวงจรได้ มีเพียงการตัดสายสัญญาณ
หากตัดสายอื่นที่ไม่ใช่สายสัญญาณ มันจะเกิดการลัดวงจร ทำให้เกิดประกายไฟ และระเบิด!
ตัดสินจากจำนวนปล่องที่ใส่สารระเบิดเอาไว้แล้ว เมื่อระเบิดทำงาน มันจะพังโรงแรมได้ทั้งตึก และทุกคนจะต้องตาย!
“เหี้ยมโหดชะมัด!”
สายตาของซูเย่เย็นชาในทันที
รีบหันมองรอบข้างเพื่อดูความแน่นหนาของผู้อยู่อาศัย
และตัดสินใจอย่างแน่วแน่ พุ่งออกนอกเมือง
จนมาสู่ชานเมือง
เวลาที่เหลือบนระเบิด เหลือเพียงแค่ 80 วินาที!
หากมีระเบิดเกิดขึ้นกลางดึก คงได้สร้างความตื่นตระหนกให้เมืองใกล้เคียงเป็นอย่างแน่
เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาวุ่นวาย
สายตาของซูเย่ตั้งมั่น และลงมือแก้ระเบิดอย่างรวดเร็ว
“ขอ 60 วินาที ถ้าแก้ไม่สำเร็จ ก็วิ่งหนี!”
เขาตรวจสอบระเบิดที่อยู่ตรงหน้าอย่างละเอียด สร้างระเบิดแบบเดียวกันขึ้นมาในราชวังแห่งความทรงจำ และลงมือแก้ทีละส่วน
แต่เนื่องจากไม่เห็นโครงสร้างภายใน ทุกครั้งที่แก้ จะทำให้เกิดผลลัพธ์ตามมานับครั้งไม่ถ้วน ยิ่งลองแก้มากเท่าไร ก็ยิ่งเข้าใจยากขึ้นเท่านั้น
เขาจึงทำได้เพียงใช้พลังจิต เจาะลงไปในระเบิดโดยตรง
ระหว่างทำการสำรวจอยู่ ภาพจำลองโครงสร้างภายในของระเบิด ก็ปรากฏขึ้นในราชวังแห่งความทรงจำ
ใน 20 วินาทีสุดท้าย วงจรทั้งหมดของระเบิดก็ปรากฏครบถ้วนสมบูรณ์
เข้าสู่ช่วงเวลาของการเลือกสายที่จะต้องตัด
ด้วยการขยับนิ้วเล็กน้อยของซูเย่ สร้างคมมีดสายลมขึ้นมา ตัดลงไปบนเส้นสีแดงของระเบิด
เมื่อตัดสายขาดไป
ตัวเลขนับถอยหลังบนระเบิดหยุดลงทันที
“เฮ้อ!”
ซูเย่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
แก้วิกฤตได้แล้ว
ระเบิดถูกถอดชิ้นส่วนออกทีละเล็กทีละน้อยอย่างรวดเร็ว แม้แต่ปล่องบรรจุสารระเบิดเองก็ถูกถอดออก
พอได้เห็นภาพตรงหน้า
ชายที่นอนตัวแข็งอยู่บนพื้นก็รู้สึกสะพรึง
ไม่อยากจะเชื่อว่าคนตรงหน้าเขาจะสามารถทำเช่นนี้ได้ภายในเวลาอันสั้น แถมสุดท้ายแล้วยังถอดชิ้นส่วนระเบิดออกจนกองเต็มพื้นไปหมด
“ทีนี้ก็ตาแกแล้ว” ซูเย่คุกเข่า ตบหน้าอีกฝ่ายไปเบา ๆ และกล่าวขึ้นมาอย่างเย็นชา “ถ้าไม่อยากกลายเป็นชิ้นแบบระเบิด ก็ตอบมาตามตรง แกเป็นใคร และใครส่งแกมา?”
“ฉัน ฉันไม่รู้”
แม้ว่าชายคนนั้นจะขยับไม่ได้ แต่เขายังพูดได้อยู่
“บอกมา ไม่อย่างนั้นก็เลือก ว่าจะให้ฉันเอากระดูกแขนหรือกระดูกขาออกมาก่อน?”
