เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 40 พบของดีมูลค่า 300,000 หยวน!
บทที่ 40 พบของดีมูลค่า 300,000 หยวน!
“แน่นอนว่าฉันอยาก” หลานเข่อยีพยักหน้าตอบทันที
“ถ้าอย่างนั้นก็ดู จากนั้นก็เลือกอันที่แพงที่สุดมา” ซูเย่กล่าว และเริ่มเดินหน้าต่อไป
หลานเข่อยีสับสนเล็กน้อย จึงรีบเอ่ยถามออกมาทันที “ถ้าไม่ดูอย่างละเอียดแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนแพงที่สุด?”
“แค่เห็นก็รู้แล้ว” ซูเย่ตอบ
หลานเข่อยีขมวดคิ้ว ทำหน้าฉงน สงสัยว่าซูเย่เก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?
จะให้มองวัตถุโบราณทั่วทั้งย่าน แล้วเลือกชิ้นที่แพงที่สุดออกมา จะเป็นไปได้อย่างไร?
หลานเข่อยีรู้สึกผิดหวังกับนิสัยของซูเย่เล็กน้อย
ผู้หญิงออกตัวขนาดนี้ ไม่ทำตัวสนุกสนานด้วยเลย!
แต่มันก็ไม่สำคัญหรอก!
เพราะถึงอย่างไร เธอแค่เลือกซูเย่ด้วยจุดประสงค์ที่อยากให้เกิดข่าวลือ เรื่องของเกมที่ว่าจะชนะหรือไม่นั้น ไม่สำคัญเลยสักนิด
หญิงร่าเริงกับชายเย็นชา ก็ดูเป็นคู่ที่ไม่เลว!
ทั้งคู่เดินไปต่อ
หลานเข่อยีมองหาโอกาสที่จะพูดคุยกับซูเย่อยู่ตลอด หวังว่าเขาจะยอมคุยด้วยสักสองสามคำ
หากยิ่งมีบทสนทนาเยอะ ก็ยิ่งมีโอกาสออกอากาศเยอะ และความเป็นไปได้ที่จะเกิดข่าวลือก็จะเพิ่มมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ก็พยายามทำตัวน่าสงสัยให้ได้มากที่สุด
ใช้เวลาไม่นาน ซูเย่และหลานเข่อยีก็เดินดูจนทั่วย่านโบราณวัตถุ
เมื่อดูเสร็จ ซูเย่จึงรู้สึกมีความสุข
“โชคดีนะที่ได้เจอกองถ่าย ไม่อย่างนั้นคงเสียเที่ยวน่าดู ย่านนี้แทบจะไม่มีของดีที่ทำเงินได้เลย!”
แล้วผู้กำกับเองก็เหมือนจะบอกว่าของที่ซื้อด้วยเงิน 100 หยวนนั้นให้นำกลับไปเป็นของตนได้เลย
เอามาใช้ประโยชน์ได้พอดีเลย!
“อย่างน้อยก็เลือกของธรรมดาจากกองของปลอมแล้วกัน!”