ซูเย่เอื้อมมือลงไปบีบเข่าของอีกฝ่าย
ออกแรงเพียงเล็กน้อย
“อ๊าก! ยอมบอกแล้ว!”
ความเจ็บปวดทำลายความตั้งมั่นของอีกฝ่ายจนไม่เหลือชิ้นดี เขากล่าวขึ้นมาอย่างร้อนรน “ฉันเป็นนักฆ่า ทำงานรับเงิน บอกได้แค่นี้ เพราะฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าผู้จ้างวานคือใคร แค่เง งินมา งานก็เดิน”
“ไม่รู้เหรอ?”
ซูเย่ออกแรงเพิ่มอีกเล็กน้อย
“อยู่ในชานเมืองฝั่งตะวันตก!” นักฆ่ากล่าวออกมาพร้อมเหงื่อเต็มหน้าจากความเจ็บปวด “องค์กรของเราอยู่ตรงชานเมือง คนในองค์กรน่าจะรู้ว่าผู้จ้างวานเป็นใคร”
“นำทางฉันไป”
ซูเย่ลากคอชายคนนั้นตามมา และมุ่งหน้าไปยังฝั่งตะวันตก
ระหว่างเดินอยู่
ซูเย่หยุดลงอย่างกะทันหัน
มีบางอย่างผิดปกติ!
ดวงตาของเขาหรี่เล็กลง
ทั้งโรงแรมถูกจองไว้ โดยมีผู้ที่พักอาศัยเป็นนักศึกษาและบุคลากรจากสถาบันการแพทย์แผนจีนทั่วทั้งประเทศ
กลายเป็นตึกแห่งแพทย์แผนจีนโดยสมบูรณ์
ดังนั้น
ใครล่ะที่ต้องการทำลายวงการแพทย์แผนจีน?
มีเพียงสามคำตอบ
กลุ่มแรกคือพวกแพทย์แผนจีนพื้นบ้าน ทว่าสามารถผ่านไปได้เลย เนื่องจากจรรยาบรรณของพวกเขา ไม่สามารถฆ่าคู่แข่งได้อย่างเลือดเย็นเช่นนี้
กลุ่มที่สองคือองค์กรคนเหนือคน
กลุ่มที่สามคือกองทุนต่างชาติ!
สองกลุ่มสุดท้ายนี่แหละคือคำตอบ!
แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ
เรื่องที่เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์นั้น ก็มีชื่อเสียงมากพอแล้ว
และยังเป็นที่รู้จักในทีมสืบสวนและดินแดนภูผามหานทีอีก เป็นไปไม่ได้เลยที่องค์กรคนเหนือคนและกองทุนต่างชาติจะไม่รู้
ดังนั้นแล้ว
ทำไมพวกเขาถึงส่งนักฆ่าที่เป็นคนธรรมดามาวางระเบิด?
“ไม่สิ! หรือว่าล่อเสือออกจากถ้ำ!”
เมื่อซูเย่นึกถึงความเป็นไปได้นี้ ใจของเขาก็ร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
เขาคว้าคอของอีกฝ่ายไว้
“บอกมา ภารกิจของแกคืออะไร? ถ้าไม่บอกก็ตาย!”
คราวนี้ สายตาของซูเย่ไร้ความรู้สึก แรงบีบของมือค่อย ๆ หนักขึ้น
พอรู้สึกว่าจะขาดอากาศหายใจ นักฆ่าจึงรีบกล่าวออกมาอย่างหวาดกลัว “ใช่แล้ว เพื่อล่อแกออกมาไง!”
“ฉันไม่รู้เหตุผล พวกเขาแค่บอกว่าถ้าไม่ถูกพบตัว ก็ให้ทำงานไปตามปกติ แต่ถ้าถูกพบตัว ให้ล่อออกมาที่นี่แล้วจะรับประกันความปลอดภัยได้”
“เวรเอ๊ย!”
ซูเย่ตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว
กรอบ!
เสียงกระดูกหัก ดังออกมาจากลำคอของอีกฝ่าย
“เฉิงหวง!”
หลังจากเรียกเฉิงหวงออกมา ซูเย่ก็ขึ้นขี่และใช้ความเร็วสูงสุดเพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังโรงแรมทันที!!!