ซูเย่หันหลังกลับ พาหลานเข่อยีย้อนไป และนั่งลงหน้าร้านหนึ่ง
หลังจากดูอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกไม่พอใจกับราคาหลาย ๆ อย่าง จึงบอกเจ้าของร้านว่าเขามีเพียง 100 หยวน และให้เจ้าของร้านชี้ว่ามีอันใดบ้างที่พอซื้อได้
เจ้าของร้านชี้มา 7 – 8 อย่าง ตามคำขอซูเย่
ซูเย่ดูทั้งหมด แต่เขาก็ยังไม่พอใจ
“อันนี้เท่าไรครับ?” ซูเย่จึงเลือกของมาอีกชิ้นหนึ่ง เป็นไม้บรรทัดทองแดง
“อันนี้ 180” เจ้าของร้านตอบขณะมองไปรอบ ๆ ด้วยความสงสัย เนื่องจากเขามองไม่เห็นกองถ่ายเลย
เขาไม่กล้าขายแพงเกินไป
“ลูกพี่ ผมมีแค่ 100 หยวนเอง ลดหน่อยได้ไหม ผมมีให้เท่านี้แหละ ให้หมด 100 หยวนเลย ได้ไหม?” ซูเย่กล่าว
“ไม่ได้ อย่างต่ำก็ 150” เจ้าของร้านส่ายหัว
“ถ้าไม่พอ เดี๋ยวฉัน…” หลานเข่อยีกำลังจะบอกให้ใช้ 100 หยวนของเธอ
ซูเย่ยกมือขึ้นหยุดไว้
หันกลับไปคุยกับเจ้าของร้านต่อ “ลูกพี่ 100 หยวน ผมมีแค่นี้แหละ ทีมงานให้ผมมาเท่านี้จริง ๆ”
กล่าวจบเขาก็นำเงินนั้นใส่มือเจ้าของร้านทันที
เจ้าของร้านเองก็กำลังขาดเงินอยู่พอดี สุดท้ายแล้วจึงตกลงขายให้ซูเย่ในราคา 100 หยวน
ได้รับไม้บรรทัดทองแดงมา
มุมปากของซูเย่ยกเผยอขึ้นเล็กน้อย
ทั่วทั้งย่านวัตถุโบราณนี้แล้ว ไม้บรรทัดอันนี้แหละที่มีค่ามากที่สุด
เจ้าของร้านคงไม่ทราบเรื่องนี้
“โอเค ผมซื้อมาแล้ว” ซูเย่ถือไม้บรรทัดทองแดง ยิ้มพร้อมกล่าวกับกล้อง
“แต่ฉันยังไม่ได้ซื้อ” หลานเข่อยีรีบขัด “เราเป็นทีมเดียวกัน ช่วยฉันหน่อยสิ~”
“ตรงนั้น” ซูเย่ขี้เกียจพูดพร่ำ พาเธอไปยังร้านหนึ่งและซื้อเหรียญทองแดงที่มีคำว่า ‘เฉียนหลงตงเป่า’ เขียนอยู่ ซึ่งเป็นเงินตราสมัยโบราณ
สิบนาทีต่อมา เวลาหมดลง
ซูเย่และหลานเข่อยีเดินทางมายังร้านวัตถุโบราณชื่อดังของย่าน อีกสามกลุ่มเองก็มาถึงแล้วเช่นกัน
“ครบ 1 ชั่วโมงแล้ว ได้ซื้อของกันมาหรือยัง?” ผู้กำกับที่อยู่หลังกล้อง ถามทีมทั้งสี่
“ซื้อเรียบร้อย!”
ทุกคนพยักหน้าอย่างมั่นใจ พวกเขาต่างรู้สึกว่าตัวเองซื้อของดีมา พร้อมซ่อนของที่ซื้อมาไว้ก่อนเพื่อรักษาความลึกลับในรายการ
มีเพียงซูเย่ที่ถือไม้บรรทัดทองแดงของเขาอย่างโจ่งแจ้ง
“เอาล่ะ ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมแล้ว จะเริ่มทำการประเมินราคาเดี๋ยวนี้เลย”
สิ้นสุดคำพูดของผู้กำกับ กล้องก็หันไปยังร้านวัตถุโบราณ
ทุกคนหันมองไปรอบ ๆ และพวกเขาก็ได้พบกับชายวัยกลางคนทั้งสอง นั่งอยู่ที่โต๊ะในร้าน
“ทั้งสองคือผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินวัตถุโบราณระดับสูง ของสำนักวัตถุโบราณทางวัฒนธรรมแห่งเมืองจี้หยาง พวกเขาศึกษาและวิจัยไปถึงแก่นแท้ หากให้พวกเขาได้วิเคราะห์วัตถุโบราณ จะไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน” ผู้กำกับกล่าว
“ฉันมีคำถาม” หลานเข่อยีลุกขึ้นยืนทันที จากนั้นเอ่ยถามผู้เชี่ยวชาญทั้งสองด้วยดวงตาเป็นประกาย “พวกคุณเก่งขนาดนั้น ปกติแล้วหาเงินโดยการตามหาของดีหรือเปล่าคะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองมองหน้ากัน จากนั้นยิ้มและส่ายหัว
“มันไม่ง่ายหรอก อย่างย่านแห่งนี้ หนึ่งปียังมีคนพบไม่ถึง 3 หรือ 4 ครั้งเลย”
“ตามร้านก็ไม่ค่อยมีของแท้ด้วยซ้ำ ต่อให้มี มันก็ไม่ได้มูลค่าสูง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเจ้าของร้านรู้จักเรา หากเราไป พวกเขาก็จะแค่ถามเราว่าสิ่งใดในร้านเป็นของแท้บ้าง บางทีอยากซื้อไปตั้งที่บ้านยังไม่ขายให้เลย”
หลังจากได้ฟังเรื่องของพวกเขา ทุกคนก็ต้องนิ่งไป ผู้เชี่ยวชาญช่างน่าสงสาร
“เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย”
การประเมินมูลค่าวัตถุโบราณเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ทุกคนไม่ได้แย่งกัน ค่อย ๆ นำของที่ตนมั่นใจเข้าไปประเมินทีละคน
กลุ่มที่หนึ่ง
หลังการประเมิน ทั้งคู่ซื้องานฝีมือสมัยใหม่มา จ่ายไป 200 หยวน ได้มูลค่ารวมเพียง 50 หยวน
ดาราทั้งสองหน้าเสียทันที
พวกเขาเริ่มทำท่าร้องไห้
การแข่งหาของนั้นสำคัญ ทว่ารายการสำคัญกว่า พวกเขาต้องแสดง!
หลังจบการแสดงอันสนุกสนาน
กลุ่มที่สองเดินออกไป ของทั้งสองชิ้นเป็นงานฝีมือสมัยใหม่เช่นกัน จ่ายไป 200 หยวน ได้มูลค่ารวม 60 หยวน
ถัดไปเป็นกลุ่มที่สาม ของชิ้นแรกยังคงเป็นงานฝีมือสมัยใหม่
ทว่าของชิ้นที่สองนั้น หลังผ่านการประเมิน พบว่าเป็นจานกระเบื้องจากยุคเก่าของจีน แต่เนื่องจากเป็นของพื้นเมือง ทำให้ปัจจุบันยังคงมีจำนวนอยู่มาก จึงมีค่า 300 หยวน
เป็นผลให้แขกทั้งสองจากกลุ่มที่สามรู้สึกปลาบปลื้ม
กำไรนิดหน่อย!
ตาดีเหมือนกันนะเนี่ย!
“เราชนะแล้ว!” พวกเขากล่าวขณะที่มองไปยังสองกลุ่มแรกอย่างภูมิใจ
“อย่าเพิ่งดีใจ พวกแกลืมซูเย่!” ดาราจากสองกลุ่มแรกเตือน
พวกเขาล้วนตรวจสอบข้อมูลของซูเย่มาแล้ว พบว่าซูเย่ประเมินและวิเคราะห์วัตถุโบราณเป็น!
รอยยิ้มบนใบหน้าของกลุ่มที่สามจางหายไปทันที
ลืมซูเย่!
ทุกคนจ้องมองไปยังกลุ่มของซูเย่ด้วยความสงสัย
พวกเขาคงไม่เจออะไรดี ๆ หรอกใช่ไหม?
“กลุ่มสุดท้าย รบกวนนำของออกมาประเมินด้วย” ผู้กำกับกล่าว
จากนั้นเขาเองก็มองกลุ่มของซูเย่เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ
ไม่เพียงแต่เขา แม้แต่ทีมงานทุกคนเองก็สงสัยว่าซูเย่จะนำสิ่งใดมา
หากซูเย่ไม่พบของดีเลย ช่วงนี้ของรายการก็คงกร่อย
“ฉันไปก่อน ซูเย่ซื้ออันนี้ให้ฉัน” หลานเข่อยีเสนอตัว และนำเหรียญทองแดงออกไปวาง
“เฉียนหลงตงเป่า?”
ผู้เชี่ยวชาญได้รับเหรียญทองแดงมาจากหลานเข่อยี และเริ่มตรวจสอบอย่างละเอียด
ยิ่งดูเท่าไร สายตาเขาก็ยิ่งแสดงออกถึงความประหลาดใจ
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อย เขายังแทบไม่อยากเชื่อ
จากนั้นส่งเหรียญไปให้ผู้เชี่ยวชาญอีกคน
ผู้เชี่ยวชาญอีกคนสงสัยในท่าทีของอีกฝั่ง เขาจึงหยิบขึ้นมาดู และตาของเขาก็เบิกกว้างทันที
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ ทั้งสองมองหน้าและพยักหน้าพร้อมกัน
จากนั้นมองไปยังหลานเข่อยีและกล่าว
“คำว่าเฉียนหลงตงเป่าด้านหน้าสลักชัดเจนมาก ไม่มีสนิมหรือรอยบิ่น”
“สีทองทั่วไปทั้งเหรียญ”
“ทั้งหน้าและหลังอยู่ในสภาพสมบูรณ์”
“ไร้ร่องรอยของการปรับแต่ง ลักษณะเป็นเหมือนเฉียนหลงตงเป่าแท้ทุกประการ ยินดีด้วยสำหรับการค้นพบ ของสิ่งนี้เป็นของแท้”
“อ๊า!” หลานเข่อยีเอามือปิดปากแล้วร้องอุทานออกมา
สายตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
ไม่ใช่ว่าซูเย่เลือกเหรียญนี้ให้ส่งเดชเหรอ?
แต่นี่กลับเป็นของแท้???
เรื่องจริงเหรอ?
ดาราจากอีกสามกลุ่มจ้องมองซูเย่และหลานเข่อยีในสภาพตื่นตกใจ
เยี่ยม!
ผู้กำกับเองก็ตื่นเต้นจากเหตุการณ์นี้
การพบของแท้นี่แหละที่จะเป็นไฮไลท์ของรายการ
“เหรียญนี่ประเมินมูลค่าได้ประมาณเท่าไรเหรอครับ?” ดาราคนหนึ่งเอ่ยถามอย่างสงสัย
ผู้เชี่ยวชาญคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “เฉียนหลงตงเป่าระดับนี้ มีค่าในตลาดประมาณ 50,000 หยวน”
“อะไรนะ?”
“ไม่จริงใช่ไหม?”
“แพงขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าว ดาราทั้งหกก็ตาเบิกโพลง
50,000 หยวน?
100 หยวน ผ่านไป 1 ชั่วโมง กลายเป็น 50,000 หยวน?
“ไม่คาดว่าจะเจอเฉียนหลงตงเป่าคุณภาพระดับนี้จากที่นี่เช่นกัน น่าตกใจเป็นอย่างมาก” ผู้เชี่ยวชาญกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
พรึ่บ!
ทุกคนหันไปจ้องซูเย่
สิ่งที่เขาเลือกให้หลานเข่อยีมีมูลค่า 50,000 แล้วของเขาจะมูลค่าเท่าไร?
“ต่อไป ขอเชิญแขกรับเชิญพิเศษของเรา ซูเย่ นำของออกมาประเมินด้วย” ภายใต้ความรู้สึกสงสัย ผู้กำกับจึงรีบสั่งซูเย่ทันที
ในขณะเดียวกัน กล้องหลากหลายตัวก็จ่อไปยังซูเย่ มีกระทั่งกล้องที่จับภาพเฉพาะไม้บรรทัดในมือของเขา
“สวัสดีครับท่านผู้เชี่ยวชาญ” ซูเย่ก้าวออกไปและนำไม้บรรทัดไปวางบนโต๊ะ
“ซูเย่ ฉันรู้จักเธอ!” ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“ฉันได้ดูเธอออกรายการอนาคตแพทย์แผนจีน มีตอนหนึ่งที่เธอแสดงความสามารถในการประเมินวัตถุโบราณด้วย วันนี้ขอดูหน่อย ว่าเธอจะเจอของดีอะไรมา”
ผู้เชี่ยวชาญอีกคนก็ยิ้มเช่นกัน
ระหว่างพูด เขาก็ได้หยิบไม้บรรทัดของซูเย่ขึ้นมา
หลังจากมองดูแล้ว สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญก็เปลี่ยนไป
เขารีบนำมันเข้ามาดูใกล้ขึ้น
หลังจากเสร็จเรียบร้อย เขาก็ยิ้มพร้อมกับส่งไปให้อีกคน
ผู้เชี่ยวชาญอีกคนรับไปดู จากนั้นจึงพยักหน้าให้กับคนแรก
พวกเขาลุกยืนขึ้นทันที
ทั้งสองจ้องมองไปยังซูเย่ ผู้เชี่ยวชาญคนแรกกล่าวขึ้นพร้อมกับยิ้ม
“ไม้บรรทัดของจีนนั้นแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละยุคสมัย ยกตัวอย่างเช่น ในราชวงศ์ซางจะมีขนาดเพียง 15 เซนติเมตร ในยุคนั้นผู้คนที่ถูกเรียกว่าสูง 8 ฟุต ความจริงแล้วสูงเพียง 120 เซนติเมตร ในขณะที่สมัยใหม่ 1 ฟุตมีค่า 33.3 เซนติเมตร”
การบรรยายของผู้เชี่ยวชาญเริ่มต้นขึ้น
“มาพูดถึงราชวงศ์ถัง”
“ไม้บรรทัดในสมัยราชวงศ์ถังจะมีลักษณะยาวประมาณ 31 เซนติเมตร เราได้วัดไม้บรรทัดของเธอแล้ว มีขนาดประมาณ 30.7 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าใกล้เคียง”
“เพิ่มเติม ลักษณะของมันยังหุ้มด้วยหนังสัตว์สีดำ มีลวดลายอยู่ข้างใต้เล็กน้อย เป็นลวดลายไข่ปลา ซึ่งเป็นลักษณะไม้บรรทัดของราชวงศ์ถัง”
“ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีการตกแต่งอันโดดเด่น แบ่งส่วนละ 1 นิ้ว แต่ละส่วนมีการตกแต่งอยู่ข้างใน ส่วนแรกเป็นลายดอกไม้ ส่วนที่สองเป็นลายนก ส่วนที่สามเป็นนกขมิ้น ด้านหลังมีนกกับดอกไม้ เป็นการตกแต่งอันเป็นที่นิยมในสมัยราชวงศ์ถัง มีการผสานกันของหญ้าและดอกไม้อย่างงดงาม”
พอได้เล่าบรรยายออกมา ผู้เชี่ยวชาญยิ้มกว้างและกล่าวออกมาต่อเสียงดัง “ไม้บรรทัดนี้ รับรองได้เลยว่าเป็นสิ่งของจากสมัยราชวงศ์ถังอย่างแท้จริง มันมีมูลค่าทางศิลปะเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราประเมินได้ว่ามันมีมูลค่า 300,000 หยวน!”
เมื่อคำพูดนั้นออกมา
ผู้ชมทุกคนล้วนตกตะลึง!
300,000 หยวน?
ซูเย่ทำเงิน 100 หยวน ให้กลายเป็น 300,000 หยวนได้ภายใน 1 ชั่วโมง!
ความเร็วในการหาเงินนี้มันอะไรกัน!
“นั่นมันเงินเยอะมากเลยนะ!”
“ 300,000 หยวน? โอ้สวรรค์ รับผมเป็นศิษย์ด้วย ผมก็อยากทำได้เหมือนกัน!”
อันที่จริง 300,000 นี้ไม่ได้เยอะสำหรับเหล่าดาราเลย แต่สำหรับซูเย่ถือว่าดีมากแล้ว!
ผู้กำกับหลี่เองก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ความตื่นเต้นอยู่ที่ตรงนี้!
แค่ 50,000 ก็ตกใจแล้ว
แต่ 300,000 นั้นยิ่งน่าตกใจกว่า!
100 หยวนกลายเป็น 300,000 หยวน ไม่มีหลอกลวง รายการวาไรตี้ตอนนี้ถือว่าน่าตื่นเต้น
เขาไม่ได้คาดว่าซูเย่จะทำได้ใหญ่โตเช่นนี้
คุ้มค่ากับเงิน 1 ล้าน!
“ขอประกาศ”
ในขณะที่ทุกคนยังคงอึ้งอยู่นั้น ผู้กำกับเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “เกมจบลงแล้ว ผู้ชนะคือซูเย่และหลานเข่อยี”
“และพวกเขาจะได้รับรางวัลสุดยิ่งใหญ่”
“รางวัลอะไร?” ทุกคนต่างสงสัย
“รางวัลก็คือ” กล้องจับผู้กำกับใกล้ เขายิ้มขึ้นมา “พวกเขาจะได้เยี่ยมชมแหล่งขุดเจาะทางโบราณคดีอย่างใกล้ชิด!”
“ผู้กำกับ ผมก็อยากไปเหมือนกัน! ผมใฝ่ฝันที่จะเป็นนักโบราณคดีมาตั้งแต่เด็ก แต่ผมโตขึ้นมาหล่อ จึงหลงผิดไปเข้าวงการบันเทิง ให้ผมไปดูด้วยได้ไหม!”
“พวกเราก็อยากไป! พวกนั้นเขาได้เงินไปตั้งเยอะแล้ว ทำไมยังใจดีกับพวกเขาจัง? ควรจะมอบรางวัลปลอบใจให้พวกเราสิ!”
“ใช่แล้ว ผมอยากไปเรียนรู้ เรียนรู้แล้วจะได้เติบโต”
“พวกเขาเก่งแล้ว ได้ของดีมาด้วย คงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่ม แต่พวกเราต้องการ”
เมื่อแขกจากอีกสามกลุ่มได้ยินว่าผู้ชนะจะได้ไปแหล่งขุดเจาะทางโบราณคดี พวกเขาก็ตื่นเต้นสนใจขึ้นมาทันที เพราะเป็นดาราแล้วไม่เคยมีโอกาสได้ไปมาก่อน!
ความวุ่นวายบังเกิดขึ้น
และเมื่อพวกเขายังคงไม่ยอมหยุด
ผู้กำกับหลี่เว่ยกั๋วจึงไม่มีทางเลือก และตกลงว่าจะพาทุกคนไปด้วยกัน
ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมา
รถตู้วิ่งออกจากเมืองไปยังแม่น้ำใหญ่
ในบริเวณตามสายแม่น้ำ มีแหล่งขุดเจาะทางโบราณคดีขนาดใหญ่อยู่ ขณะนั้นเอง ผู้เชี่ยวชาญของสำนักวัตถุโบราณทางวัฒนธรรมแห่งเมืองจี้หยาง ก็กำลังดำเนินการสำรวจอยู่
ซูเย่ลงจากรถ เมื่อเขาได้เห็นแหล่งขุดเจาะแห่งนี้ เขาเกิดอาการตกใจเล็กน้อย
เขาเคยมาที่แห่งนี้
เขามักจะมาเวลาที่ต้องการเงิน……